กำเนิดใหม่ทายาทจอมมาร (Lucifer’s Descendant System) - ตอนที่ 18
โนอาห์รู้ดีว่าการฆ่าชายคนนี้มากเกินไปสำหรับสิ่งที่ชายคนนั้นทำ เพราะโนอาห์ไม่ใช่คนประเภทที่ว่าใครพูดไม่ดีต่อครอบครัวเขาแล้วจะฆ่าทิ้งทั้งหมด สาเหตุเป็นเพราะการที่ชายคนนั้นทุบตีเขามาตลอด 4 ปีและโนอาห์ก็ได้รับความเดือดร้อนจากเขามามากมาย และด้วยเหตุผลหลักอีกอย่างหนึ่งคือ เขาอยากจะรู้ว่าการฆ่าคนจะได้รับประสบการณ์เท่าไหร่ เพราะตอนเขาอยู่ในป้อมปราการเขาไม่ได้ฆ่าใคร สิ่งเดียวที่เขาพยายามจะทำคือการใช้เปลวไฟจากนรกดูดซับร่างของคนที่ตายจากราชาแห่งหนู
หลังจากที่ผู้ถูกเลือกคนนั้นถูกเผาตาย หน้าต่างที่คุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของโนอาห์มันเขียนว่า
[ได้รับค่าประสบการณ์ 4 หน่วย]
เห็นได้ชัดว่าค่าประสบการณ์ที่ได้รับจากการฆ่ามนุษย์เป็นค่าประสบการณ์ที่น่าประหลาดใจมาก เพราะมันไม่ได้สิ้นเปลืองพลังงานมากมาย แถมยังได้ค่าประสบการณ์มากกว่าปกติถึง 3 เท่าจากการฆ่ามอนเตอร์ระดับ F ปกติ
เมื่อเห็นผลลัพธ์เหล่านี้ทำให้โนอาห์มีความคิดที่จะฆ่ามนุษย์คนอื่นๆเพื่อหาค่าประสบการณ์มาเพิ่มพลังของเปลวเพลิงจากนรก แต่มันก็เป็นความคิดแค่แว๊บเดียว เพราะโนอาห์รู้ดีว่าถ้าเขาทำแบบนั้น เขาจะโดนประกาศจับและตามล่าโดยรัฐบาล เพราะเขาจะกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่อง
ในโลกที่พวกเขาอาศัยอยู่ตอนนี้เป็นโลกที่ผู้แข็งแกร่งกลืนกินผู้อ่อนแอ การฆ่ากันเองไม่ใช่เรื่องผิดปกติตราบใดที่พวกเขามีเหตุผล การฆ่ากันจะไม่ถือเป็นอาชญากรรม ระบบนี้สนับสนุนคนที่มีอำนาจอย่างชัดเจน แต่ในกรณีของโนอาห์ที่อยู่ท่ามกลางกล้องวงจรปิดหลายตัว เขามักจะถูกทำร้ายอยู่เสมอ ดังนั้นหากมีใครตัดสินใจโทรไปแจ้งตำรวจ แล้วมีการไต่สวนกันเกิดขึ้น เขาก็จะถือว่านี่เป็นการป้องกันตัวที่ถูกต้อง ดังนั้นโนอาห์จึงฆ่าชายคนนี้ได้อย่างไม่ต้องลังเล
เขาไม่เคยนำบันทุกกล้องวงจรปิดตัวใดไปให้กับตำรวจ เพราะเขารู้ว่าลุงของเขาเป็นคนสำคัญและมีอิทธิพลในเมืองของพวกเขา ดังนั้นแม้ว่าเขาจะเอาบันทึกวีดีโอไปให้เจ้าหน้าที่ ลุงของเขาก็แค่ใช้เส้นสายที่เขามีและบอกว่าโนอาห์เป็นหนี้เขาและทุกอย่างจะได้รับการคลี่คลาย แต่ตอนนี้ความตายได้เกิดขึ้นแล้วหากมีคนสำคัญหรือมีอำนาจมากกว่ามาตรวจสอบลุงของเขาก็จะไม่สามารถหลบหนีได้เพียงแค่ได้รับการเตือนเท่านั้น
เมื่อโนอาห์คิดได้ทั้งหมดนี้เขาก็ไม่ได้คิดที่จะฆ่าคนทั้งหมด เพราะเขารู้ว่ามันไม่คุ้มค่าที่จะทำให้เรื่องทั้งหมดกลายเป็นเรื่องใหญ่
เมื่อหน้าต่างแจ้งเตือนหายไปจากด้านหน้าของโนอาห์เขาก็เลื่อนสายตาไปที่เจนนี่ตามทิศทางของเลขาและมองเธอด้วยสายตาเย็นชา แต่รอยยิ้มเล็กๆ ยังคงหลุดรอดที่มุมปากของเขาขณะที่เขานึกถึงอนาคตที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ตอนนี้เขาเริ่มรู้เกี่ยวกับพรของเขามากขึ้นและนั่นทำให้เขานึกถึงอนาคตที่สดใสที่กำลังรอเขาอยู่
“แกฆ่าเขาทำไม” เจนนี่หายใจเข้าไปเฮือกหนึ่งเพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเองและมองไปที่โนอาห์อีกครั้งด้วยสีหน้าที่โกรธเกรี้ยว
“เขาทำร้ายฉันมามากเกินไปแล้ว และฉันคิดว่าฉันควรทำตามนโยบายที่เธอใช้กับฉันกับเขาเหมือนกัน ฉันคืนให้ทั้งต้นและดอกเบี้ยเลย เธอไม่คิดเหมือนกับฉันหรอเจนนี่?” โนอาห์ตอบราวกับว่าเขากำลังอธิบายสิ่งที่ชัดเจนที่สุดในโลกให้เธอฟัง
“เขาทำร้ายแกหรอ เขาแค่พูดแต่แกชักมีดออกมาและใช้…พรของแก…ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่แกมีพรนี่?!” เจนนี่เริ่มพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง แต่เมื่อพูดถึงกลางประโยคเธอก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติไป
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเธอไม่เคยเห็นโนอาห์ใช้พรของเขามาก่อน เธอจึงเชื่อว่าพรของโนอาห์ทำได้เพียงทำให้เขาดูดีขึ้นแค่นั้น แต่ตอนนี้เมื่อมองเห็นเขาใช้พรอันทรงพลังที่สามารถฆ่าผู้ถูกเลือกระดับ E ให้ตายได้…พรของเขาจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
เมื่อมองไปที่คนตายที่อยู่บนพื้นชายอีกคนที่ติดตามเจนนี่ในฐานะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็เริ่มสงสัยว่าเขาสามารถฆ่าผู้ถูกเลือกระดับ E ด้วยพรของเขาได้ไวขนาดนั้นหรือไม่ เพราะพรของเขาก็เกี่ยวข้องกับไฟด้วยเช่นกัน แต่สิ่งที่เขารู้คือพรของเขาสามารถเพิ่มอุณหภูมิรอบๆเป้าหมายได้จนกว่าเป้าหมายจะตายหรืออย่างน้อยก็ทำให้เป้าหมายไม่สามารถอยู่อย่างปกติได้เท่านั้น
เขารู้ว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 นาทีในการฆ่าผู้ถูกเลือกระดับ E ที่เป็นเพื่อนร่วมงานของเขาคนนั้นแต่ 3 นาทีนี้เป็นในกรณีที่ไม่มีการตอบโต้ใดๆ แต่ในความเป็นจริงจะต้องมีการตอบโต้และใช้พรหรือพลังของเขาเพื่อปกป้องตัวเองอีก เพราะฉะนั้นมันจะต้องใช้เวลามากกว่า 3 นาทีแน่นอน
“ไอ้เจ้าหนูนี่จะต้องมีความแข็งแกร่งอย่างน้อยระดับ E กลางๆแน่…” ชายคนนั้นบ่นพึมพำและเจนนี่ที่อยู่ข้างๆเขาก็ได้ยิน
เธอไม่สงสัยในคำพูดของชายคนนี้เนื่องจากตัวเขาเองก็เป็นผู้ถูกเลือกระดับ E ดังนั้นแน่นอนว่าเขารู้วิธีวัดว่าความแข็งแกร่งของอีกคนที่ได้รับพรนั้นใกล้เคียงกับเขาหรือไม่ มันทำให้เธอประหลาดใจอีกครั้งและเธอก็มองไปที่โนอาห์เพื่อประเมินเขาอีกครั้ง
“ฉันได้รับพรมาตั้งแต่ฉันอายุ 16 มันก็เป็นความรู้ทั่วไปนี่ว่าทุกคนจะได้รับพรก็ต่อเมื่ออายุ 16 ตอนนี้เราคุยกันจบแล้ว ฉันจ่ายเงินไปแล้ว และไม่ต้องกังวลฉันจะจ่ายหนี้ที่ฉันติดไว้จนกว่าจะหมดในอนาคตแน่นอน แต่อย่าคิดว่าฉันจะลืมสิ่งที่เธอทำกับฉันในเวลาที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน” เนื่องจากโนอาห์ได้แสดงความแข็งแกร่งของตัวเองต่อพวกเขาด้วยการฆ่าชายคนนั้นจึงไม่มีเหตุผลใดๆอีกต่อไปที่เขาจะแสร้งเป็นคนถ่อมตัวและก้มหัวยอมจำนนเพื่อซ่อนความแข็งแกร่งของตัวเอง
เจนนี่ไม่เคยเห็นเขาทำตัวแบบนี้มาก่อนและนั้นทำให้เธอเป็นกังวล แม้ว่าบางครั้งเธอจะไม่ได้รับเงินทั้งหมดที่ควรได้รับในแต่ละสัปดาห์ แต่สิ่งที่พวกเขาต้องทำก็คือทุบตีเขาเพียงเล็กน้อย และเขาจะพยายามอย่างหนักเพื่อหาเงินมาให้กับพวกเขา โดยรวมแล้วมันเป็นงานที่ง่ายๆ แต่ตอนนี้การจัดการกับเด็กผู้ชายคนนี้ที่เคยเป็น “หนูน้อยขี้กลัว” ที่พวกเขาคุ้นเคยได้เปลี่ยนไปแล้ว
‘ฉันต้องบอกเจ้านายของฉันเรื่องนี้ ฉันไม่สามารถกลับมาที่นี่ได้ในสัปดาห์หน้าหากไม่มีการเตรียมตัวให้พร้อม ใครจะรู้? ด้วยเหตุผลบางอย่างเด็กคนนี้อาจบ้าคลั่งและต้องการฆ่าฉันเพื่อล้างแค้น!’ เจนนี่คิดอย่างเป็นห่วงตัวเอง
“เอาล่ะ อย่าลืมเตรียมเงินไว้สำหรับสัปดาห์หน้า อย่าคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้จะเกิดขึ้นอีกครั้ง พยายามทำตัวให้ดีเข้าละหนูน้อย” เธอพยายามพูดรักษาท่าทางหยิ่งผยองของเธอไว้ แต่เมื่อเธอเห็นท่าทางเย็นชาที่โนอาห์กำลังมอบให้เธอความกลัวตายก็พุ่งเข้าใส่เธอและเธอก็รีบหันไป
ชายอีกคนเดินตามเจนนี่ไปด้วยท่าทางหนักอึ้งขณะที่เขาจ้องไปที่ศพที่ไหม้เกรียมของเพื่อนร่วมงานของเขา เขาตัดสินใจยกร่างของชายคนนั้นหลังจากที่เห็นว่าโนอาห์ไม่สนใจว่าเขาจะทำอะไรกับมัน
หลังจากวางร่างของชายคนนั้นไว้ในกระโปรงหลังรถแล้วทั้งสองก็ออกไป เหลือโนอาห์อยู่เพียงลำพังในที่สุด
“ไม่ต้องห่วง ฉันจะให้พวกแกจ่ายสำหรับสิ่งที่พวกแกทำกับฉันด้วยดอกเบี้ยเหมือนกับที่แกทำและเหมือนกับที่พวกแกต้องการหาประโยชน์จากแม่ของฉันและทำให้เธอหมดหวังจนถึงขั้นหัวใจวาย พวกแกจะได้รู้สึกถึงความสิ้นหวังนี้อาจจะไม่ใช่วันนี้หรือวันพรุ่งนี้ แต่วันนั้นจะต้องมาถึงอย่างแน่นอน ฉันจะให้พวกแกชดใช้ความทุกข์ทรมานของครอบครัวฉันทั้งหมด” โนอาห์พูดด้วยเสียงต่ำกับตัวเองในขณะที่เขา ดูรถหรูที่ขับออกไป
เมื่อหันไปโนอาห์มองไปที่บ้านที่เขาเติบโตขึ้นมา ในขณะที่เขาเปิดประตูบ้านโนอาห์มองออกไปที่สนามหญ้าขนาดใหญ่ที่บ้านหลังหนึ่งที่เคยหรูหราเป็นอย่างมาก ตามที่แม่ของเขา เธอบอกว่าบ้านหลังนี้ถูกมอบให้เป็นของขวัญแต่งงานของพวกเขาโดยครอบครัวของพ่อซึ่งเขาไม่เคยรู้จัก
เมื่อเข้ามาในบ้านความรู้สึกโดดเดี่ยวก็เข้ามากระทบตัวของโนอาห์ เมื่อเขามองออกไปและไม่เห็นใครอยู่ในบ้านเลย
ในขณะที่อาบน้ำร้อนโนอาห์ใช้เวลาคิดเกี่ยวกับชีวิตของเขาและสิ่งที่เขาสามารถทำได้เพื่อช่วยน้องสาวของเขา เงินที่เขามีเพียงพอสำหรับการรักษาน้องสาวบางส่วนในโรงพยาบาลเท่านั้น การจะทำให้เธอหายดีเขาจะต้องใช้เงินมากขึ้น และเขาพึ่งพาได้เพียงแค่ตัวเขาเองเท่านั้นในการหาวิธีการสร้างรายได้ให้มากขึ้น
ในขณะที่เขาออกจากห้องน้ำโดยมีผ้าขนหนูพันรอบเอวโนอาห์จำได้ว่าระบบได้เปิดใช้งานทักษะบางส่วนแล้วและเขาไม่มีเวลามากพอที่จะตรวจสอบคุณสมบัติทั้งหมดที่ปลดล็อคให้เขา
ตอนนี้เขาอยู่ในบ้านอย่างสะดวกสบายโนอาห์จึงมีโอกาสได้ดูว่าระบบที่แปลกประหลาดและน่าอัศจรรย์นี้จะให้อะไรแก่เขาได้บ้าง
“ใครจะไปรู้ มันอาจมีความเป็นไปได้ที่ฉันจะสร้างรายได้จากระบบนี้” โนอาห์คิดอย่างมีความหวังขณะที่เขามองไปที่หน้าต่างของระบบที่กำลังลอยอยู่ตรงหน้าของเขา