กำเนิดใหม่ทายาทจอมมาร (Lucifer’s Descendant System) - ตอนที่ 27
จนถึงตอนนี้โนอาห์ได้สังหารก็อบลินกลุ่มเล็กๆไปสามกลุ่มแล้วรวมถึงก็อบลินสามตัวแรกที่เขาสังหาร เขาได้รับค่าประสบการณ์และความสามารถของเขาเพิ่มขึ้นแล้ว 14 แต้มนอกเหนือจาก 6 แต้มที่เขาได้รับในตอนแรก ทำให้ค่าประสบการณ์ของเปลวไฟแห่งนรกของเขาเพิ่มขึ้นเป็น 81 แต้มและเหลืออีกเพียง 19 แต้มที่จะทำให้มันพัฒนา โนอาห์ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อมันพัฒนาไปแล้ว ตอนนี้เขาตั้งหน้าตั้งตารอคอยมันเป็นอย่างมาก
กลุ่มก็อบลินปรากฏตัวเร็วกว่าที่โนอาห์จินตนาการไว้ เขาใช้เวลา 30 นาทีในการฆ่าก็อบลินสามกลุ่มในป่าใหญ่เช่นนี้ แต่ทุกๆกลุ่มก็ปรากฏออกมาเรื่อยๆอยู่ดี นั่นทำให้เขาต้องเร่งมืออย่างมาก
ในขณะที่เขากำลังสังหารกลุ่มที่สี่โนอาห์ได้ตระหนักแล้วว่าก็อบลินที่ใช้ปืนพวกนั้นฉลาดกว่านักรบ แต่ในกลุ่มก็อบลินพวกนี้เขาพบว่าก็อบลินนักธนูในหมู่พวกมันฉลาดกว่าก็อบลินที่ใช้ปืน
หลังจากเพื่อนร่วมทีม 3 คนของนักธนูก็อบลินเสียชีวิต มันไม่ได้ใช้เวลาแม้แต่วินาทีเดียวในการคิดว่าจะทำอย่างไร มันทิ้งก็อบลินตัวสุดท้ายที่ยังมีชีวิตอยู่ให้ตายไปในขณะที่มันพยายามช่วยชีวิตตัวเอง
โนอาห์ได้เข้าไปในป่าด้วยเข็มทิศและตามสิ่งที่ผู้ถูกเลือกคนอื่นๆพูดในอินเทอร์เน็ต ข้อดีของป้อมปราการนี้ก็คือค่ายก็อบลินซึ่งบอสแห่งป้อมปราการอาศัยอยู่ในนั้น ค่ายก็อบลินอยู่ทางทิศเหนือเสมอ
แต่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้าของโนอาห์ตอนนี้มันแตกต่างจากที่โนอาห์จินตนาการไว้ มอนเตอร์ตัวนี้ไม่ได้วิ่งไปที่ค่ายก็อบลินเพื่อที่มันจะเรียกกำลังเสริม แต่มันกำลังวิ่งไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ซึ่งเกือบจะเป็นทิศทางตรงกันข้ามกับที่ตั้งค่ายก็อบลิน
‘เจ้ามอนเตอร์ตัวนี้กำลังทำอะไร? ทำไมมันถึงวิ่งไปในทิศทางตรงข้ามละ ที่มันวิ่งหนีเพราะมันต้องการเรียกกำลังเสริมไม่ใช่หรอ…?’ โนอาห์คิดหลังจากเห็นทิศทางที่ก็อบลินนักธนูไป เมื่อมองไปที่ซากศพทั้งสามบนพื้นดิน โนอาห์รู้ดีว่าหากเขาต้องการเผาก็อบลินพวกนี้เพื่อรับค่าประสบการณ์เขาจะต้องอยู่ที่นี่และเผาพวกมัน หรือไปฆ่าก็อบลินที่หนีไปตัวนั้นและเอาศพกลับมาเผา แต่ความอยากรู้อยากเห็นของเขาทำให้โนอาห์ถอนหายใจยาวๆและวิ่งตามนักธนูก็อบลินตัวนั้นไป เพื่อดูว่ามันกำลังจะไปที่ไหน โดยที่เขาทิ้งค่าประสบการณ์ที่เขาจะได้รับทั้งหมดไป
‘อย่าขี้เหนียวโนอาห์ นายจะได้รับประสบการณ์มากขึ้นจากการฆ่ามอนเตอร์ตัวอื่นๆ แต่ตอนนี้พฤติกรรมแปลกๆของก็อบลินตัวนี้อาจจะพาไปเจอโอกาสพิเศษอะไรบางอย่างก็ได้’ โนอาห์กล่าวกับตัวเองในใจ เขาพยายามโน้มน้าวตัวเองว่าเขากำลังทำในสิ่งที่ถูกต้อง
พฤติกรรมของมอนเตอร์ตัวนี้แปลกมาก มันเลิกระมัดระวังตัวและไม่เคยหันกลับมาดูว่าโนอาห์กำลังไล่ตามมันอยู่หรือไม่ เหมือนกับว่าสถานที่ที่มันไปจะปกป้องมันจากมนุษย์ได้อย่างแน่นอน ดังนั้นสิ่งเดียวที่มันต้องกังวลคือต้องไปให้ถึงที่นั่นให้เร็วที่สุด
จากข้อมูลที่โนอาห์เห็นบนอินเทอร์เน็ตพฤติกรรมของก็อบลินตัวนี้ผิดไปจากธรรมดาโดยสิ้นเชิง ในวิดีโอและสิ่งพิมพ์ทั้งหมดผู้ถูกเลือกมักพูดเสมอว่าก็อบลินมักจะหนีไปที่ค่ายทางตอนเหนือดังนั้นหนึ่งในกลยุทธ์ที่พวกเขาแนะนำคือการไล่ก็อบลินออกไปโดยสร้างความกลัวให้กับพวกมันด้วยทักษะที่รวดเร็วเพื่อให้พวกมันสิ้นหวังและวิ่งกลับไปที่ค่าย จากนั้นพวกมันจะต้องประหลาดใจกับกลุ่มมนุษย์อีกกลุ่มที่รอคอยที่จะฆ่าพวกมันในขณะที่พวกมันไม่ได้เตรียมตัวและหวาดกลัว
ในอินเตอร์เน็ตบอกว่ามีโอกาสที่ก็อบลินจะหนีไปในทิศทางตรงข้ามกับค่ายแต่มันก็น้อยมาก มันแค่อาจจะเกิดขึ้นได้เท่านั้น แต่ในหนังสือที่ผู้ถูกเลือกทั้งหมดอธิบายไว้ทุกคนยืนยันเสมอว่า 100% ก็อบลินจะต้องหนีกลับไปที่ค่ายอย่างแน่นอน แม้ว่ามันจะออกนอกเส้นทางไปซักเล็กน้อยแต่สุดท้ายมันจะกลับมาเส้นทางเดิม ดังนั้นสิ่งที่โนอาห์กำลังเห็นอยู่ตรงหน้านี้มันเป็นสิ่งผิดปกติที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น
โนอาห์ยังคงพยายามติดตามก็อบลินจากระยะปลอดภัยมากจนก็อบลินไม่รู้ตัวว่ามันกำลังถูกติดตามและโนอาห์ยังคงเฝ้ามองมอนเตอร์จากระยะไกลว่ามันจะวิ่งไปถึงที่ไหน แต่ก็อบลินตัวนั้นไม่เคยหันกลับมามองเลยสักครั้งว่าโนอาห์ยังติดตามมันอยู่หรือไม่ มันไม่ได้หยุดวิ่งเลยสักนิดเดียว
การไล่ล่าก็อบลินตัวนั้นยาวนานเป็นอย่างมาก โนอาห์คิดว่าปอดของก็อบลินไม่น่าจะทนการวิ่งที่ยาวนานแบบนี้ได้ และมันไม่ควรจะวิ่งไปได้ไกลขนาดนั้นด้วยขาเล็กๆพร้อมกับความเร็วเต็มที่ตลอดเวลา แต่ที่น่าแปลกใจคือเมื่อโนอาห์เห็นใบหน้าของก็อบลินตัวนั้นมันทั้งหอบและหายใจแรง แต่มันก็ไม่เคยชะลอฝีเท้าลงแม้แต่วินาทีเดียว
เมื่อโนอาห์เริ่มหมดความอดทน เขาคิดว่าก็อบลินตัวนี้เป็นบ้าอะไรสักอย่างที่ทุกคนไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ในขณะนั้นเองมีสิ่งปลูกสร้างบางอย่างปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขา
ก็อบลินกำลังวิ่งเข้าไปยังสิ่งก่อสร้างที่แปลกประหลาดนี้: รูปปั้นที่ทำจากไม้ยืนอยู่ตรงนั้นราวกับว่าไม่มีสิ่งใดสามารถสั่นไหวมันได้ แต่สิ่งที่น่าแปลกคือรูปปั้นนี้ไม่ใช่รูปปั้นที่โนอาห์ไม่รู้จัก โนอาห์รู้จักรูปปั้นดังกล่าวเป็นอย่างดี และนี่คือสิ่งที่ทำให้โนอาห์ประหลาดใจมากยิ่งขึ้นเพราะรูปปั้นนี้ทำจากไม้ซึ่งดูเหมือนว่าสร้างขึ้นด้วยวิธีธรรมชาติมันเป็นรูปปั้นที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากและเป็นที่ชื่นชอบของมนุษย์หลายๆคน ก็อบลินที่โนอาห์ไล่ตามมาที่นี่ดูเหมือนจะมุ่งตรงไปที่รูปปั้นนี้ราวกับว่ามันรู้ว่ารูปปั้นนี้สามารถปกป้องมันได้
โนอาห์มองจากระยะปลอดภัยด้วยความสนใจเป็นอย่างมากและที่สำคัญที่สุดคือระวังอย่างมากที่จะไม่ทำให้ก็อบลินตัวนั้นรู้ตัวว่าเขาอยู่ที่นั่นด้วย
น่าแปลกที่ก็อบลินที่โนอาห์คิดว่าฉลาดมากตัวนี้นั่งคุกเข่าอยู่หน้ารูปปั้นราวกับว่ามันกำลังสวดอ้อนวอนกับเธอ เมื่อโนอาห์เห็นสิ่งนี้สมองของเขาแทบจะช็อตทันที เนื่องจากในหัวของเขามันเป็นไปไม่ได้ที่มอนเตอร์พวกนี้จะทำสิ่งที่ไม่น่าเชื่ออย่างการอธิษฐานต่อรูปปั้น ยิ่งไปกว่านั้นสำหรับมอนเตอร์พวกนี้ที่อยู่ในป้อมปราการระดับต่ำเช่นนี้
โนอาห์รู้ว่าในป้อมปราการระดับสูงมนุษยชาติได้พบกับสิ่งมีชีวิตที่ชาญฉลาดหลายชนิดแล้ว ครั้งหนึ่งเขาเคยเห็นในรายงานของหนังสือพิมพ์ว่าในป้อมปราการระดับ S ที่ไม่รู้จัก แทนที่ผู้ถูกเลือกจะเข้าไปในคุกใต้ดินอย่างที่เป็นปกติพวกเขากลับเจอหมู่บ้านเล็กๆในป่าที่มีบ้านอยู่บนยอดไม้และ “มอนเตอร์” ที่พวกเขาต้องฆ่าคือเอลฟ์ที่อาศัยอยู่ที่นั่น
ผู้ถูกเลือกระดับ S ที่บุกเข้ามาในป้อมปราการกล่าวว่าเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อว่าพวกเขาอยู่ในป้อมปราการและไม่ได้อยู่ในโลกอื่น เนื่องจากตามที่พวกเขามองจากระยะไกลเอลฟ์เหล่านั้นมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกันและใช้ชีวิตกันเป็นเรื่องปกติเหมือนอย่างที่มนุษย์ทำ บางคนที่อยู่ในสถานการณ์นั้นรู้สึกแย่ที่จะต้องฆ่าชายและหญิงที่สวยงามเช่นนี้บางทีถึงกับต้องฆ่าเด็กด้วยซ้ำ
ป้อมปราการแห่งนี้ซึ่งไม่เคยมีใครรู้จักมาก่อนหลังจากการบุกเสร็จสิ้นกลายเป็นที่รู้จักในชื่อป้อมปราการสังหารหมู่เอลฟ์ มันไม่เคยปรากฏอีกในประตูวาปใดๆบนโลก แต่หลังจากวันนั้นมนุษยชาติก็เหลือแต่ความสงสัยมากขึ้นว่าประตูวาปเหล่านี้คืออะไรและพวกมันพาพวกเขาไปที่ไหน
แต่สิ่งนี้เกิดขึ้นในป้อมปราการระดับ S เท่านั้น เป็นความรู้ทั่วไปว่ายิ่งป้อมปราการมีระดับต่ำเท่าไหร่ความฉลาดของมอนสเตอร์ที่อยู่ข้างในก็จะยิ่งต่ำลงเท่านั้น แต่สิ่งที่โนอาห์เห็นต่อหน้าเขานั้นไม่มีที่ไหนใกล้เคียงกับสิ่งที่ป้อมปราการระดับ E ควรมี
ก็อบลินที่วิ่งอย่างสุดชีวิตเพื่อชีวิตของตัวเองตอนนี้คุกเข่าอยู่หน้ารูปปั้นไม้ที่โนอาห์จำได้ว่าเป็นเทพธิดาแห่งพืช เธอเป็นเทพธิดาที่รู้จักกันดีที่สุดองค์หนึ่งของมนุษยชาติเนื่องจากพรที่เธอมอบให้ตามปกติเกี่ยวข้องกับชีวิตและการรักษาทำให้หลายๆคนได้รับพรจากการรักษาเมื่อบูชาเธอ แต่สิ่งที่โนอาห์ไม่เข้าใจคือทำไมมอนเตอร์ถึงอธิษฐานต่อเทพธิดาที่ควรจะเป็นที่โปรดปรานของมนุษยชาติ
ในขณะที่โนอาห์เฝ้าดูก็อบลินที่สวดอ้อนวอนต่อเทพธิดา ระบบของเขาที่ไม่ค่อยปรากฏขึ้น คราวนี้กลับแสดงการแจ้งเตือนอย่างกะทันหัน แต่ไม่เหมือนก่อนหน้านี้หน้าต่างสีดำไม่ได้อะไรเกี่ยวกับทักษะหรือประสบการณ์ของเขา แต่แสดงหน้าจอที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นในด้านหน้าของเขา