กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 860
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 860
“ยาอายุวัฒนะมากมายเช่นนี้เจ้าขโมยมา หรือว่า……เจ้าเป็นนักกลั่นยา?”
เหวินเส่าอี๋เหล่มองกู้ชูหน่วน แม้ว่าเขาจะเหล่มองแต่ก็มีความแน่วแน่อยู่ในคำพูดโดยที่มั่นใจแน่วแน่ว่านางเป็นนักกลั่นยา
“อายุยังน้อยรู้วิธีกลั่นยาและก็ยังรู้จักการ ควบคุมสัตว์ เจ้าไม่ธรรมดาเลยจริงๆ”
ยาอายุวัฒนัและสมุนไพรชั้นดรมากมายเช่นนี้ แม้แต่ราชวงศ์เมื่อเห็นเข้าก็ต้องอิจฉาไม่ต้องกล่าวถึงตระกูลทั่วๆไป
กู้ชูหน่วนยิ้มอย่างเขินอาย “หากว่าเจ้าชอบข้ามอบให้เจ้าก็ได้”
“หึ……”
เหวินเส่าอี๋หัวเราะเยาะเสียงหนึ่งด้วยความรังเกียจอยู่ในดวงตา จากนั้นเขาก็โบกมือจัดการเก็บกวาดสิ่งของมีค่าและยาอายุวัฒนะในวงแหวนอวกาศของนางไปจนสะอาดสะอ้าน
ความดูแคลนและการกระทำของเขาทำให้กู้ชูหน่วนรู้สึกโมโหเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ในเมื่อดูถูกเหยียดหยามเช่นนี้ยังจะเอาสมบัติของนางไปทำสิ่งใด?
สิ่งของเหล่านี้เป็นทรัพย์สินทั้งหมดของนาง
กู้ชูหน่วนสาปแช่งด้วยเสียงทุ้มว่า “เจ้าโจร”
“อืม……”
เหวินเส่าอี๋ทำเสียงสูง
กู้ชูหน่วนรีบเปลี่ยนน้ำเสียงและท่าทางในทันที พร้อมกับหัวเราะแล้วกล่าวว่า “สมบัติทั้งหมดให้เจ้าแล้ว ท่านผู้อาวุโสเมื่อไหร่จะปล่อยข้าไปหล่ะ มือของข้าแทบจะไหม้เกรียมแล้วนะ”
“ถอดแหวนออกมา”
“ของทุกสิ่งก็ให้เจ้าไปหมดแล้ว เจ้าเอาแหวนวงนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์อันใดแล้ว ข้าก็บอกไปแล้วว่าหากเจ้าชื่นชอบแหวนเช่นนี้ อีกไม่กี่วันข้าจะมอบดีกว่านี้อีกสองสามวงให้เจ้า”
“ข้าเอาแค่แหวนวงนี้”
แววตาของเหวินเส่าอี๋เต็มไปด้วยคำเตือน
กู้ชูหน่วนเชื่อหมดใจเลยว่าหากนางไม่ถอดแหวนออกเกรงว่าวันนี้นางจะต้องตายอยู่ที่นี่
แต่หากว่าถอดให้เขานางก็ยิ่งเชื่อว่าแหวนวงนี้จะหายไปจากโลกนี้ในตอนนี้
ก้มศีรษะลง กู้ชูหน่วนมองดูวงแหวนอวกาศที่ตนเองสวมอยู่ในมือ ไม่รู้ว่าเนื่องจากเหตุใดนางยิ่งมองดูแหวนก็ยิ่งรู้สึกคุ้นเคยและรู้สึกใกล้ชิดแบบหนึ่งมากขึ้นเรื่อยๆ
ความรู้สึกนี้ยังคงอยู่และตราตรึงอยู่ในใจนาง มีเสียงหนึ่งในจิตวิญญาณส่วนลึกบอกกับนางอยู่ตลอด
แหวนวงนี้มีความสำคัญกับนางยิ่งนัก
นางไม่สามารถสูญเสียแหวนวงนี้ไปได้
ความร้อนในมือของนางยิ่งอยู่ก็ยิ่งร้อนขึ้นเรื่อยๆ เหงื่อร้อนของกู้ชูหน่วนแตกโดยตรงซึ่งเจ็บปวดจนนางกระตุกขึ้นทั้งร่าง มือที่สวมแหวนอยู่ราวกับว่าจะไม่ใช่ของนาง
“ข้าจะนับถึงสาม หากว่าเจ้าไม่ถอดออกข้าจะตัดนิ้วของเจ้าซะ”
“ตัดมือของข้าเจ้าก็จะไม่ได้วงแหวนอวกาศ มันได้รับข้าเป็นเจ้าของแล้ว”
“หึ……ไม่ได้มาก็ทำลายไปเสีย หนึ่ง……”
กู้ชูหน่วนขมวดคิ้ว เผชิญหน้ากับยอดฝีมือขั้นสูงสุดระดับหก กลอุบายเล็กๆของนางไม่มีประโยชน์เลยแม้แต่น้อยแล้วยิ่งอีกฝ่ายเป็นผู้ที่มีความเฉลียวฉลาด
“สอง……”
เมื่อเห็นว่าเขากำลังจะตะโกนถึงสาม
กู้ชูหน่วนกัดฟันพร้อมกับหลับตาลงปล่อยให้เหวินเส่าอี๋ตัดมือของนาง
นางก็ไม่รู้ว่าเหตุใดนางก็แค่ต้องการรักษาวงแหวนอวกาศไว้เสมือนว่าเพียงแค่รักษาวงแหวนอวกาศไว้ได้เท่านั้นนางถึงจะสามารถเก็บรักษาของบางสิ่งที่สำคัญมากสำหรับนางเอาไว้ได้
“สาม……”
หลังจากตะโกนถึงสามเหวินเส่าอี๋ก็ไม่รักษาน้ำใจอีก กำลังภายในได้เพิ่มพูนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
มือของกู้ชูหน่วนแดงก่ำขึ้นในทันที ร้อนจนนางอดคร่ำครวญเสียงหนึ่งออกมาไม่ได้ มือของนางเจ็บปวดกว่าเปลวเพลิงโลกันต์ลุกโชนเป็นร้อนเป็นพันเท่า
“ตุ๊บ……”
วงแหวนอวกาศซึ่งเดิมทีว่างเปล่าได้เกิดหีบสองสามใบบินออกมาอย่างแปลกประหลาด
เมื่อเหวินเส่าอี้เห็นเข้าก็สะบัดมือเปิดหีบออกซึ่งมีขนมเปี๊ยะดอกไม้หลายชิ้นอยู่ด้านใน
ขนมเปี๊ยะดอกไม้มีกลิ่นหอมอ่อนๆโดยมีกลิ่นกุ้ยฮวา กลิ่นชบา กลิ่นโบตั๋นและอื่น แม้กระทั่งว่ายังมีอากาศอันร้อนด้วย ดูลักษณะแล้วราวกับเพิ่งออกมาจากเตาได้ไม่นาน
เห็นได้ชัดว่ามีคนใช้วิชาเวทอันไร้เทียมทานผนึกขนมเปี๊ะดอกไม้ไว้ในวงแหวนอวกาศ
เมื่อเห็นขนมเปร๊ยะดอกไม้เหล่านี้ สมองของกู้ชูหน่วนก็เต้นแรงราวกับว่าภาพจำนวนนับไม่ถ้วนได้วนเวียนอย่างต่อเนื่องอยู่สมองของนาง แม้ว่าจะไม่ชัด้จนนางก็ยังสามารถเห็นชายหนุ่มโยนสง่างามผู้หนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้านางพร้อมกับมอบขนมเปี๊ยะดอกไม้ให้กับนาง
แต่ว่านางกลับมองไม่ชัดว่าชายหนุ่มผู้นั้นหน้าตาเช่นไร
เหวินเส่าอี๋เห็นขนมเปี๊ยะดอกไม้เหล่านั้นก็เกิดเปลวเพลิงลุกโชนขึ้นในดวงตา
“ต่อให้ตายไปแล้วเจ้าก็ยังเก็บขนมเปี๊ยะดอกไม้ที่เขามอบให้เจ้าเอาไว้? ยิ่งเจ้าอยากเก็บไว้ข้าก็ยิ่งอยากทำลาย”
ขมเปี๊ยะดอกไม้ทำให้เหวินเส่าอี๋โมโห
กลิ่นไอสังหารของเหวินเส่าอี๋พุ่งสูงขึ้นและลงมือไม่รักษาเอาไว้อีก ความแข็งแกร่งของภายในเหนือกว่าทะเลโลหิตโดยหมายทำลายวงแหวนอวกาศให้สิ้นซาก
อุณหภูมิสูงเกินไป รัศมีการสังหารกรุนแรงเกินไป
รูม่านตาของกู้ชูหน่วนหดตัว
รัศมีการสังหารอันแรงกล้า
กระบวนท่าดุดันเช่นนี้ หากว่าตกอยู่บนร่างของนางเกรงว่าแม้แต่กระดูกกระเดี้ยงของนางก็คงจะไม่สามารถรักษาเอาไว้ได้
กู้ชูหน่วนต้องการทุ่มทั้งชีวิตเพื่อต่อต้าน แต่ภายใต้แรงกดดันของยอดฝีมือระดับหกนางไม่มีโอกาสที่จะต่อต้านเลยแม้แต่น้อย ทำได้เพียงมองดูกระบวนท่าของเหวินเส่าอี๋ตกลงมาเท่านั้นเอง
ก่อนสิ้นลมนางยิ่งกลัวว่าวงแหวนอวกาศจะถูกเหวินเส่าอี๋ทำลาย
ในช่วงเวลาคับขันแหวนเล็กๆวงหนึ่งกลับเปล่งรัศมีสังหารอันทรงพลังออกมา ตามมาด้วยเสียงขลุ่ยอันใสสบาย จังหวะของขลุ่ยนั้นกระแทกเข้าด้วยกันกับฝ่ามือของเหวินเส่าอี๋เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น ห้องลับสะเทือนอยูสองสามครั้งซึ่งลักษณะเสมือนว่าจะพังทลายลง
จู่ๆแหวนก็เปล่งพลังที่ทำให้ผู้คนตื่นตกใจ สิ่งนี้ไม่มีผู้ใดคาดคิดได้เลย
แม้แต่เหวินเส่าอี๋ก็คาดไม่ถึง
หลังจากแรงกระแทกเหวินเส่าอี๋ถูกสะเทือนจนถอยหลังหนึ่งก้าว เดิมทีเขาผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสภายในอยู่แล้วไม่สามารถต้านทานแรงระเบิดนี้ได้ เลือดสดๆได้ไหลออกมาจากมุมปากและมือก็สั่นเทาอยู่หลายครั้ง
เขาจ้องไปยังขลุ่ยที่ลอยออกมาจากอากาศและวงแสงคุ้มกันใต้ผ้าขลุ่ยและได้เอ่ยประโยคหนึ่งออกมา
“ขลุ่ยนี้……เป็นของอี้เฉินเฟย……ระดับเจ็ด……เป็นนาง……นางได้ลงการต้องห้ามไว้ในวงแหวนอวกาศ”
“เจ้าไม่เพียงแต่ผนึกขนมเปี๊ยะดอกไม้เจ้ายังผนึกขลุ่ยนี้ด้วย หลอกใช้พวกเขาและแหวนให้ปกป้องกันและกัน……หึ……”