กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 1113 เจ้าก็คือกู้ชูหน่วน
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 1113 เจ้าก็คือกู้ชูหน่วน
จู่ ๆ ดวงตาอันอบอุ่นของเหวินเส่าอี๋ก็ฉายแววอาฆาตออกมาด้วยความเกลียดชังอย่างแรงกล้า
เจตนาฆ่า
ความเกลียดชัง
ไม่สามารถปกปิดเอาไว้ได้
มันช่างรุนแรงยิ่งนัก
หัวใจของกู้ชูหน่วนรู้สึกเจ็บปวดอย่างอธิบายไม่ได้
“เพราะเหตุใด……”
“ฝ่าบาทคิดว่าอย่างไร……”
“ผู้หญิงคนนั้นได้ตายไปแล้ว แม้ว่าเจ้าจะชุบชีวิตของนางขึ้นมา และสังหารนางอีกครั้ง นางก็ตายอยู่ดี ไม่สู้มอบแผ่นอักษรสีเหลืองให้ข้าเพื่อช่วยชีวิตของอี้หยุนเฟยจะดีกว่า”
“อี้หยุนเฟยจะเป็นหรือตาย แล้วมันเกี่ยวข้องอะไรกับข้า? แม้ว่าจุดจบของนางจะเป็นการเผชิญกับความตายเช่นกัน แต่กระบวนการนั้นต่างกัน ข้าต้องการให้นาง……ตายทั้งเป็น”
เกลียด……
ความเกลียดชังที่ท่วมท้น
แม้ว่าจะอยู่ห่างไกลเพียงใด กู้ชูหน่วนก็สามารถสัมผัสถึงมันได้
นางไม่อยากจะเชื่อ เหวินเส่าอี๋ผู้ซึ่งได้รับการขัดเกลาและมีจิตใจเมตตามาโดยตลอดจะตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
“ดังนั้น หากข้าไม่มอบมันให้กับเจ้า วันนี้ข้าจะต้องตายอยู่ที่นี่ด้วยงั้นหรือ?”
เหวินเส่าอี๋ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา
แต่ร่างกายที่ตั้งตรงและสายตาอันเยือกเย็นของเขาได้บ่งบอกทุกอย่างไว้ชัดเจน
กู้ชูหน่วนยิ้มออกมา “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่มีอะไรต้องพูดคุยกัน เหวินเส่าอี๋ ข้าจะบอกเจ้าไว้ ข้าจะต้องเอาแผ่นอักษรสีเหลืองมาให้ได้ และ……แผ่นอักษรสีเหลืองก็ไม่ได้อยู่ที่ข้า”
“ไม่เป็นไร ไม่ได้แผ่นอักษรสีเหลือง อย่างน้อยได้วิญญาณของเจ้ามาก็ถือว่าเกินพอแล้ว”
“บูม……”
แท่งกระจกถูกโยนขึ้นไปบนท้องฟ้า
จากนั้นส่องแสงลงมาห่อหุ้มร่างกายของกู้ชูหน่วนไว้ด้านใน
ฝูกวงพยายามดิ้นรนเพื่อหลบหนีออกจากค่ายกลเซียนแห่งเสียงเพลง
ตะโกนออกมาด้วยความหวาดกลัวว่า “นายท่าน นั่นคือกระจกดูดซับวิญญาณ สมบัติลับของเผ่าเพลิงฟ้า มันจะดูดวิญญาณเข้าไปนึกไว้ด้านใน ท่านระวังด้วย”
“ข้ารู้แล้ว”
กระจกดูดซับวิญญาณ
ครั้งที่แล้วที่ถูกเหวินเส่าอี๋จับตัวไป
เขากับผู้อาวุโสอีกหลายคนใช้วิธีการเดียวกันในการจับตัวนางมาแล้วหนึ่งครั้ง
เพียงแต่พวกเขาไม่สามารถดูดซับวิญญาณของนางออกมาได้
กระจกดูดซับวิญญาณ จะสามารถดูดซับวิญญาณของนางออกมาได้งั้นหรือ?
ครั้งที่แล้วมันไม่มีประโยชน์ เพราะต้องการช่วยชีวิตนาง
แต่ใครนี้ที่ใช้มัน เขาไม่มีความรู้สึกเช่นนั้นอยู่ เขาต้องการดูดซับวิญญาณของนางให้สิ้นซาก
เหวินเส่าอี๋ไปถึงขั้นเจ็ดแล้ว
แต่นางเป็นเพียงขั้นต้นของระดับหก
ไม่ว่าจะใช้วิธีการใดในการต่อสู้ นางก็ไม่สามารถเอาชนะเขาได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความแข็งแกร่งของเหวินเส่าอี๋นั้นเกินกว่ายอดฝีมือขั้นเจ็ดผู้แข็งแกร่งทั่วไป
วันนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเกิดการต่อสู้แห่งความตาย
หากคู่ต่อสู้เป็นคนอื่น ต่อให้เป็นขั้นเจ็ด นางก็ไม่กลัว
แต่คู่ต่อสู้ของนางเป็นเหวินเส่าอี๋
ด้วยมิตรภาพหลายอันเนิ่นนาน แค่บอกว่าฆ่าก็ฆ่า หากบอกว่าไม่ปวดใจก็คงเป็นเรื่องโกหก
กู้ชูหน่วนยกดาบของนางขึ้นมา รวบรวมพลังในเพลงดาบ พุ่งทำลายค่ายกลเซียนแห่งเสียงเพลง
“หนีไป หนีไปให้เร็วที่สุด”
“นายท่าน……”
“เจ้าอยู่ที่นี่ต่อไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ รีบหนีไป”
“ขอรับ ข้าจะไปหาคนมาช่วยท่านให้เร็วที่สุด”
ควับ……
ฝูกวงหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยในชั่วพริบตา
เหวินเส่าอี๋ก็ไม่ได้ไล่ตามเขาไป
ไปหาคนมาช่วย……
เหอะ……
เยี่ยจิ่งหานยังคงหมดสติ
จอมมารยังคงหลงทาง
เขาจะไปตามหาใครได้?
และเหล่าลูกน้องของนางก็เป็นคนของอี้หยุนเฟย
หลังจากฝูกวงหนีไป บนภูเขาที่แห้งแล้งเหลือเพียงแค่กู้ชูหน่วนและเหวินเส่าอี๋
ดาบในมือของกู้ชูหน่วนหล่นลงพื้น กางมือออกพร้อมกับรอยยิ้ม “เจ้า เจ้าจะดูดซับวิญญาณของข้าด้วยวิธีใด เจ้าจะเป็นคนลงมือด้วยตนเองหรือไม่”
เหวินเส่าอี๋ขมวดคิ้วออกมา ราวกับว่าเขากำลังคิดว่านางต้องการทำอะไร
“เจ้าไม่ขัดขืนอย่างนั้นหรือ?”
“ขัดขืนแล้วมันมีประโยชน์อะไร? วันนี้เจ้ามาเพื่อขัดขวางและกำจัดข้า เจ้าเตรียมพร้อมมาเป็นอย่างดีไม่ใช่หรือ”
เหวินเส่าอี๋ “……”
“ส่วนเรื่องดวงตาของเจ้า ขอแค่เจ้าใช้ยาตามเวลาที่ข้าบอก ดวงตาของเจ้าก็จะหายดีอีกในไม่ช้า และดีกว่าที่เจ้าจะมองไม่เห็นอยู่เช่นนี้”
“ยาทิ้งยาพวกนั้นไปแล้ว”
“ฮึ……ดูเหมือนว่าเจ้าจะเกลียดข้าเสียจริง ยอมที่จะตาบอดไปทั้งชีวิต แต่ไม่ยอมใช้ยาของข้า”
เหวินเส่าอี๋นั่งขัดสมาธิลง ดีดพิณของเขาเบา ๆ เสียงบรรเลงเพลงของเขาเต็มไปด้วยความไพเราะที่ชวนฝัน
กระจกดูดซับวิญญาณที่ลอยอยู่บนอากาศเปล่งแสงออกมา
พลังดูดซับอันยิ่งใหญ่ ปกคลุมร่างของกู้ชูหน่วนอย่างหนาแน่น
กู้ชูหน่วนรู้สึกปวดศีรษะเป็นอย่างมาก
รู้สึกว่าสมองของนางแทบจะฉีกขาดออกจากกัน
“เจ้าอยากสังหารข้า อย่างน้อยเจ้าก็ควรจะให้ข้าได้เข้าใจว่าเหตุใดเจ้าถึงได้รังเกียจข้าถึงเพียงนี้?”
“มอบแผ่นอักษรสีเหลืองออกมา”
“เพียงแค่แผ่นอักษรสีเหลืองอย่างนั้นหรือ?”
“หากจะโทษต้องโทษที่เจ้าเป็นนาง แม้ว่าความทรงจำของเจ้ายังไม่คืนกลับมา แต่เจ้าก็ยังเป็นนางอยู่ดี”
สมองของกู้ชูหน่วนแทบระเบิด
เสี่ยวหูเตี๋ยพูดอะไรออกมา?
นางคือกู้ชูหน่วนอย่างนั้นหรือ?
มันจะเป็นไปได้อย่างไร
นางต่างกับกู้ชูหน่วนต่างกันราวกับเป็นคนละคน
“เจ้าอาจจะลืมความทรงจำเหล่านั้นไปแล้ว แต่ข้าไม่มีทางลืม กู้ชูหน่วน เจ้าทำลายเผ่าของข้า สังหารพ่อแท้ ๆ ของข้า สังหารอาจารย์ผู้มีพระคุณของข้า สังหารคนของเผ่าเพลิงฟ้าไปมากกว่าหมื่นชีวิต แม้แต่ทารกตัวน้อย ๆ เจ้าก็ยังไม่เว้น ความแค้นที่นองเลือดเช่นนี้ เจ้าคิดจะคืนมันให้พวกข้าอย่างไร?”
ภาพที่คนของเผ่าเพลิงฟ้าถูกสังหารยังคงจารึกอยู่ในหัวใจของเหวินเส่าอี๋
เมื่อนึกถึงมันขึ้นมา มันก็เหมือนกับความเจ็บปวดที่ถูกมีดเป็นหมื่นเล่มทิ่มแทงหัวใจ
ดวงตาที่สวยงามของเหวินเส่าอี๋เต็มไปด้วยความเกลียดชังอย่างลึกซึ้ง
ความแค้นเหล่านี้เกือบจะทำให้เขาหายใจไม่ออก
การเคลื่อนไหวของเขาเร็วขึ้นอย่างต่อเนื่อง เกลียดจนอยากจะดูดซับวิญญาณของกู้ชูหน่วนออกมาให้เร็วที่สุด ชุบชีวิตนางขึ้นมา และทรมานนางอีกครั้ง
กู้ชูหน่วนรู้สึกเจ็บปวดและทรมานจนนำมือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดปาก
ความทรงจำเหล่านั้น ไม่ว่านางจะนึกถึงมันอย่างไรก็นึกไม่ออก
มีเพียงแค่ภาพบางฉากเท่านั้นที่แวบเข้ามา……
รู้สึกคุ้นเคยและแปลกประหลาด
นางรู้สึกปวดหัวเป็นอย่างมาก
เจ็บปวดเป็นอย่างมาก……
“ตายซะเถอะ……”