กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 792
เมื่อยิ่งเดินเข้าไปข้างใน กลิ่นอากาศพิษก็ยิ่งรุนแรงขึ้น ทั้งสองอดไม่ได้ที่จะกินยากันพิษอีกคนละหนึ่งเม็ด
ตลอดระยะทางที่เดินผ่าน บนพื้นนั้นเต็มไปด้วยศพจำนวนไม่น้อย
ศพเหล่านี้บางส่วนถูกสัตว์ร้ายกัดกินจนตาย บางส่วนก็ถูกพิษจนตายและบางส่วนก็ถูกพลังฝ่ามือและของมีคมทำร้ายจนบาดเจ็บตาย
เซี่ยวอวี่เซวียนกล่าวว่า “ตระกูลใหญ่ทั้งสี่ได้มาที่นี่แล้วสามตระกูล มีตระกูลไป๋หลี่ ตระกูลเหวินและตระกูลซั่งกวนต่างก็มากันแล้ว เราได้เข้ามาถึงยังส่วนที่ลึกของหุบเขาเจียงเจ๋อซานแล้ว เจ้าระมัดระวังตัวเองด้วยล่ะ”
กู้ชูหน่วนค้นร่างศพไปมาอยู่ครู่หนึ่ง ค้นหาอยู่นานแต่ก็ไม่พบเจออะไร จากนั้นจึงบ่นออกมา “ตระกูลใหญ่สามตระกูลอะไรกัน ขอทานทั้งสามล่ะสิไม่ว่า”
เซี่ยวอวี่เซวียนหัวเราะออกมา
“เข้ามายังหุบเขาเจียงเจ๋อซานเพื่อมาหาเก็บเศษของมีค่า”
“ใครทำให้ข้าไม่มีครอบครัวที่คอยสนับสนุนล่ะ เช่นนั้นข้าจึงต้องออกมาผจญภัยเช่นนี้แหล่ะ”
กู้ชูหน่วนเดินไปข้างหน้าและหยิบกระสอบป่านที่ตัวเองเตรียมมา และเก็บพืชสมุนไพรล้ำค่าตลอดทางที่เจอใส่ลงไป
เซี่ยวอวี่เซวียนมองไปยังกระสอบป่านที่มีขนาดใหญ่กว่าเขาและรู้สึกหมดคำพูด
แต่เขากลับค้นพบว่า ถึงแม้ว่ากู้ชูหน่วนจะมีความโลภมาก แต่พืชสมุนไพรที่เก็บมานั้นล้วนเป็นพืชสมุนไพรที่ดี พืชสมุนไพรธรรมนั้นนางไม่เก็บเลย
เขาเกิดความสงสัย “เจ้าสามารถปรุงกลั่นยาหรือ?”
“การปรุงกลั่นยานั้นถือเป็นสิ่งที่สูงส่ง ข้าจะไปมีปัญญาทำได้อย่างไร ข้าเพียงแค่รู้เรื่องการรักษาเล็กน้อยเท่านั้น”
เซี่ยวอวี่เซวียนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง พืชสมุนไพรเหล่านี้ล้วนเป็นพืชสมุนไพรชั้นเยี่ยมสำหรับการปรุงกลั่นยา
“ตึ่งๆๆ……”
พื้นดินสั่นสะเทือนเล็กน้อย จากนั้นแสงหลากสีก็ส่องไปบนท้องฟ้า
ดวงตาของกู้ชูหน่วนเบิกกว้างและสว่างขึ้นทันที
“มีสมบัติล้ำค่าจากสวรรค์ถือกำเนิดขึ้นบนโลกแล้ว”
นางไม่พูดอะไรและเดินไปยังบริเวณที่มีแสงสว่างปรากฏขึ้น
เซี่ยวอวี่เซวียนหมดคำพูดโดยสมบูรณ์
มีความสามารถด้านการต่อสู้เพียงน้อยนิด แต่กลับกล้าไปแย่งชิงสมบัติล้ำค่า?
นางไม่รู้เลยหรือว่าโดยปกติแล้วสถานที่ที่มีสมบัติล้ำค่าจากสวรรค์นั้น มักจะมีอสูรร้ายคอยปกป้องคุ้มครองอยู่?
นางไม่รู้เลยหรือว่าเสียงที่ดังกึกก้องจนพื้นดินสั่นสะเทือนเมื่อสักครู่นั้น เป็นเสียงการต่อสู้ของยอดฝีมือและอสูรร้าย?
เขารีบร้อนที่จะค้นหาของเหลววิญญาณไท่ยี
แต่ก็ต้องตามเข้าไป
“แม่ผู้หญิงไม่รู้จักที่ตาย”
เซี่ยวอวี่เซวียนกระทืบเท้าและไม่รู้ว่าเหตุใดเขาถึงต้องพานางที่เป็นตัวถ่วงมาด้วย
เมื่อเซี่ยวอวี่เซวียนเดินทางไปถึง
เขารู้สึกสับสนยุ่งเหยิงมาก
เหตุการณ์ตรงหน้าเป็นอย่างไรกัน
ราชสีห์สองหัวระดับสองกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดกับคนของตระกูลไป๋หลี่
กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าไปดึงดูดสิงโตระดับหนึ่งนับร้อยมาจากที่ไหนกัน จึงทำให้การต่อสู้นี้ขยายออกไปอย่างไม่สิ้นสุด
คนของตระกูลไป๋หลี่มีกันทั้งหมดสิบกว่าคน เดิมทีพวกเขาเป็นฝ่านได้เปรียบ แต่เมื่อสิงโตระดับหนึ่งนับร้อยเข้ามา พวกเขาก็ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
ไป๋หลี่เจิ้นก็อยู่ข้างในด้วยเช่นกัน เขาตะโกนขึ้นด้วยความตื่นตระหนก “เกิดอะไรขึ้น สิงโตนับร้อยตัวนั้นถูกเราปิดล้อมแล้วไม่ใช่หรือ?”
“ข้าน้อย……ข้าน้อยก็ไม่ทราบเช่นกันขอรับ”
“เร็วเข้า รีบจุดพลุส่งสัญญาณเพื่อขอความช่วยเหลือเร็วเข้า”
“ขอรับ”
“โฮ่ว……”
ศิษย์กว่าสิบคนถูกกัดจนตายต่อหน้าต่อตาไปเกือบครึ่ง
มุมปากของกู้ชูหน่วนกระตุกและใช้โอกาสนี้ปีนขึ้นต้นไม้ จากนั้นโอบอุ้มผลไม้เคลือบหลากสีล้ำค่าที่เพิ่งสุกไว้ในอ้อมแขน
นางวิ่งอย่างรวดเร็ว วิ่งพลางพร้อมกับกินผลไม้เคลือบเจ็ดประการอันล้ำค่าเข้าไป
ไป๋หลี่เจิ้นเห็นเข้า
เขาโกรธจัด
ตระกูลไป๋หลี่สละชีวิตไปเป็นจำนวนมาก ไม่ง่ายเลยที่จะขังสิงโตเหล่านั้นไว้ได้
เดิมทีผลไม้เคลือบหลากสีนั้นเป็นของพวกเขา แต่ตอนนี้กลับถูกนังผู้หญิงชั่วมู่หน่วนคนนั้นแย่งชิงไป
โกรธ……
โกรธมากเหลือเกิน
ไป๋หลี่เจิ้นอยากจะฆ่านาง
อย่างไรก็ตาม สิงโตเหล่านั้นกลับไล่ล่าพวกเขาไม่หยุด กำลังความสามารถของเขานั้นแข็งแกร่งกว่าสิงโต แต่เพราะจำนวนที่มากกว่า จึงทำให้ไม่สามารถต่อสู้ชนะพวกมันได้
เซี่ยวอวี่เซวียนอดเสียวสันหลังแทนนางไม่ได้
กินผลไม้เคลือบเจ็ดประการอันล้ำค่าเข้าไป?
นางไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือ?
ไม่รู้หรือว่าผลไม้เคลือบเจ็ดประการนี้ต้องผ่านการหล่อหลวมก่อน?
เซี่ยวอวี่เซวียนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เร็วราวกับสายฟ้า
เขาขัดขวางกู้ชูหน่วน ขมวดคิ้วและกล่าวว่า “รีบคายผลไม้เคลือบเจ็ดประการออกมาเดี๋ยวนี้”
“ถูกข้ากินไปหมดแล้วและได้กลืนไปหมดแล้ว”
“…”
กินไปหมดในเวลาอันรวดเร็วอย่างนั้นหรือ?
แม้แต่เม็ดก็กินเข้าไปด้วยอย่างนั้นหรือ?
“เจ้านี่ช่าง……เสียจริง” เซี่ยวอวี่เซวียนไม่รู้ว่าจะอธิบายนางอย่างไร
กู้ชูหน่วนหาที่นั่งลงเพื่อแอบซ่อน จากนั้นกล่าวอย่างไม่เกรงใจ “ในร่างกายของข้ามีพลังงานมหาศาลกำลังพุ่งชนข้าตลอดเวลา เจ้าช่วยรับหน้าแทนข้าสักครู่หนึ่งเถอะนะ”
“……”
เช่นนั้นยังเรียกว่ารับหน้าแทนอีกหรือ?
ผลไม้เคลือบเจ็ดประการถูกนางแย่งชิงไปแล้ว
สิงโตดุร้ายเหล่านั้นก็ไม่ใช่สิ่งของที่มันจะไม่ไล่ตาม?
แล้วมีหรือที่คนของตระกูลไป๋หลี่จะไม่ไล่ล่าตามมา
นางเชื่อมั่นในตัวของเขาเกินไป
หรือว่าเห็นเขาเป็นคนใช้ที่คอยออกคำสั่งอย่างนั้นหรือ?
เซี่ยวอวี่เซวียนโบกมือเพื่อสร้างเกราะกำบังที่มองไม่เห็น เพื่อปกปิดลมหายใจของเขาและกู้ชูหน่วน
ผลไม้เคลือบเจ็ดประการเป็นยาศักดิ์สิทธิ์ระดับขั้นที่สอง นางมีความสามารถด้านการต่อสู้เพียงระดับหนึ่งเท่านั้นนั้นแต่กลับกินเข้าไป หากไม่อิ่มจนระเบิดสิแปลก
เซี่ยวอวี่เซวียนครุ่นคิดว่าจะช่วยชีวิตนางได้อย่างไร
ภายใต้เกราะกำบัง กู้ชูหน่วนขมวดคิ้วอย่างเจ็บปวด ร่างกายของนางเปลี่ยนเป็นสีแดงและสีขาวตลอดเวลา พลังมหาศาลปะทุอยู่ในร่างกายของนางจนนางเจ็บปวดทรมาน นางกัดฟันแน่นและไม่ส่งเสียงร้องออกมาสักนิด
“หากข้าทำลายเส้นชีพจรการต่อสู้ของเจ้าไป จากนั้นดึงดูดผลไม้เคลือบเจ็ดประการออกมาก็จะสามารถช่วยชีวิตของเจ้าได้ เช่นนี้เจ้ายอมหรือไม่?”
“ไม่ยอมเด็ดขาด ไม่ง่ายเลยที่ข้าจะกลืนผลไม้เคลือบเจ็ดประการนี้ไปได้ และข้าทำเพื่อเพิ่มระดับความสามารถ หากเจ้ากล้านำออกมา เช่นนั้นเจ้าได้เห็นดีแน่ เงียบได้แล้ว เจ้าเสียงดังเกินไปแล้ว”
เซี่ยวอวี่เซวียน “……”
เขาช่างหาเรื่องใส่ตัวเหลือเกิน
กลับไม่ไปค้นหาของเหลววิญญาณไท่ยี
แต่กลับมาเสียเวลากับผู้หญิงที่ไม่รู้ว่าจะเป็นจะตายเมื่อไร
หากไม่คายผลไม้เคลือบเจ็ดประการออกมา เช่นนั้นนางต้องตายอย่างไม่มีข้อสงสัย
และสิ่งที่เขาคิดไม่ถึงก็คือ กู้ชูหน่วนกลับรู้วิธีการหายใจ เส้นชีพจรระดับการต่อสู้ต่ำต้อยเช่นนี้ แต่กลับสามารถกลืนผลไม้เคลือบเจ็ดประการเข้าไปหลอมรวมในร่างกายได้ เพื่อให้นางสามารถสร้างมันขึ้นมาได้เอง
นี่……
นี่ไม่ได้มีเพียงยอดฝีมือระดับสี่ขึ้นไปถึงจะสามารถทำได้หรอกหรือ?
นางทำได้อย่างไรกัน
“ตู้ม……”
แสงหนึ่งปรากฏขึ้นและตกลงอย่างรวดเร็ว
กู้ชูหน่วนที่มีระดับการต่อสู้เพียงขั้นที่หนึ่ง เพิ่มขึ้นเป็นขั้นที่สอง และเพิ่มเป็นขั้นที่สาม
ภายในระยะเวลาธูปหนึ่งดอก กู้ชูหน่วนจึงค่อยๆ หายใจเป็นปกติและเช็ดเหงื่อที่ไหลออกมา จากนั้นกล่าวว่า “เจ็บเหลือเกิน หมกมุ่นอยู่นาน แต่เหตุใดถึงเพิ่มขึ้นเพียงระดับขั้นที่สามเท่านั้น”
เซี่ยวอวี่เซวียน “……”
ระยะเวลาธูปหนึ่งดอก แต่เพิ่มขึ้นถึงระดับขั้นที่สาม นางยังไม่พอใจอีกหรือ?
มีหลากคนที่กว่าจะเพิ่มได้แต่ละขั้นต้องใช้เวลากว่าหลายปี
และบางคนใช้เวลากว่าสิบปีก็ไม่สามารถเพิ่มความสามารถขึ้นได้แม้แต่ขั้นเดียว
สิ่งที่ทำให้เขาสงสัยก็คือร่างกายภายในของผู้หญิงคนนี้กลับสามารถหล่อหลอมผลไม้เคลือบเจ็ดประการได้ ผู้หญิงคนช่างไม่ธรรมดาจริงๆ
กู้ชูหน่วนลุกขึ้นยืนและจัดระเบียบเสื้อผ้าที่ยับ นางรู้สึกว่าร่างกายของนางเบาขึ้นมาก
“คนอื่นข้าไม่รู้ ไป๋หลี่เจิ้นมีความสามารถระดับสี่ เขาต้องอดทนไม่ได้อย่างแน่นอน”
“ระดับสี่……เช่นนั้นแล้วในร่างกายของเขาจะต้องมีสมบัติล้ำค่าใช่หรือไม่?”
ตาของเซี่ยวอวี่เซวียนกระตุก ความรู้สึกนี้ช่างคุ้นเคยเหลือเกิน
โดยเฉพาะดวงตาเจ้าเล่ห์คู่นั้นของนาง
“เจ้าคิดจะทำอะไร?”
“ไปขอสมบัติล้ำค่ามาสักหน่อยเป็นอย่างไร?”
เซี่ยวอวี่เซวียนอดไม่ได้ที่จะตักเตือนนางอีกครั้ง “ตอนนี้เจ้ามีความสามารถเพียงระดับขั้นที่สามเท่านั้น ความสามารถของพวกเจ้าสองคนต่างกันราวฟ้ากับดิน”
“ความสูงนั้นไม่ได้เป็นอุปสรรค ความสามารถก็ไม่ใช่ปัญหา ใครบอกว่าเส้นชีพจรขั้นที่สามไม่สามารถสู้กับความสามารถระดับสี่ได้”
“บ้าไปแล้ว……”
“เสี่ยวเซวียนเซวียน เรามาร่วมมือกันเถอะเพื่อจะได้สมบัติล้ำค่ามา จากนั้นนำมาแบ่งกันคนละครึ่ง”
“ข้าไม่สนใจ”
“เช่นนั้นก็ได้ ในเมื่อเจ้าไม่ยอม งั้นข้าไปจัดการเอง”
นางพูดจบก็เดินอ้อมกลับไปจริงๆ
เซี่ยวอวี่เซวียนยังคงอึ้งยืนอยู่กับที่
นี่คือ……
ลูกวัวแรกเกิดไม่เกรงกลัวเสือ?
ช่างน่าโมโหนัก
เหตุใดเขาต้องพบเจอผู้หญิงบ้าคลั่งอย่างนางด้วยนะ
แต่หากปล่อยนางไป เขาก็ทำไม่ลง
แต่การช่วยนาง ก็เป็นเรื่องที่ทำให้ตัวเองต้องเสียเวลาไปเปล่าๆ