กำเนิดใหม่ทายาทจอมมาร (Lucifer’s Descendant System) - ตอนที่ 20
เมื่อโนอาห์มองไปที่โทรศัพท์มือถือของเขา โนอาห์ก็เห็นว่าเป็นเพื่อนของเขาเพียงคนเดียวที่เป็นคนส่งข้อความมาหาเขา คาร์ลอส
[คาร์ลอส: เฮ้เพื่อน เป็นยังไงบ้าง?]
โนอาห์ไม่เคยสนใจที่จะหาเพื่อนใหม่ แต่เขาให้ความสำคัญกับคนที่ห่วงใยเขาเสมอและคาร์ลอสก็เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น แม้ว่าเขาจะรู้ว่าโนอาห์เป็นผู้ถูกเลือกระดับ F และโนอาห์เป็นคนยากจนคาร์ลอสก็ไม่เคยดูหมิ่นโนอาห์หรือปฏิบัติต่อเขาอย่างไม่ดีเพราะเหตุผลพวกนั้น
คาร์ลอสเป็นส่วนหนึ่งของประชากรที่ไม่ได้รับพรจากพระเจ้า แต่สำหรับเขามันไม่สำคัญเพราะถึงแม้ว่าเขาจะได้รับพรระดับ C มาครอบครัวของเขาก็จะไม่อนุญาตให้เขาบุกป้อมปราการเพื่อให้เขาแข็งแกร่งขึ้นอยู่ดี พวกเขามี บริษัทรถยนต์เป็นของตัวเอง อาจกล่าวได้ว่ารถยนต์ส่วนใหญ่ทั่วประเทศผลิตโดยพ่อแม่ของคาร์ลอส ดังนั้นแม้ว่าเขาจะบุกป้อมปราการระดับ C ทุกวันและรอดชีวิตมาได้ แต่เขาก็แทบจะไม่สามารถหาเงินได้มากไปกว่าการทำธุรกิจของครอบครัว
แต่ถึงแม้จะมีเงินมากมายและอนาคตที่สดใสคาร์ลอสก็ไม่เคยปฏิบัติต่อโนอาห์อย่างเลวร้าย ถ้าไม่ใช่เพราะโนอาห์ดื้อรั้นเกินไปเขาจะเสนอให้โนอาห์ทำงานกับเขาและให้เงินเดือนเขาด้วย ทั้งเขายังต้องการจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้น้องสาวของเขาอีกด้วย แต่โนอาห์ก็ไม่เคยยอมรับมัน
โนอาห์รู้ว่ามิตรภาพที่แท้จริงสำคัญขนาดไหนหลังจากที่ได้เห็นผู้คนมากมายหันหลังให้เขาเมื่อพรที่เขาได้รับมามีเพียงระดับ F เท่านั้น เขาไม่ต้องการให้มิตรภาพที่เขาพัฒนาและสร้างร่วมกับคาร์ลอสต้องจบลงเพราะเงิน เขาจึงไม่เคยยอมรับเงินใดๆจากคาร์ลอส โอกาสเดียวที่เขาจะเอาเงินจากเพื่อนคือถ้าน้องสาวของเขาตกอยู่ในอันตรายและเขาไม่มีเงินที่จะดูแลเธอ แต่เขาก็ยังไปไม่ถึงจุดนั้น
[โนอาห์: ฉันกำลังจะไปเยี่ยมแม็กกี้ แล้วนายละเป็นไงบ้าง?]
[คาร์ลอส: โอ้ ฉันก็อยากไปเยี่ยมเธอเหมือนกัน ฝากบอกเธอด้วยนะว่าฉันคิดถึงและส่งกอดไปให้ด้วย!]
[โนอาห์: ฉันจะบอกเธอให้นะ ขอบคุณมาก]
[คาร์ลอส: พ่อแม่ของฉันกำลังจัดงานปาร์ตี้ที่บ้าน แต่นายรู้ไหมว่าฉันคิดว่างานปาร์ตี้พวกนี้น่าเบื่อขนาดไหน คืนนี้นายมาที่นี่ได้ไหม? ถ้าฉันได้คุยกับนาย ฉันอาจจะได้หัวเราะบ้าง]
[โนอาห์: วันนี้เป็นวันที่ฉันเครียดนิดหน่อยเกี่ยวกับเรื่องของป้อมปราการ มันก็คงดีถ้าฉันได้ออกไปข้างนอกสักพัก งั้นฉันจะไปหานายละกัน]
[คาร์ลอส: เยี่ยมมาก! นายสามารถมาที่นี่ได้ตอนประมาณ 19:00 น. ถ้านายมีปัญหาในการมา ฉันสามารเรียก วูเบอร์ ไปรับนายได้นะ]
[โนอาห์: ไม่เป็นไรฉันยังมีเงินอยู่บ้าง ฉันจ่ายค่าวูเบอร์เองได้แล้วเจอกันนะ]
[คาร์ลอส: เจอกัน!]
เมื่อโนอาห์คุยกับคาร์ลอสเสร็จเขาก็เดินไปที่ป้ายรถเมย์เพื่อที่จะไปที่โรงพยาบาล เขารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยที่จะไปหาคาร์ลอส เพราะนั่นจะทำให้เขาได้รู้พูดคุยกับเพื่อนของเขาและผ่อนคลายกับสิ่งที่เขาเจอมา แม้ว่าเขาจะดีใจที่ในที่สุดเขาก็ได้รับพรมาแล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่เขาไปบุกป้อมปราการและเสียเพื่อนร่วมทีมไปมากกว่าครึ่งก็ทำให้เขารู้สึกไม่ดีเช่นกัน
หนึ่งในอาชีพที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในปัจจุบันคืออาชีพนักจิตวิทยาเนื่องจากผู้ถูกเลือกจำนานมากมีแนวโน้มที่จะเกิดอาการทางจิตเมื่อเห็นผู้เสียชีวิตจำนวนมากและต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่มีอันตรายมากมาย อันตรายที่พวกเขาเผชิญอยู่นั้นมีความเสี่ยงเป็นอย่างมาก หลังจากที่ได้เห็นว่าประชากรมีภาวะซึมเศร้าเพิ่มมากขึ้นขนาดไหน รัฐบาลจึงให้เงินทุนแก่นักจิตวิทยาหลายๆคนและพัฒนาโปรแกรมแรงจูงใจต่างๆ เพื่อให้ผู้คนได้ปรึกษากับนักจิตวิทยาโดยเฉพาะผู้ถูกเลือก
เหมือนกับว่าคาร์ลอสได้รับบทเป็นนักจิตวิทยาให้กับโนอาห์เนื่องจากพวกเขามักจะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ นอกจากนี้เมื่อพวกเขาอยู่ด้วยกันพวกเขามักจะหาวิธีที่จะทำให้ปัญหาถูกแก้ไขโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องดื่มหรือสารเสพติดใดๆ
เมื่อมาถึงโรงพยาบาล พยาบาลก็จำโนอาห์ได้ทันทีเพราะเขาเป็นคนที่มาเยี่ยมบ่อย แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะรูปร่างหน้าตาของเขาซึ่งมักจะดึงดูดความสนใจเป็นอย่างมากเมื่อเขามาถึง
เมื่อเจ้าหน้าที่ดูแลเห็นชายอายุ 20 ปีเดินเข้ามาหาเธอโดยมีผมสีดำสั้นๆ ที่ปรกตาและชุดรัดรูปนั้นบ่งบอกถึงกล้ามเนื้อที่กระชับของร่างกายได้เป็นอย่างดี เธอก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มให้เขาและพูดว่า ด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานว่า
“สวัสดีโนอาห์ นายมาเยี่ยมแม็กกี้อีกแล้วเหรอ”
เมื่อเห็นผู้ดูแลที่เป็นมิตรซึ่งปฏิบัติกับเขาเป็นอย่างดีเสมอมาโนอาห์ก็ยิ้มเล็กๆและตอบเธอว่า
“ใช่แล้ว เธอยังอยู่ห้องเดิมอยู่ใช่ไหม?” โนอาห์อาจจะโหดร้ายกับคนที่ปฏิบัติต่อเขาไม่ดี แต่สำหรับคนที่ปฏิบัติกับเขาอย่างดี เขาก็จะปฏิบัติต่อพวกเขาดีด้วยเช่นกัน
“ใช่แล้วห้อง 501 หมอบอกว่าหมอจะปลุกเธอไว้ก่อน 5 นาทีที่นายจะมาถึง นายจะได้ใช้เวลากับเธอได้เต็มที่” พยาบาลพูดขณะที่มองโนอาห์ด้วยรอยยิ้ม
“ขอบคุณที่บอกฉันนะเอลลี่ ฉันกำลังอยากคุยกับเธอพอดีเลย” โนอาห์ยิ้มให้เธอและโบกมือขณะที่เขาจากไป
เมื่อเห็นโนอาห์จากไปผู้ดูแลที่ชื่อเอลลีก็ยิ้มออกมาขณะที่เธอมองดูเขาเดินไปที่ลิฟต์อย่างสง่างามเพื่อไปเยี่ยมน้องสาวของเขา
เธอได้รับการว่าจ้างที่โรงพยาบาลเมื่อ 3 ปีก่อนและตั้งแต่เธอได้รับการว่าจ้าง ทุกๆสัปดาห์เธอก็จะเห็นชายหนุ่มคนนั้นมาเยี่ยมน้องสาวของเขาอย่างน้อยสองสามครั้ง
“ถ้าฉันยังเด็กกว่านี้ละก็…” เธอถอนหายใจ
“เธอไม่ใช่คนเดียวที่อยากเป็นน้องของเขาเอลลี” ผู้ดูแลคนอื่นๆหัวเราะเล็กน้อยขณะที่เธอชี้ไปที่คนอื่นๆที่มองโนอาห์ที่กำลังเดินในห้องโถงของโรงพยาบาล
เอลลีมองไปรอบๆและอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเมื่อเธอรู้ว่ามีคนอย่างน้อย 10 คน มองตามโนอาห์ด้วยสายตาผิดหวังในขณะที่เขาเดินจากไป เมื่อเวลาผ่านไปโนอาห์เองก็เคยชินกับรูปลักษณ์และเหตุการณ์เหล่านี้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สนใจกับเรื่องนี้ไปโดยปริยาย
โนอาห์เดินไปตามทางที่คุ้นเคย โนอาห์ทักทายทุกคนที่ใบหน้าคุ้นเคยซึ่งโบกมือให้เขาอย่างสุภาพจนกระทั่งมาถึงประตูห้อง 501
เมื่อมองเข้าไปข้างในโนอาห์เห็นเด็กหญิงวัย 6 ขวบที่สวยงามนั่งอยู่บนเตียงขณะทิ่เธอมองออกไปนอกหน้าต่าง เธอมีผมสีดำสนิทและตรงเช่นเดียวกับเขา ผิวของเธอซีดมากไม่ใช่เพราะเธอขาวมาก แต่เป็นเพราะเธอไม่ได้ออกจากห้องนั้นมาหลายปีแล้ว เนื่องจากหน้าต่างอยู่ตรงข้ามประตูโนอาห์จึงมองไม่เห็นใบหน้าของเธอ แต่เขารู้ดีว่าเธอน่ารักแค่ไหนและแน่ใจว่าเธอมีสีหน้ากังวลขณะที่เธอมองออกไป
เมื่อรู้ว่าเธอไม่มีสมาธิอยู่กับตัว โนอาห์จึงเดินเข้าไปใกล้เธออย่างเงียบๆ และเข้าไปใกล้หูของเธอก่อนจะพูดด้วยเสียงต่ำๆว่า
“เธอกำลังมองหาใครอยู่หรอ?”
เมื่อได้ยินเสียงใกล้ๆเธอ แม็กกี้ก็ตกใจทันที ถ้าไม่ติดว่าร่างกายของเธอไม่อ่อนแอจากโรคของเธอ เธอก็คงจะกระโดดลงจากเตียงทันที
เมื่อเธอกลัวแม็กกี้ก็มองกลับไปด้วยความตกใจ แต่เมื่อเธอเห็นว่าคนๆนั้นคือโนอาห์ เธอก็เปลี่ยนการมองของเธอจากความกลัวเป็นความสุขแทน และนั่นทำให้เธอน่ารักเป็นอย่างมาก
“โนอาาาาา!!!!” เธอร้องออกมาขณะที่เธอโอบแขนเล็กๆของเธอไว้รอบๆคอของโนอาห์เพื่อกอดพี่ชายของเธอ
“หนูกำลังมองหาพี่อยู่!!”
รอยยิ้มขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาขณะที่เขากอดน้องสาวของเขากลับ การได้เห็นเธออ่อนแอมากๆทำให้หัวใจของเขาปวดร้าวเป็นอย่างมาก หลังจากที่เห็นเธอใช้พลังงานไปมากเพียงเพราะเธอตื่นเต้นที่เขามาเยี่ยมเธอ
“ใจเย็นๆ เธอใช้พลังงานมากไม่ได้นะ ไม่งั้นวันนี้เธอจะอยู่เล่นกับพี่ได้ยังไง”
เมื่อได้ยินสิ่งที่โนอาห์พูดแม็กกี้ก็ลังเลอยู่พักหนึ่งโดยไม่รู้ว่ามันคุ้มค่าหรือไม่ที่จะเลิกกอดพี่ชายของเธอแรงๆ แต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเธอก็ปล่อยเขา เพราะเธอต้องการคุยกับเขาและได้ยินเกี่ยวกับการผจญภัยที่เขาได้เผชิญมา
แน่นอนโนอาห์ไม่เคยบอกเธอถึงสิ่งที่อันตรายและน่ากลัวที่เกิดขึ้นในป้อมปราการ เขาเพิ่งเล่าส่วนที่ดีที่สุดและน่าตื่นเต้นที่สุดราวกับว่ามันเป็นหนังสือนิทาน
แม็กกี้ชอบที่จะได้ยินทุกสิ่งที่พี่ชายของเธอพูดและครั้งนี้ก็ไม่ต่างกัน ทุกคำที่โนอาห์พูดแม็กกี้ให้ความสนใจราวกับว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของเธอ ดังนั้นพี่น้องจึงใช้เวลาสองสามชั่วโมงอย่างไร้กังวลเพียงแค่พูดคุยและเล่นเกมเล็กๆ
เมื่อมองไปที่แม็กกี้ที่กำลังนอนหลับโดยให้ศีรษะของเธอวางอยู่บนตักของเขา โนอาห์พูดเบาๆ
“ไม่ต้องกังวลแม็กกี้ฉันจะรักษาเธอให้หาย และฉันจะพาเธอออกไปจากที่นี่พร้อมกับสุขภาพที่ดีในเวลาไม่นาน…”