กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 1015
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 1015
“เสี่ยวหูเตี๋ย ผู้หญิงคนนั้นตายไปสามปีแล้ว เจ้ายังปล่อยวางไม่ได้ เจ้าเคยคิดบ้างหรือไม่ว่าเป็นเพราะอะไร?”
“ฝ่าบาทคิดอยากเป็นนักบุญอย่างนั้นหรือ?”
เหวินเส่าอี๋เอามือออกและรักษาระยะห่างกับนาง
“ข้าไม่อยากเป็นนักบุญ ข้าเพียงไม่อยากเห็นเจ้าต้องทุกข์ทรมานจิตใจเช่นนี้ การที่เจ้าเกลียดแค้นนาง นั่นเป็นเพราะเจ้ารักนาง เจ้ารักนางอย่างสุดลึกถึงขั้วกระดูก ในหัวของเจ้ามีแต่นาง แม้แต่หายใจก็มีกลิ่นอายของนางอยู่”
เหวินเส่าอี๋ลุกขึ้นยืนและชี้ไปยังประตูกล่าวอย่างเย็นชา
“ออกไป”
“ต่อให้เจ้าทำให้นางฟื้นชีพกลับคืนมา เจ้าก็ไม่อาจฆ่านางได้ เพราะเจ้าไม่ต้องการให้นางตาย เจ้าเพียงต้องการคำอธิบายจากนาง ให้นางอธิบายเหตุผลให้เจ้าฟังว่าทำไมนางต้องฆ่าพ่อของเจ้า”
“ออกไป รีบออกไปเดี๋ยวนี้”
เพี๊ยะ…..
ไม่รู้เพราะมองไม่เห็นหรือเพราะกู้ชูหน่วนพูดในสิ่งที่เขาไม่ต้องการรับฟัง ทำให้เหวินเส่าอี๋โยนข้าวของบนโต๊ะกระจัดกระจายออกไป
สีหน้าของเขาแสดงความโกรธและมีเส้นเลือดบูดบวมตามใบหน้า ดูออกว่าเขาโมโหมาก เพียงแค่เขาเก็บกลั้นมันเอาไว้
กู้ชูหน่วนก็ดูออกมาว่าหากนางพูดออกมาอีกแค่ประโยคเดียว เหวินเส่าอี๋อาจฆ่านางได้
รู้จักกันมาก็นาน นางไม่เคยเห็นเหวินเส่าอี๋เสียสติและโมโหมากขนาดนี้มาก่อน
“หากถ้ารักใครข้าจะเชื่อมั่นในตัวเขา ต่อให้ความผิดทั้งหมดอยู่ที่เขา ต่อให้ข้าไปเห็นอะไรเข้ามันก็อาจไม่ใช่เรื่องจริง”
“วันนี้เจ้าเหนื่อยมากแล้ว รอให้เจ้าพักผ่อนดีแล้วเราค่อยกลับเผ่าเพลิงฟ้ากัน”
เหวินเส่าอี๋ไม่พูดอะไร ทว่าท่าทางของเขาแสดงให้รู้ว่าต้องการให้กู้ชูหน่วนรีบไสหัวออกไป
กู้ชูหน่วนถอยหายใจช้าๆ และหันหลังผลักประตูออกไป
เดินไปได้ครึ่งทางจู่ๆ กู้ชูหน่วนก็ก้าวเท้าไม่ออก
นางแทบอดตบหน้าตัวเองไม่ได้
ไม่ว่าใครก็ตามจู่ๆ ดวงตาทั้งคู่ก็ไม่สามารถมองเห็นได้ ในใจของเขาคงรู้สึกแย่มาก โดยเฉพาะคนที่แข็งแกร่งอย่างเหวินเส่าอี๋
ทว่านางกลับพูดเรื่องที่ทำให้เขาเจ็บปวดมากที่สุดในช่วงเวลาแบบนี้
เมื่อนึกถึงอดีตที่ผ่านมาของเหวินเส่าอี๋ กู้ชูหน่วนก็เดินกลับไป
นางมองเห็นเหวินเส่าอี๋กำลังโยนข้าวของทั้งหมดลงผ่านระเบียงหน้าต่าง
ส่วนตัวเองก็ลงไปนั่งอยู่ในมุมหนึ่งและกอดกุมตัวเองเอาไว้ด้วยสภาพที่เสื้อผ้ายับยู่ยี่
นี่เป็นการแสดงออกและการปกป้องตัวเองอย่างหนึ่งของคนที่ทำอะไรไม่ได้
นอกจากนี้ยังเป็นท่าที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดมากมายในหัวใจ
ไม่มีทั้งความสุขและความเศร้าบนใบหน้าที่สง่างามของเขา มันสงบราวกับแอ่งน้ำนิ่ง
ทว่ากู้ชูหน่วนรู้สึกปวดใจอย่างอธิบายไม่ได้
โดยเฉพาะเมื่อมองไปที่ดวงตาที่ว่างเปล่าของเขาซึ่งเคว้งคว้างเหม่อลอย
ไม่ว่าเหวินเส่าอี๋จะมีความสุข เศร้า เจ็บปวดหรือทุกข์ทรมาน เขามักจะยิ้มอย่างอ่อนโยน ไม่แสดงอารมณ์บนใบหน้าที่สง่างามและสูงส่ง
ความระมัดระวังของเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่า และไม่สามารถเข้าใกล้เขาได้ในเวลาปกติ
แต่ตอนนี้นางอยู่ใกล้เขามาก ทว่าเขากลับไม่รู้สึกแม้แต่นิดเดียว
เขากำลังนึกถึงอดีตอยู่หรือ?
กู้ชูหน่วนเปิดประตูและกอดเขาจากด้านหลัง
เหวินเส่าอี๋ผู้จมอยู่ในความทรงจำที่เจ็บปวด รู้สึกถึงลมหายใจของมู่หน่วนและพยายามผลักนางออกไป
อย่างไรก็ตาม กู้ชูหน่วนกอดเขาแน่นขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าเขาจะดิ้นรนหนักแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถหลุดพ้นไปได้
เหวินเส่าอี๋กำลังจะใช้กำลังภายในเพื่อสลัดนางออกไป
เสียงกระซิบอ้อนวอนของกู้ชูหน่วนดังเข้ามาในหูของเขา
“เสี่ยวหูเตี๋ย เราเป็นเพื่อนกันใช่หรือไม่ แม้ว่าข้าจะชอบหยอกล้อเจ้า แต่ข้าก็เห็นเจ้าเป็นเพื่อนของข้าคนหนึ่ง”
“ข้ารู้ว่าเจ้าเจ็บปวดอย่างมาก และข้าก็รู้ว่าหลายปีมานี้เจ้าใช้ชีวิตอย่างเหน็ดเหนื่อยมาโดยตลอด หากเจ้าเชื่อข้า เจ้าสามารถระบายให้ข้าฟังได้ ข้าสาบานว่าข้าจะไม่รังแกเจ้าอีก”
“เจ้าเหนื่อยมามากแล้ว ชีวิตนี้ไม่เพียงเพื่อเผ่าเพลิงฟ้า เจ้ายังมีชีวิตเพื่อการล้างแค้น เจ้าควรจะใช้ชีวิตเพื่อตัวเองดูสักครั้ง”
จู่ๆ ทั้งสองก็พูดออกมาพร้อมกัน “จักรพรรดินีตัวปลอม”
ใช่แล้ว นางรู้เรื่องราวในดินแดนเยี่ยอวี่ดีทุกอย่าง และยังรู้เรื่องของพวกเขาทั้งหมด
หรือว่านางจะเป็นคนฆ่า?
หัวใจของกู้ชูหน่วนเต้นแรงขึ้น
หากคิดจะขจัดความสงสัยทั้งหมด มีเพียงแค่หลอกล่อนางออกมา
หัวใจของเหวินเส่าอี๋สับสนอย่างมาก
เขาก็ไม่อยากจะเชื่อว่ากู้ชูหน่วนเป็นคนทำ แต่หลักฐานทั้งหมดก็ชี้ไปที่นาง
หาก….
หากกู้ชูหน่วนไม่ได้เป็นคนฆ่าพ่อของเขา….
มือ…..
มือเขาสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้
หัวใจ…..
หัวใจของเขาเต้นแรงด้วยความประหม่า
เขาอยากจะได้คำตอบให้เร็วที่สุด
“นางอาจจะยังไม่ตาย”
“ข้ารู้ ข้าได้สั่งให้คนออกไปตามหาเบาะแสของนางแล้ว”
เหวินเส่าอี๋ไม่พูดอะไรแววตาของเขาก็เหม่อลอยและมองออกไปไกล
กู้ชูหน่วนรู้ว่าหัวใจของเขากำลังสับสนและยุ่งเหยิง
นางขมวดคิ้วและพยายามค้นหาความทรงจำในหัวซ้ำไปซ้ำมา
ทันใดนั้นเองก็มีแรงบันดาลใจหนึ่งแวบเข้ามา
“หากดวงวิญญาณที่อยู่ในมือของจักรพรรดินีตัวปลอมอยู่ใกล้ๆ ข้าคิดว่าข้ามีวิธีสัมผัสได้ถึงดวงวิญญาณดวงอื่น”
เหวินเส่าอี๋รู้สึกมีความหวังและนั่งนิ่งๆ รอฟังที่นางพูด
กู้ชูหน่วนสั่งให้คนนำถ้วยใบใหญ่เข้ามาและกรีดข้อมือตัวเองเพื่อให้เลือดหยดลงไปในถ้วย
เลือดหยดลงมาอย่างต่อเนื่อง ไม่นานก็เต็มครึ่งถ้วย
แม้ว่าเหวินเส่าอี๋จะมองไม่เห็น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ได้ยิน
เลือดจำนวนมากที่หยดลงมา จำเป็นต้องใช้เลือดจำนวนมากแค่ไหนกันเชียว
กู้ชูหน่วนหัวเราะ “วางใจได้ การถ่ายเลือดเล็กน้อยสามารถช่วยเรื่องการไหลเวียนของเลือดได้เป็นอย่างดี นานๆ ครั้งเจ้าจะให้โอกาสข้า ไม่เช่นนั้นร่างกายของข้าคงไม่อาจดีขึ้นได้”
เหวินเส่าอี๋ “……”
เขารู้ว่าที่มู่หน่วนพูดออกมาแบบนั้นก็เพื่อให้เขาสบายใจ
มีใครบ้างที่ไม่อยากให้ตัวเองมีเลือดมาก โดยเฉพาะนางที่มักได้รับบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้ง นางไม่เป็นโรคโลหิตจางก็โชคดีมากแล้ว
“ในหัวของข้ามีความทรงจำอย่างหนึ่งที่สามารถใช้เลือดของตัวเองเป็นตัวนำทาง และสัมผัสได้ถึงส่วนที่ขาดหายไปของร่างกายของข้า แต่ข้าไม่รู้ว่าจะสามารถสัมผัสได้ถึงดวงวิญญาณหรือไม่”
“นี่คือวิชาลับเฉพาะของเผ่าอวี้ที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อน ยกเว้นหัวหน้าเผ่าหรือผู้อาวุโสสูงสุดเท่านั้นที่รู้”
เหวินเส่าอี๋กล่าว
ดวงตาสีเข้มมองไปที่กู้ชูหน่วนด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน
ไม่เพียงแค่ในร่างกายของนางมีดวงวิญญาณของกู้ชูหน่วนอยู่ แต่พฤติกรรมและวิชาลับเฉพาะของเผ่าอวี้ก็รู้ด้วย
เมื่อนึกถึงความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของมู่หน่วนในศิลปะการต่อสู้
นอกจากนี้นางยังรู้ศิลปะการต่อสู้ที่เป็นเอกลักษณ์ของกู้ชูหน่วนอีกมากมาย
เหวินเส่าอี๋ไม่สงสัยเลยว่าเหตุใดมู่หน่วนถึงมีทักษะพิเศษนี้
หากข้อเท็จจริงไม่ได้อยู่ต่อหน้าเขา เขาก็ยังไม่อาจเชื่อได้ว่านางกับกู้ชูหน่วนไม่ใช่บุคคลเดียวกัน
“อ้อ…..ที่แท้ก็เป็นงี้เอง ดูท่าข้าคงได้ประโยชน์จากนางมาไม่น้อย เสี่ยวหูเตี๋ย เจ้าเชื่อข้า ข้าจะหาดวงวิญญาณทั้งหมดให้เจอ ถึงตอนนั้นเจ้าก็ถามนางด้วยตัวเองว่านางเป็นคนฆ่าพ่อของเจ้าหรือไม่ หากไม่ใช่ไม่แน่พวกเจ้าอาจสามารถฟื้นความสัมพันธ์ให้กลับมาเหมือนเก่าได้”
“แม้ว่านางจะไม่ได้ฆ่าพ่อของข้า แต่นางก็ได้ร่วมมือกับเซี่ยวอวี่เซวียนในการฆ่าล้างเผ่าเพลิงฟ้าของข้าไปจนหมด แค้นนี้ไม่มีทางกำจัดให้หมดไปได้”
“ข้ายังยืนยันคำเดิม หากรักใครเจ้าก็ควรจะเชื่อมั่นในตัวนาง นางทำร้ายเจ้า ทำร้ายวรยุทธ์ของเจ้า ไม่แน่นางอาจมีเหตุผลของนางก็ได้”
เดิมทีนางอยากจะพูดว่า ไม่แน่นางอาจมีเหตุผลในการฆ่าล้างเผ่าเพลิงฟ้าทั้งหมดก็เป็นได้
แต่หลายหมื่นชีวิต
จะให้นางพูดออกมาได้อย่างไร
ช่างเถอะ
เลือดยังคงไหลออกมา เลือดออกมาจำนวนมากทำให้นางรู้สึกเวียนศีรษะ
เมื่อนึกถึงความดีของเหวินเส่าอี๋ต่างๆ นานา นางก็กัดฟัน
ช่างเถอะ
ใครบอกให้นางเป็นคนดีเช่นนี้ล่ะ
ช่วยเขาอีกสักครั้งจะเป็นไรไป
ในที่สุดเลือดก็ไหลออกมาเต็มถ้วย กู้ชูหน่วนท่องมนตร์คาถา เดิมทีคิดแค่ลองเล่นๆ เท่านั้น ทว่ากลับคาดไม่ถึงว่าจะสำเร็จจริงๆ
มีภาพหนึ่งปรากฏขึ้นในเลือด หนึ่งในดวงวิญญาณถูกวางอยู่ในน้ำเต้า
และที่วางน้ำเต้านั้นก็คือภายในห้องนอนของนางนั่นเอง