กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 956
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 956
“ทำไม่ได้……”
“เช่นนั้นเจ้า……เจ้ากอดข้าได้หรือไม่?”
กู้ชูหน่วนหันหน้าไปทางอื่น แม้ว่าจะไม่พูดออกมาชัดเจน ทว่าท่าทางการปฏิเสธก็แสดงออกมาอย่างชัดเจน
“เป็นเพราะคิดเพ้อฝันไปเอง……แม่ไม่ขอร้องอะไร หวังเพียงขอให้เจ้าปลอดภัยและมีความสุข”
กู้ชูหน่วนไม่รู้สึกซาบซึ้งใดๆ
จนถึงวินาทีที่จักรพรรดินีตัวจริงพูดประโยคหนึ่งขึ้นมา นางจึงได้หันกลับมามองนางทันที
“ท่านว่าอย่างไรนะ ผู้หญิงคนนั้นที่ปลอมตัวเป็นจักรพรรดินีกักขังชายหนุ่มเอาไว้ในห้องลับของราชวงศ์จำนวนมาก?”
“ใช่……ข้าไม่รู้ว่าใช่คนที่เจ้าต้องการตามหาหรือไม่ วันนั้นเป็นวันที่นางเข้ามาทรมานข้าและได้เผลอหลุดปากพูดออกมา นาง……ดูเหมือนนางต้องการ……ต้องการดูดวรยุทธ์และกำลังของพวกเขาทั้งหมด”
“ตอนนี้ดูดพลังไปแล้วหรือยัง?”
“ไม่……ข้าไม่รู้”
“ที่นี่มีทางแยกเป็นจำนวนมาก ท่านรู้หรือไม่ว่าห้องลับห้องไหน?”
จักรพรรดินีตัวจริงส่ายหน้า
นางพูดมาเยอะทำให้ร่างกายอ่อนล้าอย่างมาก และตอนนี้นางก็ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะพูดอะไรอีก
“นางบอกว่าจะดูดวรยุทธ์ของพวกเขาเมื่อไรอย่างนั้นหรือ?”
จักรพรรดินีตัวจริงส่ายหน้า
ที่นี่มืดสนิท ทำให้ไม่สามารถแยกกลางวันและกลางคืนได้
และนางก็ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไรแล้ว ทว่านางเชื่อว่าผ่านไปแล้วสองวัน
“ท่านนอนพักลงก่อน ข้าจะไปตามหาเสี่ยวเซวียนเซวียน”
“หน่วนเอ๋อร์……แม่ขอโทษ……ขอโทษ……หากชาติหน้ามีจริง แม่จะไม่มีทางทำเช่นนั้นเด็ดขาด”
“ปัง……”
กู้ชูหน่วนเพิ่งจะเดินออกไปไม่กี่ก้าวก็ได้ยินเสียงกระแทกที่ตกลงกับพื้น
นางเดินไปข้างหน้าเพื่อตรวจสอบ จักรพรรดินีตัวจริงได้หมดลมหายใจไปแล้ว
ร่างกายของกู้ชูหน่วนแข็งทื่อ เหมือนทำอะไรไม่ถูก
ตายไปแล้ว……
นางตายไปแล้ว……
นางควรจะเกลียดแค้นหรือไม่?
นางไม่รู้สึกผูกพันกับนาง
ทว่าอย่างไรเสียนางก็เป็นแม่ผู้ให้กำเนิด วินาทีนี้กู้ชูหน่วนรู้สึกสับสนอย่างมาก
เมื่อมองไปยังสภาพศพของนาง ทำให้กู้ชูหน่วนรู้สึกสับสนอย่างอธิบายไม่ถูก
นางเสียเวลาอยู่ที่นี่นานเกินไปแล้ว
นางไม่มีเวลาตามหาเซี่ยวอวี่เซวียนเลยสักนิด
แม้ว่าจะไม่เต็มใจ ทว่าก็ทำได้เพียงถอยกลับออกไปและคิดหาหนทางอื่น
และนางก็ไม่สามารถขยับหรือเคลื่อนย้ายศพของจักรพรรดินีตัวจริงได้
อย่าว่าแต่ร่างกายของนางเต็มไปด้วยโซ่ตรวนขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก ต่อให้ไม่มี หากเคลื่อนย้ายศพของนางออกไปตอนนี้ จะทำให้ตกเป็นที่ต้องสงสัยของจักรพรรดินีตัวปลอมอย่างแน่นอน
ในเมื่อยังไม่สามารถช่วยชีวิตเซี่ยวอวี่เซวียนออกมาได้ ฉะนั้นนางจึงไม่สามารถเสี่ยงได้
“ขอโทษด้วยนะ หากวันข้างหน้ามีโอกาส ข้าจะจัดการนำท่านไปฝังอย่างสมเกียรติ ส่วนตอนนี้ข้าทำได้เพียงปล่อยท่านไว้ที่นี่”
กู้ชูหน่วนจ้องมองศพและเดินออกจากห้องลับอย่างไม่เต็มใจ
หลังจากเดินหลงทางอยู่ในเส้นทางลับอยู่นาน ในที่สุดกู้ชูหน่วนก็หาทางออกจนเจอ
ภายในหอดาบ
กู้ชูหน่วนเดินเข้ามาราวกับวิญญาณดวงหนึ่ง
เยี่ยจิ่งหานกล่าว “เหตุใดถึงออกไปนานเช่นนี้ มีใครจับได้หรือไม่?”
“คาดว่าไม่มี ข้าระมัดระวังเป็นอย่างดี”
“เช่นนั้นแล้วเซี่ยวอวี่เซวียนและชิงเฟิง เจี้ยงเสวี่ยล่ะ หาพวกเขาเจอหรือไม่?”
“ไม่เจอ”
กู้ชูหน่วนรู้สึกแย่และไม่อยากพูดอะไร ดังนั้นนางจึงเดินเข้าไปในห้องที่อยู่ข้างในเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า
“เป็นอะไรหรือ สีหน้าของเจ้าดูไม่ค่อยสู้ดีเท่าไรนัก”
“ข้าจะออกไปตามหาอีกครั้งในตอนกลางคืน”
เยี่ยจิ่งหานครุ่นคิดและปฏิเสธออกมาทันที “ไม่ได้ ออกไปครั้งเดียวก็อันตรายมากพอแล้ว หากยังออกไปอีกละก็ จักรพรรดินีจะต้องเกิดความสงสัยอย่างแน่นอน”
“ไปหรือไม่ไปก็ค่าเท่ากัน นางสงสัยในตัวตนของข้าตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่หรือ?”
“ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ไม่ได้”
“เช่นนั้นเจ้าลองพูดมาสิ ว่าจะทำเช่นไรกับเสี่ยวเซวียนเซวียนและลูกน้องสองคนของเจ้า? ปล่อยให้จักรพรรดินีเข่นฆ่าพวกเขาตามใจชอบอย่างนั้นหรือ?”
กู้ชูหน่วนมองไปยังดวงตาของเยี่ยจิ่งหานและถามออกไปด้วยสีหน้าจริงจัง “เช่นนั้นเจ้าคิดว่าควรทำเช่นไร?”
“เจ้าค้นเจออะไรมาแล้วอย่างนั้นหรือ?”
“ข้าได้เจอกับจักรพรรดินีตัวจริงที่เส้นทางลับของราชวงศ์ นางถูกจักรพรรดินีตัวปลอมลอบทำร้าย”
“แค่นี้หรือ?”
“เจ้ายังต้องการอะไรอย่างนั้นหรือ?”
นิ้วมืออันเรียวยาวของเยี่ยจิ่งหานจับไปที่โต๊ะเบาๆ
เปิดโปงว่านางคือจักรพรรดินีตัวปลอม?
เรื่องนี้ใช้เวลามากเกินไป และก็อันตรายอย่างมากด้วย
ใช้ขวานผานกู่เพื่อทำให้รอยแตกของห้วงมิติเวลาแยกออก จากนั้นเคลื่อนย้ายกองกำลังเสริมมาจากดินแดนเยี่ยอวี่?
ทว่าขวานผานกู่ไม่ได้อยู่ในครอบครองของพวกเขา แม้ว่าจะอยู่ในมือของพวกเขา ระยะเวลาการเดินทางอันไกลแสนไกลก็จำเป็นต้องใช้เวลาอย่างมาก
ต่อสู้กับจักรพรรดินีซึ่งหน้า?
วรยุทธ์ของมู่หน่วนยังไม่เพียงพอ อีกทั้งร่างกายของเขาก็ยังไม่หายดี และขาของเขาก็ยังไม่สามารถเดินได้ดี กองกำลังและยอดฝีมือในมือของจักรพรรดินีนั้นมีนับไม่ถ้วน อีกทั้งพละกำลังและวรยุทธ์ของพวกเขาก็เก่งกาจและไม่อาจคาดเดาได้ หากจะต่อสู้กันซึ่งหน้านั้น จะไม่เป็นผลดีกับพวกเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
“ก็ได้ แต่ไม่สามารถออกไปตอนกลางคืนได้อีก รอไปอีกครึ่งชั่วยามก็แล้วกัน”
“รออีกครึ่งชั่วยาม?”
กู้ชูหน่วนกวาดสายตาไปข้างนอก
ตอนนี้เป็นเวลาเช้าแล้ว องครักษ์ที่อยู่ภายนอกกลับยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้น จะหลุดรอดไปจากสายตาของพวกเขาได้อย่างไร?
และเมื่อคืนนางก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ หากจะเดินออกไปตอนนี้ จะยิ่งทำให้พวกเขาสงสัยมากขึ้นไม่ใช่หรือ?
กู้ชูหน่วนยังไม่ทันจะได้สติ เยี่ยจิ่งหานก็ได้ตะโกนออกไปให้องครักษ์ที่อยู่ข้างนอกได้ยิน “ไปบอกจักรพรรดินี บอกว่าข้าต้องการพบนาง”
คนที่อยู่ข้างนอกต่างพากันตกตะลึงเล็กน้อย ไม่นานพวกเขาก็ยิงธนูออกไปเพื่อส่งข่าวรายงานไปยังจักรพรรดินี
เยี่ยจิ่งหานกล่าวว่า “ข้าถ่วงเวลากับจักรพรรดินี เจ้ารีบไปรีบกลับมา จะต้องตามหาเซี่ยวอวี่เซวียนและชิงเฟิง เจี้ยงเสวี่ยให้เจอ”
“เจ้าไม่กลัวว่าจักรพรรดินีจะทำอะไรกับตรงนั้นของเจ้าอย่างนั้นหรือ?” กู้ชูหน่วนจ้องมองไปที่เขาและกะพริบตาอย่างครุมเครือ
เยี่ยจิ่งหานหัวเราะเยาะ “นางคู่ควรอย่างนั้นหรือ?”
“อืม นางไม่คู่ควรจริงๆ นางสมควรถูกโซ่ตรวนขนาดใหญ่ผูกรัดเอาไว้และถูกขังไว้บนเตียงเพื่อความอนาจารเท่านั้น”
คำพูดนี้แม้พูดออกมาลอยๆ ถือเป็นการเย้ยหยัน ทว่ากลับมองไม่เห็นความติดตลกในคำพูดของนางที่อยู่ในแววตาของกู้ชูหน่วนเลยสักนิด กลับรู้สึกถึงความหนักอกหนักใจและไร้อารมณ์ความรู้สึก
กู้ชูหน่วนในลักษณะเช่นนี้ทำให้รู้สึกเต็มไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจ เยี่ยจิ่งหานจึงไม่กล้าพูดอะไรออกไป
นางยังพบเจออะไรในเส้นทางลับหรือไปรู้อะไรมากอย่างนั้นหรือ?
สามารถทำให้นางรู้สึกหนักอกหนักใจและคิดไม่ตกเช่นนี้ เกรงว่าจะไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ธรรมดาอย่างแน่นอน?
เรื่องที่เยี่ยจิ่งหานต้องการพบจักรพรรดินีนั้น จักรพรรดินีตอบตกลงโดยทันทีและจัดการเรียกเยี่ยจิ่งหานมาเข้าเฝ้า โดยไม่สนใจการว่าราชการในช่วงเช้า
เยี่ยจิ่งหานหาข้ออ้างเพื่อให้กู้ชูหน่วนไปยังเรือนยาหลวง เพื่อหาตัวยาที่หายากชนิดหนึ่งนำมารักษาร่างกายให้เขา
หลังจากกู้ชูหน่วนไปถึงยังเรือนยาหลวง ก็ได้โกหกออกไปว่ายาอันล้ำค่านี้จำเป็นต้องใช้เวลาถึงสองชั่วยามไปการปรุงกลั่น และห้ามทุกคนเข้าไปรบกวนภายในสองชั่วยามนี้ เพื่อไม่ทำให้จัดสูตรยาผิดและเป็นผลร้ายต่อเยี่ยจิ่งหาน
จากนั้นนางได้ใช้วิชาตัวเบาที่คล่องแคล่วเพื่อออกไปอีกครั้ง
หากคิกจะหลบเลี่ยงจากสายตาของผู้ที่แอบติดตามเหล่านั้นในตอนกลางวัน ถือเป็นเรื่องยากอย่างมาก
โชคดีที่ไม่รู้ว่าใครช่วยแอบช่วยนาง ที่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนที่แอบติดตามสอดส่องนาง ทำให้กู้ชูหน่วนมาถึงยังห้องเล็กๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากห้องตำราหลวงได้อย่างปลอดภัย
นางเปิดประตูลับอย่างคล่องแคล่วและเข้าไปในเส้นทางลับ
เหมือนกับครั้งก่อน ภายในนี้ทุกสี่ห้าก้าวจะมีทางแยก
ด้วยความจำอันน่าทึ่ง นางได้เดินทางมาถึงสถานที่กักขังจักรพรรดินีตัวจริง
ที่นี่ดูว่างเปล่า และไม่รู้ว่าศพของจักรพรรดินีหายไปตั้งแต่เมื่อไร เหลือแต่เพียงโซ่ตรวนพันปีเท่านั้น
จู่ๆ กู้ชูหน่วนรู้สึกมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้นในใจ
ศพของจักรพรรดินีตัวจริงหายไปแล้ว เช่นนั้นแล้วเรื่องการแอบบุกรุกเข้ามาในเส้นทางลับของนางก็ถูกเปิดเผยอย่างนั้นหรือ?
ไม่ว่าจะถูกเปิดเผยแล้วหรือไม่ กู้ชูหน่วนทำได้เพียงเดินไปข้างหน้าต่อ
นางรู้อยู่แก่ใจดีว่าผู้หญิงหลอกลวงคนนั้นน่าจะคาดเดาได้ว่าตัวตนของนางนั้นไม่ธรรมดา ทว่านางยังคงไม่ฆ่านาง
แสดงว่า……
นางมีสิ่งที่ผู้หญิงหลอกลวงคนนั้นต้องการ
เดินผ่านไปหลายทางแยก กู้ชูหน่วนรู้สึกวิงเวียนศีรษะ
พลังงานบางอย่างที่คุ้นเคยอย่างมาก?