กำเนิดใหม่ทายาทจอมมาร (Lucifer’s Descendant System) - ตอนที่ 72
‘ฉันไม่อยากเจอกับเหตุการณ์แบบนั้นอีกแล้ว ฉันควรจะจัดการกับเรื่องนี้ก่อนที่มันจะดำเนินต่อไปและกลายเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ’ โนอาห์ตัดสินใจเมื่อเห็นว่าเจมส์กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง
“ในที่สุดนายก็มาถึงซักทีนะ” เจมส์พูดด้วยสายตาที่ไม่ค่อยพอใจนักหลังจากที่โนอาห์นั่งลงข้างคาร์ลอส
โนอาห์สามารถจินตนาการได้อย่างดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป แต่เขาไม่มีอารมณ์ที่จะมีส่วนร่วมในละครเรื่องนี้ซึ่งเขารู้บทในหัวอยู่แล้ว
โนอาห์เห็นว่าคาร์ลอสขมวดคิ้วกับสิ่งที่ชายคนนี้พูด และเมื่อเห็นว่าคาร์ลอสกำลังจะพูดอะไรบางอย่างเพื่อปกป้องเขา โนอาห์ก็ตอบกลับอย่างรวดเร็วและพูดขึ้นทันทีว่า
“ใช่ เห็นได้ชัดว่านายไม่ชอบฉัน นายสามารถทำแบบนั้นได้ งั้นตอนนี้เรามาหาเหตุผลว่าทำไมนายถึงไม่ชอบฉันกันดีกว่า เพื่อที่เราจะได้แก้ปัญหานี้ในฐานะผู้ใหญ่แทนที่จะให้นายมาโวยวายเหมือนเด็กๆ และแสดงท่าทางเยาะเย้ยทำให้เพื่อนร่วมทีมของนายขยะแขยงนายเอง”
เมื่อโนอาห์พูดจบเขาก็ชี้ไปที่คนอีกสามคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะ คาร์ลอสและอีกสองคนมองหน้ากันอย่างไม่สบายใจและแสดงออกอย่างชัดเจนว่าพวกเขาไม่ต้องการที่จะต้องมาเจออะไรแบบนี้อีก
เมื่อได้ยินคำตอบของโนอาห์ เจมส์ก็ตกตะลึง เขาไม่ได้คิดว่าเด็กคนนี้ที่อยู่ข้างหน้าของเขาจะมองออกว่าเขาต้องการจะทำอะไร และแทนที่โนอาห์จะทำเหมือนทุกคนที่เขาเคยเห็นมาคือจะด่าเขากลับหรือก้มหัวยอมจำนนแก่เขาและตัดสินใจที่จะซื่อสัตย์และทำงานตามปกติ แต่เด็กคนนี้กลับตอบกลับมาแบบคนที่มีวุฒิภาวะ นี่เป็นครั้งแรกที่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับเจมส์ตลอดหลายปีที่ผ่านมาที่เขาแสดงท่าทีเย่อหยิ่งต่อผู้อื่น และเมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อนทั้งสามของเขา เขาก็ตระหนักว่าโนอาห์คิดถูกเกี่ยวกับความรู้สึกของพวกเขา
ความรู้สึกของอีกสามคนเป็นไปตามที่โนอาห์พูด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มาเตโอ ซึ่งเป็นผู้เล่นที่มีความสามารถแย่ที่สุดในกลุ่มและถูกเจมส์วิพากษ์วิจารณ์อยู่เสมอ เขาคิดว่าโนอาห์จะพูดอะไรเกี่ยวกับความยุติธรรม หรือโนอาห์จะยอมรับทัศนคติของเจมส์และยอมจำนนหรือแย่กว่านั้นคือโนอาห์จะยอมให้เจมส์เป็น “คนพาล” ของกลุ่มแต่ไม่ว่าจะในทิศทางไหนๆของสิ่งที่เกิดขึ้นในใจของมาเตโอ เขาก็นึกไม่ถึงว่าคนใหม่ที่เพิ่งจะมาเข้าร่วมกลุ่มของเขาในตอนนี้จะเป็นคนที่แสดงท่าทางเป็นผู้ใหญ่ ทำตัวเหมือนกับว่าเขาเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ชอบเล่นเกมของเด็ก
โนอาห์จะต้องเอาชีวิตรอดในป้อมปราการในตอนที่เขายังไม่ได้ปลดล็อคพรของเขา เพราะฉะนั้นแล้วตัวเขาจะต้องเติบโตเร็วกว่าคนอื่นๆที่อายุเท่าเขามาก ส่วนใหญ่เขาจะเมินเฉยคนโง่ แต่คราวนี้มันต่างออกไป เนื่องจากเขาจะต้องจัดการกับคนเหล่านี้หลายครั้งต่อสัปดาห์และเขาไม่สามารถไม่สนใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นได้เพราะเขาขี้เกียจเกินกว่าจะดูแลเรื่องเหล่านี้เมื่อเวลาผ่านไป สภาพของทีมอาจย่ำแย่หากปล่อยเรื่องนี้ทิ้งไว้โดยไม่จำเป็น
“ฉัน…ก็ดี ฉันไม่ชอบนายเพราะนายทำให้เรารอ นายไม่ให้เกียรติเราหรอไง นายคิดว่านายเก่งกว่าเรา หล่อกว่าเรา หรือเป็นที่สนใจมากกว่าเราใช่ไหม? นายเลยคิดว่านายมีสิทธิ์ปล่อยให้เรารองั้นหรอ?” เมื่อเจมส์เห็นว่าโนอาห์จริงใจ เขาก็ตัดสินใจที่จะจริงใจเช่นกัน เจมส์เลยพูดในสิ่งที่เขาคิดในใจออกมา
โนอาห์มีความสุขที่เจมส์พูดในสิ่งที่เขาคิดจริงๆออกมาในทันที เพราะมันจะช่วยเขาได้มาก และตามที่โนอาห์จินตนาการไว้ เด็กชายคนนี้อาจมีความเข้าใจผิดเล็กน้อย เขาอาจคิดว่าเขาเหนือกว่าคนอื่นและไม่มีใครจะดีไปกว่าเขาได้ และอีกครั้งที่รูปลักษณ์ที่ดีของโนอาห์เป็นสาเหตุของความขัดแย้งซึ่งมันเป็นอิทธิพลจากความอิจฉาริษยา
“โอเค ก่อนอื่น ขอโทษที่ทำให้พวกนายรอฉัน ฉันน่าจะมาถึงก่อนเวลาจริงๆแต่ฉันไม่คิดว่าระหว่างทางจากบ้านมาที่นี่รถบัสที่ฉันนั่งมาจะเสียและฉันต้องรอรถบัสอีกคันผ่านมา อย่างที่สอง ฉันไม่คิดว่าฉันดีกว่าใคร แต่ฉันก็แน่ใจว่าฉันไม่ได้เลวร้ายไปกว่าใครเลย” โนอาห์พูดและหยุดดูเจมส์ ผู้ซึ่งทำตามที่โนอาห์จินตนาการไว้ว่าเขาจะทำ การแสดงออกถึงความรังเกียจเมื่อได้ยินโนอาห์พูดว่าโนอาห์ไม่ได้เลวร้ายไปกว่าเขา
“และอย่างที่การแสดงออกของนายแสดงออกมา นายเชื่อว่านายดีกว่าทุกคนในกลุ่มนี้ทั้งหมด และด้วยเหตุนี้นายเลยคิดว่าไม่มีใครที่สามารถทำให้นายรอและเสียเวลาอันมีค่าของนายได้ ดังนั้นก่อนที่เราจะพูดคุยหรือทำอย่างอื่นกันต่อ ทำไมเราไม่จบมันเพียงแค่นี้และแก้ไขความประทับใจที่ไม่ดีของนายด้วยการวัดทักษะของเราทั้งคู่ดีไหม?”
เมื่อโนอาห์พูดจบ เกมส์ซึ่งในตอนแรกเริ่มโกรธเคืองโนอาห์ก็หัวเราะออกมาดังๆและมองดูโนอาห์ด้วยท่าทางงุนงงแล้วกล่าวว่า
“นายต้องการอะไร ให้เราต่อสู้กันงั้นหรอ ฉันยินดีรับคำท้าของนายที่เป็นผู้ถูกเลือกระดับ E ถ้านายคิดว่านายจะเหนือกว่าฉันได้ในการต่อสู้ อย่าเพิ่งเสียใจกับสิ่งที่นายพูดตอนนี้ละกัน นายก็รู้ว่าฉันคือผู้ถูกเลือกระดับ D” เขาพูดด้วยท่าทางภูมิใจ
การแสดงออกแบบนี้ไม่มีอะไรใหม่สำหรับโนอาห์ เขาคุ้นเคยกับการแสดงออกแบบนี้มาเป็นเวลานานแล้ว เพราะปกติแล้วเขาจะต้องจัดการกับผู้คนที่หยิ่งผยองที่รู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่าทุกคนเกือบทุกป้อมปราการที่เขาไป โชคดีที่กลุ่มของแจสเปอร์ไม่มีใครเป็นแบบนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่พวกเขาเห็นพลังของโนอาห์ในฐานะนักเวทย์
“โอเค เสียบโทรศัพท์ของนายเข้ากับรัดเกล้าสัมผัสระดับสูงแล้วมาจบเรื่องนี้กันเถอะ ฉันหิวแล้ว และฉันต้องจบการเผชิญหน้าที่ไร้ประโยชน์นี่ก่อนที่อาหารจะมาถึง” โนอาห์พูดขณะหยิบรัดเกล้าของตัวเองออกจากกระเป๋าสะพายไหล่ที่เขานำมาเพราะเขาคิดว่าเรื่องแบบนี้อาจเกิดขึ้นและเชื่อมต่อเข้ากับ Valorwatch
คาร์ลอสและสมาชิกในทีมอีกสองคนประหลาดใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นในการพบกันครั้งแรกของพวกเขา แม้ว่าพวกเขาจะรู้จักเจมส์ดีและรู้จักความเย่อหยิ่งที่เขามี แต่เพื่อนสองคนของคาร์ลอสไม่คิดว่าผู้ชายคนใหม่ที่มาจะเริ่มต้นความขัดแย้งกับเจมส์ในทันที อย่างไรก็ตามคาร์ลอสไม่คิดว่าเพื่อนของเขาที่บอกกับเขาว่าเพิ่งจะถูกเลื่อนระดับขึ้นมาที่ระดับ E ได้ไม่ถึงเดือนจะมีความมั่นใจมากพอที่จะรับมือกับผู้ถูกเลือกระดับ D
คาร์ลอสรู้ว่านี่ไม่ใช่ความเย่อหยิ่งในส่วนของโนอาห์ ถ้าเขากล้าเสนอความท้าทายนี้ นั่นเป็นเพราะเขามั่นใจว่าเขาจะชนะ นั่นคือบุคลิกของโนอาห์ เขาไม่เคยทำอะไรที่เขาไม่ค่อยมั่นใจ หากโอกาสในการแพ้มากกว่าโอกาสที่จะชนะเขาก็จะไม่ทำมัน สิ่งนี้ได้กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของคาร์ลอสมากยิ่งขึ้น เพราะเขาต้องการรู้ว่าสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปเกี่ยวกับเพื่อนของเขาที่ก่อนหน้านี้เขาอ่อนแอมาก แต่ตอนนี้กลับมีความมั่นใจที่จะจัดการกับผู้ถูกเลือกระดับ D ได้คืออะไร
สำหรับคนปกติผู้ถูกเลือกระดับ D เป็นเหมือนสัตว์ประหลาดที่มีพลังมากกว่ามนุษย์ทั่วไป ยิ่งพรของคนๆนั้นมีพลังมากเท่าไหร่ คนๆนั้นก็จะมีความต้านทานมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นหมัดจากมนุษย์ธรรมดาจะไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับผู้ถูกเลือกระดับ D ได้มากเท่ากับผู้ถูกเลือกที่อยู่ในระดับเดียวกันเลย เพราะพวกเขามีความต้านทานมากกว่ามนุษย์ทั่วไป ซึ่งพลังพวกนี้ถูกสร้างขึ้นจากการต่อสู้กับมอนเตอร์ในป้อมปราการและสิ่งนี้ก็ทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้น
แน่นอนว่านั่นจะไม่หยุดยั้งคนอย่างเจมส์จากการตายหากพวกเขาถูกปืนยิง ความต้านทานที่มากขึ้นไม่ได้ทำให้ผิวของพวกเขากลายเป็นเสื้อเการะกันกระสุน ดังนั้นพวกเขาจึงยังสามารถูกจัดการด้วยวิธีการทางเทคโนโลยี แต่ถึงกระนั้นความเสียของผู้ถูกเลือก เช่นการระเบิดของเจมส์เป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มาก
‘สิ่งที่ทำให้โนอาห์มั่นใจมากพอที่จะรับมือกับผู้ถูกเลือกระดับ D โดยที่เขาไม่ต้องใช้เทคโนโลยีใดๆคือตัวเขาเองก็มีพลังทำลายล้างมากพอๆกับเจมส์ ด้วย ‘เปลวไฟ’ นั้นของเขา’ คาร์ลอสคิดขณะที่เขานึกถึงเปลวไฟของโนอาห์
‘แต่เปลวไฟของเขาเพิ่งจะตื่นขึ้นเมื่อสองหรือสามสัปดาห์ก่อนหน้านี้เอง แต่ด้วยเปลวไฟของเขาอันนั้นก็ทำให้เขาได้เลื่อนระดับจากผู้ถูกเลือกระดับ F ไปยังระดับ E ด้วยระยะเวลาอันสั้น จากปกติที่ต้องใช้เวลานานถึงหลายปี แต่โนอาห์กลับทำได้อย่างรวดเร็วจนแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย แต่ในกรณีของเจมส์ที่เขาขึ้นสู่ระดับ D ได้ในขณะที่เขายังเด็กอยู่ เพราะพรของเขามีประโยชน์อย่างมากในการต่อสู้นั่นทำให้เขามีพลังมากกว่าคนระดับเดียวกันกับเขาเล็กน้อย แล้วอะไรที่ทำให้โนอาห์มั่นใจว่าเขาจะสามารถเผชิญหน้ากับผู้ชายคนนี้ได้?’
การพูดคนเดียวภายในหัวของคาร์ลอสทำให้เกิดคำถามมากมายขึ้นในหัวของเขา ซึ่งเขาตัดสินใจที่จะหยุดการคิดพวกนั้นและเชื่อมต่อโทรทัศน์ที่อยู่ใกล้กับโต๊ะของเขาที่สุด เพื่อออกอากาศสำหรับการแข่งขันในล็อบบี้เกมที่โนอาห์กำลังรอเจมส์อยู่
ร้านอาหารมีโทรทัศน์โปร่งแสงที่สามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือของลูกค้าเพื่อส่งสัญญาณบางอย่างไปยังผู้คนที่โต๊ะนั้นได้ แต่เพื่อให้ประสบการณ์การอยู่ที่โต๊ะนั้นสนุกยิ่งขึ้นสำหรับทุกคนที่โต๊ะและไม่รบกวนลูกค้ารายอื่น โทรทัศน์ที่นั่นจึงไม่มีเสียง แต่การที่โทรทัศน์ไม่มีเสียงก็ไม่สามารถหยุดคาร์ลอสและเพื่อนอีกสองคนของเขาจากการดูการแข่งขันของโนอาห์กับเจมส์บนหน้าจอได้
ขณะที่เจมส์ซึ่งเพิ่งสวมรัดเกล้าสัมผัสระดับสูงไว้บนหัวและกำลังติดต่อกันอยู่ในห้องล็อบบี้ คาร์ลอสก็สังเกตเห็นว่าชื่อเล่นของโนอาห์ภายในเกมของเขาดูคุ้นเคยเล็กน้อยด้วยเหตุผลบางอย่าง
‘ฉันเคยเห็นชื่อเล่นนี้ที่ไหนมาก่อนนะ’ คาร์ลอสสงสัย
ผ่านไปเพียงไม่กี่วินาที เจมส์ก็เข้าไปในห้องล็อบบี้ของโนอาห์ และพวกเขาก็เริ่มการแข่งขันกัน เมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้น การปรากฏตัวของตัวละครของโนอาห์และชื่อเล่นของเขาทำให้คาร์ลอสจดจำสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยกับชื่อเล่นนั้นมากได้ในทันที
คาร์ลอสไม่ใช่คนเดียวที่รู้สึกแบบนั้น เจมส์ มาเทโอ และสมาชิกคนอื่นๆในทีมก็อ้าปากค้างเมื่อเห็นตัวละครของโนอาห์ เนื่องจากในฐานะผู้ถูกเลือกระดับ E ภายในเกม มาเทโอ และคนอื่นๆได้เล่นกับเขามาแล้วสองสามครั้ง ผู้เล่นรายนี้เป็นผู้เล่นที่ชนะการแข่งขันหลายนัดในระดับ E และกลายเป็นคนมีชื่อเสียงเล็กน้อยจากการเล่นของเขา มีคนจำนวนมากมาสังเกตเห็นเขาหลังจากที่พวกเขาพบว่าเขาได้ปรากฏตัวในการถ่ายทอดสดของพิกแมนจนในที่สุดพวกเขาก็ได้เพิ่มกันและกันในรายชื่อเพื่อนของพวกเขา
“เขาคือลูซิเฟอร์งั้นเหรอ!” คาร์ลอสและเด็กชายอีกสองคนกรีดร้องด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นผิวสีแดงที่คุ้นเคยซึ่งทำให้พวกเขาพ่ายแพ้หลายครั้งในการแข่งขันจัดอันดับ
ในทางกลับกัน เจมส์จำตัวละครของโนอาห์ได้ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันมาก…