กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 590
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 590
สภาพภูมิประเทศของที่นี่นับว่าไม่เอื้ออำนวยต่อพวกนางอย่างมาก
หากคิดหลบหนีคนที่อยู่ตรงหน้า มีเพียงทางเดียวก็คือเข้าไปยังขั้วโลกเหนือ
ภายในขั้วโลกเหนือมีความอันตรายอย่างมาก ไม่แน่พวกนางอาจมีโอกาสรั้งเขาเอาไว้ได้
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ กู้ชูหน่วนใช้โอกาสตอนที่เหวินเส่าอี๋ยื่นมือเข้าช่วย และใช้กระบวนท่าหลอกล่อและหายวับเข้าไปยังขั้วโลกเหนือ
“ตึ่ง……”
เหวินเส่าอี๋ถูกเตะกระเด็นออกไปจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและกระอักเลือดออกมา โชคดีที่นักฆ่าคนนั้นเพ่งเล็งไปยังกู้ชูหน่วน ไม่เช่นนั้นคนที่จะต้องตายคงไม่ใช่กู้ชูหน่วน แต่กลับเป็นเขาเอง
นักสังหารชุดดำไล่ตามเข้าไปยังขั้วโลกเหนือ เหวินเส่าอี๋ฝืนพยายามลุกขึ้นยืนและเข้าไปยังขั้วโลกเหนือโดยไม่ลังเล
เมื่อเข้ามายังขั้วโลกเหนือ อุณหภูมิก็ลดลงทันที
เหวินเส่าอี๋สั่นสะท้าน
และสิ่งที่เห็นตรงหน้าคือสภาพภูมิประเทศของที่นี่ช่างแปลกประหลาด บริเวณรอบๆ ล้วนเป็นธารน้ำแข็ง และยังมีโคนน้ำแข็งที่ผุดขึ้นมาเป็นจำนวนมาก หากไม่ระวังก็อาจถูกโคนน้ำแข็งนี้ทำให้บาดเจ็บเอาได้
กู้ชูหน่วนได้ทิ้งช่วงออกไปจากนักสังหารชุดดำแล้ว
เหวินเส่าอี๋กลัวว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับกู้ชูหน่วน เขาจึงได้ฝืนอดทนกับความเจ็บปวดและก้าวเดินไปข้างหน้า
ตลอดระยะทางที่เดินผ่าน มีโคนน้ำแข็งจำนวนมากที่ถูกตัดทิ้งและแยกเป็นชิ้นนับไม่ถ้วน และกำแพงน้ำแข็งบริเวณโดยรอบก็มีร่องรอยของดาบและกระบี่
เขาดูออกว่านอกจากจะเป็นดาบและกระบี่ของนักสังหารชุดดำแล้ว ยังมีร่องรอยดาบอ่อนของกู้ชูหน่วนอีกด้วย
พวกเขาต่อสู้กันไปตลอดทางเลยหรือ?
เมื่อเดินไปได้สักระยะหนึ่ง ที่แห่งนี้มีร่องรอยกระจัดกระจายไปด้วยเลือดสีแดงสด ซึ่งเห็นได้ชัดเจนเป็นพิเศษในถ้ำน้ำแข็งสีขาวแห่งนี้
“ไม่……ไม่ได้……”
เหวินเส่าอี๋ตื่นตระหนก
เขาไม่อยากจะจินตนาการเลยว่าหากกู้ชูหน่วนต้องจบชีวิตลงที่นี่จะทำอย่างไร
เขาล้มลุกคลุกคลานแต่ยังคงเดินไปข้างหน้า
ทันใดนั้น เขาก็หยุดชะงักลง
เพราะเส้นทางตรงหน้าเขาเป็นทางตัน
ที่นี่เหมือนกับหน้าผาสูงที่ถูกตัดขาด
หากต้องการเดินหน้าต่อไป เว้นแต่ต้องก้าวข้ามระยะห่างเกือบยี่สิบเมตร เพื่อจะไปให้ถึงฝั่งตรงข้าม
หรือกระโดดลงไปข้างล่าง
ด้านล่างเป็นพื้นที่สีขาวกว้างใหญ่และไม่รู้ว่ามีความลึกเท่าไร
ระยะห่างมากกว่ายี่สิบเมตรและตรงกลางก็ไม่มีที่ยึดหรือเกาะกุมใดๆ อย่าบอกเลยว่ากู้ชูหน่วนได้รับบาดเจ็บ ต่อให้นางไม่ได้รับบาดเจ็บ นางก็ไม่มีทางข้ามไปได้
แม้แต่เขาตอนที่แข็งแกร่งก็ไม่สามารถข้ามไปได้……
หรือว่านางจะกระโดดลงไป?
มีคราบเลือดอยู่บนพื้น ซึ่งกระตุ้นหัวใจที่บอบบางของเหวินเส่าอี๋มากยิ่งขึ้น
เขาหยิบเศษน้ำแข็งชิ้นหนึ่งขึ้นมาและโยนลงไปด้านล่าง เป็นเวลานานมากก็ยังไม่ได้ยินเสียงสะท้อนกลับ
เหวินเส่าอี๋รู้สึกสับสนและทำอะไรไม่ถูก
หรือว่าเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์จะพานางเลื้อยข้ามไป?
แต่ที่นี่กลับไม่มีร่องรอยการเลื้อยของงูตัวใหญ่เลยนี่นา
เหวินเส่าอี๋กัดฟัน จากนั้นกระโดดลงไปที่ก้นของหุบเขา
เขาไม่เชื่อ เขาไม่เชื่อว่ากู้ชูหน่วนจะตายไปแบบนี้
ผู้หญิงคนนั้นมีความกล้าบ้าบิ่น หากเขาเดาไม่ผิด นางจะต้องกระโดดลงไปด้านล่างแน่ๆ
เหวินเส่าอี๋กำลังเดิมพัน
หากเดิมพันถูก ไม่แน่เขาอาจหากู้ชูหน่วนเจอ
หากเดิมพันผิด เช่นนั้นชีวิตของเขาคงต้องจบลงที่นี่เสียแล้ว
และจนถึงตอนนี้ เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองต้องกระโดดตามลงไปด้วย
ในหัวของเขาคิดเพียงแต่เขาต้องตามหากู้ชูหน่วนให้เจอ จำเป็นต้องหากู้ชูหน่วนให้เจอ หากนางยังมีชีวิตอยู่ต้องเป็นตัว แต่หากตายไปก็ต้องเห็นศพ
ตลอดทางที่ตกลงไป ความหนาวเย็นยังคงปกคลุมตัวเขา
ทันใดนั้น มีบางอย่างพันรอบเอวของเขา และจากนั้นแรงอันทรงพลังก็ดึงเขาเข้าไป
“ตึ่ง……”
เขาล้มลงบนแผ่นน้ำแข็งที่เย็นยะเยือก และในหูก็เต็มไปด้วยเสียงก่นด่าของกู้ชูหน่วน
“เจ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปหรือ ไม่รู้หรือไงว่าที่นี่มีความลึกเท่าไร แต่ดันกล้ากระโดดลงไป”
เหวินเส่าอี๋หัวเราะ
จู่ๆ ก็รู้สึกว่าเสียงบ่นด่านั้นไพเราะจับใจ
“เจ้า……ได้รับบาดเจ็บหรือ”
เขาเงยหน้าขึ้น สิ่งที่ดึงดูดสายตาของเขาคือท่าทางเกรี้ยวโกรธของกู้ชูหน่วน ใบหน้าที่ซีดขาวและรอยบาดแผลเต็มตัว
“จะไม่บาดเจ็บได้อย่างไร? เกือบเอาชีวิตไม่รอด”
กู้ชูหน่วนจับท้องของนางด้วยความเจ็บปวด บริเวณนั้นถูกฟันเป็นรอยแผลและเผยให้เห็นลำไส้โผล่ออกมา
ไม่รู้ว่าควรจะสงสารหรือหัวเราะดี บาดแผลนั้นเย็นเป็นน้ำแข็งและแม้แต่ลำไส้ของนางก็แข็งเป็นก้อน
กู้ชูหน่วนสั่นสะท้านไปทั้งตัว
นางทำแผลและใส่ยา แต่บาดแผลและเลือดที่ผนึกเป็นน้ำแข็งบนร่างกายของนางยังคงไม่ดีขึ้น
“ข้าจะไปหาฟืนมาทำให้เจ้าอบอุ่นขึ้น”
“ชู่ว เบาๆ หน่อย เขายังอยู่ใกล้เคียง”
จุดไฟขึ้นในตอนนี้ อยากตายหรือยังไง?
เขาอยากตาย แต่นางยังไม่อยากตาย
กู้ชูหน่วนพิงกำแพงน้ำแข็งและหายใจหอบ นางหวังเพียงให้เลือดของนางกลับมาไหลเวียนเป็นปกติ
“ให้ข้าช่วยอะไรหรือไม่?”
“เจ้าอย่าช่วยจนข้าตายก็พอ”
ทั้งสองนิ่งเงียบ
เหวินเส่าอี๋ยื่นมืออันอบอุ่นของเขาออกไปและช่วยนางถูบาดแผลบริเวณไหล่และหน้าท้องที่ปกคลุมด้วยน้ำแข็ง
การลงมือของเหวินเส่าอี๋นั้นอ่อนโยนและเบามือ เพราะเกรงว่าจะทำให้กู้ชูหน่วนเจ็บแผล
เมื่อมีเขาคอยช่วยเหลือจึงทำให้แผลของกู้ชูหน่วนดีขึ้นมาก ในที่สุดก็มีความรู้สึกขึ้นมา
“รู้จักเจ้ามาก็นาน วันนี้เป็นวันที่เจ้าทำตัวมีประโยชน์มากที่สุดวันหนึ่งเลย”
“หากเจ้าปลดเข็มทองของข้าออก เช่นนั้นข้าก็สามารถใช้กำลังภายในเพื่อรักษาบาดแผลของเจ้าได้ เจ้าจะได้หายดีเร็วๆ”
“ฝันไปเถอะ อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังคิดแผนการอะไรอยู่ เหวินเส่าอี๋ ข้าจะบอกอะไรกับเจ้า หากวันนี้ข้าตาย เจ้าก็อย่าคิดมีชีวิตรอดต่อไป”
เหวินเส่าอี๋ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
หรือนางคิดว่าที่เขากระโดดลงไป เป็นเพราะถูกนางวางยาพิษ หากนางตายไป ตัวเขาเองก็ต้องสังเวยชีวิตไปด้วยอย่างนั้นหรือ?
“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่ามีถ้ำอยู่ตรงก้นหุบเหวล่ะ? หรือว่าเจ้าเคยมาที่นี่?”
“สถานที่เช่นนี้เมื่อหาไข่มุกมังกรพบแล้ว ส่งให้ข้ามาอีก ข้าไม่มีทางมาหรอก”
ตอนนั้นที่ถูกไล่ฆ่าและวิ่งหนีจนไร้หนทาง นางจนเดิมพันโดยการกระโดดลงมา เพื่อดูว่าตายแล้วจะฟื้นกลับไปอีกได้หรือไม่
นางเดิมพันถูกแล้ว
ที่นี่ยังมีถ้ำอยู่อีกแห่ง
ฉะนั้นจึงทำให้นางยังคงมีชีวิตอยู่ต่อไป
คนนั้นกลับตกลงไป
แต่กู้ชูหน่วนกลับไม่คิดว่านักสังหารชุดดำจะตายลงง่ายดายเช่นนั้น
วิชาตัวเบาของคนคนนั้นไม่ด้อยไปกว่านางเลย นางสามารถหาที่หลบภัยเช่นนี้ได้ เช่นนั้นเขาก็คงหาได้เช่นกัน
แต่น่าโมโหที่เลือดทั้งตัวของนางแทบจะจับตัวเป็นก้อน ไม่เช่นนั้นที่นี่คงไม่ใช่สถานที่ที่ควรจะอยู่นาน
“อสูรตัวโปรดของเจ้าเก่งกาจมากไม่ใช่หรือ? เหตุใดถึงไม่ให้มันพาเจ้าเลื้อยข้ามไปฝั่งตรงข้ามล่ะ”
เหวินเส่าอี๋ไม่พูดเรื่องนี้ก็ดีแล้ว แต่เมื่อพูดขึ้น กู้ชูหน่วนก็รู้สึกหดหู่อยู่ครู่หนึ่ง
“ก็เป็นเพราะเจ้า เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์โลภมาก หากมันรู้ว่ามีกระต่ายย่างแล้วไม่ถูกมันแย่งไปคงแปลก ข้าไม่อยากเห็นคนคนหนึ่งต้องมาตายทั้งเป็นต่อหน้าของข้า”
รอยยิ้มอันอบอุ่นปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเหวินเส่าอี๋ และเขารู้สึกราวกับร่างกายถูกแปะด้วยแผ่นทองคำไปทั้งตัว
อบอุ่น โดดเด่นและสง่างาม
เขายิ้มและพูดขึ้นมาอย่างอ่อนโยน “ฉะนั้น เจ้าไม่ยอมเห็นข้าหิวตาย?”
กู้ชูหน่วนตกตะลึงครู่หนึ่งและดึงสติของตัวเองว่าพูดอะไรออกไป
นางพูดขึ้นมาอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้าเป็นนายน้อยของเผ่าเพลิงฟ้า หากให้เจ้าหิวตายทั้งเป็นเช่นนั้นก็ดูจะเป็นการดูถูกเจ้าเกินไป ข้ายังต้องพาเจ้ากลับไปที่เผ่าหยกและคุกเข่าให้กับประชาชนของเผ่าหยกที่ถูกคำสาปโลหิตนับพันนับหมื่นคน”
เหวินเส่าอี๋กลับไม่คิดเช่นนั้น และถามนางต่ออีกว่า “แล้วเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ล่ะ?”
“ข้าให้มันกินเหล้าที่อยู่ในวงแหวนอวกาศไปจนหมด ตอนนี้มันคงเมาเหล้าจนไม่สนใจอะไรแล้ว”
นางตะโกนออกไปแล้ว แต่น่าเสียดายที่นางไร้เรี่ยวแรง
อาการเมาเหล้าของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ร้ายแรงกว่าที่นางคิดเอาไว้เสียอีก
ในขณะที่กำลังพูดคุย อาการน้ำแข็งผนึกของกู้ชูหน่วนก็ดีขึ้นมาก และเลือดก็กลับมาไหลเวียนเป็นปกติ
สถานที่แห่งนี้อยู่ใกล้กับก้นหุบเหวมาก ถ้านักสังหารชุดดำปีนขึ้นมา เช่นนั้นจะต้องเจอพวกเขาแน่
กู้ชูหน่วนพยายามลุกขึ้น “ไปกันเถอะ เรารีบไปจากที่นี่กันเถอะ”