กำเนิดใหม่ทายาทจอมมาร (Lucifer’s Descendant System) - ตอนที่ 50
‘เอาล่ะแฮมเบอร์เกอร์ของแม็กกี้เตรียมเสร็จแล้ว…ฉันคิดว่าแค่นี้คงไม่เพียงพอสำหรับเธอ เตรียมของขวัญเพิ่มดีกว่าไหมนะ แต่ก็ไม่รู้จะซื้ออะไรดี…’
ตู้เสื้อผ้าของโนอาห์ไม่หลากหลายมากนัก เขามักจะซื้อเสื้อผ้าโดยคำนึงถึงการใช้งานจริงทั้งในเรื่องของเสื้อผ้าที่จะใช้ในป้อมปราการ และเมื่อพูดถึงเสื้อผ้าที่จะสวมใส่ในชีวิตประจำวัน สำหรับคนที่รักสีสัน “ความผิดหวัง” เป็นคำที่สมบูรณ์แบบในการอธิบายความรู้สึกที่คนๆนั้นจะรู้สึกเมื่อมองไปที่เสื้อผ้าที่โนอาห์มี เพราะเขามีแต่เสื้อผ้าสำหรับการใช้งานแบบสบายๆ
โนอาห์มักจะใส่เสื้อผ้าสลับสีกันระหว่างสีดำและสีขาว วันนี้ก็ไม่ต่างกันโนอาห์สวมเสื้อยืดแขนยาวกา
งเกงขายาวสีดำและรองเท้าผ้าใบสีขาว เขาเตรียมพร้อมที่จะออกจากบ้านและไปโรงพยาบาล เสื้อผ้าของเขาสิ่งเดียวที่ไม่ได้ใช้บ่อยคือรองเท้าผ้าใบสีขาว เพราะเขาจะสวมเฉพาะเมื่อเขามาพบคนสำคัญของเขาในโรงพยาบาล เหตุผลสำคัญที่เขาไม่ต้องการใส่มันบ่อยๆคือเขาขี้เกียจซักมันทุกครั้งที่ออกจากบ้าน นั่นทำให้เขาพยายามลดจำนวนครั้งการใส่ลงมากที่สุดเท่าที่จะมากได้และไปสวมรองเท้าธรรมดาแทน
แผนแรกของเขาในวันนี้คือไปที่โรงพยาบาลเพื่อใช้เวลาทั้งวันในการเล่นและพูดคุยกับแม็กกี้ แต่เมื่อเขาเห็นบัญชีธนาคารของเขาตอนนี้ที่มีศูนย์ต่อท้ายหลายๆตัวซึ่งเป็นผลจากการที่เข้าไปบุกป้อมปราการมา เขาก็คิดว่าเขาควรจะใช้จ่ายเก็บเงินพวกนี้สำหรับแม็กกี้ เพราะเธอเป็นเหตุผลที่เขาต้องการสร้างรายได้มากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่สามารถนำเงินไปทำให้เธอมีความสุขได้มันก็จะไร้ค่าถึงแม้เงินนี้จะมีจำนวนมากก็ตาม
ปัญหาที่เขาเผชิญในตอนนี้คือเขาไม่รู้ว่าจะให้อะไรกับเธอ ตอนแรกเขาคิดจะซื้อตุ๊กตา แต่มีบางครั้งเธอบอกเขาว่าเธอไม่ต้องการตุ๊กตาแบบนี้อีกแล้ว นั่นเป็นเพราะเธออาจได้รับอิทธิพลจากสิ่งที่เธอเห็นบนอินเทอร์เน็ตและจากทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในครอบครัวของพวกเขา ดูเหมือนว่าเธอต้องการที่จะเติบโตเร็วขึ้น โนอาห์คิดว่ามันน่ารักดีที่เธอมีความคิดแบบนี้ แต่มันก็ทำให้เขาลำบากมากยิ่งขึ้นที่เขาจะต้องคิดว่าเขาจะเอาใจเธอยังไงดี
ในขณะที่เขานั่งบนรถบัสพร้อมกับถือกระเป๋าโดยมีแฮมเบอร์เกอร์อยู่ระหว่างขา สมองของเขาก็เพิกเฉยต่อบทสนทนาของคนรอบข้างโดยไม่รู้ตัว นี่เป็นวิธีการป้องกันตัวเองที่เขาพัฒนาขึ้นโดยไม่รู้ตัวเพื่อปกป้องตัวเองจากการตัดสินทั้งหมดที่ได้รับจากคนภายนอก ไม่ว่าจะเป็นการล้อเลียนเขาว่าเขาได้รับการอธิษฐานต่อเทพเจ้าแห่งความงาม ถ้าเขาไม่ได้มีวิธีการป้องกันแบบนี้เขาก็คงจะได้ยินบทสนาจากผู้หญิงวัยกลางคนสองคนที่นั่งอยู่ข้างหลังเขาทั้งสอง
“แอนนาดูเด็กผู้ชายคนนั้นสิ ฉันอยากจะรู้จักคนแบบนั้นในวัยเด็กของฉัน” ผู้หญิงคนหนึ่งกล่าว ผู้หญิงคนนี้มีเครื่องสำอางมากมายบนใบหน้าของเธอ แต่ด้วยคุณสมบัติที่เธอมีทำให้เธอเป็นผู้หญิงที่สวยในตอนที่เธอยังเด็ก
“ฮิฮิ เธอไม่คิดว่าตัวเองจะอายุมากแล้วสำหรับการมานั่งดูเด็กผู้ชายที่ยังเด็กขนาดนี้หรอ ฉันเชื่อว่าเขาโตพอที่จะเป็นลูกชายของเราคนใดคนหนึ่ง” ผู้หญิงอีกคนที่อ้วนขึ้นเล็กน้อยกล่าว
“นั่นเป็นเรื่องจริงเลย…ลูกสาวของฉันต้องอายุใกล้เคียงกับเขาแน่ๆ แต่ฉันจะบอกเธอว่าฉันจะเป็นแม่ที่มีความสุขมากถ้าลูกเขยของฉันหล่อเหมือนเด็กผู้ชายคนนี้ เพราะนั่นแน่นอนว่าหลานของฉันจะต้องน่ารักมากจริงๆ” สาวสวยหัวเราะกับตัวเองเมื่อจินตนาการถึงเด็กๆที่น่ารัก
ผู้หญิงอีกคนได้ยินความคิดเห็นของเพื่อนเธอก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะตามไปด้วย ลูกชายของเธอเองอายุน้อยกว่าชายหนุ่มคนนี้ไม่กี่ปี ถ้าเขาหล่อขึ้นเมื่ออายุมากขึ้นเธอก็ไม่ต้องกังวลกับการหาลูกสะใภ้ในอนาคต
ความคิดเห็นประเภทนี้เป็นเรื่องธรรมดามากสำหรับโนอาห์ ถ้าเขาเริ่มให้ความสนใจกับบทสนทนาของคนรอบข้างเขา เขาอาจจะกลายเป็นคนหยิ่งผยองจากการได้รับคำชมเชยหลายๆครั้งหรือเขาจะรู้สึกละอายใจที่ได้ยินผู้หญิงอายุมากกว่าพูดเรื่องไร้ยางอายเช่นนี้
เขาไม่สนใจเรื่องความรักหรือเรื่องพวกนี้มากนักเนื่องจากเขาต้องโตเป็นผู้ใหญ่เร็วๆ เขาจึงเป็นผู้ใหญ่มากกว่าคนส่วนใหญ่ในวัยของเขาเองและนั่นเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่าหลายคนที่ต้องการติดต่อกับเขา ผู้ใหญ่บางคนถึงกับเสนอเบอร์โทรให้กับเขา ในบางครั้งโนอาห์ถึงกับคิดที่จะยอมรับและเรียกพวกเธอมา แต่เมื่อเขาจำได้ว่าเขาแบกรับความรับชอบไว้บนบ่ามากแค่ไหน ทั้งในเรื่องของการหาเงินมาจ่ายค่ารักษาของแม็กกี้และเพื่อชดใช้หนี้ที่แม่ของเธอได้รับจากลุงของเขา เขาก็ยกเลิกความคิดเหล่านั้นทันที
เขาจะออกไปมีความสุขและสนุกกับผู้หญิงคนอื่นในขณะที่เหตุผลเดียวที่ทำให้เขามีชีวิตคือแม็กกี้ยังนอนอยู่คนเดียวและทุกข์ทรมานอยู่บนเตียงในโลกพยาบาลได้ยังไง
เพราะโนอาห์สามารถเอาเวลาที่จะใช้ในการออกเดทกับผู้หญิงมาใช้เพื่อศึกษาป้อมปราการและวิธีการต่อสู้ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ดังนั้นนั่นคือสิ่งที่เขาเลือกที่จะทำ ในบางครั้งศรีษะส่วนล่างของเขาจะพูดดังกว่าส่วนบนแต่ด้วยความรับผิดชอบมากมายที่เขาต้องแบกรับศรีษะส่วนบนของเขาก็มักจะจัดการกับมันได้ก่อนที่มันจะสายเกินไป
ขณะที่โนอาห์มองออกไปนอกหน้าต่างรถบัสโดยไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เขาก็สังเกตเห็นเด็กหญิงตัวเล็กๆอายุเท่าน้องสาวของเขาเดินอยู่บนทางเท้าขณะถือไอศกรีมด้วยมือเดียว แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตาของโนอาห์กลับไม่ใช่ไอศกรีมที่เธอถืออยู่ในมือข้างหนึ่ง แต่นั่นเป็นสิ่งที่เธอถืออยู่ในมืออีกข้างหนึ่ง เพราะเธอกำลังถือสัตว์เลี้ยงอยู่ แทนที่จะเป็นสัตว์ธรรมดาตัวเล็กๆในมือของเธอ แต่มันคือหนูสีขาวตัวเล็กและนั่นไม่ใช่หนูสีขาวธรรมดา แต่มันคือหนูสีขาวที่มีดวงตาสดใส! นั่นไม่ใช่สัตว์เลี้ยงมันคือมอนเตอร์ มอนเตอร์ที่มักพบในป้อมปราการระดับ D!
เมื่อมองผ่านหน้าต่างรถบัสโนอาห์สังเกตเห็นว่าหนูตัวน้อยที่มีดวงตาสดใสไม่ใช่มอนเตอร์ตัวเดียวที่เดินไปรอบๆเมือง จริงๆแล้วมีคนอื่นๆอีกสองสามคนหรือมากกว่านั้นอีกหลายคนเดินอยู่ที่นั่น
‘ก่อนหน้านี้ฉันไม่สังเกตเห็นได้ยังไง! ฉันจดจ่อกับการพัฒนาตัวเองมากจนเริ่มละเลยสิ่งสำคัญรอบตัวหรือเปล่า? อาจจะมีสิ่งอื่นที่สำคัญที่ฉันไม่ได้สังเกตเห็นจนถึงวันนี้?’ โนอาห์สงสัยในใจด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง เมื่อมองจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง
ในตอนที่เขาเป็นนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาก่อนที่แม่ของเขาจะจากไป โนอาห์เคยได้ยินเรื่องผู้ถูกเลือกที่นำมอนเตอร์ออกมาจากป้อมปราการและพยายามเลี้ยงพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยง
เมื่อได้ยินข่าวนี้ประชากรก็รู้สึกตื่นเต้นมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเรียนที่โรงเรียน โนอาห์ก็ไม่มีข้อยกเว้นเช่นเดียวกับที่สาวๆต้องการมอนเตอร์ที่น่ารักที่สุดเพื่อดูแลพวกมันไว้ใกล้ๆ พวกเด็กๆจึงต้องการมีมอนเตอร์ไว้อวดเพื่อนๆรวมถึงโนอาห์ที่ยังเยาว์วัยด้วยเช่นกัน
เขานึกภาพว่าเขากำลังมุ่งหน้าไปตามถนนโดยขี่หลังสิงโตไฟที่ตระหง่านจากป้อมปราการระดับ A เมื่อแผงคอที่สง่างามของมอนเตอร์ลุกเป็นไฟผู้คนจะจ้องมองเขาด้วยความชื่นชม เช่นเดียวกับคนร่ำรวยที่ได้รับรูปลักษณ์เช่นนี้เมื่อพวกเขาแสดงรถหรู โนอาห์เคยจินตนาการถึงการขี่มอนสเตอร์ระดับสูงราวกับว่าพวกมันเป็นพาหนะที่หรูหราราวกับว่าเขาเป็นซูเปอร์สตาร์
เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่อะไรนอกจากความฝันของนักเรียนมัธยมปลายเพราะเพียงไม่กี่เดือนหลังจากนั้น ผู้ถูกเลือกก็เริ่มล้มเลิกความพยายามที่จะทำให้มอนเตอร์เหล่านี้เชื่อง
และเรื่องนี้ก็เป็นการทำลายความฝันของเด็กผู้ชายจำนวนนับไม่ถ้วนที่ต้องการสร้างความประทับใจให้กับเด็กผู้หญิงด้วยมอนเตอร์ที่พวกเขามี เหลือเพียงนักวิจัยส่วนน้อยจำนวนหนึ่งที่ยังคงพยายามทำให้มอนเตอร์เชื่องและใช้มันเพื่อประโยชน์ของตัวเอง
ใครจะรู้ว่าหลังจากผ่านไปหลายปี นักวิจัยเหล่านั้นก็สามารถค้นพบวิธีการฝึกฝนมอนเตอร์ที่มีออร่าที่โหดร้ายให้กลับมาเชื่องได้
เพื่อตอบสนองความอยากรู้อยากเห็นของโนอาห์เขาจึงหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาและเริ่มค้นหาคำว่า ‘สัตว์เลี้ยงมอนเตอร์’ ในหน้าการค้นหาของเขา
ผลที่ออกมาทำให้เขาต้องประหลาดใจเพราะเห็นได้ชัดว่านักวิจัยได้หาวิธีที่จะเลี้ยงมอนเตอร์พวกนี้ได้จริงๆ แต่สิ่งนี้จะใช้ได้กับมอนเตอร์ที่อ่อนแอกว่าเท่านั้น สำหรับมอนเตอร์ที่แข็งแกร่งกว่าเจ้าของของมัน ในอนาคตเจ้านายของมันจะต้องแข็งแกร่งขึ้นให้พอๆกับสัตว์เลี้ยงเหล่านี้เพื่อควบคุมมัน มิฉะนั้นนั่นจะทำให้พวกเขาต้องสูญเสียการควบคุมมอนเตอร์ และมันจะฆ่าทุกคนรอบๆคนที่อยู่รอบๆ
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมมีเพียงมอนสเตอร์ที่ไม่เป็นอันตรายที่สุดของป้อมปราการระดับ D เท่านั้นที่อยู่ในมือของคนปกติและเด็กๆ บางทีอาจจะมีผู้ถูกเลือกที่ฝึกฝนมอนเตอร์ที่แข็งแกร่งกว่าเช่นสิงโตเพลิงของป้อมปราการอันดับ A?’
เมื่อเห็นเด็กหญิงตัวเล็กๆมีความสุขเพียงใดเมื่อเธอจับหนูตัวน้อยสีขาวที่มีดวงตาสดใสไว้ในมือ โนอาห์ก็คิดได้ว่าเขาจะให้ของขวัญอะไรกับน้องสาวของเขา
Click to Hide Advanced Floating Content