กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 803
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 803
ตระกูลไป๋หลี่เป็นตระกูลที่มีหน้ามีตา คานเรือนของที่นี่ได้แกะสลักและวาดลวายวิจิตรงดงาม บรรยากาศไม่ธรรมดา เรือนแต่ละเรือนเชื่อมต่อกันซึ่งเทียบได้กับวังหลวงเลย
ที่่ทางที่นี่ก็สลับซับซ้อนยิ่งนัก สถานที่หลายแห่งไร้ซึ่งค่ายกลและกลไก
ผู้คนที่หมุนเวียนกันไปมานั้นกู้ชูหน่วนไม่รู้จักเลย รู้เพียงว่าความแข็งแกร่งของพวกเขาไม่เบาเลย
ยังไม่ทันที่นางจะสถานที่พักพิงชั่วคราวก็ถูกพ่อบ้านจัดแจงให้ไปรดน้ำดอกไม้แล้ว
มุมหนึ่งอันห่างไกลของสวนดอกไม้
กู้ชูหน่วนด้านหนึ่งรดน้ำดอกไม้อีกด้านหนึ่งมองดูที่ทางของตระกูลไป๋หลี่อย่างละเอียดถี่ถ้วนตระเตรียมตรวจดูตระกูลไป๋หลี่เพื่อไม่ให้นางเข้ามาเสียเที่ยวรอบหนึ่ง
ได้ยินการสนทนาระหว่างไป๋หลี่เจิ้นกับไป๋หลี่หมิงบนศาลาไม่ค่อยชัดอยู่ข้างๆหู
“ท่านปู่ ความแข็งแกร่งของนางพุ่งสูงขึ้นถึงของจุดเส้นวรยุทธ์ระดับห้าแล้วหรือ? จะไม่เกินจริงไปหน่อยหรือนางเป็นเพียงแค่คนไร้ประโยชน์นะ”
“หมิงเอ๋อร์ เริ่มแรกปู่ก็ไม่เชื่อแต่ทุกอย่างล้วนเป็นไปได้ทั้งสิ้น อย่าได้ลืมของเหลววิญญาณไท่ยี”
หากรู้ว่านางได้พุ่งทะยานขึ้นถึงระดับห้าของจจุดเส้นวรยุทธ์ เขาจะต้องจัดยอดฝีมือลำดับสูงไปลอบสังหารนางเป็นแน่แต่ไม่ใช่เป็นผู้ที่มีความแข็งแกร่งใกล้เคียงกับนาง
ไป๋หลี่หมิงตบโต๊ะ “ข้ารู้อยู่แล้วว่าของเหลววิญญาณไท่ยีต้องถูกนางกลืนลงไปเองส่วนตัวแล้ว ไม่เข้าใจจริงๆว่าเหตุใดเยี่ยจิ่งหานถึงได้ปกป้องนาง ท่านปู่ข้ากล้ำกลืนฝืนทนไม่ได้ ก็แค่มู่หน่วนผู้หนึ่งก็แค่จวนมู่จวนหนึ่งเหตุใดถึงไม่สามารถทำลายพวกเขาทิ้งเลยในทันที”
“ทำลายพวกเขานั้นง่ายดายแต่เยี่ยจิ่งหานมีใจที่จะปกป้อง หากว่าทำลายก็จะทำให้เขาขุ่นเคืองเป็นแน่ ตอนนี้ตระกูลไป๋หลี่ของเราไม่สามารถทำให้เยี่ยจิ่งหานโกรธเคืองซึ่งๆหน้าได้”
“เยี่ยจิ่งหานเป็นผู้ใดกันแน่ เหตุใดท่านหัวหน้าตระกูลถึงต้องระแวดระวังต่อเขาเช่นนั้น?”
“ข้าก็ไม่รู้ ผู้ที่ไม่สามารถค้นหาข้อมูลอันใดได้ย่อมไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปเป็นแน่”
กู้ชูหน่วนขยับตัว
เยี่ยจิ่งหาน……
เหตุใดชื่อนี้ถึงได้คุ้นเคยนักนะ?
นางเคยได้ยินที่ใดมาก่อนใช่หรือเปล่านะ?
ชู่ว์……
จู่ๆก็ปวดหัวขึ้นกะทันหันจนกู้ชูหน่วนเกือบจะทำน้ำเต้าหล่นลงซะแล้ว
ให้ตายสิ
เหตุใดสมองของนางถึงได้เจ็บปวดทรมานเช่นนี้?
เป็นเสี้ยววิญญาณนั้นที่จู่ๆได้เคลื่อนเข้ามาในระหว่างคิ้วของนางอย่างกะทันหันได้ทำพิษหรือ?
ต้องใช่แน่ๆ
นางรู้สึกคุ้นเคยซึ่งก็น่าจะเนื่องด้วยวิญญาณเสี้ยวนั้น
“ใคร ใครอยู่ตรงนั้น?”
หูของไป๋หลี่เจิ้นสัมผัสถึงได้โดยที่ความคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยก็สามารถได้ยินได้
กู้ชูหน่วนสงบสติลงและเตรียมพร้อมที่จะปรับตัวตามสถานการณ์
เสียงแก่ๆเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างๆใบหู
“ผู้……ผู้อาวุโส ผู้น้อยเพียงแค่รดน้ำดอกไม้อยู่ที่นี่……”
“รดน้ำดอกไม้?”
ไป๋หลี่เจิ้นเหลือบมองไปทางซ้ายขวา ในสวนดอกไม้นี้นอกจากผู้รับใช้เก่าแก่ผู้นี้ก็ไม่มีผู้ใดอื่น
เขาโบกมือให้สัญญาณเขาถอยออกไป
ผู้รับใช้เก่าแก่พยักหน้าพร้อมกับโค้งคำนับและจากไปด้วยท่าทางเชื่องช้า
ไม่คิดเลยว่าเขาเพิ่งหันหลังกลับ ไป๋ลี่เจิ้นก็ซัดฝ่ามือไปทำให้เขาสิ้นลมไปเลยโดยตรง
“ท่านปู่ท่านสังหารเขาทำไมกัน ผู้เฒ่าเฉินอยู่ในตระกูลของเรามาเป็นเวลาห้าหกสิบปีแล้ว เขาเป็นผู้ที่ปากแข็งมาโดยตลอด ไม่พูดจาเรื่อยเปื่อยอยู่แล้ว”
“คนที่ตายไปแล้วจึงจะไม่ปริปาก”
ดวงตาของกู้ชูหน่วนเย็นยะเยือกลงและกลั้นลมหายใจต่อไป
“อีกไม่กี่วันก็จะเป็นการชุมนุมควบคุมอสุรกายแล้ว ท่านปู่ควรจะโน้มน้าวราชางูเหลือมเก้าเศียรให้ได้แล้ว ถึงเวลานั้นมันก็จะเป็นสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของท่าน มีราชางูเหลือมอยู่อันดับที่หนึ่งของการชุมนุมควบคุมอสุรกายต้องเป็นของท่านเป็นแน่แท้”
ไป๋หลี่หมิงท่าทางได้ใจ “ฮึ เจ้าพวกสารเลวเหล่านั้นกล้าดูถูกข้า คราวนี้ข้าจะให้พวกเขาได้เปิดหูเปิดตารู้ว่าสิ่งใดที่เรียกว่าสัตว์เลี้ยงตัวโปรดที่แท้จริง”
ไป๋หลี่เจิ้นมีความสุขพร้อมทั้งเป็นกังวล
ที่มีความสุขคือราชางูเหลือมเก้าเศียรระดับห้าซึ่งเป็นขนหงส์เขากิเลนนั้นหายากยิ่งนัก แต่พวกเขากลับได้มา
ที่เป็นกังวลคือเขาพยายามใช้วิธีทั้งหมด แต่ราชางูเหลือมปฏิเสธกระทำข้อตกลงกับหมิงเอ๋อร์
ข้อตกลงไม่เป็นผลก็ไม่ถือว่าโน้มน้าวได้จริงๆ
และ……
ราชางูเหลือมเก้าเศียรตัวนั้นก็ช่างกินจุยิ่งนัก
ทุกมื้อต้องกินเนื้อทั้งสิ้นและยังต้องการเนื้อหมูย่างชั้นดีอีกด้วยซึ่งทำให้เขาเอาไม่อยู่บ้างซะแล้ว
งูตัวหนึ่งปริมาณอาหารในหนึ่งมื้อมากกว่าอาหารของคนในตระกูลไป๋หลี่ทั้งหมดรวมกันเสียอีก
ไม่รู้จริงๆว่านี่คืองูตะกละตะกลามตัวหนึ่งเช่นไรกันแน่
แต่ว่าไปแล้ว หากว่ามันไม่ตะกละตะกลามแล้วเขาจะนำกลับมาได้อย่างไร
“ท่านปู่ ท่านยังกังวลเรื่องข้อตกลงอยู่หรือ? ข้าว่าท่านไม่จำเป็นต้องคิดมากเลย ตั้งแต่โบราณมาอสุรกายระดับสูงตัวใดที่ยอมเต็มใจทำข้อตกลงกับผู้คนอย่างง่ายดาย ท่านปู่วางใจได้ข้าเชื่อว่าเพียงแค่ข้าดีต่อราชางูเหลือมต้องมีวันหนึ่งที่ข้าจะสามารถทำให้มันประทับใจได้เป็นแน่”
“หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะ”
เหตุใดเขาถึงรู้สึกเป็นกังวลมากเช่นนั้นนะ
“ใช่แล้ว ปู่ได้ยาอายุวัฒนะมาให้เจ้าอย่างไม่ง่ายดายเลยเจ้ากินแล้วหรือยัง?”
“ยังเลยขอรับ ของเหล่านั้นเป็นยาอายุวัฒนะชั้นดี แต่ละเม็ดมีมูลค่ามหาศาลข้าไม่กล้ากินโดยง่าย อยากรอให้ท่านปู่กลับมาพิทักษ์ข้า”
“หมิงเอ๋อร์หลักแหลมนัก กินยาอายุวัฒนะแล้วสามารถเพิ่มพูนพละกำลังเร็วได้ชักช้าไม่ได้ น่าเสียดายที่ในมือปู่ยังมีบางเรื่องที่ต้องจัดการ เอาอย่างนี้นะรอคืนพรุ่งนี้ปู่จะพิทักษ์เจ้าด้วยตนเอง เจ้ารีบทานเสียสิเพื่อมิให้ผู้อื่นในเผ่าตระกูลรู้เข้าแล้วละโมบ”
“พวกเขากล้าหรือ อีกอย่างพวกเขาก็หาไม่เจอ ข้าซ่อนยาอายุวัฒนะไว้ในห้องเจินเป่าและวางไว้กับราชางูเหลือม หากพวกเขากล้าเอาไปก็เตรียมพร้อมถูกราชางูเหลือมกินเถอะ”
“เรื่องนี้จะต้องเก็บเป็นความลับ เช่นไรยาอายุวัฒนะได้มาอย่างไม่เปิดเผย เพื่อที่จะได้ยาอายุวัฒนะไม่กี่เม็ดนี้มาปู่ได้ทุบตีลูกชายแท้ๆของเจ้าเรือนซั่งกวนจนอนาถหนักเลยนะ”
“รู้แล้วรู้แล้ว ท่านได้กล่าวมาหลายครั้งหลายคราแล้ว ข้าจดจำได้หมดแล้ว”
หลังจากไป๋หลี่เจิ้นปู่หลานทั้งสองคนจากไป
กู้ชูหน่วนสัมผัสคาง
เพื่อยาอายุวัฒนะไม่กี่เม็ดได้ทุบตีลูกชายแท้ๆของเจ้าเรือนซั่งกวนจนอนาถ?
หากว่าข่าวนี้ถูกแพร่ออกไป ตระกูลซั่งกวนและตระกูลไป๋หลี่จะต้องแตกหักกันในทันทีใช่หรือเปล่า?
ช่างเป็นข่าวคราวที่น่ากระจายข่าวหนึ่ง
หากว่านางไม่ใส่ไฟก็ช่างผิดต่อความลับของไป๋หลี่เจิ้นที่ได้เก็บไว้มานานหลายวันแล้วหรือเปล่า?
กู้ชูหน่วนยิ้มขึ้นโดยที่รอยยิ้มแฝงด้วยแผนการอยู่
เมื่อเห็นว่าไม่มีผู้ใดอยู่โดยรอบกู้ชูหน่วนจึงได้ไปคลำเสาะหาหอเจินเป่า
ยาอายุวัฒนะชั้นเลิศ นางจะไม่ไปดูก่อนที่ใดกัน
ตระกูลไป๋หลี่ใหญ่โตเกินไปจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาหอเจินเป่าในช่วงระยะเวลาครู่หนึ่งได้
ดันเป็นนางที่โชคดี ต้องการสิ่งใดสิ่งนั้นก็มา
พ่อบ้านผู้หนึ่งขวางนางไว้และใส่ต่อหน้าโครมๆรอบหนึ่ง
“พรุ่งนี้ก็เป็นงานเลี้ยงย้ายเรือนของคุณหนูหก ไม่เห็นหรือว่าทุกคนในจวนยุ่งมากมายนัก? เจ้ายังเกียจคร้านอยู่ที่นี่ เหตุใดเจ้าถึงไม่รีบไปยังเรือนชุ่ยอวี้เซวียเคลื่อนย้ายสมบัติล้ำค้าเก่าแก่ที่คุณหนูหกโปรดปรานที่สุดออกมาให้หมด”
กู้ชูหน่วนก้มศีรษะและตอบรับไม่หยุด
ในที่สุดก็ตอบกลับประโยคหนึ่งว่า “เรือนชุ่ยอวี้เซวียนอยู่ที่ใด?”
“ชุ่ยอวี้เซวียนอยู่ที่ใดเจ้าก็ไม่รู้? อยู่ใกล้ๆกับหอเจินเป่าไงหล่ะ”
“หอเจินเป่าอยู่ที่ใด?”
“ข้าก็ว่าเหตุใดเจ้าถึงได้แปลกหน้านักเจ้าเพิ่งมาใหม่หรือ? หอเจินเป่าก็อยู่ตรงไปด้านหน้าแล้วเลี้ยวขวาสามครั้งก็ถึงแล้ว”
“ข้าจะไปเดี๋ยวนี้”
“รอเดี๋ยว เจ้าไม่ได้ถือป้ายคำสั่งไปผู้ใดจะให้เจ้าเข้าไป? เอาไป ถือไว้ให้ดี ประเดี๋ยวอย่าลืมคืนให้ข้าอย่าได้ทำสูญหายเชียวนะ”