กำเนิดใหม่ทายาทจอมมาร (Lucifer’s Descendant System) - ตอนที่ 28
ในขณะที่โนอาห์เฝ้าดูก็อบลินที่สวดอ้อนวอนต่อเทพธิดา ระบบของเขาที่ไม่ค่อยปรากฏขึ้น คราวนี้กลับแสดงการแจ้งเตือนอย่างกะทันหัน แต่ไม่เหมือนก่อนหน้านี้หน้าต่างสีดำไม่ได้อะไรเกี่ยวกับทักษะหรือประสบการณ์ของเขา แต่แสดงหน้าจอที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นในด้านหน้าของเขา
[ตรวจพบพลังงานศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากจากเทพระดับล่าง กำลังเริ่มการดูดซึม…]
เมื่อเห็นข้อความดังกล่าวโนอาห์ก็รู้สึกทึ่ง เขาไม่เข้าใจความหมายของระบบ การดูดซับพลังงานศักดิ์สิทธิ์…ความหมายของคำนั้นชัดเจนแต่เขาไม่เข้าใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น จนเขาเงยหน้าขึ้นไปมองที่รูปปั้นไม้อีกครั้ง
รูปปั้นซึ่งเคยทำจากไม้ที่โผล่ขึ้นมาจากพื้นดินเหมือนต้นไม้กำลังสูญเสียรูปลักษณ์อันสง่างามและศักดิ์สิทธิ์ที่เคยมีมาก่อนอย่างเห็นได้ชัด ราวกับว่ามันเวลาผ่านไปแล้วหลายพันปี รูปปั้นนั้นกำลังเหี่ยวเฉาและกำลังจะตายลงอย่างน่าอัศจรรย์
โนอาห์ที่รู้สึกประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าของเขาแต่ก็อบลินกลับมีปฏิกิริยาที่รุนแรงยิ่งกว่าเนื่องจากทางรอดของมันคือการอธิษฐานต่อรูปปั้นที่อยู่ข้างหน้าของมัน
สำหรับมอนเตอร์ตัวน้อยตัวนี้การพังทลายของรูปปั้นเทพธิดาที่มันอธิษฐานอยู่นั้นเป็นคำสั่งประหารสำหรับมันเช่นกัน แต่มันไม่ยอมแพ้และยังคงอธิษฐานด้วยความเชื่อว่าทุกอย่างจะคลี่คลาย และเมื่อรูปปั้นกำลังจะร่วงลงสู่พื้นดิน มันกลับปล่อยแสงประหลาดออกมาจากต้นไม้ด้านใต้และกระทบร่างเล็กๆของก็อบลิน
โนอาห์เฝ้าดูสิ่งนี้ด้วยความสนใจเนื่องจากเห็นได้ชัดว่าระบบของเขาเป็นสาเหตุของการ “ตาย” ของรูปปั้นเทพธิดาแห่งพืช เมื่อเขาคิดว่ารูปปั้นจะตายโดยจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ตอนนี้กลับมีบางอย่างที่ทำให้เขาตกใจอย่างมากเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาของเขา
รูปปั้นของเทพธิดาที่แสดงความรักต่อมนุษยชาติ ผู้ให้พรอันยิ่งใหญ่ซึ่งช่วยมนุษยชาติมากมายในการต่อสู้กับป้อมปราการ ตอนนี้เทพธิดาองค์นั้นกลับอวยพรให้กับมอนเตอร์ตัวนี้
สิ่งที่ทำให้เขาตกใจอย่างแรกคือโนอาห์ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามอนเตอร์สามารถได้รับพรเหมือนมนุษย์ได้เช่นกัน อย่างที่สองคือทำไมเทพธิดาที่ช่วยเหลือมนุษยชาติมาโดยตลอดตอนนี้กลับช่วยมอนเตอร์ที่กำลังต่อสู้กับมนุษยชาติอยู่
โนอาห์เห็นชัดๆว่าสิ่งที่รูปปั้นทำคือการอวยพรให้กับก็อบลินตัวนี้ เพราะทันทีที่แสงกระทบกับมอนเตอร์ร่างของมันก็เริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้น มันไม่ได้สูงเพียง 1 เมตรอีกต่อไป ตอนนี้มันสูงถึง 1.50 เมตรแล้ว การเพิ่มขนาดถึง 50% ในครั้งเดียวนั้นหมายความว่าความแข็งแกร่งของมันก็เพิ่มขึ้นถึง 50% ด้วยเช่นกัน
ในขณะที่โนอาห์มองดูก็อบลินลุกขึ้นจากท่าคุกเข่าของมัน หน้าต่างสีดำอีกบานก็ปรากฏขึ้นลอยต่อหน้าโนอาห์พร้อมกับตัวอักษรที่ลุกไหม้
[การดูดซับพลังงานศักดิ์สิทธิ์ถูกขัดจังหวะ…กำลังทำการดูดซับพลังงานศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง… 0%]
จำนวนนั้นค่อยๆเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆจาก 0% เป็น 1% และจาก 1% เป็น 2% จากเวลาที่ผ่านไปกับเปอร์เซ็นที่เพิ่มขึ้นโนอาห์คิดว่าเขาต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองสามนาที ในขณะที่เขาคิดว่าจะทำยังไงกับเวลานั้น เสียงร้องก็ปลุกให้เขาตื่นจากความคิดนั้นทันที ก็อบลินตัวสีเขียวที่เคยนั่งคุกเข่าอยู่ตรงนั้นลุกขึ้นและพุ่งเข้ามาหาโนอาห์โดยตรง แม้ว่าโนอาห์จะระมัดระวังและอยู่ห่างออกไปให้ไกลกว่าระยะที่มอนเตอร์จะรู้สึกได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เขาโทษว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เกิดจากพรที่ก็อบลินได้รับ
‘ให้ตายเถอะฉันต้องรู้ถึงความแข็งแกร่งของมัน…’ โนอาห์คิดในขณะที่เขาลุกขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อปรับตำแหน่งตัวเอง เขายังไม่รู้เลยว่าความแข็งแกร่งของก็อบลินเพิ่มขึ้น 50% จริงๆหรือไม่ แต่เขาก็ไม่ต้องการที่จะเจอแบบนั้น
‘อย่างน้อยตอนนี้ตัวของมันก็ใหญ่ขึ้นและธนูของมันก็ไม่เหมาะกับมันอีกต่อไป’ โนอาห์คิดในขณะที่เขาเห็นว่าก็อบลินกำลังวิ่งมาหาเขาด้วยมือเปล่า
ความเร็วของมอนเตอร์เร็วกว่าโนอาห์อย่างเห็นได้ชัด แต่โนอาห์ไม่ยอมให้มันทำให้เขาหวั่นไหว เขาซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้และสร้างลูกไฟขึ้นมาในมือแต่ละข้างอย่างรวดเร็วและโผล่ตัวเพียงครึ่งตัวต่อหน้าก็อบลิน
เขาขว้างลูกไฟจากมือซ้ายไปทางด้านขวาของก็อบลินเล็กน้อยเพื่อให้ก็อบลินก้าวไปทางด้านซ้ายเพื่อหลบการโจมตี และในขณะที่ก๊อบลินยังคงตอบสนองต่อลูกบอลไฟแรก โนอาห์ก็เล็งไปที่ด้านข้างมากขึ้นและปาลูกไฟอีกลูกไปยังตำแหน่งที่ก็อบลินกำลังเคลื่อนที่ทันที
และเพราะโนอาห์คิดไว้แล้วว่าก็อบลินจะต้องเคลื่อนที่ไปทางนั้น และมันเป็นไปไม่ได้ที่จะหยุดการเคลื่อนที่กลางคัน ก็อบลินตัวนั้นจึงพยายามที่จะเอี้ยวตัวหลบให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อไม่ให้โดนเปลวไฟที่อันตรายเหล่านั้น และเมื่อมันทำยังงั้นก็ทำให้มันชนกับต้นไม้อย่างจัง
แต่โชคก็ไม่ได้เข้าข้างก็อบลินที่ได้รับพรตัวนั้น แม้มันจะเอี้ยวตัวหลบเข้าหาต้นไม้ลูกไฟในมือซ้ายของโนอาห์ที่ปล่อยไปตอนแรกก็โดนมันทำให้มันเริ่มกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดเนื่องจากเปลวไฟที่บริสุทธิ์กำลังกัดกินเนื้อของมัน และเริ่มไหม้เนื้อของมันอย่างต่อเนื่อง
โนอาห์คิดว่าความคิดของมอนเตอร์ตัวนี้ฉลาดมาก แต่ปัญหาคือมันคำนวณระยะห่างระหว่างมันกับต้นไม้ผิด แต่โนอาห์ไม่ตำหนิมอนเตอร์ตัวนี้ เพราะถึงแม้ว่ามันจะได้รับพรจากเทพธิดา แต่มันก็ยังคงเป็นมอนเตอร์ระดับ E เท่านั้น
จากนั้นโนอาห์จึงวิ่งเข้าหาก็อบลินตัวนั้นพร้อมกับดึงมีดออกจากกระเป๋าที่เขาผูกไว้รอบเอวของเขาด้วยมือขวา ในขณะที่มือซ้ายของเขาเตรียมที่จะปล่อยลูกไฟเพื่อเผาร่างของมอนเตอร์ตัวนั้นทั้งหมด
โนอาห์ไม่แสดงความสงสารหรือความตื่นเต้นเมื่อเขาต้องรับมือกับมอนเตอร์ที่เขาไม่รู้จัก เขาจึงตัดสินใจที่ฆ่ามอนเตอร์ตัวนี้อย่างจริงจังราวกับว่ามันเป็นบอส และโชคดีที่โนอาห์คิดไม่ผิดเพราะเปลวไฟที่ลุกโชนและทำให้มันกรีดร้องนั้นไม่เพียงพอที่จะหยุดมันไม่ให้ลุกขึ้นจากพื้นและวิ่งเข้าหาโนอาห์ เพื่อสังหารมนุษย์ที่น่ารังเกียจตรงหน้าของมัน
โนอาห์รู้สึกประหลาดใจกับความแข็งแกร่งและความมุ่งมั่นของก็อบลิน แต่เขาก็ไม่ได้คลายกำมือที่เขาใช้ถือมีด เมื่อเจ้าก็อบลินคำรามใส่เขาพร้อมกับส่งเสียงร้องโหยหวนโนอาห์ชี้มีดของตัวเองไปที่แขนของมันซึ่งถูกไฟไหม้แล้ว และใช้ประโยชน์จากการที่ไฟเผาแขนของมันไปส่วนหนึ่งแล้ว เขาจึงตัดเข้าไปที่แขนตรงส่วนนั้นทันที ในขณะที่ฝ่ามืออีกข้างหนึ่งของเขาปาลูกไฟไปที่ร่างที่เหลือของก็อบลิน
ก็อบลินตัวนั้นคิดดอะไรไม่ออกเนื่องจากความเจ็บปวดที่มันได้รับในตอนนี้ สิ่งเดียวที่ปรากฏในจิตใจของมันในตอนนี้คือ ฆ่า ฆ่า และฆ่าเท่านั้น…
ในขณะที่มันคิดแบบนั้นใบมีดของมนุษย์ตรงหน้าของมันก็เข้าไปที่แขนของมันและตัดแขนของมันออกไปราวกับตัดชิ้นส่วนของผ้ายังไงยังงั้น
ก็อบลินตัวนี้ที่กำลังวิ่งอยู่พร้อมกับกำลังจะเอามือที่มีเขี้ยวเล็บขนาดใหญ่ฟันไปที่มนุษย์ตรงหน้าแต่หลังจากที่มันรู้สึกว่ามันเหวี่ยงแขนลงไปแล้วร่างกายของมันกลับล้มลงไปที่พื้นทันทีโดยที่มันไม่ได้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
ด้วยความตกตะลึงก็อบลินมองไปที่พื้นตรงหน้ามนุษย์และเห็นว่าเปลวไฟที่ทำให้มันเจ็บปวดมากกำลังแผดเผาบางอย่างอยู่…และสิ่งที่ไฟนั้นกำลังแผดเผาอยู่มันคือแขนของมันที่จะฟันมนุษย์ตรงหน้านั้นเอง
ก็อบลินตกใจมาก มันมองไปที่แขนของมันว่าควรจะอยู่ตรงไหนแต่สิ่งเดียวที่มันเห็นคือความว่างเปล่า แต่ในขณะที่มันยังไม่ทันได้คิดอะไรให้เรียบร้อยนั้น โนอาห์ที่จุดเปลวไฟขึ้นในมือของเขาก็ปล่อยไฟใส่ร่างกายของก็อบลินอย่างรวดเร็วทำให้ไฟลุกลามไปทั่วตัวของก็อบลินทันที ร่างกายของก็อบลินตอนนี้คล้ายกับคนที่ถูกไฟคลอกท่วมตัว
โนอาห์มองไปที่ก็อบลินที่นอนอยู่บนพื้นซึ่งถูกเผาทั้งเป็นและในสายตาของเขาจะมองไม่เห็นความสงสารหรือความสำนึกผิดแม้แต่นิดเดียว ราวกับว่าเขากำลังมองไปที่ก้อนหินที่เขาพบระหว่างทางและเตะมันเพื่อดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่มีอะไรนอกเหนือจากนี้ แต่ภายในรูปลักษณ์ที่ไม่สนใจนั้นของโนอาห์ ในใจของเขากลับไม่สามารถหยุดคิดได้เลยว่าสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นไปนั้นไม่สมเหตุสมผลเป็นอย่างยิ่ง
เขาอาจจะเป็นมนุษย์เพียงคนเดียวที่สามารถฆ่ามอนเตอร์เช่นนี้ผ่านป้อมปราการได้ เนื่องจากเขาฆ่ามอนเตอร์และได้รับประสบการณ์จากการฆ่าแต่ละตัว เขารู้ว่าควรจะทำยังไง แต่นั่นไม่ได้เกิดขึ้นกับมนุษย์คนอื่นๆ เมื่อสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับพวกเขา สิ่งเดียวที่พวกเขาจะทำคือพวกเขาจะไม่สนใจมันและวิ่งหนี และเขาจะไปฆ่าบอสของป้อมปราการนี้เพื่อจบมัน เพราะการฆ่ามอนเตอร์เป็นจำนวนมากไม่ได้ส่งผลดีอะไรกับพวกเขา เพราะยังไงมันก็ได้เงินเท่าเดิมอยู่ดี
เมื่อก็อบลินตรงหน้าตาย หน้าต่างก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งตรงหน้าของโนอาห์ คราวนี้มันแสดงการแจ้งเตือนสองครั้ง ครั้งแรกเป็นการแจ้งเตือนเกี่ยวกับจำนวนค่าประสบการณ์ที่เขาได้รับ และอีกอย่างคือการแจ้งเพื่อให้เขารู้ถึงการดูดซับพลังงานศักดิ์สิทธิ์ที่เสร็จสิ้นแล้ว