กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 404
บทที่ 404
ครั้นเห็นหัวของมัน ก็เพิ่มจากหนึ่งเป็นสาม จากสามเป็นห้า จากห้าเป็นเจ็ด จากเจ็ดเป็นเก้า….
คาดไม่ถึง…คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีหัวที่ใหญ่มากถึงเก้าหัว
ทหารอารักขาอยู่ข้างกายหลีลั่วตื่นกลัวจนขาอ่อนแรง ร่างกายก็สั่นงันงกไม่หยุด
หลีลั่วก็ไม่ได้ฉลาดถึงเพียงนั้น
แต่เปลี่ยนร่างกลายเป็นงูเก้าหัวได้?
นี่มันงูอะไรกัน?
ครั้นเห็นมันส่ายหาง ก้อนหินขนาดใหญ่ก็หล่น ตุ๊บ ตุ๊บ ตุ๊บ ลงในทะเลโลหิต ส่งผลให้ลาวาที่กำลังเดือดปุด ๆ สาดกระจาย
ลาวาตกลงในถังทั้งหมด
หลีลั่วและคนอื่นๆ ดูท่าทางอกสั่นขวัญหายมากทีเดียว หากว่าทะเลโลหิตสาดกระเด็นใส่ผู้เป็นนาย ลวกผู้เป็นนายขึ้นมาจะทำอย่างไร?
ปัง ปัง ปัง……
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ขว้างก้อนหินออกไป และเขวี้ยงอย่างสุดกำลัง
กู้ชูหน่วนตะลึงงัน
เจ้านี่ ติดนิสัยเขวี้ยงก้อนหินใส่คนอื่นเหรอ?
หลังจากที่ลาวาไหลลงในถังอย่างต่อเนื่อง อุณหภูมิในถังก็เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน แม้ว่าความหนาวเย็นของเขาจะถูกหลอมละลายด้วยความร้อนของหินหนืด ลาวาที่ไหลมาอย่างไม่ขาดสาย แม้แต่เขาก็ยังยากที่จะกำจัดทิ้งได้
ร้อน
ร้อนเกินไปแล้ว
ทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้ว่ากู้ชูหน่วนใส่สมุนไพรอะไรลงไปในถัง ความเย็นยะเยือกบนร่างกายของเขาก็ค่อย ๆ จางหายไป ไม่มีเรี่ยวแรงหลอมละลายความร้อนของลาวาในถังได้อีก
เหงื่อ ค่อย ๆ ผุดพรายออกมา
ตั้งแต่เขาเกิด นี่เป็นครั้งแรกที่เหงื่อออก
อุณหภูมิร้อนตัดสลับกับหนาว คล้ายกับกำลังจะฉีกร่างของเขาออกเป็นสองส่วนอย่างไรอย่างนั้น
เยี่ยจิ่งหานรู้สึกเจ็บปวด เหมือนกับถูกบางอย่างกดไว้
หลีลั่วกล่าวอย่างร้อนใจ “พระชายาเหนียงเหนียง นายท่านกำลังเจ็บปวดมาก ถังไม้ได้ดูดเอาลาวาเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็น่าจะเพียงพอแล้วกระมัง ให้ …… ให้งูเก้าหัวหยุดได้หรือไม่?”
“ยังไม่พอ ยังไม่ถึงขีดจำกัด”
กู้ชูหน่วนต้องการให้เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ทำการช้าลง แต่ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว ความเจ็บปวดที่ต้องแบกรับก็ยังต้องแบกรับอยู่วันยังค่ำ สู้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดไปเลยดีกว่า ครั้นถึงคราวตน จะได้ไม่ต้องทนเจ็บปวดอย่างสูญเปล่า
ถึงไม้ไม่แตก แต่น้ำที่อยู่ภายในยังคงกระเพื่อมอย่างต่อเนื่อง กระทั่งปรากฏเลือดมีแดงทอง
เป็นน้ำที่ไหนกัน เห็นได้ชัดว่ากำลังแช่อยู่ในลาวา
หลีลั่วและคนอื่นๆ กำลังเร่งรีบ อยากจะแบกรับความเจ็บปวดของผู้เป็นนายจนแทบทนไม่ไหว
เยี่ยจิ่งหานกัดฟันสีเงินของเขาอย่างแรง แต่ที่อึ้งกว่าคือไม่ให้ตัวเองส่งเสียงใด ๆ ออกมา
ความเย็นยะเยือกและความร้อนในร่างกายยังคงยื้อแย่งกันไปมากอย่างต่อเนื่อง เจ็บปวดยิ่งกว่าม้าห้าตัวกระชากร่างกายเสียอีก
กู้ชูหน่วนหยิบสมุนไพรจากกล่องยาอย่างต่อเนื่อง ใส่ลงในถังเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดให้เขา ดูแลรักษาอวัยวะภายในอย่างเต็มที่
“ประคองไว้ก่อน พิษเหมันต์และพิษร้ายจากใบไม้โลหิตได้หยั่งรากลึกในตัวท่านนานเกินไป ทำให้เลือดในร่างกายไหลเวียนไม่ดี หากท่านอยากจะยืนด้วยขาทั้งสองข้าง เก็จำเป็นต้องส่งเสริมการไหลเวียนกระแสเลือดภายในร่างกายของท่าน”
ดูเหมือนกลัวเยี่ยจิ่งหานจะไม่เข้าใจ กู้ชูหน่วนจึงกล่าวขึ้นอีกว่า “ก่อนหน้านั้นท่านดูเอาพิษมาไว้บนขา ทำให้พิษเหมันต์มารวมตัวกันอยู่บนขาทั้งสองข้าง จึงจำเป็นต้องกำจัดพิษร้ายบนขาทั้งสองข้างของท่านออก เพื่อจะได้บำรุงการไหลเวียนของเลือด”
เยี่ยจิ่งหานพยักหน้าเล็กน้อย
เขาเข้าใจแล้ว ไม่ต้องอธิบายให้มากความ
เขายังกัดฟันทนต่อไป
ความเจ็บปวดหลายสิบปี เขาเจอมาหมดแล้ว ครั้งนี้ เขาจะต้องทนให้ได้
เวลาผ่านไปนาทีแล้วนาทีเล่า จนใบหน้าของเยี่ยจิ่งหานแสดงสีหน้าเจ็บปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งดูแย่ลงมากขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งส่งเสียงครวญครางทุ้มต่ำออกมาอย่างเลือนราง ดูท่า เขาคงจะอดทนถึงขีดจำกัดแล้ว
อุณหภูมิในลาวาสูงมาก แม้ว่าหลีลั่วและคนอื่นๆ จะมีวรยุทธ์ค่อนข้างสูง แต่การยืนอยู่บนลาวาเป็นเวลานาน ก็อาจจะทนไม่ไหว
พวกเขาหน้าวสะท้าน ดูเหมือนกำลังพยายามอดทนอย่างไรอย่างนั้น
กู้ชูหน่วยกล่าวว่า “พวกเจ้ายืนในนี้นานเกินไป เปลี่ยนกะเถอะ”
กู้ชูหน่วนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาหยิบแกนผลึกโลหิตหมื่นปีออกจากในแขนเสื้อและมอบให้พวกเขาสองคน
“รับไปก่อนเถอะ มีแกนผลึกหิมะเท่านั้น ที่สามารถต้านทานอุณหภูมิของทะเลโลหิตได้ชั่วคราว”
ผู้ใต้บัญชาของเยี่ยจ่งหานล้วนภักดีต่อเขา