กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 1052
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 1052
กู้ชูหน่วนกำหมัดแน่น
วรยุทธระดับหก…..
เซี่ยวอวี่เซวียนหรือ?
เมื่อเห็นว่าพลังภายในของผู้หญิงคนนั้นแผ่ขยายออกไปด้านนอกและปล่อยด้ายโลหิตสีแดงออกมา ยิงมันทั้งหมดไปยังชายที่นอนอยู่ตรงมุมห้อง
กู้ชูหน่วนยกมือขึ้นเพื่อคิดอยากจะหยุด แต่กลับเห็นว่าเฉินหลิงที่เหมือนไม่มีเรี่ยวแรงที่จะหยุดนาง พยายามอย่างเต็มที่ที่จะเข้าไปบังชายที่หมดสติ
ดวงตาของนางเกรี้ยวกราดและนางก็ตบลงไปหนึ่งครั้ง
“ตู้ม……”
ฝ่ามือทั้งสองปะทะชนกัน จนเกิดเสียงดัง หญิงวัยกลางคนถอยหลังออกไปและอาเจียนเป็นเลือด และรูม่านตาหดตัวลง
“กำลังภายในที่แข็งแกร่ง เจ้า…..เจ้าเป็นใครกันแน่?”
“มีวรยุทธเพียงระดับหกก็คิดอวดเบ่งเช่นนี้หรือ?”
กู้ชูหน่วนเดินออกไปและกวาดสายตามองหญิงวัยกลางคนพร้อมกับปลดชุดคลุมออกเพื่อคลุมให้กับเฉินหลิง
หญิงวัยกลางคนเห็นกู้ชูหน่วนก็รู้สึกสั่นสะท้าน และเมื่อหันไปมองเยี่ยจิ่งหานและเจี้ยงเสวี่ยก็ทำให้นางตกตะลึงจนตัวสั่น
วรยุทธระดับห้าสองคน วรยุทธระดับหกขั้นสูงสุดหนึ่งคน
อายุน้อยเช่นนี้…..เหตุใดถึง…….
“พวก…..พวกท่าน ข้าไม่รู้ว่าข้าได้ล่วงเกินอะไรพวกท่านไปบ้าง ได้โปรดให้อภัยข้าด้วย ข้ายอมแบ่งผู้ชายคนนี้กับพวกท่าน วรยุทธของเขาก็ไปถึงระดับหกแล้วเช่นกัน ไม่….ข้าจะมอบเขาให้กับพวกท่าน เพียงแค่พวกท่านอย่าได้เอาผิดข้าเลย”
เมื่อได้ยินดังนั้น เฉินหลิงที่เดิมทีเป็นมิตรกับกู้ชูหน่วนก็เกิดอาการขุ่นเคืองขึ้นมา จากนั้นก็เข้าไปขวางชายคนนั้นไว้เพื่อปกป้องเขา
“คิดจะเอาตัวพี่ชายชุดฟ้าครามไป พวกเจ้าต้องข้ามศพข้าไปก่อน”
กู้ชูหน่วนจ้องมองเฉินหลิงที่มีสีหน้าแน่วแน่และมุ่งมั่น จากนั้นนางก็เผยให้เห็นรอยยิ้มที่อบอุ่น
“เจ้าเป็นผู้หญิงที่มีจิตใจดี วางใจได้ ข้าจะไม่ทำอะไรเขา ข้าเพียงแค่จะดูว่าเขาเป็นเพื่อนของข้าหรือไม่เท่านั้น”
เฉินหลิงยังคงไม่ยอม
หญิงวัยกลางคนกล่าวตำหนิเพื่อเอาใจกู้ชูหน่วน “พวกเขาต้องการดูเขา เจ้ายังไม่รีบถอยไปอีก หากยังไม่ถอยไป ข้า…..อ๊า…..”
เสียงตบหน้าดังขึ้น หญิงวัยกลางคนถูกกู้ชูหน่วนตบจนฟันหลุดไปหลายซี่
หากเป็นเมื่อก่อน นางคงต้องลงมือกลับ แต่ตอนนี้นางทำได้เพียงเอามือกุมปากของตัวเองด้วยความเจ็บปวดและไม่กล้าร้องออกมา
เพราะคนที่นั่งอยู่บนรถเข็น แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไรเลยสักคำ แต่เขากลับเหมือนดาบอันแหลมคมที่สามารถเอาชีวิตของนางไปได้ทุกเมื่อ
กู้ชูหน่วนกล่าว “ข้าทำให้เจ้าพูดไม่ได้ไปตลอดเลยก็ได้”
“ขอ….ขอโทษด้วยจริงๆ”
“อาหน่วน เจ็บมือไหม?”
เยี่ยจิ่งหานเป่ามือของกู้ชูหน่วนด้วยความสงสาร ราวกับคนที่ได้รับบาดเจ็บคือนางยังไงยังงั้น ทำให้หญิงวัยกลางคนรู้สึกโกรธอย่างมาก
คนที่ถูกตบจนฟันหลุดคือนางต่างหาก
กู้ชูหน่วนดึงมือของตัวเองกลับและมองไปที่เฉินหลิง
“เจ้ากล้ามาก ข้าชื่นชมในตัวเจ้า แต่เป็นผู้หญิงก็ควรรู้จักรักชีวิตของตัวเอง”
“เจ้า…..เจ้าคิดจะทำอะไร?”
“ข้าอยากรู้ว่าเขาเป็นเพื่อนของข้าไหม”
“เจ้ารู้จักพี่ชายชุดฟ้าคราม?”
กู้ชูหน่วนไม่ได้ตอบนาง ทว่ากลับเดินก้าวเข้าไปหาผู้ชายที่นอนหมดสติ
ทุกก้าวที่เดินไปนั้น คำตอบในใจของนางยิ่งชัดเจนขึ้นทุกเมื่อ
จนกระทั่ง……
หลังจากพลิกตัวของเขา ใบหน้าที่หล่อเหลาของเซี่ยวอวี่เซวียนก็ปรากฏขึ้นในแสงสลัวตรงหน้า
“เสี่ยวเซวียนเซวียน…..เป็นเจ้าจริงๆ ด้วย ในที่สุดข้าก็หาเจ้าเจอ”
นางรู้สึกทั้งมีความสุข ดีใจ ตื่นเต้น กังวล สงสารและความโกรธแค้นถาโถมกันเข้ามา
ดีใจที่ในที่สุดก็หาเซี่ยวอวี่เซวียนเจอ
โกรธที่บาดแผลตามร่างกายของเขามากเกินกว่าที่นางคิดเอาไว้ ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยบาดแผลน้อยใหญ่เป็นจำนวนมาก บาดแผลทั้งภายนอกและภายใน
ยากที่จะจินตนาการว่าเขาประสบพบเจออะไรมาบ้าง
และเมื่อดูที่มือของเขาที่เต็มไปด้วยรอยแผลจากการปีนป่าย
หากเดาไม่ผิด เขาคงจะหกล้มจนขาหัก ทำให้หลายวันมานี้เขาต้องใช้มือในการคืบคลานและเคลื่อนไหวร่างกาย
กู้ชูหน่วนโอบกอดเซี่ยวอวี่เซวียนที่ร่างกายเต็มไปด้วยฝุ่นดินสกปรกราวกับเขาเป็นสิ่งของล้ำค่าบนโลกนี้โดยไม่รู้สึกรังเกียจแม้แต่นิดเดียว
เฉินหลิงตกใจ
ผู้หญิงคนนี้เป็นอะไรกับพี่ชายชุดฟ้าคราม?
เป็นคนรักหรือ?