กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 660
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 660
นัยน์ตาของเยี่ยจิ่งหานสงบราวกับบ่อน้ำโบราณที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นบึ้ง และมองไม่ออกว่ารู้สึกอย่างไร เขาเพียงแค่จ้องมองไปที่จอมมาร
จอมมารถูกเขาจ้องมองอย่างยากที่จะเข้าใจ เขายังคิดว่าเมื่อครู่รองหัวหน้าเผ่าซือคงสาดสิ่งปฏิกูลใส่เขา และสิ่งตกค้างก็หลงเหลืออยู่บนร่างกายของเขา เขาจึงร้องตะโกนด้วยความตกใจ
ดอกลำโพงหุบลง จอมมารมองดูเสื้อผ้าของตัวเองอย่างละเอียด เพื่อดูว่าสกปรกหรือไม่
เสื้อผ้าไม่สกปรก แต่เขารู้สึกว่าร่างกายของเขาเหม็นมาก
“พี่หญิง ในเมื่อจับตัวรองหัวหน้าเผ่าซือคงได้แล้ว เช่นนั้นข้าจะไปอาบน้ำก่อน แล้วค่อยกลับมา”
กู้ชูหน่วนยังไม่ทันจะได้พูด จอมมารก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
ในเวลานี้บรรยากาศดูแปลก ๆ
กู้ชูหน่วนและเยี่ยจิ่งหานมองหน้ากัน และไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
หลังจากนั้นไม่นาน เยี่ยจิ่งหานก็สกัดจุดหลัก ๆ ทั่วร่างกายของรองหัวหน้าเผ่าซือคง เพื่อผนึกวรยุทธของเขาไว้ชั่วคราว ก่อนที่จะเก็บขลุ่ยหยกขาว
เขาหันหน้าไปและกล่าวอย่างเมินเฉย “จับตัวคนได้แล้ว ข้าก็ควรจะไปได้แล้วเช่นกัน”
“ขวับ…..” เงาสีม่วงหายตัวไปอย่างรวดเร็ว ราวกับสายฟ้าแลบ
หากไม่ใช่เพราะรองหัวหน้าเผ่าซือคงถูกจับตัวไว้แล้ว ก็คงจะคิดว่าสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นเพียงภาพลวงตา
กู้ชูหน่วนมองไปยังทิศทางที่เยี่ยจิ่งหานหายตัวไป และพูดไม่อะไรอยู่นาน จนกระทั่งเสี่ยวลู่เรียก กู้ชูหน่วนจึงรู้สึกตัว
นางเดินไปข้างหน้ารองหัวหน้าเผ่าซือคงและมองลงไปที่เขา
“ชายชราชุดดำที่ไล่ฆ่าข้าเมื่อวานใช่ท่านหรือไม่”
รองหัวหน้าเผ่าซือคงเบือนหน้าหนี และพ่นลมหายใจออกมาจากจมูกอย่างเยือกเย็น
ลูกน้องของกู้ชูหน่วนเตะเขาอย่างแรงในทันที
“ตกเป็นเชลย แล้วยังกล้ากำแหง นายท่าน ข้าว่าฆ่าเขาเสียเลยจะดีกว่า”
กู้ชูหน่วนกล่าวอย่างเมินเฉย “ไม่สำคัญว่าท่านจะเป็นชายชราชุดดำหรือไม่ และท่านจะเป็นเจ้าหอของหอวิญญาณทมิฬหรือไม่ก็ไม่สำคัญเช่นกัน ข้าขอถามท่านเพียงแค่สามเรื่อง หากท่านตอบตามความจริง บางทีข้าอาจจะเหลือศพของท่านไว้ มิเช่นนั้น……”
คำข่มขู่ของนางไม่ต้องพูดก็ชัดเจนอยู่แล้ว
และรองหัวหน้าเผ่าซือคงก็เชื่อว่านางจะต้องทำอย่างแน่นอน ถึงอย่างไรความบาดหมางระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นเพียงวันสองวัน
“เรื่องแรกคือ ลั่วอิ่งเป็นผู้ที่ท่านเลี้ยงดูมาใช่หรือไม่?เป็นท่านที่ลักพาตัวพระโอรสฝาแฝดที่เพิ่งคลอดมาจากอัครมเหสีฉู่ และแยกพวกเขาออกจากกัน คนหนึ่งถูกส่งไปยังเผ่าปีศาจ เพื่อให้เป็นของเล่นของผู้นำกองธงกล้วยไม้ และอีกคนหนึ่งถูกส่งไปยังหอวิญญาณทมิฬ เพื่อให้เป็นมือสังหาร ใช่หรือไม่?”
“เจ้าจะฆ่าก็ฆ่า หยุดพูดจาไร้สาระได้แล้ว”
แม้ว่ารองหัวหน้าเผ่าซือคงจะถูกสกัดจุด ถูกผนึกวรยุทธ อีกทั้งยังได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เขาก็ไม่มีท่าทีว่าจะเจียมตัวหรือขอความสงสารเลยแม้แต่น้อย เขากลับทำตัวสูงส่ง และมองผู้อื่นอย่างดูถูกเหยียดหยาม
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกล่าวถึงอัครมเหสีฉู่หรือไม่ สีหน้าของรองหัวหน้าเผ่าซือคงถึงดูไม่ค่อยดี นัก และดูตื่นตระหนก
“ดูเหมือนว่าข้าจะเดาถูก ท่านหลงรักอัครมเหสีฉู่ แต่อัครมเหสีฉู่และจักรพรรดิฉู่รักกันอย่างลึกซึ้ง ท่านไม่พอใจ ดังนั้นจึงฉวยโอกาสตอนที่อัครมเหสีฉู่คลอดบุตร ลักพาตัวพระโอรสฝาแฝดที่เพิ่งคลอดของนางไป ทำให้อัครมเหสีฉู่ตรอมใจ จนร่างกายเสื่อมถอยลงอย่างรวดเร็ว และมีชีวิตอยู่อย่างทุกข์ทรมานใจ”
“อีกทั้งยังทำให้ลั่วอิ่งและเยี่ยเฟิงมีชีวิตอยู่อย่างน่าเวทนา ตาเฒ่าซือคง จิตใจของท่านมันโหดเหี้ยมผิดมนุษย์มนา”
ทันใดนั้นรองหัวหน้าเผ่าซือคงก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง และยิ้มอย่างน่าสยดสยอง
เพราะในรอยยิ้มของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
“ข้าโหดเหี้ยม?เมื่อเทียบกับพวกเขาแล้ว ความโหดเหี้ยมของข้าจะนับเป็นอะไรได้ ข้ายอมทิ้งทุกอย่างเพื่อนาง แม้แต่ตำแหน่งหัวหน้าเผ่าเพลิงฟ้าก็ไม่ได้ต้องการ และเกือบจะเอาชีวิตไปทิ้ง แต่ข้าได้อะไรมาบ้าง สิ่งที่ข้าได้มาเป็นความเมินเฉยของนาง ความไม่แยแสของนาง ในสายตาของนาง ข้าเป็นเพียงคนที่คิดเข้าข้างตัวเองฝ่ายเดียว”
“เดิมทีท่านก็เป็นคนที่คิดเข้าข้างตัวเองฝ่ายเดียว ตั้งแต่ต้นจนจบอัครมเหสีฉู่รักเพียงแค่จักรพรรดิฉู่เพียงคนเดียว นางไม่ได้ทำผิดต่อท่าน?แต่ท่านกลับใช้วิธีการที่โหดเหี้ยมเช่นนี้ ทำไมพวกเขาแม่ลูกต้องพลัดพรากจากกันเกือบยี่สิบปี”
“ข้ารู้จักกับนางก่อน จักรพรรดิฉู่เป็นเพียงผู้ที่มาที่หลัง เขาต่างหากที่เข้ามาแทรก”
“ท่านรู้จักกับนางก่อน แล้วนางจะต้องชอบท่านอย่างนั้นหรือ?ท่านมีตรรกะแบบไหนกัน?หรือว่าข้ารู้จักเซี่ยวอวี่เซวียนก่อน ข้าก็ควรจะชอบเซี่ยวอวี่เซวียนอย่างนั้นหรือ?”
กู้ชูหน่วนแทบอยากจะทะลวงร่างของเขา
ภาพการตายอย่างน่าอนาถของเยี่ยเฟิง ภาพการดูถูกเหยียดหยามของเขายังคงอยู่ในหัวของนาง และไม่สามารถลบเลือนออกไปได้
เป็นเพราะความเห็นแก่ตัวของเขา เยี่ยเฟิงจึงถูกทรมานตั้งแต่เด็ก เขาเป็นของเล่นระบายอารมณ์มานานกว่าสิบปี และในที่สุดก็ตายอย่างน่าอนาถที่หุบเขาโลหิตหูหลู
ลั่วอิ่งเป็นคนดีคนหนึ่ง แต่เขาถูกฝึกฝนให้เป็นมือสังหารตั้งแต่เด็ก และกลายเป็นเครื่องมือที่ฆ่าคนอย่างโหดเหี้ยมและไร้ความปรานี
เดิมทีพวกเขาควรจะเป็นองค์ชายที่อยู่เหนือผู้คนนับหมื่น มีครอบครัวที่มีความสุขและมีฐานะที่สูงส่ง
เมื่อนึกถึงเยี่ยเฟิง หัวใจที่สงบของกู้ชูหน่วนก็ดูเหมือนจะถูกก้อนหินถาโถมเข้ามาใส่ และหายใจติดขัดอยู่นาน
“เจ้าเด็กโสโครก เจ้าจะไปเข้าใจอะไร” รองหัวหน้าเผ่าซือคงต่อว่า
“ใช่ ข้าไม่เข้าใจ ท่านต่ำช้าไร้ยางอาย เห็นแก่ตัว นึกถึงแต่ตนเอง นอกจากตัวท่านเองแล้ว เกรงว่าในใต้หล้าก็คงจะไม่มีใครเข้าใจท่าน”
“ความรักที่ข้ามีต่อนาง ไม่เคยเปลี่ยนแปลง เป็นนางที่ผิดต่อข้า”
“ความรัก?ท่านคู่ควรที่จะพูดว่าความรักหรือ?การชอบใครสักคนจริง ๆ ต้องอยากให้เขามีชีวิตที่ดีและมีความสุข แล้วท่านล่ะ?ท่านไม่ได้ชอบนาง ท่านเพียงแค่ไม่ได้มา และไม่ยอมรับ ดังนั้นท่านจึงทำทุกวิถีทางที่จะทำลายทุกอย่าง ท่านต้องการทำให้นางนึกเสียใจ ต้องการทำให้นางทุกข์ทรมาน เดิมทีแล้วท่านไม่ได้รักนางเลย”
เสี่ยวลู่ยิ้มยิ้มเยาะและกล่าวว่า “นายท่าน พูดไร้สาระอะไรกับกากเดนเช่นนี้ ให้ผู้น้อยตัดแขนขาของเขาเสียก่อนจะดีกว่า”
ผู้คนของนิกายเทพอสูรแทบอยากจะเข้าไปฆ่าเขา
กู้ชูหน่วนสูดหายใจเข้าลึก ๆ และพยายามระงับสติอารมณ์ของตนเอง
“ท่านฆ่าท่านแม่ทัพใหญ่เซี่ยว และแย่งชิงไข่มุกมังกรไปใช่หรือไม่?ท่านจงใจปล่อยข่าวออกไป เพื่อให้กู้ชูอวิ๋นตามหาจดหมายโลหิตที่พระสนมอวี้ทิ้งไว้ในตอนนั้น และให้นางปลอมตัวเป็นข้าเพื่อเข้าไปใกล้ชิดกับท่านแม่ทัพใหญ่เซี่ยว และต้องการรู้ว่าไข่มุกมังกรอยู่ในร่างของเขาหรือไม่”
“กู้ชูอวิ๋นละเอียดรอบคอบ ท่านกลัวว่านางจะรู้ตัวตนของท่าน จากนั้นก็ทำให้คนของเผ่าเพลิงฟ้ารู้ว่าท่านแย่งชิงไข่มุกมังกรไป แต่ท่านก็ยังไม่วางใจ และให้กู้ชูหลานที่โง่เขลามาสวมรอยเป็นข้า”
“ก่อนที่ท่านแม่ทัพใหญ่เซี่ยวจะเสียชีวิตดวงตาของเขาดูตกตะลึง น่าจะเป็นเขาเห็นคนที่ลอบสังหารเขาจากด้านหลัง หน้าตาเหมือนกับกับข้า ท่านแม่ทัพใหญ่เป็นทหารมาทั้งชีวิต แม้ว่าเขาเห็นด้วยตาตัวเองว่าข้าฆ่าเขา เขาก็ไม่มีทางที่จะเชื่อว่าคนผู้นั้นเป็นข้าจริง ๆ ดังนั้น……เขาจึงรู้ตัวตนที่แท้จริงของกู้ชูหลาน และพยายามที่จะเขียนคำว่ากู้ลงไปบนพื้น”
“อย่างไรก็ตาม ทุกคนต่างคิดว่าคำว่ากู้ที่ท่านแม่ทัพใหญ่เขียน หมายความว่าข้าฆ่าเขา”
“ท่านประมือกับข้ามาหลายครั้งแล้ว และรู้ว่าข้าเชี่ยวชาญเรื่องอาวุธลับและยาพิษ ดังนั้นท่านจึงเลียนแบบอาวุธอาบยาพิษของข้า และลอบสังหารท่านแม่ทัพใหญ่เซี่ยว เพื่อทำให้ทุกคนคิดว่าข้าเป็นคนที่ฆ่าท่านแม่ทัพใหญ่เซี่ยว และข้าก็เป็นคนบดขยี้หัวใจของเขา แต่ท่านคงคิดไม่ถึงว่าเซี่ยวอวี่โหลว เซี่ยวหว่านเอ๋อร์ เซี่ยวอวี่เซวียน และคนอื่น ๆ ในจวนแม่ทัพจะเชื่อข้าอย่างไม่มีเงื่อนไข จนถึงตอนนี้ก็ไม่ได้ทำให้ข้าลำบากใจ”
แต่ละประโยคที่กู้ชูหน่วนพูด ทำให้สีหน้าของรองหัวหน้าเผ่าซือคงทรุดลงเรื่อย ๆ
หญิงผู้นี้สามารถอนุมานความจริงทั้งหมดได้จากเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ และตรรกะความคิดก็เทียบไม่ได้กับคนธรรมดาทั่วไปจริง ๆ