กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 4
ชิวเอ๋อร์ปิดตาตนเองไว้อยู่ด้านหลังของนาง ไม่กล้ามองสีหน้าของเจ๋ออ๋องเลยแม้แต่น้อย
“เจ้าเป็นใคร?”
เจ๋ออ๋องขยับตัวแล้วค่อยๆหลบเลี่ยงออก มองไปยังสตรีที่แต่งกายด้วยสีสันลายตาตรงหน้าด้วยความขุ่นเคืองเล็กน้อย
“ข้าเป็นคู่หมั้นของท่านไง! ท่านเจ๋ออ๋อง ท่านไม่ได้มาที่จวนเสนาเป็นเวลานานมากแล้ว ข้าจะพาท่านเดินโดยรอบ พวกเราทำความคุ้นเคยสนิทสนมกันให้มากขึ้นเถอะนะ!”
กู้ชูหน่วนส่งสายตาให้ นางสวมเสื้อตัวใหญ่สีแดงคู่กับสีเขียวพร้อมทั้งดอกโบตั๋นดอกใหญ่ห้าดอกบนศีรษะ ดูราวกับนกยูงตัวลายยังไงยังงั้น คิดว่าน่าเกลียดมากเท่าใดก็น่าเกลียดมากเท่านั้น
“พรวด……ฮ่าฮ่า……เจ๋ออ๋อง คู่หมั้นเจ้าผู้นี้ช่างเป็นเอกลักษณ์ซะจริง!”
หนุ่มน้อยเซี่ยวอวี่เซวียนในชุดสีฟ้าที่อยู่ด้านข้างหัวเราะออกมาเสียงดัง
จวบจนถึงวันนี้เขาถึงได้รู้ว่าเหตุใดเจ๋ออ๋องถึงได้อยากถอนหมั้นทันที
ลักษณะเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปจะรับได้
กู้ชูหลานและกู้ชูฉิงตกตะลึงอยู่ข้างๆ และใช้เวลานานถึงได้มีการตอบสนองขึ้นมา
พี่สาวคนนี้ของพวกนางชักกระตุกขึ้นอีกแล้วเหรอ?
หากเป็นเมื่อก่อนพวกนางจะต้องดุด่าขึ้นมาแน่ๆ แต่วันนี้มีเจ๋ออ๋องอยู่ที่นี่ พวกนางอยากจะให้กู้ชูหน่วนฆ่าตัวตายไปซะเลย
โดยเฉพาะกู้ชูหลานเมื่อนึกถึงว่ากู้ชูหน่วนทำให้นางสูญเสียความบริสุทธิ์เลยแสร้งทำเป็นต่อว่าเสียงต่ำขึ้นทันที: “ท่านพี่ เหตุใดพี่ถึงได้แต่งตัวเช่นนี้อีกหล่ะ ต่อหน้าเจ๋ออ๋องพี่อย่าได้ทำเรื่องไร้สาระ ท่านเจ๋ออ๋อง พี่สาวเป็นเช่นนี้เสมอขอท่านอย่าได้ถือสาเลย”
กู้ชูหน่วนกลอกตา
อะไรที่เรียกว่าอีก?
ไร้ซึ่งความบริสุทธิ์แล้ว นางยังไม่อายที่จะตามติดเจ๋ออ๋องต่ออีก ก็ไม่รู้ว่าผู้ใดที่เป็นนังแพศยา
“น้องพี่ ดูที่เจ้ากล่าวสิ ก็เพราะรู้ว่าเจ๋ออ๋องจะมา ดังนั้นข้าถึงได้แต่งตัวเป็นพิเศษ พวกเจ้าดูเสื้อผ้าของข้าสิว่างดงามไหม?”
งดงาม?
ทุกคนอยากจะอาเจียน
“เจ๋ออ๋อง พวกเราก็ถึงวัยอันควรแก่การแต่งงานแล้ว เมื่อไหร่ท่านจะมาที่เรือนของข้าเพื่อขอข้าแต่งงานอย่างเป็นทางการหล่ะ”
กู้ชูหน่วนถูไถไปทางเจ๋ออ๋องโดยตั้งใจที่จะแทบล้มลงใส่ ผ้าคลุมบนใบหน้าตกลงไปตามสายลม เผยให้เห็นใบหน้าขี้เหร่อันน่าเกลียดและน่าสะพรึงกลัวให้ขยายใหญ่ขึ้นต่อหน้าเจ๋ออ๋อง
เจ๋ออ๋องตกใจจนถอยห่างออกไปสองสามก้าว หัวใจเต้นตึ่กๆสองสามครั้ง
นั่นเป็นใบหน้าที่ช่างน่าเกลียดเท่าใด มีหลุมขรุขระบนใบหน้า มีตุ่มหนองใหญ่เล็กหลายขนาดไขว้ไปมาเต็มทั่วหน้า ไม่เหลือจุดดีไว้เลยแม้แต่จุดเดียว
ที่น่าขยะแขยงที่สุดคือนางทารองพื้นและแป้งสีแดงสดจำนวนมากบนตุ่มหนอง ดูแล้วราวกับผีก็ไม่ปาน
เมื่อเห็นใบหน้านี้เข้าเจ๋ออ๋องก็แทบจะอาเจียนออกมา ใบหน้าที่อ่อนโยนสง่างามอยู่เสมอนั้นเต็มไปด้วยความรังเกียจ
“กู้ชูหน่วน ข้าจะบอกเจ้าว่าข้าแต่งงานกับผู้ใดก็ได้แต่ไม่แต่งกับเจ้า ข้าจะไปทูลขอต่อองค์จักรพรรดิตอนนี้เลย การแต่งงานของเราทั้งสองสิ้นสุดลงตรงนี้ ต่อจากนี้เจ้าอย่าได้มาตอแยข้าอีก”
“การแต่งงานของพวกเราได้รับพระราชทานจากอดีตจักรพรรดิ เกรงว่าแม้แต่องค์จักรพรรดิก็ไม่มีอำนาจยกเลิกสัญญาอภิเษกสมรสได้ เจ๋ออ๋อง ข้าว่าเราสองคนก็ควรอยู่ร่วมกันไปเถอะเพื่อไม่ให้ตนเองนั้นลำบาก”
นางขี้ขลาดเสมอมา เห็นเขาแล้วไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้น แต่ตอนนี้กลับกล่าวคำพูดที่โอหังเช่นนี้ เจ๋ออ๋องโกรธจนตัวสั่นสะท้าน
หญิงขี้เหร่ผู้นี้ นางมั่นใจแน่วแน่ว่าการแต่งงานครั้งนี้จะไม่สั่นคลอนงั้นหรือ?
“เจ้ารอพระราชโองการยกเลิกการอภิเษกสมรสเถอะ”
เจ๋ออ๋องใบหน้าบึ้งตึงแล้วจากไปด้วยความโมโห ทิ้งให้ผู้คนจำนวนมากตกตะลึงตาค้าง
กู้ชูฉิงรีบตามไปกล่าวเอาใจว่า “ท่านเจ๋ออ๋อง ข้าก็รู้สึกว่าพี่สาวข้าไม่คู่ควรกับท่าน ข้าสนับสนุนให้ท่านยกเลิกสัญญาการแต่งงานนี้”
กู้ชูหลานแสร้งยิ้มแล้วกล่าวว่า “ท่านพี่ แม้ว่าเจ๋ออ๋องจะไม่แต่งงานกับพี่พี่ก็ไม่ต้องโศกเศร้าไป ด้วยอำนาจของตระกูลเรา แม้ว่าพี่จะน่าเกลียดไปสักหน่อย แต่ก็ยังมีคนอีกมากที่ต้องการแต่งงานกับพี่ ”
กู้ชูหน่วนนั่งบนเก้าอี้ หยิบองุ่นบนโต๊ะขึ้นมาอย่างสบายๆ แล้วกินมันอย่างเพลิดเพลิน จากนั้นกล่าวคำพูดออกมาจากปากอย่างเฉยเมย
“ก็ใช่ แม้ว่าเจ๋ออ๋องจะไม่แต่งงานกับข้า เขาก็จะไม่มีวันแต่งงานกับเจ้าแน่ แน่นอนว่าขุนนางชนชั้นสูงเหล่านั้นไม่มีทางแต่งงานกับบุตรสาวอนุที่สูญเสียความบริสุทธิ์ให้ไปเป็นภรรยา”
“เจ้า……”
กู้ชูหลานโมโหจนลนลาน
ท่านพ่อบอกแล้วว่าเรื่องที่นางสูญเสียความบริสุทธิ์ต้องเก็บเป็นความลับ เจ้ากู้ชูหน่วนนี่เปิดเผยความลับของนางต่อหน้าเจ๋ออ๋องและเซี่ยวอวี่เซวียน จะให้นางอยู่เป็นผู้เป็นคนต่อไปได้อย่างไร! ?
“ทำไม? ข้าไม่ควรพูดเหรอ? โอ้ ใช่สิ ต่อไปเจ้าจะต้องแต่งงาน ข้าไม่ควรพูดเรื่องฉาบฉวยของเจ้ากับคนใช้ออกมา! วางใจเถอะวางใจเถอะ ข้าจะไม่พูด ” กู้ชูหน่วนตระหนักขึ้นในทันใดแล้วกล่าวขึ้นอย่างเสียงดัง
เซี่ยวอวี่เซวียนสีหน้าตกใจ “จริงหรือ? คุณหนูห้ากล้าหาญชาญชัยถึงเพียงนี้?”
กู้ชูหลานโกรธจนตัวสั่น นางไม่กล้ามองไปยังใบหน้าที่ตกใจของเซี่ยวอวี่เซวียนอีกต่อไปแล้ว
“กู้ชูหน่วน บัญชีระหว่างเราต้องมีสักวันหนึ่งที่ข้าจะให้เจ้าชดใช้ทั้งทุนพร้อมดอกเบี้ย!”
กู้ชูหลานกระทืบเท้าแล้วจากไปอย่างขมขื่น
เซี่ยวอวี่เซวียนยกมุมปากโค้งงอขึ้น ยิ้มอย่างดูหมิ่นแล้วกล่าวว่า “เจ้าเป็นหญิงที่หน้าตาไม่เท่าไหร่ แต่ปากนั้นช่างคมยิ่งนัก”
กู้ชูหน่วนไม่ได้สนใจมองเขาเลยแม้แต่น้อย สนใจแต่การดื่มชาของตนเอง
เซี่ยวอวี่เซวียนคิดว่านางถูกยกเลิกการแต่งงานต่อหน้าผู้คนคงจะรู้สึกเสียใจ แล้วนึกถึงว่าหญิงสาวที่มีใบหน้าน่าเกลียดเช่นนี้จะต้องถูกหัวเราะเยาะอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เขาปรับน้ำเสียงให้อ่อนลงและกล่าวปลอบใจว่า “ที่จริงเจ้าก็ไม่ต้องเสียใจนัก ไม่ได้มีเพียงเจ๋ออ๋องที่เป็นผู้ชายคนเดียวในโลกนี้ ยังมีผู้ชายดีๆมากมายอย่างเช่นข้า”
กู้ชูหน่วนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “เจ้าต้องการแต่งงานกับข้าหรือ?”
“พรวด……”
เซี่ยวอวี่เซวียนเกือบสำลักน้ำลายของตนเอง “ข้าไม่ได้หมายความอย่างนั้น ข้าหมายถึงในโลกนี้ยังมีผู้ชายดีๆอีกมากมาย เจ้าไม่จำเป็นต้องจดจ้องเพียงแค่ข้าและเจ๋ออ๋อง”
กู้ชูหน่วนจับไหล่ของเขา ส่ายหน้าอันน่าเกลียดไปมาต่อหน้าเขา “เจ้าหนุ่ม ข้ายิ่งมองเจ้าก็ยิ่งถูกชะตา เราสองคนแต่งงานกันเลยก็ดีนะ”
เซี่ยวอวี่เซวียนตกใจมากจนวิ่งหนีออกจากจวนเสนาบดี ในปากตะโกนด้วยความหวาดกลัว “คุณหนูสามงดงามเฉลียวฉลาด อ่อนโยนและกตัญญู ส่วนข้าเป็นคนเสเพลเที่ยวเล่นไปวันๆ ไม่ว่าจะมองยังไงพวกเราก็ไม่เหมาะกัน เจ้าไปหาคนอื่นเถอะ ”
“ฮ่าฮ่า……”
กู้ชูหน่วนอารมณ์ดีเลยหยิบขนมชิ้นหนึ่งแล้วโยนขึ้นจากนั้นก็รับด้วยปากของตน กินไปด้วยแล้วก็ผิวปากไปด้วย
ชิวเอ๋อร์โกรธจัด “คุณหนู ท่านชอบเจ๋ออ๋องมากไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงต้องทำให้เขากลัวจนหนีไป?หากว่าเจ๋ออ๋องยกเลิกงานแต่งงานจริงๆแล้วจะทำอย่างไร?”
“รสนิยมของคนเปลี่ยนไปได้ ส่วนข้านั้น รสนิยมได้เปลี่ยนไปแล้ว”
“คุณหนู ท่านไม่รู้สึกเสียใจเลยหรือเจ้าคะ?”
“เจ้าดูท่าทางของข้าเหมือนกำลังเสียใจไหม?”
กู้ชูหน่วนกะพริบตามองไปยังนาง แล้วหยิบขนมจานหนึ่งขึ้นมาเลย แจากนั้นก็เดินไปยังเรือนของตน
“คุณหนู หรือว่าคุณหนูชอบคุณชายเซี่ยวหรือ? อย่าเด็ดขาด แม้ว่าคุณชายเซี่ยวจะเป็นลูกชายคนสุดท้องของแม่ทัพใหญ่เซี่ยว หน้าตาก็หล่อเหลาเอาการ แต่เขาเป็นหนุ่มเจ้าสำราญที่โด่งดังไปทั่วทั้งเมืองหลวง และไม่เก่งทั้งเรื่องบุ๋นและบู๊ เป็นแค่คนโง่คนหนึ่ง”
“เจ้าขุ่นเคืองต่อเขาไม่เบานะ”
“เขาเที่ยวสำราญไปทั่วทุกค่ำคืน ผู้หญิงรอบตัวเขาก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆไม่ซ้ำหน้า ปฏิเสธที่จะแต่งงานกับผู้อื่นจนทำร้ายหญิงสาวตั้งมากมาย คุณหนูท่านอย่าได้ถูกเขาหลอกเข้าหล่ะ”
“เจ้ายังรู้อะไรอีก”
ข่าวลือมักไม่เป็นความจริง อย่างน้อยในความเห็นของนาง เจ้าหนุ่มแซ่เซี่ยวเพียงพอที่จะโยนเจ๋ออ๋องออกนอกท้องฟ้าไปเลย
เมื่อนึกถึงคำปลอบใจของเซี่ยวอวี่เซวียน รวมถึงความเห็นอกเห็นใจที่แว๊บผ่านในแววตาของเขา กู้ชูหน่วนเลยหัวเราะเสียงเบา
นอกจากชิวเอ๋อร์แล้ว เซี่ยวอวี่เซวียนเป็นคนแรกที่ไม่ได้มองนางด้วยสายตารังเกียจ
ระหว่างทางที่ผ่าน พวกสาวใช้และคนใช้ต่างพิพากษ์พิจารณ์กัน
“พวกเจ้าว่า หลังจากคุณหนูสามออกไปแล้วกลับมานางโง่ยิ่งกว่าเดิมหรือเปล่า นางแต่งตัวเป็นนกยูงลายพล้อยตัวหนึ่ง ทำให้เจ๋ออ๋องตกใจจนหนีเตลิดไปเลย”
“ก็ใช่หน่ะสิ แม้ว่าเจ๋ออ๋องจะไม่ชอบคุณหนูสามมาตลอด แต่การอภิเษกสมรสถูกกำหนดโดยอดีตจักรพรรดิ ต่อให้เจ๋ออ๋องไม่เต็มใจแค่ไหนก็ต้องกัดฟันทนแต่งงานกับนาง ได้ยินว่าที่เจ๋ออ๋องมาครั้งนี้ก็เพื่อมาขอแต่งงาน ”
“จุ๊ๆๆ คุณหนูสามชาตินี้ถือว่าหมดแล้ว เจ๋ออ๋องไม่แต่งงานกับนาง ต่อไปยังจะมีใครมาแต่งงานกับนางอีก”
ในที่สุดกู้ชูหน่วนก็รอพระราชโองการยกเลิกสัญญาการอภิเษกสมรสมาจนได้
จวนเสนาบดีอันใหญ่โตโอ่อ่าต่างมองนางด้วยสายตาอันเห็นอกเห็นใจกันทั้งนั้น มีเพียงแต่นางที่เต็มอิ่มไปด้วยความปิติยินดี
แต่ในไม่ช้า สำนักราชวังได้พระราชทานราชโองการมาอีกหนึ่งฉบับ
“คุณหนูสามแห่งจวนเสนาบดีผู้มีความอ่อนโยนและสง่างาม งดงามเฉลียวฉลาด พระราชทานอภิเษกสมรสให้กับหานอ๋อง งานเลี้ยงฉลองอภิเษกสมรสอันยิ่งใหญ่จะจัดขึ้นในวันที่หนึ่งเดือนหน้า”
เมื่อได้ยินข่าวนี้ จวนเสนาบดีอันใหญ่โตต่างก็ตกตะลึงด้วยกันทั้งหมด
จับคู่ให้กับหาน…..หานอ๋อง?
หานอ๋องก็คือเทพแห่งสงครามมิใช่หรือ
หมายเหตุ
บุ๋นและบู๊ บุ๋น คือสิ่งที่เกี่ยวกับการใช้สมอง ส่วนบู๊ คือการใช้กำลังหรือต่อสู้