กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 126
ผู้คนใต้หล้าล้วนแต่ถือว่าระฆังวิญญาณสะบั้นเป็นสมบัติล้ำค่า และไม่มีใครสามารถทำลายมันได้ แม้แต่ฝีมือดาบของกู้ชูหน่วน
ทุบหนึ่งครั้งไม่แตก
กู้ชูหน่วนจึงทุบอีกหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่แตก
ในที่สุดนางก็เหนื่อยจนหายใจหอบ
“ทำไมระฆังวิญญาณสะบั้นถึงได้แข็งเช่นนี้ ไม่ว่าจะทุบอย่างไรก็ไม่แตก”
ทุบระฆังไปก็ไร้ประโยชน์ กู้ชูหน่วนจึงใช้ไฟเผา แช่น้ำ แช่ยา และวิธีการอื่น ๆ แต่ก็ยังใช้ไม่ได้ผลกับระฆังวิญญาณสะบั้นเลยแม้แต่น้อย
ไม่รู้ว่าระฆังวิญญาณสะบั้นทำมาจากอะไร ฟันแทงไม่เข้าและไม่สั่นไหว
เมื่อร่วมเข้ากับหยกพระจันทร์เสี้ยวชิ้นนั้นแล้ว ก็ไม่สามารถค้นคว้าอะไรได้เลย
กู้ชูหน่วนโมโห นางหยิบอิฐขึ้นมาและต้องการจะทุบหยกพระจันทร์เสี้ยว เพื่อดูโครงสร้างภายใน
แต่มันมีค่าเท่ากับเงินห้าสิบล้านตำลึง และอิฐที่อยู่ในมือของนางก็สั่น
หากไม่มีอะไรอยู่ในหยก แล้วมันแตกเป็นเสี่ยง ๆ เช่นนั้นเงินห้าสิบล้านตำลึงของนางก็จะเสียเงินไปเปล่า ๆ
ในที่สุดกู้ชูหน่วนก็เข้าใจว่าในตอนนั้นพระพันปีทรงเจ็บปวดพระทัยมากเพียงใด
“ปัง……”
นางกัดฟันและเอาอิฐทุบหยกอย่างแรง
หยกพระจันทร์เสี้ยวแตกหัก
แต่ก็ไม่ต่างจากหยกที่แตกหักทั่วไป
หัวใจของกู้ชูหน่วนท้อแท้ลงครึ่งหนึ่ง
“เงินห้าสิบล้านตำลึงถูกข้าเอาอิฐทุบจนแตกแล้ว?นี่มันอะไรกัน…..”
นางเจ็บปวดใจ
กู้ชูหน่วนภาวนาขอให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้น แต่นางก็ผิดหวังอีกครั้ง เดิมทีในโลกนี้ก็ไม่มีปาฏิหาริย์ นางโกรธมากจนทุบระฆังวิญญาณสะบั้นและหยกพระจันทร์เสี้ยวที่แตกหัก
เมื่อหยกพระจันทร์เสี้ยวกระทบกับระฆังวิญญาณสะบั้น ทันใดนั้นร่องรอยบนหยกที่แตกหักก็มีแสงสว่างวาบขึ้นมา
แม้กระทั่งร่องรอยบนหยกพระจันทร์เสี้ยวก็หลุดลอกออกอย่างรวดเร็วที่จนมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เผยให้เห็นเครื่องหมายที่คล้ายกับอักษรรูนที่อยู่บนระฆังวิญญาณสะบั้น
กู้ชูหน่วนตกตะลึง
นางจ้องเขม็งไปที่อักษรรูนบนหยกพระจันทร์เสี้ยวที่แตกหักและเป็นประกายระยิบระยับ ตัวอักษรลอยขึ้นมาทีละตัว และในที่สุดก็เรียงชิดติดกับอักษรรูนที่อยู่บนระฆังวิญญาณสะบั้น
ระฆังวิญญาณสะบั้นส่องแสงเจิดจ้าและลอยขึ้นมา
อักษรรูนบนระฆังและเครื่องหมายที่คล้ายกับอักษรรูนบนหยกพระจันทร์เสี้ยวรวมกันเป็นหนึ่ง เผยให้เห็นอักษรรูนสีทอง และในที่สุดก็ก่อตัวเป็นลูกอ๊อด
กู้ชูหน่วนจับระฆังวิญญาณสะบั้น และจ้องมองอย่างครุ่นคิด
ลูกอ๊อดเหล่านี้เหมือนกับเส้นทาง ดูเหมือนว่าจะเป็นแผนที่
เมื่อมองไปบนระฆังวิญญาณสะบั้นอีกครั้ง มีหนึ่งในสามส่วนของแผนที่ และยังมีหนึ่งในสามของอักษรรูนที่ไม่รู้จัก
หรือว่า……
ระฆังวิญญาณสะบั้นจะเป็นลายแทงขุมทรัพย์?
เพียงแค่ไขปริศนาอักษรรูนทั้งหมด ลายแทงขุมทรัพย์ก็จะสมบูรณ์?
หากระฆังวิญญาณสะบั้นเป็นลายแทงขุมทรัพย์จริง ๆ เช่นนั้น……
แท้จริงแล้วสิ่งที่ซ่อนอยู่ในนี่เป็นสมบัติที่ขัดต่อบัญชาสวรรค์
เมื่อกวาดสายตามอง หยกพระจันทร์เสี้ยวที่อยู่บนพื้นก็อับแสงลง และไม่มีความอบอุ่นใด ๆ ไม่ต่างจากหยกที่แตกหักธรรมดาทั่วไป เห็นได้ชัดว่าคุณค่าของมันถูกดึงออกมาแล้ว
กู้ชูหน่วนเหนื่อยล้าจากการเพลิดเพลินกับระฆังวิญญาณสะบั้น สายตาของนางดูสนใจ
เมื่อผลักประตูออกไป นางก็เห็นเซี่ยวอวี่เซวียนเหงื่อแตกเต็มหน้า และจ้องมองนางอย่างโกรธเคือง
“ฝนตกหรือ?ทำไมหัวถึงเปียกเช่นนี้?”
“แม่สาวอัปลักษณ์ เจ้ารู้หรือไม่ว่าการที่เจ้าออกมากลางคั่น ทำให้ข้าถูกท่านอาจารย์หรงลงโทษให้วิ่งสิบรอบ เขาบอกว่าข้าจงใจเฝ้ายามอย่างหละหลวม แล้วปล่อยให้เจ้าหนีไป ดังนั้นสิบรอบของเจ้าจึงมาตกอยู่ที่ข้า ขาของข้าจะหักอยู่แล้ว”
“เด็กดี ข้ารู้ว่าเจ้าลำบาก เดี๋ยวคืนนี้ข้าจะพาเจ้าไปผ่อนคลาย”
นางยิ้มอย่างไม่มีเจตนาดี เซี่ยวอวี่เซวียนถอยหลังไปสองสามก้าว “เจ้าจะไปที่หอไร้กังวลอีกแล้วหรือ?ข้าไม่ไป ครั้งก่อนยังสร้างความวุ่นวายไม่มากพออีกหรือ?”
ทันใดนั้นสีหน้าท่าทางที่ดุร้ายก็ปรากฏขึ้น พร้อมกับอาวุธลับทั้งสามสิบแปดชิ้น
สีหน้าของกู้ชูหน่วนเปลี่ยนไป นางคว้าคอเสื้อของเซี่ยวอวี่เซวียน และเหวี่ยงเขาไปด้านข้าง จากนั้นเขาก็หลบหลีกอาวุธลับทั้งสามสิบแปดชิ้นอย่างรวดเร็ว