กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 30
เมื่อนึกมาถึงตรงนี้กู้ชูหลานก็ยิ้มเยาะ “เจ้าไม่ได้ใช้ความรู้ความสามารถที่แท้จริงเพื่อเข้าไปอยู่ในสามอันดับแรก การพนันคราวนี้จึงถือเป็นโมฆะ”
“ลูกของอนุอย่างไรก็เป็นลูกของอนุ ไม่มีวัฒนธรรม ช่างน่ากลัวเสียจริง”
“เจ้าด่าใคร ข้าไม่มีวัฒนธรรมอย่างไรกัน” ต่อให้นางจะไม่มีวัฒนธรรม นางยังดีกว่ากู้ชูหน่วนอยู่ดี
“ตอนที่เราพนันกัน เคยพูดด้วยหรือว่าข้าอาศัยความโชคดีเพื่อเอาชนะไม่ได้ ดูเหมือนว่าจะมีแค่เรื่องแพ้กับชนะไม่ใช่หรือ”
“แต่…”
“องค์หญิง คนต่ำต้อยบางคนยอมเป็นคนไร้สัจจะเพียงเพื่อเงินอันน้อยนิด ข้าเชื่อว่าผู้ที่มีฐานะสูงส่งอย่างองค์หญิงคงจะไม่ทำตัวไร้ยางอายให้เสียศักดิ์ศรีเหมือนนาง”
องค์หญิงตังตังและกู้ชูหลานโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
เห็นได้ชัดว่ากู้ชูหน่วนกำลังบังคับให้พวกนางมอบเงินทั้งหมดให้ ถ้าไม่ยอมให้ พวกนางจะต้องเสียหน้าจนไม่เหลือชิ้นดี
องค์หญิงตังตังกัดฟันกรอด “ข้าพนันได้และเมื่อแพ้ก็ยอมรับได้ อีกเดี๋ยวข้าจะให้คนใช้นำเงินหนึ่งล้านตำลึงมามอบให้เจ้า” ขณะที่พูดแบบนั้น องค์หญิงตังตังก็กัดฟันกรอดจนปากคอสั่น
แต่นั่นคือเงินหนึ่งล้านตำลึงเต็มๆ เกรงว่าต่อให้รวบรวมมาทั้งจวนขององค์หญิงก็คงมีไม่ถึงหนึ่งล้าน
“เช่นนั้นก็ดี องค์หญิงอย่าปล่อยให้ข้าต้องรอนานละ ไม่อย่างนั้นสหายในชั้นจะคิดว่าองค์หญิงไม่มีเงินให้ข้า ถ้าได้ยินไปถึงหูท่านอาจารย์คงจะไม่ดีนัก”
องค์หญิงตังตังหยิบของบนโต๊ะมาปาทิ้งและจากไปเดือดดาล
กู้ชูหลานตะลึงงัน
นางเป็นถึงองค์หญิง แต่ยังถูกบีบจนตายเช่นนี้น่ะหรือ
ถ้านางไม่คิดจะให้จริงๆ กู้ชูหน่วนจะทำอะไรนางได้
“น้องห้า องค์หญิงให้มาแล้ว แล้วสองแสนตำลึงของเจ้าล่ะ ไม่ควรให้เหมือนกันหรือ”
“ข้า…”
กู้ชูหลานหันไปมองกู้ชูอวิ๋นราวกับจะขอความช่วยเหลือ
เงินตั้งสองแสนตำลึง ถ้าให้นางไปแล้วกลับไปจวน อี๋เหนียงจะต้องทุบตีนางจนตายเป็นแน่
คุณชายจากตระกูลขุนนางก็ดูอยู่ตรงนี้ แม้แต่เจ๋ออ๋องก็อยู่ที่นี่ด้วย ถ้านางไม่ให้ นางจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน จะยืนหยัดอยู่ในตระกูลขุนนางผู้สูงศักดิ์ได้อย่างไร
กู้ชูอวิ๋นไม่เพียงแต่หน้าตางดงามเท่านั้น แต่ยังมีนิสัยเฉพาะตัวที่โดดเด่น นางเผยอริมฝีปากที่แดงก่ำเล็กน้อย ส่งเสียงที่ไพเราะดั่งนกขมิ้นและขุนเขาออกมา “น้องห้า ทรัพย์สินเงินทองเป็นเพียงของนอกกาย การเดิมพันระหว่างพี่น้องไม่ใช่เรื่องน่าอาย ถึงอย่างไรเงินก็ยังอยู่ในตระกูลกู้ของเรา”
กู้ชูอวิ๋นมอบทางออกให้นางทั้งยังรักษาเกียรติของนางเอาไว้ แต่ถึงอย่างไรกู้ชูหลานก็ยังไม่เต็มใจอยู่ดี
แม้ว่าพวกนางจะเป็นพี่น้องกัน แต่เงินนั่นจะไม่ใช่ของนางอีกต่อไป
เงินสองแสนตำลัง…
นั่นมันสองแสนตำลึงเต็มๆ เลยนะ…
นางกับอี๋เหนียงมีอำนาจที่สุดภายในจวน แต่ตอนนี้ต้องมาให้นังกู้ชูหน่วนผู้ต่ำต้อย… เช่นนี้จะให้นางทำใจได้อย่างไร
“นี่ ถ้าพนันไม่เป็นแล้วยังมาสอนคนอื่นแบบนี้ก็รีบกลับเรือนไปปักผ้าไป๊ จะได้ไม่ขายหน้าคนอื่น” เซี่ยวอวี่เซวียนยิ้มเย้ยอย่างดูถูก
กู้ชูหลานโยนตราประทับให้นางอย่างแรงและกล่าวอย่างโมโหว่า “ไม่ใช่แค่สองแสนตำลึง ข้าจะให้เจ้า ถ้าเจ้ากล้าพอ เรามาแข่งกันอีกรอบ”
“เอาสิ ได้ทุกเมื่อที่เจ้าต้องการ แต่การประลองจะต้องมีอะไรมาล่อตาล่อใจหน่อย เจ้าไปหามาก่อนแล้วเราค่อยว่ากันใหม่”