กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 617
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ ตอนที่ 617
ทั้งสองรู้สึกเคารพในตัวกู้ชูหน่วนมากขึ้น
และในขณะนั้นเอง เมื่อองค์หญิงตังตังเห็นกู้ชูหน่วนเข้า ก็วิ่งเข้ามาอย่างโกรธแค้นแล้วชี้ด่ากู้ชูหน่วน “ไอ้คนแซ่กู้ เจ้าตั้งใจใช่หรือไม่?”
กู้ชูหน่วนถูกด่าอย่างงุนงง
องค์หญิงน้อยคนนี้เป็นบ้าอะไรอีก?
ช่วงนี้นางคงมิได้ทำอะไรให้นางมิพอใจหรอกนะ?
หลิ่วเย่ว์และอวี๋ฮุยกล่าวคิ้วขมวด “องค์หญิง ถึงแม้นท่านจักเป็นองห์หญิงแห่งราชวงศ์ เป็นธิดาของฮองเฮาก็ตาม แต่ทว่านางคือพระชายาหาน หากพูดถึงเรื่องบรรดาศักดิ์แล้ว นางยังเป็นเสด็จอาสะใภ้ของท่าน ท่านมิให้เกียรติต่อพระชายาหานเลยพ่ะย่ะค่ะ”
“ถุย เสด็จอาสะใภ้อะไรกัน นางสมควรงั้นหรือ?”
“นี่…”
กู้ชูหน่วนส่งสัญญาณให้หลิ่วเย่ว์และอวี๋ฮุยออกไปเสียก่อน และก็เดินเข้าไปตรงหน้าองค์หญิงตังตังอย่างช้า ๆ แล้วยิ้มให้เห็นเขี้ยวฟันที่ขาวสะอาด อารมณ์ท่าทางดูเป็นมิตร
“องห์หญิงน้อยของข้า มีเรื่องอันใดทำให้ท่านโกรธเพียงนี้กัน?”
“นิทานอะที่เจ้าเขียนน่ะ องค์หญิงติงตังในนิทานเป็นข้าใช่หรือไม่?กู้ชูหน่วน จิตใจของเจ้าช่างชั่วร้ายนัก ถึงได้เขียนให้ข้ารักแต่มิได้ครอบครอง ทั้งยังถูกชายที่ตนรักที่สุดกินไปทีละคำๆ เจ้ากำลังสาปแช่งข้า”
องค์หญิงตังตังโกรธจนใบหน้าละมุนนั้นบิดเบี้ยวไปหมด
แทบจะลงมือตีกู้ชูหน่วนอย่างโหดเหี้ยมด้วยตัวเองแล้ว
แต่ทว่าที่เสียเปรียบคราวก่อน ทำให้นางยังคงสำนึกได้ นางรู้ว่านางมิใช้คู่แข่งของกู้ชูหน่วน
กู้ชูหน่วนรู้แจ้งกระจ่างในฉับพลัน
เดิมทีที่เขียนองค์หญิงติงตังนั้นเขียนเป็นนางจริง ๆ
ใครให้นางน่ารำคาญในตอนนั้นกันล่ะ
หากตังตังมิพูดถึงเรื่องนี้ นางคงลืมไปแล้ว
กู้ชูหน่วนกล่าวอย่างจริงจัง “องค์หญิงตังตังพูดเยี่ยงนี้ได้อย่างไร ท่านคือองค์หญิงตังตัง ส่วนนางคือองค์หญิงติงตัง พวกท่านทั้งสองจักเป็นคนเดียวกันได้อย่างไรกัน อีกอย่างท่านเองก็น่าเอ็นดู ตรงไปตรงมา ร่าเริง
และจิตใจงาม ส่วนองค์หญิงติงตังนั่นทั้งเกเรา โหดร้ายและหลงตัวเอง เมื่อเทียบกับท่านแล้ว นางก็เป็นแค่โคลนดินบนพื้นเท่านั้นแหละ”
สีหน้าขององค์หญิงตังตังดีขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงโกรธอยู่
“ข้าเป็นบุตรของฮองเฮา นางก็เป็นบุตรของฮองเฮา ข้าเป็นที่รักของทุกคน นางก็เป็นที่รักของทุกคน เสด็จพี่ของข้าคือจักรพรรดิ เสด็จพี่ของนางก็เป็นจักรพรรดิเช่นกัน”
“เรื่องนี้เป็นบังเอิญทั้งนั้น นอกจากนี้แล้ว ทั่วไปแล้วตำแหน่งจักรพรรดิมักสืบทอดโดยบุตรชายคนโตมิใช่หรือ? ใครให้ท่านมิใช่องค์หญิงคนแรกกันล่ะ”
องค์หญิงตังตังรู้สึกเห็นด้วยแต่ก็ขัดแย้งในเวลาเดียวกัน
นางคิดอยากนำเรื่องนี้มาต่อกรกับกู้ชูหน่วน แต่ทว่าเพียงแค่นางพูดสองสามคำก็เบี่ยงเบนความผิดไปได้แล้ว
ซึ่งมันทำให้นางโกรธจนย่ำเท้าอยู่กับพื้น “ข้ามิสน เจ้าต้องเขียนใหม่ เจ้าจักต้องเขียนให้องค์หญิงติงตังจบอย่างสวยงาม”
“ได้ ๆ ๆ เขียนใหม่ก็ได้ ในเมืองของนครหลวงมีคนเล่านิทานมากมายเต็มไปหมด ท่านสั่งให้พวกเขาแก้ให้ทีก็เป็นพอแล้ว”
“มิได้ เจ้าต้องเป็นคนแก้”
“ข้าแก้เองก็มิใช่ว่ามิได้ แต่ทว่า…”
“แต่ทว่าอะไร?”
“แต่ทว่าเสด็จอาของท่านยังไม่มีทายาท และอยากได้บุตรสักคนหนึ่งมาโดยตลอด หากข้าช่วยท่านเขียน เสด็จอาของท่านต้องโกรธข้า ตำหนิข้าว่าไม่ตั้งใจได้ หรือว่า ท่านไปพูดกับเขาด้วยตัวเองดีกว่า เพียงแค่เขาตกลงข้าก็ไม่มีปัญหา?”
องค์หญิงตังตังมึนงงไปชั่วขณะ
นางตั้งใจใช่หหรือไม่?
นางรู้ดีว่านางเกรงกลัวเสด็จอามากที่สุด ยังจะเอาเสด็จอาเข้ามาเกี่ยวด้วย
ขณะที่กู้ชูหน่วนกำลังจะหันตัวเดินจากไปนั้น ทันใดนั้น องค์หญิงตังตังก็นั่งลงกับพื้นอย่างกะทันหันและร้องไห้ฟูมฟายอย่างบ้าคลั่ง โดยมิไว้หน้าตำแหน่งองค์หญิงแห่งแผ่นดินเลยแม้แต่น้อย
นางพลางร้องไห้น้ำตาไหลพลางว่ากล่าวนาง
“เจ้าเป็นผู้อาวุโสประสาอะไรกัน เป็นเสด็จอาสะใภ้ประสาอะไรกัน รู้จักแต่รังแกข้า เจ้ามิอาจเทียบเทียมกับเสด็จพี่หญิงของข้าได้แม้แต่น้อย”
กู้ชูหน่วนชี้ตัวเองอย่างเหลือเชื่อ
นางรังแกนางอย่างนั้นหรือ?
นางรังแกนางเมื่อใดกัน?
เพียงแค่องค์หญิงผู้เกเรคนนี้มิรังควานนาง นางก็ขอบคุณฟ้าดินแล้วล่ะ
“หากมิใช่ว่าเจ้าเขียนมั่วซั่ว ท่านอาจารย์ซั่งกวนก็จักมิโกรธ หากเขามิโกรธเขาก็จักไม่ออกไปจากสำนักศึกษา เป็นเพราะเจ้า ท่านอาจารย์ซั่งกวนต้องผิดหวังในตัวข้าแน่ ๆ ฮือ ๆ…”
กู้ชูหน่วนอยากบอกนางมาก
ที่ท่านอาจารย์ซั่งกวนออกจากที่นี่นั้น มิเป็นเพราะนางเลยสักนิด
แต่ทว่าองค์หญิงตังตังร้องไห้อย่างสะอึกสะอื้น หน้าอกของนางยกขึ้นและหดลงอย่างรุนแรง จะว่าเสียใจเพียงใดก็เสียใจเพียงนั้น คำพูดในปากของนางถูกกลืนเข้าไป
“ท่านอาจารย์ฉู่ดีอย่างไรกัน? คนคนนั้นทั้งใจดำและเจ้าเล่ห์ ความคิดของท่านมิอาจสู้เขาได้ และมิอาจควบคุมเขาได้”
“ไร้สาระ อาจารย์ซั่งกวนเป็นคนอ่อนโยน จิตใจดีและถ่อมตน เขาจักใจดำได้อย่างไรกัน? เห็นได้ชัดเจนว่าเจ้ามิชื่นชอบท่านอาจารย์ซั่งกวน จึงได้ขัดต่อเขา ทำให้เขาเสียหน้าในสำนักศึกษา และเจ้ายังดุด่าว่าข้าโง่เขลาอีก ฮือ ๆ…ตั้งแต่เล็กจนโตยังมิเคยมีผู้ใดดุด่าข้าเพียงนี้มาก่อน เสด็จพี่หญิงของข้ายังชมข้าว่าข้าตรงไปตรงมาและน่าเอ็นดู”
เป็นถึงองค์หญิงของแผ่นดินนั่งร้องไห้อยู่บนพื้นอย่างมิสนใจ เพียงครู่เดียวก็ดึงดูดผู้คนในสำนักศึกษามาไม่น้อย ทุกคนต่างล้อมวงเพื่อดูและนินทากันไป
ทำเอากู้ชูหน่วนยากที่จะเอ่ยปาก
ท่านอาจารย์ฉู่จิตใจดีและถ่อมตนงั้นรึ?
ถุย บอกว่าเขาเป็นหมาป่าที่ปลอมตัวเป็นแกะ มิได้กล่าวเกินเลยจริง ๆ
ท่าทางที่ท่านอาจารย์ฉู่ทำต่อนาง นางตาบอดอย่างนั้นหรือ? ดูไม่ออกหรืออย่างไร?
แล้วนางไปว่านางโง่เขลาเมื่อใดกัน?
ที่นางพูดนั้นหมายความว่านางไม่มีความคิดร้ายใด ๆ สู้กับท่านอาจารย์ฉู่ผู้ที่เต็มไปด้วยความคิดร้ายมิได้เถิด?
อีกอย่าง…
นางพูดถึงเสด็จพี่หญิงมาสองรอบแล้ว?
องค์หญิงตังตังมีเสด็จพี่หญิงอย่างนั้นหรือ?
เหตุใดนางจึงมิรู้?
กู้ชูหน่วนลองถาม “เสด็จพี่หญิงของท่านเป็นใครกัน?”มิใช่ว่าอายุขัยสั้นโดนยาพิษพญายมพรั่นพรึงไปก็เสียแล้วหรอกนะ?
“มิใช่เรื่องของเจ้า เพียงแค่ถือรองเท้าของนางเจ้าก็มิคู่ควร”
“มิคู่ควร ๆ ๆ เพียงแค่ถือรองเท้าให้นางข้าก็มิคู่ควรแล้ว เสด็จพี่หญิงของท่านดีที่สุดแล้วล่ะ”
“เสด็จพี่หญิงของข้าก็ต้องดีที่สุดอยู่แล้ว หากนางยังอยู่ล่ะก็ คงมิรอให้คนอย่างเจ้ามารังแกข้าได้หรอก ฮือ ๆ…เสด็จพี่หญิง…ท่านอยู่ที่ใดกัน กู้ชูหน่วนรังแกข้า ฮือ ๆ…ความสุขทั้งชีวิตของข้าถูกนางทำลายไปหมดแล้ว”
องค์หญิงตังตังมิร้องไห้ก็คือมิร้องไห้ หากร้องไห้ขึ้นมาก็มิอาจหยุดได้ น้ำตานั้นไหลลงมาเหมือนดั่งว่าวที่ถูกตัดเส้นด้ายอย่างไรอย่างนั้น
กู้ชูหน่วนมิกลัวว่านางจะเกเรหรือจับผิดนาง แต่ต่อหน้าคนมากมายเพียงนี้และยังร้องไห้ฟูมฟายมากเพียงนี้ ช่างเป็นการทดสอบทักษะการแสดงของนางมาก
“ก็ได้ ข้ารังแกท่านก็ได้ แล้วท่านจักทำเช่นไร?”
“ข้าจักให้เจ้าไปตามหาท่านอาจารย์ซั่งกวนกลับมา”
“ข้ามิรู้ว่าท่านอาจารย์ซั่งกวนอยู่ที่ใดกัน ข้าจักให้เสด็จอาของท่านสั่งให้ทหารไปตามหาได้หรือไม่?”
“ข้าจักให้เจ้าเขียนตอนจบขององค์หญิงติงตังใหม่อีกครั้ง ข้าจักให้เจ้าเขียนให้องค์หญิงติงตังเป็นนางเอก และเป็นคนที่จิตใจดีคนหนึ่ง
“นิทานเรื่องนี้ถูกแพร่ไปทั่วเมืองแล้ว หากแก้ตอนนี้คนทั้งเมืองก็มิอาจรู้ เอาเยี่ยงนี้ หากข้าว่างเมื่อใด ข้าจักเขียนตอนขององค์หญิงติงตังให้นางเป็นนางเอกของเรื่องและเป็นคนจิตใจดีและเป็นคนที่โชคดีมากคนหนึ่ง แบบนี้ได้หรือไม่?”
องค์หญิงติงตังเช็ดน้ำตา เพราะว่าร้องไห้นักเมื่อครู่ น้ำเสียงของนางจึงได้สะอึกสะอื้น
“แล้วตอนจบจะอยู่กับท่านอาจารย์ซั่งกวนหรือไม่?”
“แน่นอนสิ เฟิงหลิงจักคู่ควรกับองค์หญิงติงตังได้อย่างไรกัน”
“เช่น,,,เช่นนั้นก็ได้ เจ้าเปลี่ยนจากติงตังเป็นตังตังด้วยนะ”