กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 435
บทที่ 435
เส้นผมดกดำกลายเป็นขาวหิมะทั้งหมด?
เขาพึ่งจะอายุเท่าไหร่เอง ไยจึงเป็นเยี่ยงนี้?
อี้เฉินเฟยมองนัยน์ตาขาวดำชัดเจนของนางกำลังสะท้อนผมขาวเต็มศีรษะของเขา
สิ่งที่ประหลาดใจกว่าคือ โลหิตในกายาของอี้เฉินเฟยเริ่มเกาะตัว
เขาก้มหน้าด้วยอาการสั่นสะท้าน ดังคาด……….เส้นผมที่สลวยมาถึงหน้าอกกลายเป็นสีขาวหิมะจริง
เส้นผมขาวดั่งหิมะ……
แสดงว่าคำสาปโลหิตเป็นผลแล้ว
เขา…….มีชีวิตอยู่ได้มากสุดก็ครึ่งปี
ครึ่งปีให้หลัง ร่างกายเขาจะเน่าเปื่อยแล้วเหม็นคลุ้งไปทั่ว
อี้เฉินเฟยไอรุนแรงจนต้องเอามือบังปาก
ไข่มุกมังกรเจ็ดเม็ด……
ยังหาไม่เจออีกสามเม็ด
เผ่าพวกเขาทุ่มเทแรงกายและแรงกาย ทั้งยังใช้เวลาหลายชั่วอายุคนจึงจะสั่งสมได้สี่เม็ด
ยังเหลืออีกสามเม็ด…….
จะได้เจอภายในครึ่งปีได้อย่างไร
หากหาไม่ครบเจ็ดเม็ด คนในเผ่าทั้งหมด ซึ่งโดนคำสาปโลหิตก็จะแก้ไม่ได้
หากแก้คำสาปไม่ได้ก็มีเพียงทางเลือกเดียว รอคอยวันสิ้นลมหายใจ
กู้ชูหน่วนเแสร้งยิ้มแบบไม่สะทกสะท้าน “อันที่จริงผมขาวก็ดี เมื่อก่อนข้าก็อยากย้อมสีผมขาวเหมือนกัน แค่ยังไม่กล้าพอเท่านั้น พี่เฉินเฟยมีผมขาวเต็มหัว เป็นการเสริมเสน่ห์บุรุษมากขึ้นหลายส่วนเลย”
อี้เฉินเฟยฝืนปั้นรอยยิ้มออกมา “เจ้ากลัวใช่หรือไม่?”
“ที่ไหน ไม่ว่าเจ้าจะผมดำหรือผมขาว ล้วนเป็นพี่ชายที่แสนดีที่สุดของข้า”
กู้ชูหน่วนซุกอยู่ในอ้อมกอดเขา หัวใจรู้สึกถูกบีบจนเจ็บอย่างแปลกพิลึก ทั้งยังรู้สึกแสบจมูกจนน้ำตาไหลรินอย่างไม่รู้ตัว
“หากเจ้าไม่ชอบผมขาวก็ให้เวลาข้าสักหน่อย ข้าจะช่วยฟื้นฟูสภาพผมให้ท่าน”
“ไม่ต้อง ผมขาว……..ก็ดีเหมือนกัน”
ขอเพียงนางปลอดภัย ขอเพียงสามารถแก้คำสาปโลหิตในสรรพางค์กายนางได้ ทุกอย่างล้วนคุ้มค่า
“รับปากข้า อย่าไปช่วยเขาได้ไหม”
กู้ชูหน่วนชะงักงัน จากนั้นจึงรับรู้ว่าเขาที่อี้เฉินเฟยหมายถึงคือเหวินเส่าอี๋
มุมปากนางขยับ ทว่ายังไม่ทันเอื้อนเอ่ย อี้เฉินเฟยกลับกระอักเลือดออกมา
กู้ชูหน่วนประคองอี้เฉินเฟยที่บาดเจ็บสาหัส ตะโกนเรียกอย่างร้อนรน “เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ พาพวกเราไปยังช่องเขาทิศประจิมโดยเร็ว”
“ฟู่ ๆ ๆ ”
ร่างกายเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เหินเวหานำพวกเขาไปยังช่องเขา
ที่นี่อยู่ใกล้ถิ่นพำนักอสุรกายมังกรระดับเจ็ดมาก หากอสุรกายมังกรเห็นพวกเขาย่อมต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย ที่นี่จึงไม่เหมาะสำหรับทำการรักษา กู้ชูหน่วนจึงได้แต่พาเขาจากไป
ในขณะที่นั่งบนหลังงู กู้ชูหน่วนกวาดสายตามองทั่วหุบเขาโลหิตหูหลู
ตอนที่พวกเขาตกจากหน้าผา ไม่รู้ว่ามีคนตายในหุบเขานี้กี่คน รู้เพียงกลิ่นคาวเลือดสดอบอวลไปทั่วบริเวณ และยังสามารถเห็นหลุมขนาดใหญ่ได้ทุกที่ ซึ่งไม่รู้ว่าพวกเขาต่อสู้กันอย่างดุเดือดแค่ไหน
เห็นผู้อาวุโสเผ่าเพลิงฟ้าที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสกำลังนำพรรคพวกออกตามหาใครสักคน กู้ชูหน่วนรู้สึกสงสาร นางลังเลชั่วครู่ ก่อนจะโยนกระดุมลงไปหนึ่งเม็ด เพื่อจะได้ชี้ทางให้ผู้อาวุโสเผ่าเพลิงฟ้า
นางได้กระดุมเม็ดนี้จากเหวินเส่าอี๋โดยบังเอิญ นางไม่รู้ว่าพวกเขาจะเห็นกระดุมเม็ดนี้แล้วไปตามหาเหวินเส่าอี๋ด้านล่างหน้าผาหรือเปล่า
ทว่าหัวใจนางบอกนางว่า นางต้องรักษาอี้เฉินเฟยให้หาย มิฉะนั้นนางจะกล่าวโทษตัวเองตลอดชีวิต
งูเก้าหัวนำหากู้ชูหน่วนกับอี้เฉินเฟยเหาะเหินบนท้องฟ้าด้วยความเร็ว
รูปร่างเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ใหญ่มาก และผู้ที่สามารถเข้ามาในหุบเขาโลหิตหูหลูล้วนเป็นยอดฝีมือ คนส่วนมากจึงเห็นพวกเขา
รวมทั้งเยี่ยจิ่งหานด้วย
เยี่ยจิ่งหานถอนหายใจยาว ๆ ด้วยความโล่งอก
สตรีผู้นี้ทำให้เขาเป็นห่วงมาก
เพื่อนางแล้ว เขาไม่อยากถอนพิษเลย และไม่อยากรักษาสองขา ขาดก็แต่สิ่งสุดท้ายที่ดิ้นทุรนทุรายเพื่อหลุดพ้นจากพันธการ แล้วออกตามหานาง
“นายท่าน หาเบาะแสพระชายาเจอแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้อยู่ช่องเขาทิศประจิม พระชายาบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เหล่าทหารอารักขากำลังไปรับกลับมาพ่ะย่ะค่ะ”
“อีกเรื่องหนึ่งคือ ผู้ที่อยู่กับพระชายาคือประชุมชิงแห่งนิกายเทพอสูร แต่ประชุมชิงบาดเจ็บสาหัส พระชายากำลังรักษาให้ เส้นผมสีดำของประมุขชิงไม่รู้เพราะเหตุใดจึงกลายเป็นสีขาวในชั่วค่ำคืนพ่ะย่ะค่ะ”
หลีลั่วไม่กล้ารายงานว่า ความสัมพันธ์ระหว่างพระชายากับประมุขชิงไม่ธรรมดา แค่รายงานเบาะแสของพระชายาเท่านั้น
แววตาเคร่งขรึมของเยี่ยจิ่งหานเกิดความฉงนสนเท่ห์
ผมดำกลายเป็นผมขาวหิมะชั่วค่ำคืน?
เขาเจออะไรกันแน่?
หรือว่าเขาจะเป็นคนเผ่าหยกเหมือนเสด็จแม่ตน?
ทั่วหล้านี้มีเพียงผู้ที่โดนคำสาปโลหิตแล้วพิษกำเริบ จึงจะเปลี่ยนเส้นผมดำเป็นขาวในชั่วค่ำคืน
หากผมของเขาขาวเพราะโดนคำสาปโลหิตจริง เช่นนี้ก็แสดงว่าเขากำลังจะเสียชีวิต
นิกายเทพอสูรเกี่ยวข้องกับเผ่าหยกเช่นไร?
หลีลั่วถามหยั่งเชิงว่า “นายท่าน ให้ข้าน้อยสืบความสัมพันธ์ของนิกายเทพอสูรกับเผ่าหยกหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
“ไม่ต้อง ถึงนิกายเทพอสูรจะเป็นแห่งกบดานที่เผ่าหยกใช้อำพรางฐานะที่แท้จริงก็ตาม แต่เจ้าสืบเช่นไรก็สืบไม่ได้หรอก”
“พ่ะย่ะค่ะ”
หลีลั่วยืนอยู่ด้านข้าง ไม่กล้าส่งเสียง พลางรู้สึกสงสารประมุขชิงยิ่ง
ภาพเสด็จแม่ของนายท่านตายอย่างอนาถยังคงตราตรึง
มันโหดเหี้ยมมาก หวังว่าประมุขชิงจะไม่โดนคำสาปโลหิต
“กู้ชูหน่วนล่ะ ไยนางจึงไม่กลับมา?”
สตรีผู้นี้ถอนพิษให้เขาแค่ครึ่งเดียวก็ล้มเลิกกลางคัน มีแพทย์แบบนี้ได้อย่างไร?
“เอ่อ…….พระชายาอาจกลัวว่ามาที่นี่แล้วจะล่อศัตรูมาด้วย ดังนั้นจึงเปลี่ยนทิศทางไปยังช่องเขาทิศประจิมกระมังพ่ะย่ะค่ะ”
ให้ตายสิ อยากให้สองขาหายดี เขาต้องแช่สมุนไพรต่อ วรยุทธ์ก็ยังไม่ฟื้นฟูอีก
“ส่งคนไปปกป้องนางเยอะ ๆ สตรีผู้นี้ทำให้เป็นห่วงอยู่ร่ำไป”
“พ่ะย่ะค่ะ”
“สถานการณ์การต่อสู้ด้านนอกเป็นเช่นไรบ้าง?”
“เรียนนายท่าน เผ่าเพลิงฟ้ากับเผ่าปีศาจปะทะกับอสุรกายระดับหก ล้วนบาดเจ็บหนักพ่ะย่ะค่ะ เผ่าเพลิงฟ้าเสียผู้อาวุโสไปหลายคน ผู้นำกองธงแห่งเผ่าปีศาจก็บาดเจ็บสาหัสสองคนพ่ะย่ะค่ะ ส่วนพวกจตุมหาราชาตายไปหลายคนแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“ต่อมาพวกเขาสามัคคีเป็นหนึ่งเดียว ร่วมต่อสู้กับอสุรกายระดับหกอย่างสุดความสามารถ ดังนั้นจึงผ่านด่านแรกของปากหูหลู แต่ด่านที่สองพวกเขาก็บาดเจ็บสาหัส โยนศพออกมามากมาย ข้าน้อยกลัวพวกเขารู้ตัว จึงไม่กล้าเข้าใกล้ จึงไม่ทราบว่าด้านในเกิดอะไรขึ้น”
เยี่ยจิ่งหานถาม “แล้วคนตันหุยกู่ล่ะ?”
เขาไม่เชื่อว่าคนตันหุยกู่เดินทางไกลมายังหุบเขาโลหิตหูหลูเพื่อเก็บสมุนไพร
อุณหภูมิที่นี่สูงมาก นอกเสียจากเขตอาคมแล้ว ที่อื่นล้วนไม่มีพืชพรรณขึ้น แล้วจะเก็บสมุนไพรได้หรือ?
“จับตามองต่อไป”
“พ่ะย่ะค่ะ”
ทันใดนั้นตรงปากหูหลูเกิดเสียงโครมกังวาน ตามด้วยเสียงมังกรคำรามทั่วฟากฟ้า
เยี่ยจิ่งหานเงยหน้าทันควัน
เห็นเมฆาเปลี่ยนสี เมฆสีเทากลายเป็นน้ำวนขนาดมหึมา กำลังเคลื่อนไหวไปมา คล้ายกับจะทลายลงมาได้ทุกเมื่อ
วรยุทธสูงส่งมาก
อาวุโสสูงทั้งสี่ของเผ่าเพลิงฟ้าผนึกกำลังสร้างตาข่ายขนาดใหญ่ขึ้น
เห็นทีไข่มุกมังกรจะอยู่ที่นี่จริง ๆ
ดังนั้นจึงดึงดูดผู้แกร่งกล้าแห่งใต้หล้ามาที่นี่มากมาย
บทที่ 434
ตอนที่ 436