กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 232
ไร้ซึ่งกำลังภายในแล้วยังกล้ามาเข้ามาร่วมด้วย
นางรู้หรือไม่ว่าแท้ที่จริงแล้วชายชุดแดงผู้นั้นคือจอมมารแห่งเผ่าปีศาจ
พวกเขาสูญเสียเรี่ยวแรงไปมากเท่าใดและยังเสียสละคนมากเท่าใดถึงได้ขังเขาเอาไว้ในป่าไผ่ได้
และนี่ก็ยังเป็นช่วงเวลาสำคัญที่เขาได้สูญเสียยุทธ์และสูญเสียกำลังภายในส่วนใหญ่ไปจึงจะทำได้
กลิ่นคาวแห่งการสังหารในกายของลูกน้องของชายชุดแดงเยือกเย็นขึ้นกะทันหันและรอที่จะก้าวไปด้านหน้า
มืออันขาวของชายชุดแดงโบกเล็กน้อยเป็นการส่งสัญญาณว่าอย่าขยับ ลูกน้องนั้นถึงได้หยุดฝีเท้าลง
“น้องชาย เจ้าหน้าตาหล่อเหลา ไม่ต้องกลัวพี่สาวจะบังให้เจ้าเอง”
พรึ่บ……
คนบางส่วนตกใจเสียจนล้มลงกับพื้นไปเลย
แม้แต่ลูกน้องนักสังหารของจอมมารก็ขยับเท้าไปมาเช่นกัน และมองไปยังกู้ชูหน่วนอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
บรรยากาศราวกับว่าเย็นลงแล้ว
กู้ชูหน่วนแตะคาง
มารผู้นี้เป็นควรมาจากไหนนะ? ทุกๆคนลักษณะอารมณ์เช่นเดียวกันทั้งนั้น?
ดูเหมือนว่าจะไร้ซึ่งกำลังภายในเคลื่อนไหวในตัวของเขา
ทุกคนคิดว่าจอมมารถูกลวนลามเช่นนี้ต้องรู้สึกโกรธเคืองเป็นแน่และตบฝ่ามือลงไปต่อหญิงผู้นั้น คิดไม่ถึงว่าจอมมารจะเงยหน้าอันเย้ายวนขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มเล็กน้อยนั้นปรากฏขึ้นที่มุมปากราวกับเด็กน้อยผู้เชื่อฟัง
“ดีสิ พี่สาวช่างดีนักน่ารัก”
“พรึ่บ……”
ในฝูงชนก็มีคนสองสามคนตกใจจนล้มลงไปเสียแล้ว
ใบหน้ากลิ่นไปสังหารอันเย็นยะเยือกราวกับน้ำแข็งนั้นกระตุกขึ้นเล็กน้อยจนแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาและหูของตนเอง
นายท่านเรียกนางว่า……พี่สาว……
แล้วยัง…..ยิ้มให้กับนาง……
เขาไม่ได้ยินผิดหรอกหรือ?
กู้ชูหน่วนยิ้มเล็กน้อยจากนั้นหยอกล้อต่อขากรรไกรล่างอันขาวบอบบางของเขาแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “น้องชายเข้าทางพี่สาวนั้นชื่นชอบนัก”
จอมมารยิ้มราวกับไม่ได้ยิ้มช่างสวยงามเสียจนผู้คนตาพร่ามัว คำพูดที่กล่าวออกมาก็น่าหลงใหลจนคนนั้นทนไม่ได้ที่จะต้องจมดิ่งลงไป
“พี่สาว ท่านกอดข้าไปแล้วจะต้องรับผิดชอบข้าด้วยนะ”
ถ้อยคำของเขาช่างเบาแต่กลับมีน้ำหนักนัก
ราวกับว่าเป็นเรื่องตลกแต่ก็ราวกับว่าจริงจัง ในชั่วขณะหนึ่งทุกๆคนไม่รู้ว่าคำพูดนี้ของเขาต้องการจะสื่อถึงสิ่งใด”
“ที่แท้พวกเขาก็เป็นพวกเดียวกัน พี่น้องทั้งหลาย สังหารหญิงคนนี้ไปด้วยกันซะ” ชายชุดดำกล่าวอย่างโกรธเคือง
ฝูงชนเกือบร้อยคนรุมกันเข้าไป พวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงและบุกฆ่าได้อย่างไม่ลังเล ทันใดนั้นรัศมีการสังหารก็แผ่ซ่านไปทั่วป่าไผ่ และพลังฝ่ามืออันทรงพลังนุภาพเพียงอย่างเดียวก็สามารถทำลายป่าไผ่ทั้งหมดได้ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงบนร่างคน
แววตาของแห่งการสังหารหยุดนิ่ง ลงมือได้รวดเร็วและแม่นยำ มีดโค้งในมือร่ายรำขึ้นก็เป็นหนึ่งชีวิต
แม้แต่เผชิญต่อกองทหารนับพันนักสังหารก็มิได้แปรเปลี่ยนสีหน้าเลนแม้แต่น้อย เขาเป็นเสมือนเทพสังหารตลอดทางที่ผ่านนั้นซากศพกองเต็มภูเขาและเลือดนองเต็มท้องทะเล
กู้ชูหน่วนหรี่ตาลง
เรี่ยวแรงช่างดีนัก
ลงมือช่างไร้ความปรานียิ่ง
ผู้ที่เผ่าปีศาจล้อมสังหารก็คงจะเป็นเขา?
วิทยายุทธนี้คุ้มค่ากับความพยายามอันล้ำเลิศในการคิดวางแผนซุ่มโจมตีของพวกเขา
“น้องชาย พี่สาวจะพาเจ้าจากไปก่อน”
“ดีสิ”
กู้ชูหน่วนกอดเอวของเขา ได้กลิ่นหอมจางๆของดอกมั่นถัวหลัวบนร่างกายของเขาแล้วยิ้มขึ้นที่มุมปาก
นางไร้ซึ่งกำลังภายในแต่วิชาตัวเบากลับไม่เลว จึงวิ่งหนีไปท่ามกลางความวุ่นวาย
ยอดฝีมือจำนวนไม่น้อยคอยเฝ้าดูพวกเขาอยู่ตลอด
เมื่อเห็นว่าพวกเขาจะหนีไปแล้วแต่ละคนก็ทำสัญญาณมือทั้งคู่ไปทางกู้ชูหน่วน
มืออันขาวผุดผ่องของจอมมารเหน็บเส้นผมด้านหลังใบหู เมื่อเห็นฉากนี้แล้วรอยยิ้มบนใบหน้าก็เย็นชาลงเล็กน้อยจากนั้นค่อยๆยกมือขึ้น พวกยอดฝีมือเหล่านั้นก็แตกออกเป็นละอองเลือดทีละคนๆ
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเพียงแค่ในชั่วพริบตา เขานั้นยกมือขึ้นตามอำเภอใจแต่ทำให้คนเป็นสิบชีวิตจากลาโลกนี้ไปตลอดกาล
หมายเหตุ
ชุดเยียนหลอ ชุดคลุมโบราณประเภทหนึ่ง