กำเนิดใหม่ทายาทจอมมาร (Lucifer’s Descendant System) - ตอนที่ 3
แม้ว่าโนอาห์จะมีความมั่นใจว่าเขาได้รับพรแล้ว แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะประหม่า เขามองไปรอบๆตัวเขา เขาเห็นคนที่มีความรู้สึกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ด้านหนึ่งเขาเห็นวัยรุ่นที่มีความมั่นใจมาก บางคนสามารถควบคุมเกล็ดหิมะขนาดเล็กได้ บางคนควบคุมน้ำได้เล็กน้อย แต่อีกสองสามคนในอีกด้านหนึ่งกลับอยู่ในสถานการณ์ตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง เห็นได้ชัดว่าพวกเขารู้ว่าเขาไม่มีพรใดๆเลย แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังมาเพื่อทดสอบโชคของพวกเขา เพียงแค่มองไปที่พวกเขาก็จะทำให้คุณกังวลใจได้ทันที
โนอาห์สนใจการศึกษาภาษากายมาโดยตลอด ดังนั้นเมื่อมองไปที่วัยรุ่นเหล่านี้เขาจึงสามารถบอกได้ว่าวัยรุ่นเหล่านี้มีความกังวลใจขนาดไหน แต่น่าเสียใจถึงเขาจะรู้ว่าวัยรุ่นพวกนี้กังวลใจขนาดไหน เขาก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรพวกเขาได้อยู่ดี เพราะสิ่งที่รอพวกเขาอยู่ก็คือความผิดหวังเท่านั้น
ในการทดสอบครั้งแรกจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพราะมันจะทำการวิเคราะห์พรของแต่ละคนเท่านั้น ใช้เวลามากที่สุดคือหนึ่งนาที และในไม่กี่นาทีต่อมาโนอาห์ก็มาถึงเครื่องทดสอบ
โนอาห์ยืนอยู่หน้าเครื่องทดสอบ เขาหายใจเข้าลึกๆและยืดแขนซ้ายของเขาเข้าไปไว้ในรูที่เครื่องจะวิเคราะห์ว่ามีออร่าแห่งความเป็นพระเจ้ารั่วไหลออกมาจากเขาหรือไม่ นี่เป็นวิธีที่มนุษย์พบเพื่อประเมินว่าบุคคลนั้นได้รับพรหรือไม่ เนื่องจากมนุษย์มีปัญหาในการควบคุมรัศมีของพรที่ได้รับภายในตัวเอง แน่นอนว่าสิ่งนี้สามารถฝึกฝนได้เมื่อเวลาผ่านไป แต่คนที่เพิ่งได้รับพรจะไม่สามารถควบคุมพลังที่ได้จากพรในทันทีเท่านั้นเอง
ดังนั้นเมื่อมีออร่าจำนวนมากที่รั่วไหลออกมาจากร่างของพวกเขา พวกเขาจึงสามารถระบุได้ว่าเทพองค์ใดที่อวยพรให้กับเขาและอันดับของพรนั้นคืออะไร
หลังจากโนอาห์ได้รับการทดสอบเขาก็โล่งใจได้ระดับหนึ่ง เพราะการทดสอบนี้ประสบความสำเร็จ นั่นแสดงว่าเขาได้รับพรมาแล้วจริงๆ ปัญหาคือเครื่องจักรไม่เคยมีบันทึกว่ามีบุคคลใดเคยได้รับพรจากเทพเจ้าองค์นี้มาก่อน
ทำให้คนงานที่ทำการทดสอบให้กับโนอาห์เกิดความสงสัยเป็นอย่างมาก แน่นอนว่านั้นก็ทำให้โนอาห์กังวลมากขึ้นเหมือนกัน เพราะออร่าที่รั่วไหลออกจากตัวของเขานั้นมีน้อยมาก จนถ้าหากเครื่องจักรเครื่องนี้ไม่แม่นยำละก็ จะไม่สามารถตรวจจับออร่าของโนอาห์ได้เลย โชคดีที่เครื่องบอกว่าอันดับของพรที่โนอาห์ได้รับ มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นระดับ F
โนอาห์ค่อนข้างผิดหวังกับผลที่ได้ แต่เมื่อเขานึกขึ้นได้ว่า เขายังอยู่ระหว่างการพิจารณาการได้รับพรที่แท้จริงที่ยังไม่ตื่นขึ้น โนอาห์ก็มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นอีกนิดหน่อย
เมื่อผ่านการทดสอบครั้งแรกไป สิ่งที่โนอาห์ต้องทำก็เพียงแค่ทำการทดสอบครั้งที่สองให้เสร็จ และเขาก็จะได้รับสิทธิ์ในการเข้าสู่ป้อมปราการ
เมื่อเขาไปทำการทดสอบส่วนที่สองซึ่งพวกเขาจะตรวจสอบความสามารถในการต่อสู้ของเขา ทั้งในแง่ของพลังทำลายล้างหรือในแง่ของพลังอรรถประโยชน์ คนงานบางคนก็ไปดูอย่างอยากรู้อยากเห็นในขณะที่พวกเขาคุยกัน
“เด็กคนนี้จะได้รับพรอะไรมากันนะ” ชายอ้วนคนหนึ่งกล่าว
“ฉันไม่รู้เหมือนกัน เห็นว่าเขาได้รับพรจากเทพองค์ใหม่บางทีเราอาจจะเห็นพรที่แตกต่างกันซึ่งเป็นพลังใหม่สำหรับมนุษยชาติ?” ชายร่างผอมตอบด้วยความหวัง
ชายร่างอ้วนเมื่อได้ยินสิ่งที่ชายคนอื่นพูดก็มองเขาอย่างสงสัยจนกระทั่งเขาตระหนักถึงความจริง
“นายไม่ได้อยู่ที่นั่นตอนที่เขาถูกประเมินโดยเครื่อง BLS3000 ใช่ไหม”
เมื่อได้ยินเช่นนี้คนผอมก็รู้สึกกังวลและทึ่งเล็กน้อยตอบเขาว่า
“เปล่าฉันเพิ่งได้ยินเคนนี่พูดว่า มีวัยรุ่นที่ได้รับพรจากเทพองค์ใหม่ปรากฏตัวขึ้น ฉันเลยรีบวิ่งมาที่นี่เพื่อดูการทดสอบของเขา ฉันได้ยินมาว่าที่สำนักงานใหญ่ฝั่งตะวันตก ก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งได้รับพรจากเทพองค์ใหม่ เธอสามารถควบคุมพลังแม่เหล็กได้ ทุกคนที่สำนักงานใหญ่บอกว่ามันเป็นฉากที่น่าทึ่งมาก ดังนั้นฉันจึงคิดว่าเด็กคนนี้อาจให้การแสดงที่น่าดึงดูดเหมือนกํบเธอได้”
เมื่อฟังสิ่งที่ชายร่างผอมพูดชายอ้วนก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
“ฉันรู้ ฉันก็ได้ยินเรื่องนั้นเช่นกันปัญหาคือผู้หญิงคนนั้นมีพรระดับ A แต่เด็กคนนี้เครื่อง BLS3000 วัดให้เขามีพรระดับ F ระดับ F เลยนะ! ถึงแม้ว่าจะเป็นเทพองค์ใหม่แต่ด้วยระดับที่วัดออกมา เขาไม่มีทางทำอะไรให้พวกเราประหลาดใจได้หรอก”
ในขณะที่เดินไปยังพื้นที่ประเมินที่สอง โนอาห์ได้ยินคนหลายๆคนพูดคุยเรื่องเกี่ยวกับเขาและเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกไร้เรี่ยวแรง ส่วนใหญ่เป็นเพราะเขารู้ว่าเขาไม่สามารถแสดงความสามารถทางกายภาพใดๆด้วยพรที่เขามีได้ เขาทำได้เพียงแค่ผ่านการทดสอบเฉยๆ ทุกคนมักพูดเสมอว่าเมื่อคุณได้รับพรสัญชาตญาณในการใช้พลังของคุณจะตื่นขึ้นเองโดยอัติโนมัติ แต่โนอาห์กลับไม่รู้สึกอะไรเลย
พนักงานรู้สึกตื่นเต้นในขณะที่พวกเขารอให้การทดสอบของเด็กชายเริ่มขึ้น แต่เมื่อเวลาผ่านไปมีเพียงความผิดหวังเท่านั้นที่หลงเหลืออยู่บนใบหน้าของพวกเขา บางคนถึงกับพูดแสดงความคิดเห็นที่หยาบคายแม้ว่าจะไม่ใช่ความผิดของเด็กชายก็ตาม ความแข็งแกร่งของโนอาห์ไม่ได้เหนือกว่าความแข็งแกร่งของผู้ใหญ่ทั่วไปเลยแม้แต่นิดเดียว พวกเขาถือว่านี่เป็นพรแรกของเทพเจ้าองค์เล็กที่เพิ่งปรากฏตัว และไม่นานก็โยนความทรงจำนี้เข้าไปในจิตใจของพวกเขาพร้อมกับความผิดหวังที่ไม่มีอะไรน่าสนใจเกิดขึ้นที่นั่น เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้ยาก แต่ไม่ใช่เรื่องยากที่พนักงานจะจดจำแต่ละคนที่ได้รับพรจากเทพเจ้าองค์ใหม่
เมื่อเวลาผ่านไปผู้คนที่รู้จักโนอาห์ถึงกับคิดว่าเขาแอบสวดอ้อนวอนต่อเทพเจ้าแห่งความงาม เพราะหลังจากนั้นภายในไม่กี่สัปดาห์ใบหน้าของเขาซึ่งก่อนหน้านี้ก็ถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยเพียงเล็กน้อยเริ่มสวยงามขึ้นเรื่อยๆ สิ่งนี้ดึงดูดความอิจฉาจากผู้คนที่ไม่ได้รับพรจากเทพเจ้าใดๆ และเหมือนเป็นการดูถูกเหยียดหยามผู้คนที่ได้รับพรจากเทพเจ้าที่มีอำนาจมากกว่า
แต่เมื่อผ่านการทดสอบพร โนอาห์ได้รับถูกจัดระดับเป็นผู้ถูกเลือกระดับ F ซึ่งเป็นอันดับต่ำสุดที่ทุกคนจะสามารถได้รับได้ ด้วยเหตุนี้ป้อมปราการที่เขาสามารถบุกได้จึงถูกจำกัดไว้ที่ป้อมระดับ F หรือ E เท่านั้นจนกว่าเขาจะพิสูจน์ได้ว่าเขามีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะบุกป้อมปราการที่ทรงพลังมากกว่านี้ และอย่างที่รู้ความแข็งแกร่งของเขาก็ไม่ต่างจากของผู้ใหญ่ทั่วไป เขารู้ว่ารางวัลของดันเจี้ยนระดับ E จะมีค่ามากกว่าหลายเท่า แต่เขาก็ไม่สามารถเสี่ยงที่จะไปตายที่นั่นได้ เพราะยิ่งรางวัลมากขึ้นหลายเท่ามอนเตอร์ที่จะเจอก็จะโหดร้ายมากขึ้นตามนั้นเช่นกัน
ดังนั้นโนอาห์จึงใช้ชีวิตในช่วงปีแรกของเขาอย่างมีความสุขพยายามเรียนรู้สิ่งที่ดีที่สุดที่ต้องทำในป้อมปราการอยู่เสมอเพื่อที่จะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้นโดยไม่ต้องพูดถึงโอกาสในการอยู่รอดที่มากขึ้น
สิ่งที่หลายคนเรียกว่าความอ่อนแอหรือความขี้ขลาดโนอาห์เรียกว่าความฉลาดและกลยุทธ์ เนื่องจากเขาไม่มีกำลัง โนอาห์จึงต้องใช้สติปัญญาเพื่อที่จะอยู่รอดตลอดหลายปีที่ผ่านมา
อัตราการเสียชีวิตของผู้ถูกเลือกในช่วงสามปีแรกนั้นมากกว่า 50% รวมถึงระดับทั้งหมด หากวิเคราะห์เฉพาะอัตราการเสียชีวิตของผู้ถูกเลือกระดับ F จะมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 70%
ในขณะที่การได้รับพรอาจเป็นเส้นทางสู่ชื่อเสียงและโชคลาภที่ง่ายดาย แต่เส้นทางนี้ก็สามารถเปลี่ยนเป็นทางด่วนที่จะส่งไปสู่ความตายได้อย่างง่ายดายเช่นเดียวกัน…และสำหรับโนอาห์ที่ไม่มีพละกำลังหรืออำนาจมันน่ากลัวที่จะคำนวณว่าโอกาสที่เขาจะตายนั้นน่ากลัวเพียงใด
ดังนั้นในขณะที่ผู้คนหัวเราะเยาะโนอาห์หลายต่อหลายครั้ง โดยไม่ได้ปิดบังความไม่พอใจที่พวกเขามีต่อโนอาห์ โนอาห์ก็ไม่สนใจเพราะเขารู้ว่าในการท้าทายป้อมปราการในครั้งถัดไปโอกาสที่คนเหล่านี้จะไม่ปรากฏตัวอีกต่อไปนั้นสูงมาก
4 ปีต่อมาโนอาห์ชินกับขั้นตอนการไปที่ป้อมปราการแล้ว ดังนั้นในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนรถบัส หูของเขาจึงเพิกเฉยต่อวัยรุ่นที่มีเสียงดังที่มักจะปรากฏตัวโดยอัตโนมัติในขณะที่เขาทิ้งผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์มากกว่าไว้ข้างๆ พวกเขาเพียงแค่เพลิดเพลินกับทิวทัศน์จากภายนอกด้วยความเบื่อหน่ายที่ต้องเดินทางไปตามถนนเหล่านี้นับสิบหรือหลายร้อยเส้น
แต่ว่าในครั้งนี้มีบางอย่างที่แตกต่างกันออกไป ตามการคาดการ์ณของโนอาห์ภายในเดือนนี้เขาน่าจะได้รับการยืนยันว่าเขาได้ทำภารกิจที่ได้รับจากลูซิเฟอร์สำเร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ถึงจะผ่านวันนั้นเมื่อ 4 ปีที่แล้วไปแล้ว 3 วัน แต่ก็ไม่มีหน้าต่างใหม่ปรากฏขึ้นมา…จนถึงวันนี้ก็ตาม