กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 409
บทที่ 409
ที่เชิงภูเขาหูหลูนำโดยเหวินเส่าอี๋และเผ่าเพลิงฟ้ามีคนมานับสิบคน พวกเขาเป็นบุรุษทั้งสิ้นโดยมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่
ตามหลังยิ่งอยู่ก็ยิ่งเข้าใกล้เทือกเขามากขึ้น คนจำนวนไม่น้อยร้อนจนเหงื่อออกเลย
ผู้อาวุโสตงที่ร่างกายเหี่ยวแห้งซึ่งเก่งกาจเรื่องงูขมวดคิ้วและกล่าวว่า “ที่นี่มีทะเลโลหิตอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่งและอุณหภูมิสูงเกินไป ศิษย์ทั่วไปยากที่จะข้ามผ่านได้ แม้แต่ลูกรักของข้าก็ยังขึ้นไปไม่ได้ ”
ทุกคนรู้ว่าลูกรักที่เขาหมายถึงคือกลุ่มงูพิษและมดมีพิษ
ผู้อาวุโสสืออายุเกินหกสิบปีแล้ว ท่าทางการเดินเหินและดวงตาคู่เป็นประกายนั้นดูไม่เหมือนผู้แก่เฒ่าเลยสักนิด
เขาเหลือบมองไปยังปากหูหลูที่อยู่ใต้ท้องฟ้ารวมถึงหินหนืดทะเลโลหิตที่อยู่ใต้หน้าผาทั้งสองฝั่งโดยที่ในใจนั้นอดไม่ได้ที่จะเต้นราวกับตีกลอง
“ไม่รู้ว่าข่าวผิดพลาดหรือเปล่า คนของเราค้นหาที่นี่รอบหนึ่งแล้วและก็ไม่พบสิ่งใดที่เกี่ยวกับไข่มุกมังกรเลย”
“แต่หากว่าที่นี่ไม่มีสมบัติล้ำค่าอยู่ เหตุใดเผ่าปีศาและคนของหุบเขาตันหุยถึงได้มาที่นี่?”
คนของเผ่าเพลิงฟ้าไม่สามารถเข้าใจได้
แต่ว่ายิ่งขึ้นด้านบนอุณหภูมิก็ยิ่งสูงขึ้น พวกเขาผู้อาวุโสเหล่านี้ยังสามารถทนได้แต่เกรงว่าศิษย์ทั่วไปจะไม่สามารถทนปากหูหลูที่สองได้ยิ่งไม่ต้องพูดถึงปากหูหลูอันคับแคบที่อยู่ด้านบน
เหวินเส่าอี๋ในชุดสีขาวปลิวไสวพร้อมสวมหน้ากากผีเสื้อ อุณหภูมิแผดเผาของทะเลโลหิตกลับไม่ได้เหลือร่องรอยใดๆไว้ในตัวเขาเลย
เขาในชุดสีขาราวกับเซียนผู้หลุดพ้นและมีความรู้สึกสูงส่งเกินบรรยายในลักษณะท่าทางนั้น แม้ว่าจะยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนก็สามารถถูกสังเกตเห็นได้อย่างรวดเร็ว
เหวินเส่าอี๋มองไปยังปากหูหลูอันสูงชันพร้อมรอยยิ้มอันอบอุ่นปรากฏขึ้นที่มุมปาก “ไม่ว่าไข่มุกมังกรจะอยู่ที่นี่หรือไม่ขึ้นไปก็รู้แล้ว”
เขากล่าวพร้อมกับเดินหน้าต่อไป ริมฝีปากอันบางกล่าวขึ้นประโยคหนึ่งว่า “ศิษย์ที่ต่ำกว่าระดับสองให้เฝ้ารออยู่ด้านนอกทั้งหมด ไม่มีคำสั่งห้ามเข้ามายิ่งอย่าให้ผู้ใดนอกจากพวกเราออกจากภูเขาโลหิตหูหลูได้”
“ขอรับ”
“นายน้อย คนของเผ่าปีศาจเร็วกว่าพวกเราก้าวหนึ่งได้ปีนขึ้นไปที่ปากหูหลูลูกที่สองแล้ว แต่ว่าหาปากหูหลูไม่พบสักทีจึงไม่สามารถขึ้นไปถึงยอดหูหลูได้”
“ตันหุยกู่หล่ะ?” ตามที่เขารู้ตันหุยกู่ไม่ได้สนใจทางโลกมานานหลายปีแล้ว
พวกเขาเพียงแค่กลั่นยาอย่างเงียบๆไม่ข้องเกี่ยวกับทางโลก ในเมื่อคราวนี้มาภูเขาหูหลูเป็นไปได้หรือไม่ว่าพวกเขาก็สนใจไข่มุกมังกรบนภูเขาหูหลูด้วย?
“ตันหุยกู่ยังอยู่ที่เชิงเขา พวกเขาเก็บสมุนไพรอยู่ตลอดทางโดยที่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่รีบร้อนที่จะไปให้ถึงยอดหูหลู”
ผู้คนในเผ่าเพลิงฟ้าต่างก็อยากหัวเราะ
ตันหุยกู่ขาดสมุนไพรจนบ้าไปแล้วหรือ? ถึงได้มาเก็บสมุนไพรที่ดินแดนทะเลโลหิต ที่นี่จะมีสมุนไพรอันใดให้เก็บ
“นายน้อย พวกเราควรถือโอกาสที่ตันหุยกู่ยังมาไม่ถึงปีนขึ้นยอดหูหลูนำเอาไข่มุกมังกรไปหรือไม่”
“รีบร้อนอันใดกัน ครั้งนี้ผู้ใดนำตันหุยกู่?”
“พูดไปก็แปลกครั้งนี้ตันหุยกู่ไม่ได้มีผู้อาวุโสนำแต่เป็นนายน้อยตันหุยกู่เป็นผู้นำทัพมาเอง ตันหุยกู่ละจากทางโลกมานานหลายปีนายน้อยของพวกเขาเป็นคนเช่นไรจนถึงตอนนี้ก็ไม่รู้แน่ชัด รู้แค่ว่านายน้อยของพวกเขาอยู่ภายนอกเป็นเวลานานต้องการพบเขาก็เป็นการยากนิ่งนัก ผู้อาวุโสของตันหุยกู่หลายท่านไม่รู้ด้วยซ้ำว่านายน้อยมีลักษณะหน้าตาอย่างไร”
“จริงหรือ นายน้อยผู้ที่ละจากทางโลกแต่กลับเห็นคนมากมายเก็บยาอยู่ที่เนินเขาเจ้าคิดว่าเป็นเรื่องปกติหรือไม่?”
“นายน้อย ท่านความหมายของท่านคือ……ตันหุยกู่ต้องการรอรับผลประโยชน์โดยใช้กลยุทธ์รอฉวยโอกาส?”
“ไม่เช่นนั้นเจ้าคิดว่าเช่นไรหล่ะ”
“เช่นนั้นข้าน้อยไปนำตัวพวกเขามาก่อน”
“เจ้ารู้ถึงความสามารถของเขาหรือไม่? ตันหุยกู่สามารถรอดชีวิตอยู่มานานหลายปีก็ต้องมีเส้นสนกลในของเขาเป็นธรรมดาอยู่แล้ว”
“แล้วหากว่าพวกเขาต้องการนั่งรอฉวยโอกาสหล่ะ ก็จะไม่……”
เหวินเส้าอี้หัวเราะเยาะ
รอฉวยโอกาส?
เขาจะเก็บความได้เปรียบได้ง่ายดายเช่นนั้นเลยหรือ?