กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 817
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 817
ในมือของผู้นำตระกูลมู่ที่ถือยาอายุวัฒนะเอาไว้อย่างสั่นเทา
เขาไม่สามารถซื้อยาจื่อหยางได้เลยแม้แต่เม็ดเดียว ด้านนอกเนื่องจากยาจื่อหยางหนึ่งเม็ดก็ได้ประมูลกันอย่างเร่าร้อน
และในตอนนี้……
ในมือของเขากลับมีห้าสิบเม็ดถ้วน……
ที่สำคัญที่สุดคือยังมียาพั่วหยวนและยาบำรุงหยางอีกยี่สิบเม็ดด้วย……
สวรรค์……
เขาไม่ได้ดูผิดไปหรอกนะ
ผู้นำรองและผู้นำสามก็ตกตะลึงเช่นเดียวกัน
พวกเขายืนยันครั้งแล้วครั้งเล่าว่ายาอายุวัฒนะเหล่านี้เป็นของที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
ผู้นำตระกูลมู่กล่าวด้วยความหวาดหวั่นว่า “ผู้นำตระกูลหนิงตระกูลมู่ของเรามีความดีความชอบอันใดถึงจะรับของกำนัลอันมีค่าเช่นนี้จากท่านได้อย่างไร”
ดวงตาของท่านผู้เฒ่าหนิงนั้นมองตาเขม็งแทบจะอยากชิงยาอายุวัฒนะเหล่านั้นมาให้หมด โดยเฉพาะยาบำรุงลมปราณซึ่งเป็นยาอายุวัฒนะระดับสองเป็นยาอายุวัฒนะระดับสองถ้วนทั่วเชียวนะ
ท่านผู้เฒ่าหนิงกระแอมเสียงเบา “หากว่าผู้นำตระกูลมู่ไม่ต้องการข้าก็ไม่รังเกียจที่จะรับเอาไว้”
อะไรนะ……
ผู้นำตระกูลมู่และคนอื่นๆตกตะลึง
ผู้นำตระกูลหนิงหมายความว่าอย่างไร?
ไม่ใช้ว่ามอบให้พวกเขาแล้วหรือ?
กู้ชูหน่วนจ้องไปยังผู้เฒ่าหนิงซึ่งจ้องจนผู้เฒ่าหนิงรู้สึกทำสิ่งใดไม่ถูก
“ในเมื่อให้ท่านแล้วท่านก็รับไปก็พอแล้วพูดจาไร้สาระมากมายอันใดกัน อาการบาดเจ็บของท่านพ่อข้าต้องการยาจื่อหยางอย่างเร่งด่วน ท่านรีบนำยาจื่อหยางกลับไปรักษาท่านพ่อของข้าโดยเร็ว”
“แต่ว่า……ของกำนัลมีค่าเช่นนี้ คือ……ผู้นำตระกูลหนิงไม่รู้ว่าจวนมู่ของเรามีสิ่งใดที่จะสามารถช่วยเหลือท่านได้ ขอท่านได้โปรดให้คำชี้แนะด้วย”
“เรื่องนี้……ข้ามีเรื่องที่จะหารือกับท่านพอดี ผู้นำตระกูลมู่รู้สึกว่าหลานชายของข้าหนิงเทียนโย่วเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ยอดเยี่ยม……อยู่แล้ว”ผู้นำตระกูลมู่หน้าตาตื่นเต้น
ตระกูลหนิงได้มอบยาอายุวัฒนะอันล้ำค่านี้ให้ เกรงว่า……เรื่องที่ร้องขอคงจะจัดการไม่ง่ายนัก
“ในเมื่อผู้นำตระกูลมู่ก็คิดว่าเทียนโย่วเป็นคนดี เช่นนั้นพวกเราสองตระกูลทำสัญญาข้อตกลงหมั้นหมายเป็นเช่นไร?”
“ทำสัญญาข้อตกลงหมั้นหมาย? กับมู่อินหรือมู่ซิน?”
ผู้นำรองและผู้นำสามตาเป็นประกาย
มู่อินเป็นบุตรสาวของผู้นำรอง
มู่ซินเป็นบุตรสาวของผู้นำสาม
หากว่าสามารถเกี่ยวดองกับตระกูลหนิงได้เช่นนั้นพวกเขาคงจะเกิดปาฏิหาริย์ราวหลุมศพบังเกิดควันขึ้นจริงๆเสียแล้ว
“แน่นอนว่าเป็นมู่หน่วน มีเพียงนางเท่านั้นที่คู่ควรที่จะเป็นหลานสะใภ้ของข้า”
“ท่านปู่……” ใบหน้าของเจ้าหลานชายเทียนโย่วแดงเล็กน้อยด้วยความไม่พอใจ
ผู้นำตระกูลมู่รู้สึกหวาดกลัว
ผู้นำรองและผู้นำสามรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
“บอกตามตรงมู่หน่วนได้จับคู่ให้กับซั่งกวนหมิงหลางแล้ว หญิงสาวผู้หนึ่งไม่แต่งงานกับสามีคนที่สอง นี่……”
“ข้อนี้ไม่ต้องห่วง ข้าสามารถ……”
กู้ชูหน่วนโมโหจนดึงเคราของผู้เฒ่าหนิงจากนั้นกล่าวอย่างโกรธเคืองว่า “ตาเฒ่า เจ้าพูดพล่ามไม่จบไม่สิ้นใช่ไหม?”
ชู่ว์……
ผู้นำตระกูลมู่และคนอื่นๆต่างตกใจกัน รู้สึกเพียงแค่เย็นวาบขึ้นในใจ
ผู้เฒ่าหนิงเป็นผู้นำตระกูลของตระกูลหนิงนะ
แม้ว่าตระกูลหนิงจะไม่ได้เจริญรุ่งเรืองเท่าตระกูลอื่น แต่ก็เป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ที่ยิ่งใหญ่
มู่หน่วนก็ช่างกล้าหาญเกินไปถึงกับกล้าดึงเคราของเขา
พวกเขานั้นได้ทำใจที่จะถูกผู้นำตระกูลหนิงกริ้วกราวเข้าใส่
แต่เช่นไรพวกเขาก็คาดไม่ถึง
ผู้นำตระกูลหนิงเพียงแค่กุมเคราอันเจ็บปวดของตนแล้วอ้อนวอนขอความเมตตาว่า “เบาๆหน่อย บรรพบุรุษตัวน้อยของข้า หนวดเคราของข้าจะถูกเจ้าดึงออกจนหมดแล้ว”
“หุบปากซะ”
“ไม่อยากถูกดึงจนเกลี้ยงก็หุบปากซะ”
“เจ้าดุเช่นนี้ ข้าคิดว่าภายหน้าก็คงจะมีเพียงหลานชายของข้าเท่านั้นที่จะกล้าแต่งงานกับเจ้า”
กู้ชูหน่วนยกกำปั้นขึ้น ผู้เฒ่าหนิงตกใจจนรีบหลบไปอยู่อีกด้านหนึ่ง
ฉากนี้ทำให้ผู้นำตระกูลมู่และคนอื่นๆตกใจกันไปเลย
มู่หน่วนมีความดีความชอบอันใดถึงสามารถทำให้ผู้นำตระกูลหนิงชื่นชอบนางได้เพียงนี้?
พวกเขา……ดูเหมือนว่าแต่ก่อนไม่ได้มีความสัมพันธ์ร่วมกันอันใดกันมาก่อนนะ
ผู้นำตระกูลมู่ดุว่า “อาหน่วน ห้ามเสียมารยาท”
“ยาอายุวัฒนะท่านก็รับไปแล้วยังจะอยู่ที่นี่ทำไมกัน หากว่าท่านไม่อยากส่งคืนกลับไปข้าจะส่งไปเอง ถึงเวลานั้นท่านอย่าได้คิดที่จะได้ยาอายุวัฒนะแม้แต่เม็ดเดียว”
“คือ……”
ผู้นำตระกูลมู่ก็อยากจะหนีไปด้วยแต่ที่สำคัญคือผู้นำตระกูลหนิงยังอยู่ที่นั่นเขาจะหนีไปได้อย่างไร
ท่านผู้เฒ่าหนิงโบกมือให้สัญญาณพวกเขาว่าสามารถจากไปได้แล้ว
ผู้นำตระกูลมู่กำลังรอประโยคนี้อยู่เลย เขาทำความเคารพอีกครั้งก็จากไปราวกับวิ่งหนีโดยกลัวว่าผู้นำตระกูลหนิงจู่ๆจะเปลี่ยนใจขอยาอายุวัฒนะคืนจากเขา
หลังจากที่พวกเขาจากไปท่านผู้เฒ่าหนิงก็นวดไหล่ทุบหลังเอาอกเอาใจแล้วกล่าวว่า “อาหน่วน ไม่รู้ว่ายาบำรุงลมปราณนั้นเจ้ายังมีอยู่ในมือหรือเปล่า”
หนิงเทียนโย่วกุมหน้าผาก
นี่ไม่ใช่ท่านปู่ของเขาเป็นแน่
ช่างน่าขายหน้านัก
เพื่อยาอายุวัฒนะไม่กี่เม็ดถึงกับไม่สนใจหน้าตาเลยจริงๆ
กู้ชูหน่วนกล่าวด้วยความพอใจ “สำนักศึกษาอี้เหอจะเริ่มเปิดสอนในอีกสองวันให้หลัง ช่วยข้าสมัครด้วย”
“ไม่มีปัญหา เจ้าสามารถข้ามการประเมินและเข้าไปได้เลยโดยตรง”
“ห้าวันให้หลังก็เป็นการชุมนุมควบคุมสัตว์ร้าย ช่วยข้าสมัครด้วย”
“อันนี้แม้ว่าจะยากลำบากสักเล็กน้อยแต่ข้าไปเชื่อมความสัมพันธ์ก็ยังคงจัดการได้”
กู้ชูหน่วนโยนขวดยาสองสามขวดลงบนโต๊ะ
ท่านผู้เฒ่าหนิงเปิดออกดม
เป็นยาบำรุงหยาง
และมีแปดเม็ดเต็มๆ
บัดซบ
มีแปดเม็ดจริงๆ?
ยาอายุวัฒนะระดับสองบอกว่ามอบให้ก็มอบให้เลย อีกทั้งมอบให้ก็แปดเม็ดเลย
มั่งมี
ช่างมั่งมีนัก
แม้แต่หนิงเทียนโย่วก็อดไม่ได้ที่จะยอมใจนางแล้ว
“แม่สาวน้อยข้ายิ่งอยู่ก็ยิ่งชอบเจ้ามากขึ้นเรื่อยๆ เจ้าก็มาเป็นหลานสะใภ้ของข้าเถอะนะ”
กู้ชูหน่วนเอายาอายุวัฒนะคืนโดยที่คิดว่าไม่รับ
ผู้เฒ่าหนิงรีบกุมกลับมาแล้วกล่าวขออภัยด้วยรอยยิ้มว่า “ล้อเล่น ล้อเล่นนะ”
กู้ชูหน่วนหาวทีหนึ่งจากนั้นก็โยนยาอายุวัฒนอีกหนึ่งขวดให้หนิงเทียนโย่ว “ข้าเหนื่อยแล้วขอตัวไปนอนเสริมก่อนนะ ใช่แล้ว ยาอายุวัฒนะเม็ดนี้ให้เจ้าสามารถช่วยให้เจ้าทลายระดับสองได้”
นางกล่าวจบก็ไม่เห็นเงาแล้ว
หนิงเทียนโย่วเปิดขวดดมดูเป็นยาอายุวัฒนะขั้นสูงระดับสองจริงๆ
แม้ว่ายาบำรุงหยางก็เป็นระดับสองแต่ว่าเป็นยาอายุวัฒนะขั้นต่ำ เม็ดนี้กลับเป็นขั้นสูงรวมทั้งพลังปราณท่วมท้น เขาสงสัยว่าได้ขึ้นถึงระดับสามแล้ว
ผู้เฒ่าหนิงก็อุทานอย่างตกใจว่า “ยาเม็ดนี้เหมาะกับวิชายุทธ์ของเจ้า เพียงแค่กินลงไปก็จะช่วยให้เจ้าทลายได้เป็นแน่ หญิงผู้นี้ช่างเปิดเผย ปู่ชอบ”
“นางก็มอบให้ข้าเช่นนี้เลยหรือ? ช่างล้ำค่าเกินไปกระมัง” หนิงเทียนโย่วจ้องไปยังทิศทางที่นางจากไปไกลพร้อมบ่นพึมพำกับตนเองโดยที่ในใจได้ทรุดฮวบลงกะทันหันไปหมด
“หลานชาย เจ้าบอกว่านางเป็นผู้ไร้ประโยชน์จุดเส้นวรยุทธ์ขั้นที่หนึ่ง ตามที่ปู่มองนางไม่เพียงแต่ไม่ใช่แล้วยังมีพรสวรรค์อีกด้วย”
“พรสวรรค์? จะเป็นไปได้อย่างไร”
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าพละกำลังของนางมีถึงเท่าใด?”
“เท่าใด?”
“จุดเส้นวรยุทธ์ระดับเก้า”
“เป็นไปไม่ได้ เมื่อไม่นานมานี้นางยังอยู่ในจุดเส้นวรยุทธ์ขั้นที่หนึ่ง แล้วยังถูกคนของตระกูลไป๋หลี่ทุบตีอย่างอนาถด้วย”
“ดังนั้นข้าถึงบอกว่านางมีพรสวรรค์ ภายในระยะเวลาอันสั้นไม่ถึงสิบวันก็สามารถทะยานจากจุดเส้นวรยุทธ์ขั้นที่หนึ่งขึ้นไปถึงจุดเส้นวรยุทธ์ขั้นที่เก้า แม้แต่บรรพบุรุษผู้มีพรสวรรค์อันโดดเด่นที่สุดของตระกูลหนิงของเราก็ยังทำไม่ได้”
หนิงเทียนโย่วสูดลมหายใจเย็นเข้า
“ที่สำคัญคือนางแค่เพียงจุดเส้นวรยุทธ์ขั้นที่เก้ากลับสามารถทำสัญญาตกลงกับเสือขาวอันเก่าแก่ระดับสามได้”
“เสือขาวโบราณระดับสาม? ท่านปู่ ท่านสับสนงุนงงหรือเปล่า ตอนนี้จะมีเสือขาวโบราณได้ที่ใดกัน นั่นเป็นถึงหนึ่งในสี่อสุรกายผู้ยิ่งใหญ่เชียวนะ”
“เจ้าสิสับสนวุนงง ตาของปู่เป็นประกายสว่างชัด เสือขาวน่าจะถือกำเนิดได้ไม่นานพละกำลังก็ขึ้นถึงระดับสามแล้ว หากว่าเติบใหญ่มีแนวโน้มที่จะไปถึงขั้นสูงสุดระดับเจ็ด”
หนิงเทียนโย่วกล่าวด้วยความตกใจว่า “พละกำลังของนางน้อยนิดเช่นนี้กลับสามารถทำสัญญาข้อตกลงกับเสือขาวระดับสามได้ เป็นไปได้หรือไม่ว่า……เสือขาวริเริ่มต้องการรับนางในฐานะเจ้านาย?”
“สามารถทำให้เสือขาวริเริ่มรับเป็นนายและทำสัญญาข้อตกลงได้ นางก็ย่อมมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของนางอยู่แล้ว”
แม้กระทั่งว่าเขาถึงกับสงสัยว่ายาอายุวัฒนะของนางไม่ได้ขโมยมา แต่ว่าข้างกายรู้จักผู้ที่รู้วิชาหลอมยาอยู่
ไม่เช่นนั้น……
ยาอานุวัฒนะที่ขโมยมาจะกล้ามอบให้ผู้อื่นอย่างผ่าเผยเช่นนี้ได้อย่างไร
นอกจากว่านางต้องการยาอายุวัฒนะก็มียาอายุวัฒนะถึงสามารถใจดีเช่นนี้ได้
“หลานชายเอ๋ยเจ้าต้องถนอมไว้ให้ดี หากว่าสามารถแต่งนางเป็นภรรยาได้ก็จะดีที่สุด วิสัยทัศน์ของปู่ไม่ด้อยแน่ แม้ว่านางจะหยิ่งยะโสไปสักหน่อยโอหังไปสักเล็กน้อย แต่ว่าหว่างคิ้วมีความชอบธรรมคิดว่าจิตใจไม่ได้เลวร้ายไปถึงที่ใด เป็นผู้ที่คู่ควรมีมิตรภาพลึกซึ้งด้วยได้”