กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 1089 หนี้บุญคุณ
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 1089 หนี้บุญคุณ
ฝูกวงใจสั่น จากนั้นก็ถามออกมาอย่างไม่แน่ใจว่า “นายท่าน ท่านฝันถึงอะไรงั้นหรือ?”
ฝันถึงอะไร?
สิ่งที่ฝันถึงนั้นมีมากมาย และมันก็มากจะเกินไป
กู้ชูหน่วนโบกมืออย่างอ่อนล้า นางไม่อยากพูดอะไรไปมากกว่านี้ “บางทีอาจเป็นเพราะในหัวของข้ายังมีจิตวิญญาณของนาง จึงทำให้นึกถึงความทรงจำของนาง”
นางคิดจะลุกขึ้นมา แต่เพียงแค่ขยับร่างกายก็เจ็บปวดไปทั้งร่างกาย
“นายท่าน ข้าว่าท่านควรจะพักผ่อนอีกเสียหน่อย”
หมอหลวงรีบวิ่งเข้ามาตรวจชีพจรของกู้ชูหน่วน แต่ทุกคนก็ถูกกู้ชูหน่วนไล่ออกไป เนื่องจากนางเองก็เป็นหมอ นางรับรู้และเข้าใจร่างกายของตนเองดี
“แผลจากลำแสงยากจะรักษา พิษของหนอนกู่ก็ต้องนางพญาหนอนกู่ถึงจะสามารถถอนพิษได้ แค่อี้หยุนเฟยเพียงคนเดียว คิดว่าจะสามารถรักษาอาการป่วยของข้าได้อย่างนั้นหรือ? ฝูกวง เจ้าอธิบายออกมาให้ละเอียดว่าเขารักษาข้าด้วยวิธีใด?”
หลังจากนางตรวจสอบร่างกายของตนเองโดยละเอียด นางก็พบว่าพิษของหนอนกู่นั้นหายไปจากร่างกายของนางอย่างไม่เหลือร่องรอย
และแผลจากลำแสงเองก็เกือบจะหายดีแล้วเช่นกัน
ร่างกายของนางได้รับการรักษาเป็นอย่างดี
บาดแผลอย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง แค่บาดแผลจากลำแสงและพิษจากหนอนกู่ แม้แต่นางเองยังไม่สามารถคิดวิธีการรักษาออกมาได้
ฝูกวงลังเลเล็กน้อย และไม่กล้าจะสบตากับกู้ชูหน่วน
“คือ……คือว่าเขารู้จักกับหมอเทวดาท่านหนึ่ง หวงกุ้ยจวินจึงไปเชิญหมอเทวดาท่านั้นมาเพื่อรักษาอาการป่วยของท่าน”
“หมอเทวดาผู้นั้นชื่ออะไร และเขารักษาให้ข้าอย่างไร”
“เรื่องนี้……คือ……เรื่องนี้ข้าเองก็ไม่แน่ใจ นายท่าน แค่เวลานี้ท่านหายดีก็เพียงพอแล้ว”
“ฝูกวง มีคนเคยบอกเจ้าหรือไม่ ว่าเจ้าเป็นคนที่โกหกไม่เก่ง”
ฝูกวงคุกเข่าลงพื้นด้วยใบหน้าหวาดกลัวและลำบากใจ
ข้าน้อยไม่ทราบรายละเอียดจริง ๆ สามเดือนที่ผ่านมา ทุกครั้งที่หวงกุ้ยจวินมาทำการรักษาให้ท่าน มีแค่เขาและท่านปู่เจียงเท่านั้นที่อยู่ที่นี่ หวงกุ้ยจวินไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้ามา และไม่อนุญาตให้ข้าน้อยบอกกับท่านว่า
“ข้าน้อยเห็นว่าอาการป่วยของท่านดีวันดีคืน หมอหลวงคนอื่นก็ไร้ซึ่งวิธีการรักษา ดังนั้น……จึงไม่ได้เข้ามาแทรกแซงแต่อย่างใด”
“แต่……ลั่วอิ่งบอกว่า……บอกว่า……”
“บอกว่าอะไร?”
“บอกว่าหวงกุ้ยจวินอาจจะแลกด้วยชีวิตของเขา”
“แลกด้วยชีวิตของเขา?”
นอกจากจะหานางพญาหนอนกู่ให้พบ ไม่เช่นนั้นพิษก็จะกระจายไปทั่วร่างในระยะเวลาอันสั้น ฮวาอิ่งตายไปแล้ว การที่จะตามหานางพญาหนอนกู่นั้นเป็นเรื่องซึ่งเป็นไปไม่ได้
“หากข้าน้อยเดาไม่ผิด หวงกุ้ยจวินจะต้องใช้วิธีนี้ในการรักษาพิษหนอนกู่ในร่างกายของท่านเป็นแน่”
ดังนั้นหลังจากทุกครั้งหลังจากที่หวงกุ้ยจวินรักษาอาการให้นายท่าน ลมปราณของเขาจะไม่มั่นคง ใบหน้าซีดขาว และยืนแทบไม่อยู่
และด้วยเหตุนี้เองทำให้เขาทะเลาะกับพวกของท่านปู่เจียง
กู้ชูหน่วนที่ร่างกายอ่อนแอ นางแทบจะล้มลงเมื่อได้ยินสิ่งนี้
ชีวิตแลกชีวิต……
หรือพูดอีกอย่างก็คือ มันไม่มีวิธีการรักษาพิษหนอนกู่มาตั้งแต่แรกแล้ว อี้หยุนเฟยจึงย้ายพิษทั้งหมดไปที่ร่างกายของเขา
หากพิษหนอนกู่ยังอยู่บนร่างกายของนาง มันก็มีแต่ต้องหาตัวนางพญาหนอนกู่ให้พบเท่านั้นถึงจะสามารถรักษามันได้
แต่หากย้ายพิษออกไป
หากต้องการจะรักษาพิษหนอนกู่บนร่างกายของเขา มันก็มีเพียงวิธีเดียว……คือนางต้องตาย
ด้วยเหตุนี้ ทำให้อาการของอี้หยุนเฟยไร้หนทางรักษา
ริมฝีปากสีซีดของกู้ชูหน่วนแยกออกจากกันเล็กน้อย “แล้วแผลจากลำแสงเล่า?”
“เรื่องนี้……ข้าน้อยไม่ทราบจริง ๆ หวงกุ้ยจวินไม่บอกอะไรข้าเลยแม้แต่น้อย เรื่องการรักษาพิษของหนอนกู่ด้วยการแลกด้วยชีวิต ลั่วอิ่งก็ได้รู้มาจากเหล่าผู้อาวุโสที่อยู่ข้างกายของหวงกุ้ยจวิน ผู้อาวุโสพวกนั้นโกรธจนจะเป็นบ้ากันไปหมดแล้ว……”
กู้ชูหน่วนกำผ้าปูที่นอนแน่นด้วยความรู้สึกอึดอัด
หนี้บุญคุณต่อเยี่ยจิ่งหาน เซี่ยวอวี่เซวียน อาม่อ แล้วก็เหวินเส่าอี๋ นางยังไม่รู้จะตอบแทนกลับไปอย่างไร
เวลานี้ยังมีอี้หยุนเฟยเพิ่มเข้ามาอีก
อี้หยุนเฟยไม่เพียงแค่มอบอำนาจในการปกครองของตนเองให้กับนาง
แต่ยังยอมสละชีวิตของตนเองให้กับนางด้วย
บุญคุณครั้งนี้มันยิ่งใหญ่เกินไป
นางรับมันไว้ไม่ได้
และแบกรับมันไม่ไหว
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จะมีสักกี่คนที่สามารถทำได้
“นายท่าน หวงกุ้ยจวินดีกับท่านเหลือเกิน……”
บางทีอาจเป็นเพราะอี้หยุนเฟยมีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับอี้เฉินเฟย
ประกอบกับอี้หยุนเฟยทุ่มเทให้กับกู้ชูหน่วนอย่างแท้จริง
ฝูกวงจึงอดไม่ได้ที่จะเอนเอียงไปทางอี้หยุนเฟย และยังหวังว่านายท่านของเขาจะใช้ชีวิตคู่กับอี้หยุนเฟยไปชั่วนิรันดร์ หวังว่าพิษร้ายในร่างกายของคุณชายอี้จะมีวิธีการรักษา และอย่าให้มีเรื่องอันใดต้องส่งผลกระทบต่อจิตใจของเขาเลย
ผ่านไปพักหนึ่ง กู้ชูหน่วนไม่พูดอะไร
จนกระทั่งนางถามออกมาว่า
“เวลานี้บ้านเมืองเป็นอย่างไรบ้าง? ประชาชนทุกคนยังมีชีวิตที่ดีอยู่ใช่หรือไม่ ทุกอย่างในรัฐปิงเป็นไปด้วยความเรียบร้อยหรือไม่”
“เวลานี้ประชาชนใช้ชีวิตกันอย่าปกติสุข ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐอี้ ทำให้เวลานี้รัฐปิงไร้ซึ่งผู้ยากไร้ ประชาชนมีอาหารและเครื่องนุ่งห่มเพียงพอ เพียงแต่……”
“มีอะไรก็พูดออกมาเลย อย่างมัวแต่อ่ำ ๆ อึ้ง ๆ”
“คือว่า……นายท่าน ทุกอย่างในรัฐปิงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่หวงกุ้ยจวินกับพระสวามีไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่นัก”
เมื่อเห็นดวงตาอันเหี้ยมโหดของกู้ชูหน่วน
ฝูกวงรีบอธิบายออกมาทันที
“การต่อสู้ของเผ่าเพลิงฟ้ากับเมืองอี้ราวกับเปลวไฟซึ่งโหมกระหน่ำ ผู้นำของเผ่าเพลิงฟ้าจำนวนมากถูกสังหารโดยคนของเมืองอี้ ทายาทระดับสูงหลายคนของเมืองอี้เองก็ถูกสังหารโดยเผ่าเพลิงฟ้า เมืองอี้ก็คือรัฐอี้ในอดีต”
“เหตุใดจึงต่อสู้กัน? แย่งแผ่นอักษรสีเหลืองอย่างนั้นหรือ?”
ซึ่งเทียบได้กับสงครามระหว่างสองประเทศ จากการคำนวณคร่าว ๆ ของข้าน้อย
“รัฐอี้อยู่ในการควบคุมของรัฐปิงอย่างพวกเราไม่ใช่หรือ? หรือรัฐปิงไม่สามารถหยุดยั้งพวกเขาได้? เหตุใดถึงได้เกิดการสู้รบขึ้น?”
“รัฐอี้ยอมจำนนต่อพวกเรา แต่……แต่ทางด้านของหวงกุ้ยจวิน มีผู้อาวุโสระดับสูงจำนวนมากคอยให้การสนับสนุนอยู่ ผู้อาวุโสเหล่านั้นมีอำนาจอันยิ่งใหญ่ในดินแดนวิญญาณเยือกแข็ง เหล่าสำนักยุทธ์ที่แข็งแกร่งก็ร่วมมือและทำตามความปรารถนาของพวกเขา”
“แค่ผู้อาวุโสระดับสูงพวกนั้นป่าวประกาศออกไป เมืองเล็ก ๆ ที่อยู่รอบข้าง รวมถึงเหล่าสำนักยุทธ์ที่ยิ่งใหญ่ก็……ก็ทำตามคำสั่งของพวกเขาทุกประการ”
“แค่แก่งแย่งแผ่นอักษรสีเหลืองเท่านั้น เหตุใดถึงต่อสู้กันรุนแรงถึงเพียงนี้ เหวินเส่าอี๋ไม่สนใจเลยอย่างนั้นหรือ……”
เมื่อนึกถึงเหวินเส่าอี๋ที่ยังคงหมดสติอยู่
กู้ชูหน่วนนำมือขึ้นมาปิดปากทันที
“รองหัวหน้าเผ่าเพลิงฟ้าไม่ใช่คนไร้เหตุผล เขาจะปล่อยให้เรื่องเช่นนี้เลยเถิดมาถึงขั้นนี้ได้อย่างไร”
“สิ่งที่เลวเลยที่สุดก็คือ รองหัวหน้าเผ่าเพลิงฟ้าได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการโจมตีประสานของท่านปู่เจียงและท่านปู่อวี๋ เวลานี้ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร ดังนั้นเผ่าเพลิงฟ้าจึงโกรธมาก และคิดว่าหวงกุ้ยจวินเป็นคนลักพาตัวรองหัวหน้าเผ่าของพวกเขาไป”
นอนอยู่ติดเตียงมาสามเดือน กู้ชูหน่วนพยายามอยู่หลายครั้งกว่าจะลุกขึ้นยืนได้
“นายท่าน อาการป่วยของท่านยังไม่หายดี ท่านต้องการไปที่ไหนอย่างนั้นหรือ?”
“ข้าจะไปหาอี้หยุนเฟยก่อน”
แม้จะเป็นห่วงเหวินเส่าอี๋ ซือม่อเฟย และเยี่ยจิ่งหาน แต่กู้ชูหน่วนก็เลือกที่จะไปพบอี้หยุนเฟย
หากเรื่องระหว่างพวกเขากับเผ่าเพลิงฟ้าไม่ได้รับการแก้ไข ก็ไม่รู้ว่าจะต้องมีคนตายอีกมากมายแค่ไหน
และนางก็ต้องไปดูอาการของอี้หยุนเฟยว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้าง
“ข้าน้อยจะเป็นผู้นำทางให้นายท่านเอง”
เอี๊ยด……
ประตูห้องนอนถูกเปิดออก ไม่รู้ว่าท่านปู่เจียงรู้ได้อย่างไรว่านางฟื้นขึ้นมาแล้ว จึงปรากฏตัวออกมาต่อหน้านางอย่างไม่คาดฝัน
“ท่านปู่”
ท่านปู่เจียงประสานมือและคารวะต่อกู้ชูหน่วนเพื่อแสดงถึงความเคารพ
ก่อนหน้านี้เขาเคารพในตัวของกู้ชูหน่วนมาก
แต่ตอนนี้ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเรื่องที่อี้หยุนเฟยยอมแลกชีวิตของตนเองเพื่อรักษาอาการป่วยของนาง จึงทำให้เขารู้สึกเจ็บปวด และรู้สึกบาดหมางกับนางหรือไม่
ท่านปู่เจียงกล่าวออกมาโดยตรง “นายน้อยของข้ามีจิตใจเมตตา เขาไม่ต้องการให้พวกข้ามาหาท่าน แต่ข้าก็อดคิดและไตร่ตรองเพื่อนายน้อยไม่ได้”
“แผ่นอักษรสีเหลืองอยู่บนแท่นแห่งวีรบุรุษชานฉุ่ย กองกำลังคุ้มกันของรัฐอี้กำลังต่อสู้กับเผ่าเพลิงฟ้าเพื่อแย่งชิงแผ่นอักษรสีเหลือง ไม่รู้ว่าฝ่าบาทจะอยู่ฝ่ายใด”