กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 829
“ผิดใจก็ผิดใจเลย ตั้งแต่ที่พวกเขาอยากจะยกเลิกการหมั้นหมาย ข้ามีชีวิตอยู่ก็ทำให้พวกเขาไม่พอใจผิดใจแล้ว”กู้ชูหน่วนกล่าวอย่างไม่ยี่หระ
เซี่ยวอวี่เซวียนใช้พัดเคาะที่ไหล่ของนาง
“แม่นาง เจ้าได้ในสิ่งที่เจ้าต้องการแล้ว ค่ำคืนนี้เจ้าควรที่จะเลี้ยงเหล้าข้าไหม”
กู้ชูหน่วนยิ้มออกมา
รอยยิ้มของนางแจ่มใสเบิกบานเหลือเกิน
แม้จะรู้จักชายผู้นี้ไม่นาน
แต่ไม่รู้ทำไม นางมักรู้สึกว่ารู้จักเขามาเมื่อชาติก่อนแล้ว
เปิดเรียนวันแรก กู้ชูหน่วนสร้างหัวข้อมาจำนวนไม่น้อย เวลาเดียวกันได้ล่วงเกินทำตระกูลไป๋หลี่กับตระกูลซั่งกวนไม่พอใจด้วย ชั่วพริบตาเดียวได้เป็นเป้าหมายหัวข้อสนทนาสำนักศึกษาอี้เหอจนถึงขั้นเมืองหลวงเลยทีเดียว
บุคคลที่เกี่ยวข้องทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำกิจวัตรประจำวันปกติกินนอนดื่ม เวลาเรียนแอบขี้เกียจ เลิกเรียนกระปรี้กระเปร่า ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วนางมาเรียนที่สำนักศึกษาอี้เหอ หรือว่ามาแอบขี้เกียจนอนหลับ
ชาตินี้ กู้ชูหน่วนยังคงเป็นสหายร่วมโต๊ะเรียนเดียวกันกับเซี่ยวอวี่เซวียน
เรื่องที่ท่านอาจารย์สอน เซี่ยวอวี่เซวียนไม่ได้มีกระจิตใจฟังเลย เขาเอียงศีรษะมองกู้ชูหน่วนตลอด
กู้ชูหน่วนสะลึมสะลือตื่นขึ้นมา นวดคลึงตาแล้วกล่าวว่า“อะไรของเจ้าเนี่ย ใช้สายตาแปลกประหลาดมองข้าอยู่ตลอด ใบหน้าข้ามีอะไรติดหรือ?”
“เจ้าเหมือนสหายผู้หนึ่งของข้า”
“เจ้าเคยบอกข้าแล้ว”กู้ชูหน่วนแตะที่แขนของเขา ได้สติมา แล้วกล่าวอยากรู้อยากเห็นว่า“หญิงที่มีลักษณะเหมือนข้าผู้นั้น เป็นคนที่เจ้าชอบหรือ? เล่าเรื่องของนางให้ข้าฟังหน่อยสิ”
เซี่ยวอวี่เซวียนเหม่อลอย
ไม่รู้ว่าควรจะตอบนางอย่างไรดี
เพราะเขาไม่รู้ว่าความจริงแล้ววันนี้เขารู้สึกอย่างไรกับกู้ชูหน่วน
รักหรือ?
เกลียดชัง?
“มันผ่านไปแล้ว พูดมากก็ไม่มีประโยชน์”
เรื่องผ่านไปแล้ว เขาไม่อยากพูดถึง
หรือสวรรค์เห็นอกเห็นใจเขา จึงให้เขาได้รู้จักกับนางที่มีความคล้ายคลึงกับนางมากที่แผ่นดินใหญ่นี้นะ
กู้ชูหน่วนทอดถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย นางเอากาขังวิญญาณออกมาจากวงแหวนอวกาศ แล้ววางไว้บนโต๊ะ จากนั้นคิ้วอันสวยงามทั้งสองข้างก็ขมวดเข้าหากัน
เซี่ยวอวี่เซวียนมองเห็นกาขังวิญญาณที่แตกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ก็ถึงกับชะงักงัน แล้วเบิกตาโพลงกว้าง จ้องมองมันอยู่ไม่วางตา
เขาตื่นเต้นตื่นตะลึงอย่างมาก กล่าวออกมาอย่างเคร่งเครียดว่า“ในมือของเจ้ามีกาขังวิญญาณได้อย่างไร?”
นี่ไม่ใช่กาขังวิญญาณที่ปิดผนึกวิญญาณของแม่สาวอัปลักษณ์หรือ?
อยู่ที่นี่ได้อย่างไร?
ทำไมถึงแตกละเอียด
กู้ชูหน่วนตกใจ กล่าวขึ้นว่า“เป็นอะไรหรือ?เจ้าก็รู้จักเจ้ากาแตกนี่หรือ”
“บอกข้ามา ในมือของเจ้ามีกาขังวิญญาณได้อย่างไร?วิญญาณที่อยู่ในกานี้ไปไหนแล้ว?”
เซี่ยวอวี่เซวียนแววตาเย็นชาแข็งกระด้าง จับที่แขนของกู้ชูหน่วนแน่นขนัด เขาจับจนนางรู้สึกเจ็บแปลบบริเวณข้อมือ
“วันนั้นที่อยู่หุบเขาเจียงเจ๋อซาน ข้าได้มาจากชายที่ปิดคลุมหน้านั้น ข้าไม่ทันระวังเลยทำกานี้แตก วิญญาณที่อยู่ด้านในหนีไปแล้ว”กู้ชูหน่วนกล่าวด้วยความอึ้ง
ไม่รู้ว่าทำไมปฏิกิริยาของเซี่ยวอวี่เซวียนถึงได้รุนแรงเช่นนี้นะ
คงไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอกนะ
วิญญาณที่อยู่ในขวดนี้เขาก็รู้จักหรือ?
หรือว่าเป็นคนที่เขาชื่นชอบ?
คำที่เซี่ยวอวี่เซวียนกล่าวออกมาแต่ละคำ มันมีความเยือกเย็นแฝงออกมาด้วย
“เจ้าว่าอะไรนะ เจ้าทำกาขังวิญญาณแตก แล้วทำให้วิญญาณกระจายลอยหายไปงั้นหรือ?”
“ใช่….ใช่แล้ว…..”
พอพัดของเซี่ยวอวี่เซวียนขยับก็อยากจะสังหารหญิงตรงหน้านี้
อย่างไรก็ตามเขายกพัดขึ้นแล้วมองสบตาคู่นั้นของกู้ชูหน่วน เขาก็ปล่อยมือไม่ลงแล้ว
แม้ว่ารังสีอำมหิตของเขาจะพาดผ่านไปแล้ว
แต่กู้ชูหน่วนยังรับรู้ได้
และ…ได้รับบาดเจ็บด้วย
ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกันจนถึงวันนี้ นางเชื่อใจเขาจากก้นบึ้งหัวใจ เห็นว่าเขาเป็นสหาย
แต่วันนี้เพื่อกาชิ้นเดียว คิดไม่ถึงว่าเขาจะมีใจเหี้ยม……
จุดนี้มีการเคลื่อนไหวที่รุนแรง ท่านอาจารย์ที่กำลังสอนตำราอยู่ได้ทุบโต๊ะลงด้วยความเดือดดาล
“เซี่ยวอวี่เซวียน มู่หน่วน พวกเจ้าสองคนทำอะไรกัน ในสายตาของพวกเจ้ายังมีข้าที่เป็นอาจารย์หรือไม่”
“ปึก…..”
เซี่ยวอวี่เซวียนสะบัดแขนเสื้อขึ้น ท่านอาจารย์ที่สอนตำราผู้นั้นถูกทำให้ลอยออกไป ร่วงหล่นอยู่บนพื้น ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดียังไง
บัณฑิตทุกคนต่างพากันลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นตะลึง
สำนักศึกษาอี้เหอเป็นสำนักศึกษาของราชวงศ์ มันเป็นสำนักศึกษาที่ใหญ่ที่ดีที่สุดของรัฐปิง ท่านอาจารย์ที่อยู่ด้านในไม่ว่าจะเป็นผู้ใด พวกเขาล้วนได้รับการคัดเลือกอย่างพิถีพิถันทั่วรัฐแล้ว
ดังนั้นจึงเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่สามารถเข้าสู่สำนักศึกษาอี้เหอได้ โดยเฉพาะการเป็นอาจารย์อยู่ที่สำนักศึกษาแห่งนี้
ใต้พื้นพิภพนี้ไม่มีผู้ใดที่ไม่เคารพอาจารย์ของสำนักศึกษาอี้เหอ
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ก็ยังไม่มีบัณฑิตผู้ใดกล้าตีทำร้ายอาจารย์
แต่วันนี้เซี่ยวอวี่เซวียนทำลายข้อนี้ คิดไม่ถึงว่าจะทำท่านอาจารย์กระเด็นออกไปต่อหน้าบัณฑิตทุกคน
อาจารย์โซซัดโซเซตะเกียงตะกายลุกขึ้น ชี้เซี่ยวอวี่เซวียน แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเทาว่า“ดีจริงๆเซี่ยวอวี่เซวียน เจ้าเรียนแล้วไม่ต้ังใจเรียนก็ช่างเถิด คิดไม่ถึงว่าจะกล้าตีอาจารย์ ก้าวถัดไปแม้แต่ท่านอาจารย์เจ้าก็กล้าสังหารใช่หรือไม่ ข้าจะไปบอกหัวหน้าสำนักศึกษา ให้หัวหน้าสำนักศึกษาขับไล่เจ้าออกไป”
ไป๋หลี่หมิงกล่าวด้วยความลำพองใจว่า“เจ้าตายแน่”
หลินซือหย่วนกล่าวด้วยความร้อนรนใจจนหน้าแดงก่ำว่า“พี่เซี่ยว เหตุใดท่านถึงได้วู่วามเช่นนี้ ท่านรีบไปขอโทษท่านอาจารย์เสีย พยายามระงับสงบศึก ไม่อย่างนั้นถูกสำนักศึกษาอี้เหอไล่ออก ต่อไปท่านอยากจะเข้าวงการของชนชั้นข้าราชการ”
หยางมั่นกับหยางโม่และพวกซั่งกวนหมิงหลางตกใจการสะบัดยกแขนเสื้อของเซี่ยวอวี่เซวียนมาก
เขาไม่ได้ลงมือ เพียงแค่ยกสะบัดแขนเสื้อ ก็สามารถสะบัดคนออกไปไกลได้แล้ว
ที่สำคัญคือ สะบัดไปไกลขนาดนั้น คิดไม่ถึงว่าท่านอาจาร์ยยังมีชีวิตอยู่
พละกำลังของเขา…..
แท้จริงแล้วได้ถึงกี่ระดับ…..
เหตุใดพวกเขาไม่สามารถดูพละกำลังที่แท้จริงของเซี่ยวอวี่เซวียนได้
กู้ชูหน่วนจ้องมองเซี่ยวอวี่เซวียน ในใจรู้สึกเย็นวาบ กล่าวขึ้นว่า“เจ้าจะสังหารข้าหรือ?”
“เจ้าไม่ควรทำกาขังวิญญาณแตก”
“แต่ข้าทำแตกไปแล้ว”
เซี่ยวอวี่เซวียนไม่กล่าวพูด ความเยือกเย็นลอยปะทุออกมาได้นอก
เขาจ้องมองกู้ชูหน่วนด้วยสายตาเย็นชา ใครก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่คนที่มีสายตาเฉียบแหลมสามารถดูออก ว่าใจของเขากำลังกดไฟที่จะปะทุไว้
มันเป็นไฟที่พอสัมผัสเข้าเล็กน้อยก็สามารถเป็นไฟไล่ทุ่งได้
ไป๋หลี่หมิงโวยวายขึ้นมาว่า“เซี่ยวอวี่เซวียน เจ้าไม่อยากสังหารนางหรือ?รออะไรอยู่เล่า รีบจัดการเสียสิ สังหารคนไร้ประโยชน์นี่เสีย”
“เพี๊ยะๆๆๆๆๆๆ…..”
เซี่ยวอวี่เซวียนสะบัดซ้ายขวา ตบไป๋หลี่หมิงกว่าสิบครั้ง จนทำให้ฟันของไป๋หลี่หมิงหลุดมีเหลือดไหลย้อยลงมา
ใบหน้านั้นของไป๋หลี่หมิงราวกับไข่ สามารถมองเห็นเลือดเนื้อบวมขึ้นอย่างรวดเร็ว รอยตบสิบกว่ารอยชัดเจน จนสามารถบอกได้ว่าบวมเป็นหมูเชียว
ไป๋หลี่หมิงถูกตีตบจนมึนงง บนใบหน้าเจ็บแสบเป็นอย่างมาก เจ็บจนเขาไม่สามารถร้องออกมาได้
ข้างหูมีน้ำเสียงอันเยือกเย็นของเซี่ยวอวี่เซวียนดังขึ้นว่า“ข้าเซี่ยวอวี่เซวียน ต้องการสังหารผู้ใด มันถึงขั้นที่เจ้าจะต้องมาชี้ไม้ชี้มือแทรกแซงสั่งหรือ?หากกล้าพูดมากอีก ข้าจะตัดลิ้นเจ้าออกมาก่อน”
“ปึก….”
ไป๋หลี่หมิงทรุดตัวลง ร้องไห้เป็นเวลานาน ปิดแก้มที่ปวดเมื่อยและฟันร่วงด้วย
“ข้า….ข้าเป็นคุณชายของตระกูลไป๋หลี่ คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะกล้าตีข้า เซี่ยวอวี่เซวียน ข้า….ข้าจะสังหารเจ้า ทหาร จัด…จัดการสังหารเขาให้ข้าเสีย”
เขาเปล่งเสียงออกมาราวลมรั่ว เป็นเวลานานทุกคนถึงได้เข้าใจว่าเขากำลังพูดอะไร
ไป๋หลี่หมิงได้สติกลับมา คนทยอยล้อมรอบเซี่ยวอวี่เซวียน
แต่ทว่าถูกเซี่ยวอวี่เซวียนผละออกไป แต่ละคนเจ็บจนลุกไม่ขึ้น แขนขาของคนจำนวนไม่น้อยก็หัก
และพวกเขา…..
ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะได้เห็นอย่างชัดเจนว่าเซี่ยวอวี่เซวียนลงมืออย่างไร
ราวกับว่าเขาใช้กำลังภายในทำให้พวกเขาบาดเจ็บ
กำลังภายในนี้แข็งแกร่งเกินไปแล้ว