กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 637
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 637
“ตู้ม……”
เพียงชั่วพริบตาและไม่รู้ว่านางเอาแรงมาจากไหนถึงทำให้กุญแจมือและกุญแจข้อเท้าหลุดออก จากนั้นนิ้วมือของนางงอกกรงเล็บออกมาและมองไปยังกู้ชูหน่วน โดยมีรังสีอาฆาตและความโกรธแค้น ราวกับต้องการหักคอกู้ชูหน่วนให้ตายลงทั้งเป็น
แววตาของเยี่ยจิ่งหานเย็นชาลงในทันที แต่กลับไม่ลงมือทำอะไร
เจี้ยงเสวี่ยและชิงเฟิงรู้สึกร้อนรนและต่างเตรียมพร้อมจัดการกู้ชูอวิ๋น
แต่กลับคาดไม่ถึง ก่อนที่กู้ชูอวิ๋นจะไปถึงตรงหน้าของกู้ชูหน่วน ก็ได้กระอักเลือดสีดำออกมา จากนั้นจึงล้มลงอย่างหมดเรี่ยวแรงในท่าคุกเข่าต่อหน้ากู้ชูหน่วน
ราวกับกู้ชูหน่วนคาดเดาได้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นทั้งหมดนี้ นางกัดแอปเปิลและพูดด้วยความตกใจ “พี่รอง ต่อให้เจ้าต้องการขอบคุณข้า เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องแสดงออกอย่างยิ่งใหญ่เช่นนี้ ข้ากลัวว่าจะเป็นลางไม่ดีเหลือเกิน”
“เจ้า……เจ้าทำอะไรกับข้ากันแน่”
“อัยหยา แย่แล้ว ยาที่ข้าให้เจ้ากินไปเมื่อสักครู่กลับกลายเป็นยาพิษหรอกหรือ แต่พี่รองไม่ต้องเป็นกังวลไป ยาประเภทนี้ไม่มีอันตรายถึงชีวิตของเจ้า เพียงแค่ทำให้เลือดในร่างกายของเจ้าไหลย้อนกลับ กระดูกเปลี่ยนรูป อืม……ก็ประมาณว่าเจ็บปวดทุกข์ทรมานเหมือนตายทั้งเป็นน่ะ”
กู้ชูหน่วนเพิ่งจะพูดจบ เหงื่อที่หน้าผากของกู้ชูอวิ๋นก็หลั่งไหลออกมา ใบหน้าที่สวยงามแสดงความเจ็บปวดรวดร้าว นางทรมานจนจับกุมหัวใจของตัวเองและรู้สึกเพียงแค่ในร่างกายของนางมีลมปราณแท้ที่แข็งแกร่งคอยปั่นป่วนนางอยู่ ราวกับต้องการทำให้ร่างกายของนางนั้นฉีกขาดออกมา
เจ็บ……
เจ็บปวดอย่างมาก……
เจ็บปวดจนยากจะหายใจ
หยาดเหงื่อเม็ดใหญ่ของกู้ชูอวิ๋นหลั่งไหลออกมาไม่หยุด “เจ้า……เจ้าจงใจกลั่นแกล้งข้า?”
“หากเจ้าต้องการคิดเช่นนั้นก็คิดไปเถอะ ถึงอย่างไรเจ้าก็ต้องการเล่น ข้าเลยเล่นกับเจ้า ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าพี่รองจะมีความอดทนมากเพียงใด”
“กู้ชูหน่วน อย่าให้เจ้าตกอยู่ในเงื้อมมือของข้าบ้างล่ะ ไม่เช่นนั้น…..ข้าจะทำให้เจ้าต้องรู้สึกตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน”
“ได้ ข้าไม่มีความคิดเห็น แต่เจ้าควรจะคิดไตร่ตรองดูบ้างหรือไม่ ว่าจะมีชีวิตรอดพ้นจากเงื้อมมือของข้าไปได้อย่างไรแล้วค่อยพูดจะดีกว่า”
กู้ชูอวิ๋นกัดฟันกรอด ไม่ว่าจะเจ็บปวดเพียงใดก็ปฏิเสธที่จะขอความเมตตาและความอดทนเช่นนี้ทำให้กู้ชูหน่วนและคนอื่นๆ ต่างรู้สึกแปลกใจ
ชิงเฟิงถามขึ้นด้วยความโง่เขลา “พระชายา ท่านป้อนยาผิดให้กับนางจริงหรือขอรับ?”
“เจ้าคิดว่าอย่างไรล่ะ”
ชิงเฟิงลูบท้ายทอยของตัวเอง
เขาคิดว่าพระชายาไม่มีทางป้อนยาผิด นางจงใจอย่างแน่นอน แต่เหตุใดพระชายาจึงรู้ว่านางจะดิ้นรนจนหลุดออกจากการรัดกุม?
กู้ชูหน่วนถอนหายใจ
เดิมทีนางเพียงแค่สงสัยว่ากู้ชูอวิ๋นเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมาก
การแข่งขันไล่ล่าขุมทรัพย์ก็ได้เข้าร่วม อีกทั้งตลอดระยะเวลาแข่งขันก็ไม่มีข่าวคราวของนาง นางสามารถผจญภัยในการแข่งขันไล่ล่าขุมทรัพย์ได้ เช่นนั้นแล้วเหตุใดกู้ชูอวิ๋นจะออกไปผจญภัยด้วยไม่ได้?
อีกอย่าง……
ตั้งแต่ออกจากจวนอัครเสนาบดีมา ฝีเท้าของนางก็เบาลงกว่าเดิม และความเร็วก็เร็วกว่าเดิมมาก
ต่อให้นางจงใจแสร้งทำขึ้น อย่างน้อยก็จะเผยออกมาบ้างเล็กน้อย
กู้ชูหน่วนหาวและพูดขึ้นอย่างเกียจคร้าน “ง่วงเหลือเกิน ข้าไม่ต้องการชื่นชมสีหน้าอันเจ็บปวดทุกข์ทรมานของเจ้าอีกแล้ว เด็กๆ ทั้งหลาย จัดการกัดลงไป”
เสียงบอกให้กัด แววตาของกู้ชูหน่วนก็เปลี่ยนไปทันที เปลี่ยนไปอย่างอำมหิตเลือดเย็นและไร้ความปรานี
หลังจากคำสั่งของนางที่ออกไป สัตว์มีพิษเหล่านั้นราวกับถูกควบคุมและพากันเลื้อยคลานเข้าไปหากู้ชูอวิ๋นอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นกัดลงไปอย่างไม่หยุดยั้ง
“อ่า……”
ไม่ว่าจะเป็นสัตว์มีพิษชนิดใดล้วนต่างก็มีพิษร้ายแรงด้วยกันทั้งหมด มันกัดลงไปด้วยฟันอันแหลมคมจนกู้ชูอวิ๋นแทบอยากกลั้นใจตาย
นางอยากจะใช้กำลังภายในเพื่อให้สัตว์มีพิษเหล่านั้นกระเด็นออกไป แต่กลับไม่สามารถรวบรวมกำลังภายในร่างกายได้เลยแม้แต่นิดเดียว และทำได้เพียงปล่อยให้พวกมันกัดไปเช่นนั้น
“อ่า……”
กู้ชูอวิ๋นกรีดร้องออกมาอย่างโหยหวนโอดครวญและสะบัดสองแขนสองขาไปมา เพื่อต้องการให้สัตว์มีพิษเหล่านั้นหลุดออกไป แต่สัตว์มีพิษมีจำนวนมากเหลือเกิน ไม่ว่านางสะบัดอย่างไรก็ไม่สามารถสะบัดออกไปได้
งูพิษและแมงป่องเรียงรายเป็นแถวเข้าไปในกระโปรง แขนเสื้อ และอื่นๆ
เลือดค่อยๆไหลไปตามร่างกายของเธอ
เลือดที่ไหลออกมาไม่ใช่สีแดงสด แต่เป็นสีดำ
ทุกคนเห็นเข้าก็ต่างรู้สึกขนหัวลุก
สัตว์เหล่านี้ล้วนมีพิษ เพียงถูกกัดก็ต้องตายลง แต่เหตุใดนางถูกกัดไปมากมายเช่นนี้แล้วยังไม่เป็นอะไร
เป็นเพราะพระชายาทำอะไรลงไปอีกแล้วอย่างนั้นหรือ?
และเมื่อมองไปที่กู้ชูอวิ๋นที่เจ็บปวดทุกข์ทรมานจนดิ้นไปมากับพื้น นางกัดฟันกรอดและบ่นพึมพำด่าทอกู้ชูหน่วนไม่หยุด และความอ่อนโยนสง่างามของนางก็ไม่มีหลงเหลืออยู่ มีเพียงใบหน้าที่สยดสยอง
ทุกคนต่างพากันสงสารกู้ชูอวิ๋น แต่ก็รู้สึกว่านางสมควรโดนเช่นนี้
“ถอยไป ถอยไปเดี๋ยวนี้ กู้ชูหน่วนเจ้ารีบบอกให้พวกมันออกไปเดี๋ยวนี้ อ่า……กู้ชูหน่วน เจ้าทำเช่นนี้กับข้า หากวันนี้ข้ามีชีวิตรอดออกไป เช่นนั้นเจ้าจะต้องเสียใจอย่างแน่นอน”
เยี่ยจิ่งหานหัวเราะอย่างเยือกเย็น
ช่างไม่รู้อะไรเสียเลย
โง่เขลา
กลับไม่ดูว่านางมีโอกาสรอดออกไปหรือไม่
ต่อให้นางมีโอกาสออกไป เช่นนั้นแล้วสามารถทำอันตรายอันใดกับกู้ชูหน่วนได้อย่างนั้นหรือ?
ไม่ดูตัวเองเอาเสียเลย
กู้ชูหน่วนราวกับไม่ได้ยินในสิ่งที่นางพูดข่มขู่ เพียงแค่กล่าวออกมาอย่างเกียจคร้าน “ข้าบอกว่าพวกเจ้าจะพยายามกัดร่างกายของนางไปเพื่ออะไร ไม่เห็นใบหน้าอันสวยงามราวกับหยกของนางอย่างนั้นหรือ?”
เมื่อพูดจบ งูมีพิษหลากสีเหล่านั้นต่างพากันแย่งชิงกันเลื้อยขึ้นไปบนศีรษะของนาง
กู้ชูอวิ๋นกลัวใบหน้าของนางถูกกัดมากที่สุดและทำให้ใบหน้าของนางเสียโฉม ตอนนี้สัตว์มีพิษจำนวนมากต่างพากันเลื้อยคลานปีนป่ายขึ้นไป ไม่ว่านางจะเอามือปัดป้องอย่างไรก็ไม่เป็นผล
ร่างกายของนางถูกงูนับหมื่นกัดและเจ็บปวดจนนางแทบอยากตายเสียให้ได้
“อ่า……กู้ชูหน่วน……เจ้ากล้าทำเช่นนี้กับข้า เจ้ากล้าทำเช่นนี้กับข้า……”
“เจ้ากล้าใส่ร้ายสร้างความหายนะให้กับข้า เหตุใดข้าถึงไม่กล้าทำกับเจ้าล่ะ”
ชิงเฟิงและเจี้ยงเสวี่ยต่างพากันขนหัวลุก
พวกเขารู้ดีว่าสัตว์มีพิษเหล่านี้ไม่ก็จับมาไม่ได้เลย หรือจับมาได้ทั้งหมด ที่แท้ก็มีเหตุผลนี่เอง
พวกเขาสาบานได้ว่าสัตว์มีพิษเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังคำสั่งของพระชายา
หรือเป็นเพราะครั้งก่อนที่เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เลี้ยงอาหารเพื่องูด้วยกันที่จวนท่านอ๋อง ทำให้เพื่อนงูเหล่านี้รู้สึกขอบคุณในความเมตตาของพระชายา?
แม้แต่เชื้อเชิญเรียกเพื่อนๆ ทั้งแมงป่อง ตะขาบและสัตว์อื่นๆ อีกมากมายมากัน?
ชิงเฟิงและเจี้ยงเสวี่ยขนลุกและตัวสั่น จากนั้นถอยออกมาจากกู้ชูหน่วนเล็กน้อยเพราะกลัวว่าจะถูกนางกลั่นแกล้ง
และในขณะที่กู้ชูอวิ๋นร้อนรนกระวนกระวายใจและไร้หนทาง ฝูกวงก็ปรากฏตัวขึ้นและโค้งคำนับ “นายท่าน เจอตัวอาจารย์ซั่งกวนแล้วขอรับ และได้เชิญอาจารย์ซั่งกวนมาแล้วขอรับ ตอนนี้อาจารย์ซั่งกวนกำลังรออยู่ข้างนอก ให้เขาเข้ามาได้เลยหรือไม่ขอรับ?”
ชิงเฟิงตกตะลึง
นายท่านส่งคนจำนวนมากออกไปหาอาจารย์ซั่งกวนแต่ก็หาไม่พบ เหตุใดพวกเขาถึงหาเจอง่ายดายเช่นนี้?
เมื่อมองไปยังกู้ชูหน่วนที่กำลังเผยรอยยิ้มอันชั่วร้ายที่ผุดขึ้นที่มุมปาก
ชิงเฟิงรู้สึกสับสนเล็กน้อย
พระชายาพูดโกหก
นี่เป็นแผนวางที่วางไว้
ฝูกวงไม่ได้หาอาจารย์ซั่งกวนเจอจริงๆ
ความคิดนั้นแวบหายไปไม่นาน จากนั้นก็กลับเห็นกู้ชูอวิ๋นราวกับบ้าคลั่งและโกรธคำราม “ไม่ต้องให้เขาเข้ามา ข้าไม่สามารถให้เขาเห็นใบหน้าของข้าในตอนนี้ได้ และยิ่งไม่สามารถให้เขาเห็นว่าข้าเสียโฉม อ่า…”
กู้ชูอวิ๋นบีบคอของนางแน่น ตรงนั้นถูกกัดไปหลายครั้งและเลือดสีดำก็ไหลออกมาไม่หยุด
นางไม่มีเรี่ยวแรงขัดขวางสัตว์มีพิษเหล่านั้นไม่ให้ขึ้นไปบนใบหน้าของนางอีกแล้ว
เมื่อมองออกไปก็เห็นกู้ชูหน่วนเยี่ยจิ่งหาน สองสามีภรรยานั่งเฉยอยู่อีกฝั่งโดยไม่สนใจความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับนาง ถึงขั้นรู้สึกยินดีปรีดาในความโชคร้ายของผู้อื่น
กู้ชูอวิ๋นกัดฟันกรอดและกล่าวว่า “เจ้าบอกให้พวกมันหยุดเดี๋ยวนี้ แล้วข้าจะบอกเจ้าทุกอย่าง”
“พี่รอง หากเจ้าพูดเร็วกว่านี้ เช่นนั้นคงไม่ต้องทุกข์ทรมานเจ็บปวดเช่นนี้ เฮ้อ……ข้ารู้สึกสงสารเจ้าเหลือเกิน เด็กๆ ทั้งหลายพอได้แล้ว พวกเจ้ากินกันอิ่มมากพอแล้ว ครั้งหน้าหากมีเรื่องราวดีๆ เช่นนี้อีก ข้าค่อยเชิญพวกเจ้ามาอีก”
เมื่อนางพูดจบ สัตว์มีพิษทุกตัวราวหยุดนิ่งและพากันออกไป
“พูดมาสิ พี่รอง……”
“เจ้าและเยี่ยจิ่งหานเป็นพี่น้องที่เกิดจากพ่อแม่คนเดียวกัน”