กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 237
“เจ้าเด็กโสโครก มาดูกันว่าข้าฆ่าเจ้าอย่างไร” เมื่อยกหัตถ์โลหิตขึ้น ไอสังหารของสวีซานเหนียงก็ปรากฏขึ้นมา และกำลังเข้าไปใกล้กู้ชูหน่วน
ประมุขวิญญาณมืดจับมือของนางและกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ไปกันเถอะ”
“พี่ใหญ่ ลูกตาของสวีเจิ้นถูกควักออกไป”
“ข้าบอกว่าให้เจ้าไป”
“วันนี้ข้าจะเอาชีวิตของเจ้าเด็กโสโครกคนนั้น” สวีซานเหนียงสะบัดมือของเขาออก และโกรธมากจนโค่นล้มทุกอย่างที่ขวางหน้า
ประมุขวิญญาณมืดโกรธจัดและตบหน้านางอย่างแรง “หากเจ้ากล้าที่จะเอาชีวิตนาง ข้าจะเอาชีวิตของเจ้าเสียก่อน”
สวีเจิ้นตาบอด หรือว่านางต้องตาบอดด้วย?
แม้จะไม่เห็นว่าจอมมารปกป้องเด็กผู้หญิงคนนั้น
แต่หากเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นอะไรไป พวกเขาก็อย่าคิดที่จะมีชีวิตอยู่
ผู้ที่สามารถควักลูกตาของสวีเจิ้นออกมาได้โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น ในโลกนี้มีเพียงไม่กี่คน?
และเห็นได้ชัดว่าเป็นจอมมารที่ทำ
สวีซานเหนียงตัวสั่น และตะโกนด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “พี่ใหญ่……”
“ไป”
ประมุขวิญญาณมืดเกรงว่าหากล่าช้าจะทำให้พวกเขาทั้งสามคนยิ่งเป็นอันตรายมากขึ้น ดังนั้นเขาจึงจับแขนของพวกเขาคนละข้างและพาตัวพวกเขาจากไป โดยไม่สนใจว่าสวีซานเหนียงและสวีเจิ้นจะโกรธมากแค่ไหน
พวกเขามาเร็วและไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
ในเมืองเล็ก ๆ เหลือเพียงแค่กู้ชูหน่วนและจอมมาร
กู้ชูหน่วนจับจอมมารที่ตัวอ่อนปวกเปียกขึ้นมา
เจ้าปีศาจนี่ฉวยโอกาสถูกเนื้อต้องตัวนาง และเมื่อครู่ก็ลูบไล้เอวของนาง
“เจ้าไม่ได้เป็นโรคอ่อนแรง เจ้ายืนให้ดี ๆ”
“พี่สาว……พวกเขาน่ากลัวมาก ข้าขาอ่อน”
ถุย
เจ้าปีศาจขี้อ้อน
ตั้งแต่ต้นจนจบในสายตาของเขาไม่มีความกลัวเลยแม้แต่น้อย
ยังจะเสแสร้งอยู่อีก
“ข้าขอถามเจ้าหน่อย เจ้าทำให้เจ้าลิงผอมสูงนั่นตาบอดใช่หรือไม่?”
จอมมารเงยหน้าขึ้นด้วยสายตาที่สับสนงงงวย ใบหน้าของเขาไร้เดียงสา และพูดเหมือนกระต่ายขาวตัวน้อยที่หวาดกลัว “ไม่ใช่ว่าท่านทำให้เขาตาบอดหรือ?”
กู้ชูหน่วนตกใจ
นางก็อยากจะทำเช่นนั้น แต่ในตอนนี้นางไม่มีความสามารถเช่นนั้น
หากเมื่อครู่ทั้งสามคนนั้นร่วมมือกัน เกรงว่ายากที่นางจะจะหลบหนี ผู้นำคนนั้นมีวรยุทธที่แข็งแกร่งมาก และไม่ด้อยไปกว่าอี้เฉินเฟยเลย
“ไม่ใช่เจ้าจริง ๆ หรือ?” กู้ชูหน่วนมองด้วยสายตาสงสัย
“หากพี่สาวหวังว่าจะเป็นข้า เช่นนั้นก็เป็นข้า” จอมมารยิ้มอย่างชั่วร้าย แล้วร่างกายของเขาก็อ่อนลงอีก
“ยืนให้ดี ๆ แม้ว่าข้าจะชอบความสวยงาม แต่ข้าไม่ชอบปลาหมึก”
“ก็ได้”
“ดีมาก” กู้ชูหน่วนบีบแก้มเล็ก ๆ ของเขา และครุ่นคิดว่าใครที่ทำให้เจ้าลิงผอมสูงนั่นตาบอด
“ได้ยินพวกเขาพูดว่าจะมีใต้เท้าที่นี่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าใต้เท้าผู้นั้นเป็นใคร?”
“บางทีอาจจะเป็นพี่สาวก็ได้” จอมมารเงยหน้าขึ้นและยิ้มมุมปาก
“ช่างปากหวาน”
“อีกนานแค่ไหนกว่าจะถึงวังของจอมมาร?”
“ไปต่ออีกหนึ่งชั่วยามกว่าก็น่าจะถึงแล้ว”
“เจ้าวาดแผนที่ให้ข้า ข้าจะไปเอง หลังจากนั้นเจ้าก็หาที่ซ่อนและรอข้าอย่างเชื่อฟัง”
“มีเส้นทางลับมากมาย ข้าวาดไม่ได้ และอีกอย่างข้าก็วาดไม่เป็นด้วย” จอมมารพูดอย่างเกียจคร้าน
สิ่งที่เขาพูดน่าจะหมายถึงต้องพาเขาไปด้วย ไม่เช่นนั้นเขาก็ไม่มีวิธีที่จะพานางเข้าไป
“หากไปกับข้า เจ้าจะเป็นอันตราย” ใบหน้าของกู้ชูหน่วนดูจริงจัง
เมื่อครู่เกิดเรื่องวุ่นวายที่หุบเขาพิศวิญญาณ และไม่รู้ว่าอี้เฉินเฟยจะออกมาได้อย่างปลอดภัยหรือไม่
ฝูกวงและเยี่ยเฟิงก็แยกจากกันไป จนกระทั่งถึงตอนนี้ไม่รู้ว่าพวกเขาปลอดภัยหรือไม่
นางไม่สามารถให้เขาไปเสี่ยงอันตรายได้อีก
ในโลกนี้ผู้แข็งแกร่งย่อมเป็นที่เคารพนับถือ
หลังจากที่ได้หญ้านรกมาแล้ว นางก็จะหาทางฝึกวรยุทธ
“เช่นนั้น…..พวกเราไม่เข้าไปแล้ว”
ไม่เข้าไปแล้ว?
เป็นไปได้อย่างไร
หากไม่ได้หญ้านรก ใบหน้าของนางก็จะอัปลักษณ์ไปตลอดกาล ปล่อยให้นางผ่านไปสักคราจะดีกว่า