กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 314
“หนึ่งไหว้ฟ้าดิน”
เยี่ยจิ่งหานสวมชุดแต่งงานสีแดงสดซึ่งทำให้เขาดูมีพลังมากขึ้นกว่าก่อนหน้านี้บ้างบาวส่วน เขามองดูเจ้าสาวที่อยู่ข้างๆเขาด้วยรอยยิ้มอันเล็กน้อยอยู่ในแววตา
ขาทั้งสองของเขามีอาการป่วยจึงทำได้เพียงกราบไหว้ฟ้าดินอยู่บนรถเข็นเท่านั้น
ในชั่วขณะนี้ในหัวใจของเยี่ยจิ่งหานเต็มไปด้วยความหวั่นวิตกและยินดีปรีดา ไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งเขาจะเป็นเสมือนคนทั่วไปที่สามารถแต่งงานและให้กำเนิดบุตรได้
ตั้งแต่นี้ไปหญิงผู้ที่อยู่ข้างกายเขาก็คือผู้หญิงที่เขาสาบานว่าจะปกป้องไปชั่วชีวิต
เมื่อเทียบกับความสุขของเยี่ยจิ่งหานกู้ชูหน่วนนั้นไม่ได้สนใจเลย เพียงแค่ต้องการกราบไหว้ฟ้าดินให้เรียบร้อยจากนั้นกลับไปนอนหลับให้เต็มอิ่ม
องค์หญิงตังตังทำปากมุ่ยกล่าวเสียงเบาว่า “ก็ไม่รู้ว่าหญิงผู้นี้โชคดีอันใดนักหนาจึงอภิเษกกับเสด็จอาได้จริงๆ”
ในใจของเยี่ยมู่เจ๋อรู้สึกไม่พอใจยิ่งนัก
หากว่าตอนนั้นเขาไม่ล้มเลิกงานแต่ง วันนี้ผู้ที่นางออกเรือนด้วยก็น่าจะเป็นเขาถึงจะถูก
กู้ชูหน่วนทำให้เขาเสียหน้าในการแข่งขันชุมนุมวิชาการซี่งเขาควรจะเกลียดนาง แต่ไม่รู้ว่าทำไมในช่วงเวลาไม่กี่วันมานี้ที่หวนนึกกลับไปล้วนแล้วแต่เป็นท่าทางอันยิ้มแย้มแจ่มใสของนางอยู่เสมอ
รอยยิ้มของนางและการเคลื่อนไหวของนางก็ช่างงดงามยิ่งนัก
เขารู้สึกเสียใจทีหลังอยู่บ้าง เสียใจที่ตอนนั้นล้มเลิกการแต่งงาน และสับสนวุ่นวายว่าจะถามชูหน่วนว่าต้องการแต่งงานกับเสด็จอางจริงๆหรือไม่
องค์หญิงตังตังดึงเสื้อผ้าของเจ๋ออ๋องพร้อมกล่าวอย่างไม่พอใจว่า “เสด็จพี่ หรือว่าต่อไปข้าจะต้องเรียกนางว่าเสด็จอาสะใภ้จริงๆ?”
เจ๋ออ๋องก็ยิ่งไม่พอใจ
เดิมทีกู้ชูหน่วนควรจะเป็นภรรยาของเขา แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้วและกลับกลายเป็นเสด็จอาสะใภ้ของเขา ซึ่งลำดับญาติแตกต่างกันรุ่นหนึ่ง
“สองไหว้บรรพบุรุษ”
เนื่องจากไม่ได้กราบไหว้เป็นทางการ จักรพรรดิจึงได้ให้คนนำของขวัญแต่งงานใหญ่มาให้และไม่ได้เสด็จด้วยองค์เอง ส่วนการกราบไหว้ครั้งที่สองเป็นการกราบไหว้บรรพบุรุษ
เจ้าพิธีการยังกล่าวไม่ทันจบสมบูรณ์กู้ชูหน่วนก็โค้งคำนับโดยไม่ได้สนใจว่าเยี่ยจิ่งหานจะโค้งคำนับแล้วหรือไม่
การวิพากษ์วิจารณ์โดยรอบก็ดังขึ้นเล็กน้อย
“คุณหนูสามกู้……ไม่สิ ควรเรียกว่าพระชายาหาน พระชายาหานก็ใจร้อนเกินไป นางเกรงว่าเทพแห่งสงครามจะเปลี่ยนใจแล้วไม่แต่งงานกับนางหรือ?”
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว อย่างไรหน้าตาของนางก็ออกจะน่าเกลียดเช่นนั้น ผู้ที่แต่งงานด้วยก็เป็นเทพเจ้าแห่งสงครามผู้ทรงพละกำลัง นางออกเรือนนี้หลุมศพของบรรพบุรุษก็คงจะเกิดควันโขมงแล้ว”
“ชู่ว์ วันแต่งงานเจ้ากล่าวเช่นนี้ ระวังเทพแห่งสงครามจะสังหารเจ้า”
“ชิ่ว……”
เยี่ยจิ่งหานมองไปด้วยสายตาราวกับมีด ทุกๆคนนั้นตัวสั่นเทาอย่างพร้อมเพรียงกันและก็ไม่กล้ากล่าวสิ่งใดอีก
ผู้คนเหล่านั้นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอยู่เมื่อครู่นี้ก็เกิดอาการหนาวเย็นสะท้านตรงหลังขึ้น รู้สึกอยู่ตลอดว่าเทพแห่งสงครามได้ยินคำวิพากษ์วิจารณ์ของพวกเขา
ในช่วงเวลานี้พวกเขาเหมือนตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง รู้สึกเสียใจเหลือคณาและเพียงแค่ภาวนาว่าอย่าได้เกิดเรื่องสิ่งใดร้ายแรงขึ้น
ผู้คนจำนวนมากมายังสำนักศึกษาหลวงและพวกเขาทั้งหมดมีการอารมณ์ความรู้สึกแตกต่างกันความคิดก็แตกต่างกัน
บางคนมีความสุขกับนาง บางคนเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา และบางคนรอที่จะเห็นนางถูกบอกเลิก
อาจารย์สวีลูบเคราอันขาวโพลนทว่ากลับมีความสุขไปกับเขาด้วย
ซั่งกวนฉู่เย่อหยิ่งผยองดังทวยเทพที่ออกจากการเข้าฌาน ใบหน้าอันหล่อเหลาปรากฏรอยยิ้มขึ้นเล็กน้อยแต่ไม่รู้ว่าด้วยเหตุใดใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาปรากฏลักษณะซีดเซียวเล็กน้อยที่สังเกตได้ยากราวกับว่าจะได้รับบาดเจ็บ
จวนถึงเวลาที่สามีภรรยาจะคำนับซึ่งกันและกันแล้ว เจ๋ออ๋องกำมือตนเองไว้แน่นพร้อมกับรู้สึกวุ่นวายพัลวันอยู่ในใจเป็นเวลานาน จากนั้นจู่ๆก็เกิดความคิดแน่วแน่ขึ้น
เขาเองก็ไม่รู้ว่าไปเอาความกล้าหาญมาจากที่ใดโดยได้ลุกขยืนขึ้นแล้วถามว่า “กู้ชูหน่วน ในวันนั้นที่ล้มเลิกการแต่งงานเป็นข้าที่เลอะเลือน หากว่าเจ้าไม่ต้องการแต่งงานกับเขาการแต่งงานในครั้งนี้……”
“เจ๋ออ๋อง หรือว่าเจ้าต้องการแย่งงานแต่งงานหรือ?”
เยี่ยจิ่งหานกำลังหัวเราะแต่รอยยิ้มนั้นทำให้ผู้คนรู้สึกเนื้อตัวสั่นเทา เขาเพียงแค่นั่งอยู่ตรงนั้นพร้อมปรากฏความรู้สึกที่ไม่ได้โมโหแต่ดูน่าเกรงขามและดูแคลนทั่วใต้หล้าอย่างดุเดือด
เจ๋ออ๋องกลัวเทพแห่งสงครามมาตั้งแต่เล็ก เพียงแค่แววตาหนึ่งของเทพแห่งสงครามร่างกายของเขาก็สั่นสะท้านได้เป็นเวลานาน
ในตอนนี้เทพแห่งสงครามหรี่ดวงตาลงเล็กน้อยพร้อมรอยยิ้มาราวกับไม่ได้ยิ้มนั้น ก็ยิ่งทำให้หนังศีรษะของเขาชาไปหมด
เขาหวาดกลัวและเขาต้องการถอยหลังไป
แต่หลังจากก้าวถอยหลังไปเขาก็จะสูญเสียกู้ชูหน่วนไปชั่วชีวิตเลย
เจ๋ออ๋องก็ไม่รู้ว่าตนเองมีความคิดอย่างไร ชอบกู้ชูหน่วนหรือว่าเพียงแค่ไม่พอใจที่ผู้หญิงของตนเองจะแต่งงานกับผู้อื่น เขาก็ไม่รู้ว่าเอาความกล้าหาญมาจากที่ใดถึงได้ยืดหลังตรงพร้อมกล่าวอย่างเสียงดัง
“หลานไม่กล้า เพียงแต่ว่าหากคุณหนูสามกู้ไม่ต้องการแต่งงานกับเสด็จอา แม้ว่าเสด็จอาจะเป็นเทพแห่งสงครามก็ไม่สามารถบีบบังคับผู้อื่นได้”