กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 838
ลมกระโชกแรงพัดมาจากมุมปากของกระทิงไฟเก้าเขา จากนั้นเปลวไฟที่ลุกลามที่เจ้าสามก็หายไปทันที
เพียงแต่มันก็กลายเป็นกระทิงที่สุกได้ที่ไปแล้วและร้องโอดครวญอย่างเจ็บปวด
กระทิงไฟเก้าเขาอับอายอย่างมาก
เป็นถึงกระทิงไฟสี่เขาความสามารถระดับสาม แต่กลับไม่สามารถสู้ลูกเสือที่เพิ่งเกิดออกมา เช่นนั้นมันจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด?
“เจ้ารอง เจ้าออกมาไปจัดการ”
“ปึงปังๆๆ……”
“ผล่ากๆๆ……”
“ตุ่บ……”
เพียงชั่วพริบตา
กระทิงไฟเจ้ารองก็ได้ล้มลงและถูกเปลวไฟแผดเผาไหม้ไปทั้งตัว
กู้ชูหน่วนเลียริมฝีปาก “กระทิงที่สุกได้ที่ทั้งตัว ถึงแม้ว่าจะสุกเกินไป แต่เมื่อกินเข้าไปก็คงจะยังอร่อยอยู่บ้าง เสี่ยวเซวียนเซวียน อยากกินเนื้อกระทิงหรือไม่?”
เซี่ยวอวี่เซวียนหัวเราะออกมา
กระทิงที่สุกได้ที่ทั้งตัว
การเปรียบเทียบนี้ไม่เลวเลย
มันยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น น้องชายทั้งสองตัวก็ถูกย่างจนดูไม่ออกว่าเป็นกระทิงไปเสียแล้ว
นี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย
มันจับจ้องไปที่เจ้าเสือน้อยที่ส่ายหัวและกำลังออดอ้อนกู้ชูหน่วน ทันใดนั้นร่างของกระทิงก็สั่นสะท้าน
“เจ้า……ร่างกายของเจ้ามีเลือดเนื้อของเสือขาวโบราณใช่หรือไม่?”
เจ้าเสือน้อยยิ้มให้มันอย่างไร้เดียงสา ราวกับไม่เข้าใจสิ่งที่มันพูดถึงว่าเสือขาวโบราณคืออะไร
“อสูรร้ายทั้งสี่นั้นสูญพันธุ์ไปนานแล้วไม่ใช่หรือ? เหตุใดถึงยังมีสายเลือดหลงเหลืออยู่” กระทิงไฟเก้าเขาจับจ้องไปที่เปลวเพลิงรูปสามเหลี่ยมบนหัวของเจ้าเสือน้อย จากนั้นแววตาของมันก็เต็มไปด้วยความสับสน
กู้ชูหน่วนกล่าว “เจ้ากระทิงโง่ น้องทั้งสองตัวของเจ้าต่างก็พ่ายแพ้ไปแล้ว จะยอมแพ้เสียแต่ตอนนี้ หรือว่าเจ้าจะลงมือด้วยตัวเอง?”
“ข้าเป็นถึงราชากระทิงไฟเก้าเขา เจ้าสามารถเรียกข้าว่าปีศาจกระทิง แต่ห้ามเรียกข้าว่าเจ้ากระทิงโง่”
“เจ้ากระทิงโง่”
“มนุษย์ที่สมควรตาย เจ้าตายซะเถอะ”
“เจ้าเสือน้อย ให้มันได้ลองความร้ายกาจของเปลวไฟที่แท้จริงของเจ้า”
เจ้าเสือน้อยพยักหน้าอย่างเคร่งขรึมและมีเปลวไฟพุ่งออกมาจากปากของมันและพุ่งโจมตีไปยังกระทิงไฟเก้าเขาโดยตรง
ทั้งกระทิงและเสือต่างก็เก่งกาจในการใช้ไฟ จากการต่อสู้ของพวกมันทำให้อุณหภูมิโดยรอบนั้นสูงขึ้นอย่างมาก
กระทิงไฟสี่เขาทั้งสองตัวตกใจอย่างมากจนถอยหนีออกไป เพราะเกรงกลัวว่าตัวเองจะถูกเผาจนสุกไปทั้งตัว
กู้ชูหน่วนหาวและหาที่นอนลง โดยไม่สนใจการต่อสู้ของพวกมัน ราวกับมีความมั่นใจในตัวของเจ้าเสือน้อยอย่างมาก
เซี่ยวอวี่เซวียนหัวเราะ “เจ้าเสือน้อยเพิ่งเกิดออกมาไม่นานและเพิ่งจะมีความสามารถถึงระดับสี่ เจ้าไม่กลัวว่ามันจะพ่ายแพ้เลยหรือ?”
“วางใจได้ เจ้าเสือน้อยตัวเล็กแต่จิตวิญญาณของมันกลับยิ่งใหญ่ เมื่อโกรธขึ้นมา มีไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถจัดการมันได้”
กู้ชูหน่วนเปลี่ยนที่นอนและหลับไป จากนั้นก็มีเสียงกรนดังขึ้นเป็นระยะ
อีกฝั่ง กระทิงและเสือกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด มีการปล่อยดวงไฟโจมตีไปมา แต่นางกลับไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด
โดยเฉพาะท่านอนและลักษณะของนาง ช่างเหมือนกับแม่สาวอัปลักษณ์ไม่มีผิด
ทุกครั้งที่มองไปที่นาง มักจะคิดว่าเขากำลังมองแม่สาวอัปลักษณ์
เซี่ยวอวี่เซวียนถอนหายใจด้วยความโล่งอกโดยไม่รู้ตัว
เขาเชื่อกู้ชูหน่วน
นางคาดเดาสว่าเจ้าเสือน้อยจะชนะ เจ้าเสือน้อยต้องชนะให้ได้
เหมือนกับ……
ในอดีต นางมักจะ……มีความเชื่อมั่นอยู่เสมอ
“ฟลุ่บ……”
“ตึ่ง……”
“หยุดได้แล้วๆ รีบเก็บดวงไฟของเจ้าเดี๋ยวนี้ ข้าเจ็บเหลือเกิน ฮือ……”
“โอ๊ะ เขาของข้า……เขาของข้าถูกเจ้าเผาไหม้ไปแล้ว……ข้าเจ็บเหลือเกิน……”
เสียงของกระทิงไฟเก้าเขาดังมาก ทำให้กู้ชูหน่วนตื่นขึ้นมา
นางลืมตาขึ้นมาด้วยความงัวเงียและกลับเห็นว่ากระทิงไฟเก้าเขาถูกเผาย่างไปเกือบสุก โดยเฉพาะที่เขาข้างหนึ่งของมันที่โค้งหักลงและมีเลือดไหลออกมา โดยมีกลิ่นไหม้เล็ดลอดออกมา
กู้ชูหน่วนกล่าวอย่างเกียจคร้าน “เช่นนั้นเจ้ายอมแพ้หรือไม่?”
“ยอมแล้วๆๆ……เจ้ารีบบอกให้เจ้าเสือหยุดลงมือก่อนเถอะ หากยังปล่อยดวงไฟออกมาอีก ข้ายังจะมีหน้าที่ไหนไปจัดการควบคุมกระทิงนับหมื่นอีกล่ะ”
“เช่นนั้นที่นี่ ข้าสามารถเข้าออกได้โดยพลการหรือไม่?” กู้ชูหน่วนชี้ไปที่ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่และซากปรักหักพังโบราณ
“แน่นอน”
“เจ้าเสือน้อย ดูความขี้เล่นของเจ้าสิ หากมันถูกเจ้าย่างจนสุกจริง ลูกหลานกระทิงของมันจะปล่อยเจ้าไปอย่างนั้นหรือ รีบกลับมาเดี๋ยวนี้”
เจ้าเสือน้อยเลียปากของมันราวกับเกิดความสนใจในเนื้อกระทิงไฟเก้าเขาย่าง ทำให้กระทิงไฟเก้าเขาตกใจไม่น้อย
โชคดีที่เจ้าเสือน้อยเชื่อฟังคำสั่งของกู้ชูหน่วน เมื่อนางตะโกนออกไปมันก็กลับมาทันที
เมื่อเห็นว่าน้องของตัวเองทั้งสองตัวต่างใช้สายตาที่แปลกออกไปมองมาที่มัน กระทิงไฟเก้าเขารู้สึกไม่ยอมและกล่าวขึ้นมา “ได้ใจอะไร หากไม่มีเจ้าเสือน้อยคอยช่วย เจ้าจะหลุดพ้นจากเงื้อมมือของข้าไปได้หรือ”
“ไม่เช่นนั้น เรามาประลองกันหน่อย?”
กู้ชูหน่วนกะพริบตาเจ้าเล่ห์และพูดด้วยคำใบ้ว่า “หากเจ้าแพ้ ต้องยอมรับว่าข้าเป็นแม่ของเจ้าและหลังจากนี้ต้องคอยเชื่อฟังคำสั่งของข้า”
“เป็นไปไม่ได้ ข้าเป็นถึงกระทิงไฟเก้าเขา เป็นราชาของกระทิงทั้งหมดและมีชื่อเสียงอย่างมากในป่าเขา หากยอมจำนนให้เจ้า เช่นนั้นก็เป็นเรื่องน่าอับอายอย่างมาก”
“อ้อ……ที่แท้เจ้าก็กลัวว่าจะสู้ข้าไม่ได้และอับอายขายหน้า”
“เหลวไหล ต่อสู้ก็ได้ แต่หากเจ้าแพ้ล่ะ?”
“หากข้าแพ้ เจ้าจะทำอะไรก็ได้”
“หากเจ้าแพ้ เช่นนั้นเจ้าต้องมอบเจ้าเสือน้อยให้กับข้า ให้มันเป็นลูกศิษย์ของข้า”
“ได้”
เจ้าเสือน้อยกัดฟันกรอดมองไปที่กระทิงไฟเก้าเขาด้วยความไม่พอใจ
“ระดับความสามารถของเจ้าสูงกว่าข้า แต่เจ้าได้รับบาดเจ็บ เพื่อความเป็นธรรม เช่นนั้นเรามาต่อสู้กันเพื่อตัดสินแพ้ชนะแค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น เพียงแค่ชนะ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะใช้วิธีการใดก็ได้” กู้ชูหน่วนกล่าว
เจ้าเสือน้อยยิ้มให้กระทิงไฟเก้าเขาด้วยความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
และเป็นเวลานานก่อนจะกล่าวว่า “ก็ได้”
ความสามารถของมันมีมาก เกรงว่านางจะทนไม่ไหวเสียก่อน
เซี่ยวอวี่อซวียนหันหน้าไปมองกู้ชูหน่วน มีลมพัดเบาบางทำให้เส้นผมที่หน้าผากของเขาพลิ้วไหว ช่างเป็นภาพที่งดงามสะดุดตาอย่างมาก
ยังไม่ทันที่การต่อสู้จะเริ่มขึ้น กระทิงไฟเก้าเขาก็ได้พุ่งโจมตีเข้ามา
ร่างกายของมันถูกเผาไหม้ไปกว่าครึ่ง แต่กลับกล้าใช้ไฟในการจู่โจม
กู้ชูหน่วนยื่นฝ่ามือออกมา จากนั้นโรยผงบางอย่างไปยังกระทิงไฟเก้าเขา
“ควับ……”
เปลวไฟที่เจ้ากระทิงไฟเก้าเขาพ่นออกมาก็ลุกไหม้เป็นระเบิดขนาดใหญ่ และย้อนกลับไปทำร้ายตัวเอง
“ซี๊ด……”
มันเจ็บปวดจนร้องโอดครวญออกมาโดยไม่สนใจกู้ชูหน่วนและรีบดับไฟที่ร่างกายของมัน
และในขณะเดียวกัน กู้ชูหน่วนได้ยกตัวขึ้นและจับเขาที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสของมันแน่น จากนั้นพยายามออกแรงคิดอยากจะหักเขาของมันลง
“เจ้ามนุษย์ที่สมควรตาย เจ้ากล้ายุ่งกับเขาของข้าอย่างนั้นหรือ หยุด หยุดเดี๋ยวนี้……”
กระทิงไฟเก้าเขาพยายามสะบัดอย่างสุดชีวิต แต่ก็ไม่เป็นผล กู้ชูหน่วนจับเขาของมันแน่นและร่างกายของมันก็ถูกเปลวเพลิง ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่สามารถดับไฟได้
“เจ้ามนุษย์ เจ้าใช้วิชามารอะไรกัน เหตุใดข้าถึงไม่สามารถดับไฟได้ ข้าเจ็บปวดเหลือเกินๆ ข้าแทบจะถูกเผาจนสุกไปทั้งตัวแล้ว”
“เฮอะ ไฟที่ข้าทำขึ้นเพื่อใช้ในการปรุงกลั่นยาโดยเฉพาะและใส่วัตถุดิบพิเศษลงไป คนทั่วไปอยากจะดับไฟ คงไม่ง่ายเช่นนั้นหรอก”
ไม่ว่ากู้ชูหน่วนจะหักเขาของมันอย่างไรก็ไม่สามารถทำได้ จากนั้นจึงออกแรงทุบตีเขานั้นอย่างแรง ทำให้กระทิงไฟเก้าเขาโกรธจัดและยกกีบเท้าขึ้นและคิดอยากจะถีบนางลงอย่างแรงให้กระเด็นออกไป
แต่ผู้หญิงคนนี้กลับมีวิชาตัวเบาที่เก่งกาจ ไม่ว่ามันจะถีบอย่างไรก็ถีบไม่โดน
เจ้าเสือน้อยตกตะลึง
เซี่ยวอวี่เซวียนแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น
ห่างออกไปค่อนข้างไกล เขารู้สึกสงสารกระทิงไฟเก้าเขาเล็กน้อย
“หยุดเดี๋ยวนี้ ข้าบอกให้เจ้าหยุด เจ้าได้ยินหรือไม่ เจ้ามนุษย์”
“เพียงแค่เจ้ายอมแพ้ และเรียกข้าว่าแม่ ข้าก็จะปล่อยเจ้าไปและช่วยเจ้าดับไฟบนตัวเจ้า ไม่เช่นนั้นเจ้าก็รอเป็นอาหารอันโอชะได้เลย”