กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 479
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 479
ชิงเฟิงพูดเร็วขึ้นมาก เขากล่าวว่า“นายท่าน ตั้งแต่นายท่านกักบริเวณพระชายา พระชายาสนใจทำแต่สมุนไพร ตามที่กระหม่อมดู นางไม่ได้สนใจนายท่านเลยพ่ะย่ะค่ะ”“อืม……..”เยี่ยจิ่งหานกล่าวตอบ
ชิงเฟิงรีบกล่าวอธิบายอีกว่า“ความหมายของกระหม่อมคือ พระชายาไม่ได้เสียใจเลยพ่ะย่ะค่ะ”
เยี่ยจิ่งหานกำหมัดแน่น สีหน้ามืดอึมครึมราวกับถ่านก้นหม้อ
“ข้าว่าพระชายาใช้ชีวิตในจวนอ๋องอย่างสุขสบาย พระชายากลั่นยา ไม่ใช่ต้องใช้ยาสมุนไพรหรือ?นางถูกกักบริเวณอยู่ในจวน เครื่องปรุงยามาจากที่ใดหรือ?”
“กราบทูลนายท่าน พระชายาสั่งคนรับใช้ไปซื้อพ่ะย่ะค่ะ เพราะนายท่านไม่ได้มีคำสั่งยกเลิกตำแหน่งพระชายา นายท่านเพียงแค่กักบริเวณชั่วคราว เพราะฉะนั้นคนของจวนอ๋องเลยยอมทำตามคำสั่งของพระชายาพ่ะย่ะค่ะ”
ไม่รู้ว่าเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ คนในจวนยอมฟังพระชายา ล้วนไม่ยอมฟังคำสั่งของพวกเขา แล้วก็ไม่ดูว่าคนที่อยู่เบื้องหลังของพวกเขาคือท่านอ๋องเลย
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หากผู้ใดช่วยนางซื้อเครื่องปรุงยาอีก เฆี่ยนตีแปดสิบครั้งหนักๆได้เลย จากนั้นขับไล่ออกจากจวนอ๋องเสีย”
“พ่ะย่ะค่ะ”ชิงเฟิงตอบรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
เยี่ยจิ่งหานมองไปทางห้องกลั่นยา ทางนั้นมีควันขึ้นโขมง คนในจวนจำนวนไม่น้อยล้วนกำลังตักน้ำดับไฟกันอยู่
เขาทอดถอนหายใจออกมา
หยุดเครื่องปรุงยาแล้ว
ห้องกลั่นยาก็ทำลายแล้ว กู้ชูหน่วนน่าจะหยุดแล้วแหละ
ผ่านไปเพียงหนึ่งชั่วยาม จวนหานอ๋องได้มีเสียงโครมครามระเบิดดังสนั่นอีก
เยี่ยจิ่งหานนำตำราในมือฟาดทุบลงบนโต๊ะ ความโกรธทวีคูณเพิ่มมากขึ้น
“จวนอ๋องกลายเป็นสถานที่อะไรแล้ว ตลาดผักหรือ?ตรวจสอบให้ชัดเจนว่าผู้ใดเป็นคนทำเสียงระเบิดออกมา แล้วเฆี่ยนให้ข้าหนึ่งร้อยครั้ง”
ชิงเฟิงตัวสั่นระริก กล่าวว่า“กราบทูลนายท่าน เป็นพระชายาพ่ะย่ะค่ะ ห้องกลั่นยาถูกทำลายแล้ว พระชายายังคงปรุงยาอย่างต่อเนื่องที่เรือนอุสุม ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ห้องกลั่นยาถึงได้ระเบิดขึ้นอีกหนึ่งครั้ง”
“เป็นพระชายาอีกแล้ว?ไม่ใช่สั่งลงไปว่า ทุกคนห้ามส่งเครื่องปรุงยาและเตากลั่นยาให้นางแล้วหรือ?”
“นี่…..อาจจะจัดการก่อนหน้า แล้วยังคงเหลืออยู่บ้างพ่ะย่ะค่ะ”
“………”
ชิงเฟิงกล่าวถามด้วยความระมัดระวังว่า“นายท่าน เช่นนั้นเฆี่ยนหนึ่งร้อยครั้งยังต้องเฆี่ยนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
“ปัง……”
เสียงตำรากระแทกบนร่างของชิงเฟิง พร้อมกับตามด้วยเสียงตำหนิของเยี่ยจิ่งหาน
“เฆี่ยนไปหนึ่งร้อยครั้ง ลูกของข้ายังต้องการหรือไม่?”
เจี้ยงเสวี่ยอดทุกข์ใจไม่ได้
ชิงเฟิงก็ไม่รู้ว่าถูกโมโหใส่จนตาลายวิงเวียนศรีษะหรือไม่
คำถามที่ไม่ควรถามก็ถาม ไม่ดูเลยว่าในท้องของพระชายามีลูกของท่านอ๋องอยู่
ชิงเฟิงกล่าวด้วยความหวาดกลัวว่า“กระหม่อมสมควรตาย กระหม่อมสำนึกผิดแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“ปล่อยนางดิ้นรนเถิด ถึงอย่างไรนางก็ไม่ได้มีเครื่องปรุงยามากมายเท่าไหร่ ที่จะมีดิ้นรนแล้ว”
รอสิ้นสุดแล้ว เดี๋ยวนางก็หยุดเอง
“พ่ะย่ะค่ะ…..”
เป็นเวลาเจ็ดวันติดต่อกันที่เสียงระเบิดดังขึ้นในจวนเป็นครั้งคราว เยี่ยจิ่งหานปวดหัวอย่างมาก และหัวใจของเขาก็เจ็บปวดเช่นกัน
เสียงระเบิดดังต่อเนื่องทั้งวันทั้งคืน เหมือนเป็นระเบิดที่ไม่รู้เวลาแน่ชัด
หนึ่ง เขาถูกรบกวนจนนอนไม่หลับ
สอง เขากังวลว่าร่างกายของกู้ชูหน่วนจะรับไม่ไหว
คนผู้หนึ่ง กี่วันกี่คืนไม่ยอมพักผ่อน ร่างกายที่ไหนจะรับไหว
วันนี้ เป็นเสียงระเบิดที่ดังขึ้นอีกแล้ว
ชิงเฟิงกล่าวกราบทูลทื่อๆว่า“นายท่าน พระชายาทำลายมุมทางตะวันออกเฉียงเหนือของเรือนอุสุมพ่ะย่ะค่ะ พระชายามิเป็นไร เพียงแค่ใบหน้าดำคล้ำ ไฟของเรือนอุสุมทางตะวันออกเฉียงเหนือได้กำจัดแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“สรุปนางซื้อเครื่องปรุงยามาเท่าไหร่ เพราะเหตุใดจนถึงตอนนี้ยังใช้ไม่หมด”
“อันนี้…พระชายาซื้อเป็นจำนวนมาก แต่ตามปริมาณที่พระชายาใช้ เครื่องปรุงยาน่าจะใช้หมดแล้วถึงจะถูก”
“สามวันก่อนหน้า เจ้าพูดกับข้าว่า เครื่องปรุงยาของพระชายาน่าจะใช้หมดแล้ว”
ชิงเฟิงกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าโศกว่า“นายท่าน พระชายามีวงแหวนอวกาศ ในวงแหวนอวกาศอาจจะมีเครื่องปรุงยาบางส่วน แต่ว่าน่าจะใกล้ใช้หมดพอประมาณแล้ว กระหม่อมสาบานเลย หลังจากที่นายท่านรับสั่ง คนภายในจวนก็ไม่ได้มีคนส่งเครื่องปรุงยาอะไรให้พระชายาแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“พวกเจ้าทำงานกันอย่างไร พระชายาตั้งครรภ์อยู่ พวกเจ้าให้นางกลั่นยา ร่างกายของนางทนไหวหรือ?นางเกิดอะไรไม่ต้องรีบร้อน หากเป็นเด็กในท้องเป็นอะไรขึ้นมาล่ะ?”
“นายท่าน กระหม่อมเกลี้ยกล่อมแล้ว แต่พระชายากล่าวว่า ท่านอ๋องกักบริเวณนาง เป็นนางที่ทำเรื่องผิด เพราะฉะนั้นนางต้องการลงโทษตนเอง ถึงได้ปิดประตูกลั่นยาอยู่ในห้องไม่ยอมออกมา”
ชัดเจนว่านายท่านเป็นห่วงพระชายา ยังยกลูกมาพูดอะไร เขาไม่ตาบอดสักหน่อย
เยี่ยจิ่งหาน“…..”
นี่ไม่ใช่การลงโทษตัวนางเอง
นี่คือกำลังลงโทษเขา
นางจงใจ จงใจบีบบังคับเขาให้ไปหานางเอง เมื่อเป็นอย่างนี้ สงครามเย็นนี้ นางชนะอย่างแน่นอนแล้ว
ผู้หญิงคนนี้ เหตุใดถึงได้ทรมานคนอย่างนี้
“นายท่าน เช่นนั้นนายท่านจะไปหาพระชายาด้วยตนเองหรือไม่?”
“ไม่ไป”
เอาภาพวาดของเขาวาดจนกลายเป็นฝ่ายรับรักร่วมเพศกับผู้หญิงที่ทั้งอ้วนทั้งอัปลักษณ์ทั้งเตี้ยด้วย จนกระทั่งนำภาพวาดของเขาแพร่กระจายจนทั่วเมืองหลวง
จนกระทั่งตอนนี้ ยังมีคนจำนวนไม่น้อยวิพากษ์วิจารณ์เขาอยู่ด้านหลัง
ความโมโหนี้ เขายังไม่ได้ระบายเลย
เจี้ยงเสวี่ยลังเลใจ กล่าวว่า “นายท่าน ปล่อยพระชายาเลอะเทอะเช่นนี้ เกรงว่าพระชายาจะไม่ระวังร่างกายได้รับบาดเจ็บ เช่นนั้น…..”
“ดูอย่างละเอียด อย่าให้นางเป็นอะไร รอให้เครื่องปรุงยาที่อยู่ในมือของนางหมด”
“พ่ะย่ะค่ะ”
“ครืน…..”
“ตุ้ม……”
“ตุ้มๆๆๆๆ…..”
เกิดเสียงระเบิดดังในจวนอ๋องอย่างต่อเนื่อง
คนในจวนล้วนคุ้นชินแล้ว
คนนอกจวนชี้ไม้ชี้มือไม่หยุด วิพากษ์วิจารณ์กันว่าแท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกับจวนอ๋อง เหตุใดถึงได้มีเสียงระเบิดดังมาทุกวัน
ผ่านไปอีกสองวัน
เยี่ยจิ่งหานหมดความอดทนแล้ว
กำลังจะสั่งให้คนจับพระชายาไว้ เพื่อหยุดการกลั่นยาของนาง
คิดไม่ถึง ภายในจวนเกิดเสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้ง
ครั้งนี้เสียงระเบิดไม่เหมือนวันที่ผ่านมา
ครั้งนี้มันดังมาก จวนอ๋องทั้งจวนสั่นสนั่นหวั่นไหวยุบ เรือนอุสุมพังทลายกลายเป็นซากปรักหักพัง
ชิงเฟิงรีบกล่าวรายงานว่า“นายท่าน เกิดเรื่องใหญ่แล้ว เรือนอุสุมถูกทำลายแล้ว”
“กู้ชูหน่วนล่ะ”
“พระชายา…..”
ชิงเฟิงยังพูดไม่ทันจบ ตรงหน้ามีเยี่ยจิ่งหานที่ไหนกัน ตัวของเขาราวกับลมแรงที่พัดผ่านไป
ในใจของเยี่ยจิ่งหานมีเพียงกู้ชูหน่วน แล้วก็ไม่กล้าคิดว่ากู้ชูหน่วนจะถูกเรือนอุสุมหล่นลงมากดทับหรือไม่
ความโกรธก่อนหน้านี้ของเขาหายไปทั้งหมดเมื่อเขาได้ยินข่าวนี้ เขามีเพียงความกังวลเป็นห่วง ความกดดัน ความวิตกกังวล และความกลัว
ในที่สุดเขาก็ได้มาถึงด้านหน้าของเรือนอุสุม เรือนอุสุมกลายเป็นซากปรักหักพัง เหล่าคนรับใช้ยกน้ำมาดับไม่หยุดหย่อน และมีคนรับใช้จำนวนหนึ่งตกที่นั่งลำบาก เพิ่งจะหนีตายออกมาจากซากปรักหักพัง
“พระชายาล่ะ”
เจี้ยงเสวี่ยกล่าวว่า“นายท่าน พระชายาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย วันนี้ได้ถูกส่งไปพักฟื้นที่เรือนหลิงเย่แล้ว ก่อนที่พระชายาจะกลั่นยา ได้มีเหล่าคนรับใช้ทั้งหมดหนีจากเรือนอุสุมทันที เพราะฉะนั้นคนรับใช้ของเรือนอุสุมเลยไม่ตายพ่ะย่ะค่ะ”
เจี้ยงเสวี่ยยังพูดไม่จบ เยี่ยจิ่งหานได้หายไปอีกครั้ง
เจี้ยงเสวี่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย
มองนายท่านด้วยความตึงเครียด
สงครามเย็นระหว่างนายท่านกับพระชายา กำหนดให้ล้มเหลวจบสิ้นแล้ว
อยู่ข้างกายนายท่านมาตั้งหลายปี เขาไม่เคยเห็นนายท่านเสียเปรียบเลย
แต่หลังจากได้พบพระชายา นายท่านเสียเปรียบอยู่เรื่อย ทุกครั้งล้วนแต่พ่ายแพ้
แม้แต่ความรักระหว่างสามีภรรยา ก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ย่อยยับป่นปี้ให้
ภายในเรือนหลิงเย่
กู้ชูหน่วนนอนอยู่บนเตียง ใบหน้าซีดเผือด ร่างกายอ่อนแอไร้เรี่ยวแรง และเหล่าหมอหลวงกำลังพากันจับแมะชีพจร