กำเนิดใหม่ทายาทจอมมาร (Lucifer’s Descendant System) - ตอนที่ 22
“ทำไมฉันต้องกลัวสิ่งที่ฉันก็จะทำได้ในอนาคตด้วยละ”
เมื่อได้ยินคำตอบของโนอาห์หญิงสาวก็ประหลาดใจ ถ้าสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริงเขาก็อาจจะเป็นผู้ถูกเลือกระดับ C เช่นกัน แต่เขาดูไม่เหมือนผู้ถูกเลือกระดับ C เนื่องจากเมื่อมีคนปลุกพรที่ทรงพลังได้ เช่นนั้นบุคคลนั้นก็เริ่มมีความสัมพันธ์กับคนอื่นในระดับนั้นโดยสัญชาตญาณ และด้วยเหตุนี้พวกเขาก็จะเริ่มซึมซับขนบธรรมเนียมและกิริยามารยาทเหล่านั้นของวงสังคมที่เหมาะสมกับพวกเขา
แต่ชายตรงหน้าเธอคนนี้ไม่ได้เป็นเช่นนั้น เห็นได้ชัดว่าเขาเพิ่งผ่านช่วงแห่งการปลุกพรของตัวเองเมื่อไม่นานมานี้ แต่เขาดูจะเห็นเหตุการณ์เหล่านี้กับคนพวกนี้มานานพอที่จะรู้ว่าอะไรเป็นขนบธรรมเนียมการเข้าร่วมกลุ่มหรือพวกเขาเป็นยังไง
นี่เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมทางจิตสำหรับมนุษยชาติ หากคุณต้องการเข้าร่วมกลุ่ม สมองของคุณจะเริ่มคัดลอกสิ่งที่คนในกลุ่มของคุณเป็น เพื่อให้พวกเขาเห็นว่าคุณเป็นหนึ่งในพวกเขาเอง
แต่สิ่งที่พูดถึงนี้กลับไม่ปรากฏในชายที่อยู่ตรงหน้าของเธอ เขาไม่ได้พยายามรวมตัวเองเข้าไปในแวดวงของคนกลุ่มนี้ ดังนั้นเขาจึงมีสไตล์ของตัวเอง
“น่าสนใจ…” เธอพูดกับตัวเองเสียงต่ำ
“ขอบคุณสำหรับการสนทนา ฉันหวังว่าจะได้พบใครบางคนที่น่าสนใจเหมือนคุณอีกในอนาคต” เธอบอกกับโนอาห์ก่อนที่จะจากไป
โนอาห์เฝ้าดูเธอจากไปจนกระทั่งเธอไม่อยู่ในสายตาของเขา เขาเป็นคนแบบนั้นเสมอ ถ้ามีคนมาคุยกับเขาโดยไม่ก้าวร้าวหรือพูดดีๆกับเขา เขาก็จะสุภาพกับพวกเขาเช่นกัน มันเป็นคำพูดเก่าๆที่เขาเคยได้ยินมาตลอด
“ถ้าให้ข้าวฉันดีๆสักเม็ด ในอนาคตฉันจะให้คุณคืนหนึ่งกำมือ แต่ถ้าให้ข้าวไม่ดีฉันละก็คุณก็จะไม่ได้อะไรเช่นกัน”
โดยพื้นฐานแล้วเขาจะไม่หยิ่งผยองหรือปฏิบัติต่อใครไม่ดีโดยไม่มีเหตุผล แต่ถ้าคนๆนั้นปฏิบัติต่อเขาไม่ดีเขาก็จะเสียความรู้สึกทั้งหมดไปกับคนๆนั้น
หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับชายอ้วนโนอาห์ก็พบว่าไม่มีอะไรน่าดูอีกต่อไปดังนั้นเมื่อเห็นว่าจานของเขาว่างเปล่าแล้วเขาจึงหยิบมันขึ้นมาและเตรียมจะไปหยิบอาหารเพิ่ม แต่ก่อนที่เขาจะเริ่มมุ่งหน้าไปที่โต๊ะอาหารเขาก็ได้ยินใครบางคนพูดกับเขา
“ดูเหมือนว่าคุณไม่ได้กินมาหลายวันแล้ว คุณไม่มีอาหารที่บ้านเหรอ?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นโนอาห์ไม่ได้โกรธ แต่เปิดรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของเขาเมื่อเขาหันไปและเห็นคาร์ลอสมองมาที่เขาด้วยรอยยิ้มที่กว้างใหญ่เหมือนของเขาเอง ทั้งสองเป็นเช่นนั้น เมื่อมีโอกาสที่จะสร้างความสนุกสนานซึ่งกันและกัน พวกเขาก็จะทำมัน แต่แน่นอนว่าพวกเขาจะไม่ทำกันจนถึงต้องทะเลาะกัน
“บ้านฉันไม่มีกิน แต่บ้านนายเหมือนจะมีให้กินทั้งบ้านเลยนะ!” โนอาห์หัวเราะในขณะที่กอดคาร์ลอสและล้อเลียนท้องของคาร์ลอสซึ่งตอนที่พวกเขาอยู่ในโรงเรียนคาร์ลอสไม่ได้อ้วนขนาดนี้เลยด้วยซ้ำ แต่หลังจากอยู่บ้านหรือที่บริษัทของพ่อแม่เขา เขาก็เริ่มตัวกลมไปตามกาลเวลา
เมื่อได้ยินสิ่งที่โนอาห์พูดคาร์ลอสก็ชกไหล่เพื่อนของเขาแล้วหัวเราะ
“ฉันไม่สามารถเถียงนายได้จริงๆ แต่ฉันก็กำลังพูดคุยกับผู้ที่ได้รับพรจากเทพแห่งความงามผู้ที่กินอาหารได้มากเท่าที่ต้องการแต่ร่างกายยังคงสมบูรณ์แบบโดยที่ไม่ต้องออกกำลังกายหรือทำอะไรอย่างที่ควรจะเป็น!”
“ว่าไงเพื่อน!” โนอาห์ตอบพร้อมยกแขนขึ้นอย่างยอมแพ้และหัวเราะกับเพื่อนของเขาหลังจากล้อเล่นกับเพื่อนของเขาเสร็จ
“ฉันคิดถึงนายมาก เราไม่ได้อยู่ด้วยกันนานแล้ว ชีวิตนายเป็นยังไงบ้าง นายเลิกบุกป้อมปราการแล้วหรือยัง?” คาร์ลอสถามอย่างเป็นห่วง เขารู้ดีว่าโนอาห์ไม่ได้รับพรที่มีระดับสูงดังนั้นโอกาสที่เพื่อนสนิทของเขาจะตายในป้อมปราการแบบสุ่มจึงมีสูงมาก
“ฉันก็คิดถึงนายเหมือนกัน วันนี้ฉันบุกไปที่ป้อมปราการซึ่งสุดท้ายแล้วมันดันกลายเป็นป้อมปราการระดับพิเศษ” โนอาห์ตอบอย่างตรงไปตรงมา
“เดี๋ยวก่อน…นายอยู่ในป้อมปราการระดับพิเศษด้วยงั้นหรอ เรื่องนี้กำลังเป็นที่พูดถึงเพราะรัฐบาลออกมาแจ้งและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับมันให้พวกเราทุกคนรู้ ป้อมปราการระดับพิเศษนี้เหลือผู้รอดชีวิตเพียงแค่ 4 คนเท่านั้น และอีก 11 คนที่เหลือเสียชีวิตทั้งหมด และคนที่รอดชีวิตออกมาได้มีคนหนึ่งเป็นน้องชายของโรเบิร์ต เขาบอกทุกคนว่าเขาตื่นเต้นแค่ไหนที่เขารอดชีวิตออกมาจากป้อมปรการนั้นได้” คาร์ลอสกล่าวด้วยใบหน้าที่ประหลาดใจ
“โอ้…นายพูดจริงงั้นหรอ ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ฉันใช้เวลาทั้งวันอยู่กับแม็กกี้ ดังนั้นฉันเลยไม่ได้สนใจข่าวมากนัก แต่นายรู้จักคนที่เข้าร่วมป้อมปราการครั้งนี้ด้วยงั้นหรอ คนๆนั้นเป็นใคร?” โนอาห์ถามด้วยความประหลาดใจ เขาไม่คิดว่าคาร์ลอสจะรู้จักใครในป้อมปราการแห่งนั้น
“เขาเป็นน้องชายของโรเบิร์ต โรเบิร์ตตื่นขึ้นมาพร้อมกับพรระดับ C เมื่ออายุ 16 ปีและตอนนี้เขาอายุ 23 เขาได้มาถึงจุดสูงสุดของผู้ถูกเลือกระดับ D แล้ว ซึ่งมันเกือบจะข้ามเกณฑ์ระหว่างระดับ D และระดับ C น้องชายของเขาพรก็ตื่นขึ้นเมื่ออายุ 16 ปีด้วยเหมือนกัน แต่แตกต่างจากพี่ชายของเขาคือพรของเขาอยู่ในระดับ D เท่านั้น ดังนั้นผู้คนจึงไม่ให้ความสนใจเขามากเท่ากับที่พวกเขาทำกับพี่ชาย” คาร์ลอสกล่าว
หลังจากได้ยินคำอธิบายของเพื่อนโนอาห์ก็รู้แล้วว่าเขาพูดถึงใคร ในป้อมปราการนั้นมีเพียงคนเดียวที่เหมาะสมกับลักษณะที่คาร์ลอสอธิบายไว้ ตอนนี้สิ่งที่โนอาห์รู้ก็คือแฮร์รี่มีพี่ชายที่มีพรระดับ C
ในแต่ละระดับความแข็งแกร่งของบุคคลที่มีพรจะก้าวกระโดดอย่างมาก ไม่ต้องพูดถึงด้วยระดับที่สูงขนาดนี้ ยิ่งระดับสูงเท่าไหร่ความแตกต่างก็จะมากขึ้นเท่านั้น โดยทั่วไปแล้วผู้ถูกเลือกจะเรียนรู้วิธีการควบคุมพรของเขาได้วิธีเดียว แฮรี่รู้วิธีสร้างแท่งน้ำแข็ง ชายที่โนอาห์ฆ่านั้นรู้วิธีทำให้ร่างกายของเขากลายเป็นไม้ ชายอีกคนรู้วิธีทำให้อุณหภูมิรอบตัวสูงขึ้น
เพื่อให้สามารถควบคุมพรของตนเองให้ทำอย่างอื่นได้นอกจากการทำได้เพียงอย่างเดียว ผู้ถูกเลือกจะต้องฝึกฝนให้มากขึ้นเพื่อให้พรมีความสามารถที่สูงขึ้น มีผู้ถูกเลือกระดับ D บางคนที่ไม่สามารถควบคุมทักษะของตัวเองได้เลยทำให้เขามีเพียงพลังที่ได้รับมาหลังจากการได้รับพรมาเท่านั้น
สำหรับพี่ชายของแฮร์รี่ที่เกือบจะไปถึงระดับ C ได้อย่างรวดเร็ว นั่นแสดงว่าเขาก็มีพรสวรรค์ที่ดีอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาน่าจะต้องมีทักษะพิเศษเพิ่มขึ้นอย่างน้อยหนึ่งอย่างแน่ๆ
“เดี๋ยวก่อน…น้องชายของโรเบิร์ตเล่าถึงผู้คนทั้งหมดที่ออกมาจากป้อมปราการระดับพิเศษที่ยังมีชีวิตอยู่และพวกเขาทุกคนก็มีพรที่ดี…เธอนายออกมาจากที่นั้นทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่…อย่าบอกนะว่า…” คาร์ลอสมองไปที่โนอาห์ด้วยท่าทางตกใจ
โนอาห์ไม่พูดอะไรและเพียงแค่ยกมือขึ้น ในฝ่ามือของเขาก็มีเปลวไฟเล็กๆปรากฏขึ้นมาจากอากาศและลอยอยู่ในพื้นที่ว่างเปล่านั้นราวกับว่ามันมีชีวิตของมันเอง
โนอาห์อยากมีกล้องเพื่อบันทึกใบหน้าประหลาดใจที่คาร์ลอสกำลังทำอยู่
“ฉันบอกนายแล้วว่าฉันยังไม่รู้วิธีควบคุมพรของฉันให้ดี และฉันก็จะบอกนายว่าเมื่อเร็วๆนี้ ฉันสามารถควบคุมมันได้แล้ว”
คาร์ลอสตกตะลึงอยู่สองสามวินาทีจนกระทั่งในที่สุดเขาก็ยิ้มกว้างบนใบหน้าของเขามีความสุขอย่างแท้จริง ในที่สุดเพื่อนของเขาก็สามารถควบคุมพรของเขาได้แล้ว โนอาห์เคยพูดกับเขาตั้งแต่ตอนที่พรของเขาตื่นขึ้นมา แต่ถึงแม้คาร์ลอสจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเขา แต่ก็ยากที่จะเชื่อเรื่องที่เพื่อนของเขาเล่า ไม่เคยมีกรณีของบุคคลที่มีพรที่ไม่สามารถควบคุมพรของตัวเองได้ แต่ตอนนี้การได้เห็นโนอาห์สามารถควบคุมเปลวไฟที่อยู่เหนือมือของเขาราวกับว่ามันไม่ใช่แค่เปลวไฟ แต่มันมีอะไรบางอย่างที่แปลกประหลาด นั่นทำให้ความสงสัยทั้งหมดที่คาร์ลอสมีหายไป
“เราต้องฉลองแล้ว!” คาร์ลอสกล่าวด้วยรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของเขา
เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูดใบหน้าของโนอาห์ก็เปลี่ยนสีและเขาแสดงสีหน้าเป็นกังวลทันที ครั้งสุดท้ายที่เขาเห็นคาร์ลอสอยากจะฉลองอะไรแบบนี้มันไม่ได้จบลงด้วยดี สิ่งเดียวที่โนอาห์จำได้คือในตอนเช้าที่เขาลืมตาขึ้นมา เขาเห็นวอดก้าและวิสกี้เปล่าหลายขวดอยู่บนโต๊ะขณะที่คาร์ลอสกำลังนอนกอดสุนัขอยู่บนพื้น
“ไม่ไม่! ไม่แน่นอน! อย่าแม้แต่จะคิด! ฉันมีนัดในวันพรุ่งนี้!” โนอาห์ไม่ปล่อยให้คาร์ลอสทำตามความคิดของเขาต่อไป โนอาห์ต้องพัฒนาทักษะของเขาและได้รับประสบการณ์มากขึ้นเพื่อปลดล็อกทักษะอื่น เขาไม่สามารถเสียเวลาไปกับการดื่มมาทั้งวันและใช้เวลาอีกสามวันกับอาการเมาค้าง
“ให้ตายเถอะ…เอาล่ะวันนี้เราอาจจะไม่ได้ฉลองกัน แต่ซักวันเราจะได้ฉลองมันแน่ๆ!” คาร์ลอสพูดตื่นเต้นน้อยลงกว่าเดิมเล็กน้อย
ในขณะที่ทั้งสองหัวเราะและเยาะเย้ยกันโนอาห์สังเกตเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยจากมุมตาของเขาที่มองมาที่เขาด้วยความอาฆาตพยาบาท เมื่อเขาหันไปดูว่าเป็นใครเขาก็เห็นว่าเป็นแฮร์รี่ใบหน้าของเขายังคงดูเหนื่อยล้า แต่คุณสามารถเห็นความภาคภูมิใจเบื้องหลังความเหนื่อยล้านั้น อาจเป็นเพราะเขาภูมิใจในตัวเองมากในขณะที่คนอื่นยกย่องเขา
และด้านข้างของแฮร์รี่มีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่โนอาห์รู้จักอยู่แล้วเช่นกัน คนๆนั้นมองเขาด้วยความงงงวย ชายคนนั้นเป็นเจ้าของรถ Mercedes AMG ที่บอกให้โนอาห์ไปจอดรถโดยคิดว่าเขาเป็นคนจอดรถ