กำเนิดใหม่ทายาทจอมมาร (Lucifer’s Descendant System) - ตอนที่ 78
[ขอแสดงความยินดีกับผู้ใช้ คุณได้เลื่อนระดับเป็นเลเวล 03 แล้ว!]
เมื่ออ่านข้อความที่ปรากฏขึ้นในหน้าต่างสีดำที่ลอยอยู่ตรงหน้าเขา ในที่สุดโนอาห์ก็สามารถถอนหายใจด้วยความโล่งอกได้
ในการขึ้นสู่เลเวล 02 เขาต้องใช้เวลาเพียงสองหรือสามวัน แต่การมาถึงเลเวล 03 เขาต้องใช้เวลาถึงสองสัปดาห์เลยทีเดียว ความแตกต่างในการเลื่อนเลเวลแต่ละครั้งค่อนข้างมาก แต่เขาก็ดีใจที่เห็นว่าเขาได้รับทักษะใหม่หลังจากที่เขาไม่ได้รับมันมานานมากแล้ว
หากผู้ถูกเลือกคนอื่นรู้ว่าเขากำลังบ่นว่าเขาต้องใช้เวลาสองสัปดาห์ในการ “พัฒนา” ทักษะใหม่ พวกเขาจะต้องเอาหัวโขกกำแพงอย่างแน่นอน เพราะโดยปกติแล้วผู้ถูกเลือกระดับ C จะใช้เวลาอย่างน้อยสองสามปีในการพัฒนาทักษะใหม่ๆของพวกเขา แต่โนอาห์คิดว่าสองสัปดาห์เป็นเวลานาน
‘เฮ้อ…หวังว่าหลังจากนี้ฉันจะไม่ต้องใช้เวลาราวๆสองเดือนในการเลื่อนเลเวลอีกครั้งนะ’
โนอาห์คิดขณะที่ดูจำนวนค่าประสบการณ์ที่ต้องใช้ในการไปถึงเลเวล 04
[ผู้ใช้: โนอาห์ สเติร์น]
[เลเวล: 03]
[ประสบการณ์: 0/1,600]
[HP: 14/14]
[ความแข็งแรง: 14]
[ความคล่องตัว: 14]
[ความแข็งแกร่ง: 14]
[สกิล:
เปลวไฟจากนรก เลเวล: 02 : 482/500
คำอธิบายสกิล: เทคนิคที่ประกอบไปด้วยการอัญเชิญเปลวไฟแห่งนรกขึ้นมา เปลวไฟแห่งนรกไม่ต่างไปจากเปลวไฟธรรมดา แต่หลังจากชำระคนบาปและบาปมากมายมันก็กลายเป็นเปลวไฟที่ทรงพลังที่สุดที่สามารถเผาได้กระทั้งเทพเจ้าแห่งเปลวเพลิง เพื่อเพิ่มพลังของความสามารถนี้คุณจะต้องเผาบาปหรือคนบาป]
[หลักแห่งไฟ เลเวล: 02 ร่างกายของผู้ใช้จะปรับตัวให้เข้ากับเปลวไฟได้ดีขึ้นและการควบคุมมันก็เป็นธรรมชาติมากขึ้นเล็กน้อยนอกจากนี้ยังทำให้มนุษย์ได้รับการกัดกร่อนจากบาป มนุษย์ที่มีบาปเพียงเล็กน้อยก็ไม่สามารถชำระล้างได้]
[อุโมงค์นรก เลเวล: 01 : 246/300
ทักษะที่สามารถทำให้เปิดอุโมงค์สู่นรกและออกไปที่อื่นได้ในเสี้ยววินาทียิ่งระยะทางไกลมากเท่าไหร่พลังงานที่จะใช้ก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น]
นรกได้กักขังวิญญาณของคนบาปไว้ในอุโมงค์นี้มาตั้งแต่ทุกสิ่งมีชีวิตถือกำเนิดขึ้น และกังขังมาชั่วนิรันดร์ เพื่อรองรับปีศาจและวิญญาณจำนวนมากพื้นที่นี้จึงขยายตัวมากกว่าโลกของสิ่งมีชีวิตหลายเท่า เมื่อใดก็ตามที่ลูซิเฟอร์เดินผ่านอุโมงค์เหล่านี้ผู้คนก็จะรู้ว่าเขากำลังเคลื่อนย้ายไปที่ไหนสักแห่ง และเขาก็สามารถเคลื่อนย้ายไปที่ไหนก็ได้ที่อุโมงค์นี้ไปถึงเหล่าผู้คนจะคิดว่าเขากำลังเทเลพอร์ต
ค่าประสบการณ์ที่จำเป็นในการเลื่อนระดับได้เพิ่มขึ้นจาก 400 เป็น 1,600 และนั่นมากกว่าเดิมถึงสี่เท่า!
ในตอนแรกโนอาห์คิดว่าค่าประสบการณ์ที่จำเป็นในการใช้เลื่อนเลเวลที่เปลี่ยนจาก 100 เป็น 400 นั่นอาจจะเป็นเพราะแต่ละเลเวลจำเป็นต้องใช้ 300 ค่าประสบการณ์ในการเพิ่มเลเวล แต่เมื่อคำนวณจากจำนวนที่เพิ่มขึ้นในเลเวลนี้แล้ว เขาก็ยืนยันได้ว่านี่หมายความว่าค่าประสบการณ์ที่จำเป็นในการเลื่อนเลเวลจะเพิ่มสี่เท่าเสมอ และนี่ทำให้โนอาห์กังวลว่าเขาจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการเลื่อนเลเวลในอนาคต
‘ฉันหวังว่าการไปถึงเลเวล 05 ฉันจะไม่ต้องใช้ค่าประสบการณ์ถึง 6,400 หน่วยนะ ไม่ยังงั้นฉันจะต้องอยู่ในป้อมปราการนานกว่าที่ฉันคิดไว้แน่นอน เว้นแต่ว่าฉันสามารถเข้าป้อมปราการได้คนเดียวโดยที่ไม่ต้องไปกับผู้ถูกเลือกคนอื่นๆอีก…’ โนอาห์คิดขณะมองไปที่ข้อมือของเขา
ลิลิธที่กำลังพันข้อมือของโนอาห์อยู่ในตอนนี้ต้องการค่าประสบการณ์อีกเพียงเล็กน้อยเพื่อพัฒนาไปสู่เลเวล 02 โนอาห์หวังว่าระหว่างในป้อมปราการนี้เธอจะเลเวลอัพเหมือนกับเขา
‘เดี๋ยวก่อน…แล้วทักษะใหม่ของฉันอยู่ที่ไหน!?!’ ในตอนแรกโนอาห์ไม่ได้ตระหนักว่าเขาไม่ได้รับทักษะใหม่ๆในหน้าสถานะของเขาจนถึงขณะนี้ เพราะเขามุ่งความสนใจไปที่ค่าประสบการณ์ที่จำเป็นในการเพิ่มระดับเท่านั้น
[ขอแสดงความยินดีกับผู้ใช้ที่ไปถึงเลเวล 03! คุณได้ปลดล็อคทักษะใหม่แล้ว!]
“เฮ้อ…”
โนอาห์ถอนหายใจออกมา ตอนนี้ความกังวลของเขาน้อยลงแล้ว เพราะเขากลัวว่าเขาจะไม่ได้รับทักษะใหม่แม้ว่าเขาจะเลเวลอัพแล้ว ด้วยความสงสัยเขาจึงเปิดโปรไฟล์ของเขาอีกครั้ง
[ผู้ใช้: โนอาห์ สเติร์น]
[เลเวล: 03]
[ประสบการณ์: 0/1,600]
[HP: 14/14]
[ความแข็งแรง: 14]
[ความคล่องตัว: 14]
[ความแข็งแกร่ง: 14]
[สกิล:
เปลวไฟจากนรก เลเวล: 02 : 482/500
([อุโมงค์นรก เลเวล: 01 : 246/300
‘ทักษะใหม่ของฉันอยู่ที่ไหน!’
โนอาห์ไม่พบความสามารถใหม่ของเขาในหน้าสถานะของเขาเลย โดยปกติแล้วเขาจะพบกับมันได้จากหน้าสถานะของเขาเสมอ และทั้งสองครั้งก่อนหน้านี้ก็เป็นเช่นนั้น
แต่ตอนนี้หลังจากการแจ้งเตือนของระบบ ความสามารถกลับยังไม่ปรากฏขึ้นเหมือนเดิม
‘บางทีระบบอาจมีข้อบกพร่องอะไรบางอย่างหรือเปล่า?’
[หากต้องการใช้ทักษะใหม่ ผู้ใช้จะต้องพูดว่า ‘แบบฟอร์มสัญญา’]
ในตอนแรกโนอาห์รู้สึกผิดหวังและกังวลว่าจะไม่ได้รับอะไรเลย แต่หลังจากอ่านข้อความของระบบ โนอาห์ก็รู้สึกตื่นเต้นอีกครั้ง
เขาพบว่าตัวเลือกในการทำสัญญาของระบบนั้นใช้งานได้จริงและมีประโยชน์มาก และเนื่องจากสิ่งนี้ถูกควบคุมโดยจินตนาการของเขาเท่านั้น เขาจึงสามารถจินตนาการถึงความเป็นไปได้ที่ไม่สิ้นสุดในการใช้งานสำหรับสัญญาดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสัตว์เลี้ยงหรือเมื่อใดก็ตามที่เขาต้องการจัดการกับมนุษย์คนอื่นๆ
‘แบบฟอร์มสัญญา’ โนอาห์พูดในใจ
ชื่อสัญญา:
ข้อตกลง A:
ข้อตกลง B:
‘นี่…มันง่ายกว่าที่ฉันคิดไว้มาก’
โนอาห์มองดูหน้าต่างสีดำที่ลอยอยู่ข้างหน้าเขาด้วยคำไม่กี่คำที่เขียนด้วยตัวอักษรที่ทำจากเปลวไฟซึ่งเขาคุ้นเคยอยู่แล้ว แต่เนื้อหาของหน้าต่างนั้นน่าผิดหวังสำหรับเขามาก เขาคิดว่ามันคงจะซับซ้อนมากกว่านี้
มันอาจจะเป็นสัญญาที่เขาต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการกำหนดมันขึ้น แต่เขารู้สึกผิดหวังมากที่เห็นหน้าต่างที่แสดงขึ้นมานั้นเรียบง่ายกว่าปกติ
‘ระบบ หากมีคนผิดสัญญาจะเป็นยังไง’ โนอาห์ถามด้วยความสงสัย
[ทั้งฝ่าย A และฝ่าย B จะต้องปฏิบัติตามสัญญาในส่วนของตนตามที่เขียนไว้ ทั้งสองจะรู้ว่าต้องทำอะไรและควรทำอย่างไรตามที่อธิบายไว้ในสัญญา หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ปฏิบัติตามที่ตกลงกันไว้ สัญญาจะถูกยกเลิกและค่าปรับสำหรับการผิดสัญญาจะถูกจ่ายพร้อมกับชีวิตของฝ่ายที่กระทำผิด หรือสิ่งที่มีมูลค่าเท่ากันตราบเท่าที่อีกฝ่ายยอมรับได้]
‘นี่…ก็น่าผิดหวังมากกว่าที่ฉันคิดไว้…’
โนอาห์ผิดหวังกับระบบย่อยของสัญญานี้จริงๆ เขามองไม่เห็นว่าสิ่งนี้แตกต่างจากสัญญาปกติยังไง เว้นแต่ว่าบทลงโทษสำหรับการบอกเลิกสัญญานั้นร้ายแรงกว่าปกติมาก
[เมื่อลูซิเฟอร์เบื่อ เขาชอบไปที่โลกมนุษย์เพื่อสนุกกับการทำสัญญากับมนุษย์ ลูซิเฟอร์ไม่เคยแพ้ในข้อตกลงใดๆที่เขาทำ ทำให้คำพูดที่ว่า “อย่าทำข้อตกลงกับปีศาจ” กลายเป็นที่นิยมอย่างมาก
เนื่องจากลูซิเฟอร์เป็นคนเขียนสัญญา เขาจึงมักใช้สติปัญญาของตัวเองสร้างสัญญาที่มีข้อได้เปรียบเท่าเทียมกัน แต่เมื่อมีคนอ่านสัญญานี้อย่างจริงจังมากขึ้น พวกเขาจะรู้ว่าลูซิเฟอร์ทิ้งช่องว่างไว้หลายช่องสำหรับตัวเอง ในขณะที่อีกฝ่ายนั้นเหมือนจะเสียเปรียบกว่ามาก
ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ว่าคุณสามารถทำสัญญาให้คุณได้เปรียบหรือเสียเปรียบตรงไหน นั่นเป็นสิ่งที่ผู้ใช้เลือก
เนื่องจากความสามารถนี้ขึ้นอยู่กับความฉลาดของผู้ใช้ทั้งหมด มันจึงไม่มีระดับและจะไม่สามารถเพิ่มระดับได้ โดยจะมีให้ใช้งานที่ระดับสูงสุดแล้ว]
หลังจากอ่านคำอธิบายของระบบแล้ว โนอาห์ก็เปลี่ยนการรับรู้ความสามารถนี้ไปโดยสิ้นเชิง เขาคิดว่ามันเป็นเพียงทักษะที่เขาสามารถใช้เป็นครั้งคราวเพื่อสร้างรายได้ แต่ในความเป็นจริง เขาอาจไม่ซื่อสัตย์ในการทำสัญญาและเก็บเกี่ยวผลกำไรมหาศาลจากมัน
โนอาห์รู้สึกตื่นเต้นอีกครั้งเกี่ยวกับสัญญาและเริ่มจินตนาการถึงความเป็นไปได้ที่ไม่รู้จบที่เขาจินตนาการไว้ก่อนที่จะผิดหวังชั่วคราว
โนอาห์รู้สึกตื่นเต้นอีกครั้งเกี่ยวกับสัญญาและเริ่มจินตนาการว่าเขาจะทำอะไรได้บ้างเพื่อให้รวยได้อย่างรวดเร็ว
เขาคิดถึงอะไรก็ตามที่จะทำให้เขาเลื่อนระดับได้อย่างรวดเร็วและกลายเป็นคนดัง หรือทุกๆอย่างที่เป็นไปได้ ทั้งยังทุกสิ่งที่เขาจินตนาการไว้สามารถเป็นจริงได้ด้วยสัญญานี้ เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับจินตนาการของเขาทั้งหมด
การสนทนาของโนอาห์กับระบบนั้นรวดเร็วมาก แม้ว่ามันจะดูเหมือนเขาใช้เวลาไปสองสามนาทีในการสนทนา แต่จริงๆแล้วโนอาห์ใช้เวลาไม่เกินไม่กี่วินาทีเท่านั้น
เมื่อเขาออกจากการสนทนากับระบบ ตอนนี้ทุกคนในกลุ่มก็เดินมาจากทางเข้าห้องในตอนแรก และพวกเขาก็มายืนอยู่ถัดจากศพของมอนเตอร์และมนุษย์อีกคนหนึ่งที่พวกเขาได้เห็น
ผิวหนังของมอนเตอร์ตัวนี้มีความทนทานมากกว่าผิวหนังของบอสปกติของป้อมปราการระดับ E เพราะมันสามารถทนทานเปลวไฟของโนอาห์จากการเผาได้
ลูกธนูและพลังเวทย์ที่ถูกยิงโดยสมาชิกภายในกลุ่มคนอื่นๆก็ยังสร้างความเสียหายได้น้อยกว่าปกติที่พวกเขาทำในป้อมปราการระดับ E มาก แต่มันก็ยังพอที่จะสร้างความเสียหายได้
มีเพียงเปลวไฟของโนอาห์เท่านั้นที่สร้างความเสียหายได้น้อยกว่าปกติ แต่โนอาห์ไม่ได้คิดว่าเหตุนั้นเป็นเพราะเปลวไฟของเขาอ่อนแอกว่าคนอื่นๆ
เขาคิดว่าเหตุผลที่เปลวไฟของเขาอ่อนแอลงกว่าปกตินั้นเกี่ยวข้องกับรอยเย็บที่อยู่ที่ท้องของมอนเตอร์ตัวนี้
ขณะที่พวกเขากำลังต่อสู้ โนอาห์สังเกตเห็นว่ามอนเตอร์ตัวนี้กำลังพยายามปกป้องท้องของมันอยู่เสมอ บางครั้งมันถึงกับปล่อยให้หัวของมันไม่มีการป้องกันเพื่อปกป้องท้องของมันเอง และสิ่งนี้ก็ดึงดูดความสนใจของโนอาห์
และเพราะเหตุนี้โนอาห์จึงสามารถคว้ามีดสั้นของเขาที่อยู่ที่ดวงตาของมอนเตอร์ในตอนแรกได้ ซึ่งนั่นทำให้เขาสามารถแทงมีดสั้นเข้าไปในตาอีกข้างหนึ่งของมันได้
ด้วยการกระทำเช่นนั้นของโนอาห์ มันจึงเป็นจุดสิ้นสุดของการต่อสู้ เมื่อมอนเตอร์ที่รูปร่างเหมือนหมูป่าตัวนี้ไม่สามารถป้องกันตัวเองจากการโจมตีได้อีกต่อไป เพราะมันมองไม่เห็นการโจมตีที่เข้ามาที่มันอีก
โนอาห์อยากรู้อยากเห็นเป็นอย่างมากเพราะแทนที่เขาจะเผาร่างของมอนเตอร์ทันทีหลังจากฆ่ามันเหมือนที่เขาเคยทำในป้อมปราการอื่นๆ คราวนี้ตัดสินใจที่จะรอและเปิดรอยเย็บบนท้องของมอนเตอร์เพื่อค้นหาว่ามีอะไรผิดปกติอยู่ข้างใน
แม้ว่าจะมีบาดแผลที่ยังไม่หายดี แต่โนอาห์ก็ไม่ได้ลดความสนใจในมอนเตอร์ตัวนี้ลงเลย
ผู้ถูกเลือกอีกคนยังสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติกับวิธีที่มอนเตอร์ตัวนั้นแสดงออกมา หลายครั้งที่มันใช้การกระทำที่หลุดรอดจากตรรกะไปปกป้องท้องของมันเอง ซึ่งกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของทุกคนให้ค้นหาว่ามีอะไรอยู่ข้างในซึ่งมีค่ามาก
แต่เมื่อพวกเขาเข้าไปใกล้ๆแทนที่สิ่งที่พวกเขาจะสนใจในอันดับแรกจะเป็นมอนเตอร์ที่นอนนิ่งอยู่บนพื้น แต่สิ่งแรกที่ดึงดูดความสนใจของคนในกลุ่มคือสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของมอนเตอร์
ศพที่ถูกแยกออกเป็นชิ้นๆโดยสิ้นเชิงคือศพที่ดูเหมือนมนุษย์ เนื่องด้วยอวัยวะและกล้ามเนื้อที่มีลักษณะเฉพาะบางอย่าง ผู้ถูกเลือกจึงคิดว่านี่เป็นศพของมนุษย์ธรรมดา แต่เมื่อพวกเขามามองดูใกล้ๆ พวกเขาก็พบว่าศพนี้ดูเหมือนคนแคระมากกว่า