กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 967
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 967
“ก็ได้ เพียงแค่เจ้าสามารถพาข้าบุกเข้าไปในวังหลวงได้ และสามารถรับรองความปลอดภัยให้กับข้าได้ ข้าไม่มีทางปฏิเสธอย่างแน่นอน ท่านผู้เฒ่าซั่งกวน ท่านจะไปหรือไม่?”
“ข้ายังไม่แก่ ข้าไม่ไป” ผู้นำตระกูลซั่งกวนกล่าวออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ เขากลายเป็นตาเฒ่าไปได้อย่างไร?
“ได้ เช่นนั้นท่านกลับไปยังเรือนตระกูลซั่งกวนเสียก่อน แล้วข้าจะส่งข่าวคราวมาเรื่อยๆ”
จากนั้นผู้นำตระกูลซั่งกวนก็ได้สนทนากับเหวินเส่าอี๋อีกครู่หนึ่ง และย้ำเตือนให้เขาระมัดระวังในการบุกเข้าไปยังวังหลวง จากนั้นจึงได้จากไป
เหวินเส่าอี๋มองผู้นำตระกูลซั่งกวนที่เดินจากไป แววตาของเขาลึกราวกับสระน้ำลึกไร้ก้นบึ้ง
กู้ชูหน่วนกล่าวว่า “ต่อให้เจ้าฆ่าเขาเสีย ความลับเรื่องที่เจ้าเป็นหัวหน้าเผ่าเพลิงฟ้าก็ต้องถูกเปิดเผยขึ้นสักวัน เหตุใดต้องทำเช่นนั้น มีคนคอยช่วยเหลือเพิ่มอีกคนไม่ดีกว่าหรือ”
“ไปกันเถอะ”
เหวินเส่าอี๋คว้าตัวกู้ชูหน่วนและเดินมุ่งตรงไปยังวังหลวงราวกับสายลม
กู้ชูหน่วนสูดดมกลิ่นหอมบนร่างกายของเขาที่คละคลุ้งอบอวลเป็นเอกลักษณ์ และอดไม่ได้ที่จะสูดดมอยู่หลายครั้ง
ตัวเขาหอมมาก เป็นกลิ่นหอมที่เจือจาง เมื่อได้สูดดมจะทำให้รู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข ผิวของเขาช่างเนียนเรียบและนุ่มนวล และอดไม่ได้ที่จะทำให้คิดเพ้อฝันเลยเถิด
สองมือของกู้ชูหน่วนกอดรัดไปที่เอวของเขา และตัวของนางก็ได้ตกอยู่ในอ้อมแขนของเขา เพื่อสูดดมเพลิดเพลินกลิ่นหอมบนกายของเขา
เหวินเส่าอี๋ขมวดคิ้ว และกล่าวอย่างเย็นชา
“ปล่อยมือของเจ้าเดี๋ยวนี้”
“ข้ากลัวล้ม”
“ปล่อยมือเดี๋ยวนี้”
กู้ชูหน่วนหลับตาลงและไม่สนใจคำพูดของเขา
เหวินเส่าอี๋โกรธมาก และภาพในวันวานที่เขาถูกนางปลดเปลื้องเสื้อผ้าก็ปรากฏขึ้นในหัว
โดยเฉพาะบนหน้าผากของนางที่มีดวงวิญญาณของผู้หญิงคนนั้นอยู่
เหวินเส่าอี๋รู้สึกรังเกียจอย่างมาก และขณะที่กำลังจะสะบัดนางออก เขากลับได้ยินเหมือนเสียงหายใจ
เมื่อก้มหน้าลงมอง ผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาได้หลับไปตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้
ขณะที่นางหลับนั้นช่างดูอ่อนโยนและไร้เดียงสาไร้พิษภัย บริสุทธิ์และสวยงาม ใบหน้านางดูอ่อนล้า ซึ่งคาดว่าหลายวันมานี้คงไม่ได้พักผ่อนอย่างดีแน่ๆ
หากไม่รู้นิสัยของนาง เหวินเส่าอี๋คงคิดว่านางเป็นผู้หญิงที่ดูอ่อนโยนและเป็นที่รักของทุกคน
และเมื่อนึกถึงตระกูลมู่ที่ถูกฆ่าสังหารอย่างน่าสลดทั้งตระกูล และรวมไปถึงการแสดงออกถึงความเจ็บปวดและความเศร้าโศกของนาง
บวกกับการถูกไล่ล่าฆ่าสังหารจากจักรพรรดินีและหลายสำนักใหญ่ๆ มาหลายวันติดต่อกัน
เหวินเส่าอี๋ก็ใจอ่อนลงเล็กน้อย
ในใจของเขาสับสนยุ่งเหยิงอย่างมาก
เขาทั้งรังเกียจผู้หญิงคนนี้
และรู้สึกเห็นใจผู้หญิงคนนี้
ความรู้สึกหลายหลากอารมณ์ที่ปะทะเข้าด้วยกัน และในที่สุดเหวินเส่าอี๋ก็ไม่ได้สะบัดกู้ชูหน่วนออกจากอ้อมแขน
ทว่ากลับเดินทางมุ่งหน้าไปยังวังหลวงต่อ
และเมื่อกู้ชูหน่วนตื่นขึ้นมา ก็ได้เดินทางมาถึงยังห้องเล็กๆ อันเปล่าเปลี่ยวในวังหลวงแล้ว
เหวินเส่าอี๋ยืนกอดอกและมองไปยังพระจันทร์จากทางหน้าต่าง ซึ่งเผยให้เห็นแผ่นหลังที่งดงาม
ทว่าแผ่นหลังของเขานั้นมีร่องรอยของความโดดเดี่ยวเดียวดายและความโศกเศร้า เมื่อมองไปแล้วทำให้รู้สึกสงสารอย่างมาก
กู้ชูหน่วนยื่นมือออกไปและคิดว่าควรจะปลอบเขาอย่างไร ทว่าก็ไม่รู้ว่าจะพูดปลอบเขาได้อย่างไร
“ตื่นแล้วก็พาข้าไปดูดวงวิญญาณดวงนั้นกันเถอะ”
กู้ชูหน่วนบิดขี้เกียจและเมินเฉยต่อความโศกเศร้าของเขา
“เสี่ยวหูเตี๋ย เจ้าสุดยอดอย่างมาก วังหลวงที่มีการคุ้มกันอย่างหนาแน่นเช่นนี้ เจ้าก็สามารถบุกเข้ามาได้อย่างอย่างมาก ข้าหลับไปนานแค่ไหน เหตุใดเจ้าถึงไม่เรียกข้า?”
เหวินเส่าอี๋หันกลับมาและเลียนแบบท่าทีของนาง โดยการเอามือกอดอกและจ้องมองไปที่นาง
“เสี่ยวหูเตี๋ย เจ้าช่างร้ายนัก ท่าทางเช่นนี้อาจทำให้เจ้าเสื่อมเสียชื่อเสียงได้”
“เจ้าจะไปหรือไม่?”
“ไปสิ จะไม่ไปได้อย่างไร ข้าเข้าไปยังห้องลับจากห้องเล็กๆ ข้างห้องตำราหลวง แต่ข้าไม่รู้ว่าตอนนี้จักรพรรดินีตัวปลอมคนนั้นจะรู้แล้วหรือไม่ว่าห้องนั้นมีแผงควบคุมที่สามารถเปิดห้องลับได้”
“พาข้าไปเดี๋ยวนี้”
“เจ้าคิดให้ดีล่ะ หากจักรพรรดินีตัวปลอมคนนั้นรู้ความลับของห้องเล็กห้องนั้น และหากเจ้ายังเข้าไปอีก เจ้าอาจจะถูกจับเอาได้เชียวนะ”
“เพียงแค่สามารถหาดวงวิญญาณของนางเจอ ทุกอย่างก็คุ้มค่า”
“อันที่จริงข้าไม่เข้าใจเลย เจ้าโกรธแค้นนางไม่ใช่หรือ? ในเมื่อเจ้าเกลียดแค้นนาง เช่นนั้นแล้วเหตุใดถึงยังอยากต้องการดวงวิญญาณของนาง? ปล่อยให้นางเป็นดวงวิญญาณที่ล่องลอยไร้ที่พึ่งแบบนี้ไปไม่ดีกว่าหรือ?”
เมื่อพูดออกไปเช่นนี้ ทำให้ท่าทีของเหวินเส่าอี๋ดูเยือกเย็นอย่างมาก
อยู่ห่างออกไปไกลก็สามารถรับรู้ได้ถึงรัศมีความเกลียดแค้นของเขา
“นางฆ่าสังหารทุกคนในเผ่าของข้า นางฆ่าท่านพ่อของข้า นางทำร้ายท่านอาจารย์ของข้า หากปล่อยให้นางตายไปอย่างง่ายดายเช่นนี้คงดูไม่คู่ควรกับสิ่งที่นางทำกระมัง? ข้าต้องการให้นางมีชีวิตอยู่ และได้เห็นข้าฆ่าสังหารทุกคนในเผ่าอวี้ด้วยตาของนางเอง ข้าจะฆ่าเยี่ยจิ่งหาน เซี่ยวอวี่เซวียน เพื่อให้นางได้ลองสัมผัสถึงความรู้สึกของการสูญเสียคนรักคนสนิทไป”
กู้ชูหน่วนอยากจะบอกว่า หากเกลียดแค้นใครคนหนึ่งจริง เขาจะไม่มีทางอยากให้คนนั้นฟื้นชีพกลับขึ้นมาอีก เพื่อให้นางได้ลองสัมผัสความเจ็บปวด ความทุกข์ทรมานทั้งหมดที่เขาเคยได้รับ
ทว่าจะแก้แค้นกับคนอื่นแทน แค้นนี้ต้องชำระ
และการที่เขาต้องทุกข์ทรมานมากเช่นนี้ คงเป็นเพราะเขารักผู้หญิงคนนั้น
ทว่าเมื่อเห็นท่าทีของเขาที่ดูเจ็บปวด กู้ชูหน่วนจึงไม่ได้พูดอะไรอีก
เพียงแต่พูดออกมาอย่างหนักแน่น “เจ้าจะจัดการลงมือใครข้าก็ไม่ว่า แต่หากเจ้าทำอะไรเซี่ยวอวี่เซวียน ข้าจะไม่มีทางให้อภัยเจ้าอย่างแน่นอน”
กู้ชูหน่วนไม่เพียงพูดเปล่า นางยังเดินนำเหวินเส่าอี๋ไปยังห้องเล็กๆ ที่อยู่ข้างห้องตำราหลวง
ในใจของทั้งสองต่างรู้ดีว่า
สุดท้ายแล้วพวกเขาทั้งสองคนจะต้องกลายเป็นศัตรูกัน
เหวินเส่าอี๋ไม่มีทางปล่อยเซี่ยวอวี่เซวียนไป
และกู้ชูหน่วนก็ไม่มีทางปล่อยให้เหวินเส่าอี๋ทำร้ายเซี่ยวอวี่เซวียนอย่างแน่นอน
และจู่ๆ กู้ชูหน่วนก็คิดอยากจะทำให้ผู้หญิงคนนั้นฟื้นขึ้นอีกครั้ง เพื่อดูว่าผู้หญิงคนนั้นมีเสน่ห์อย่างไร เหตุใดถึงทำให้ผู้ชายจำนวนมากต้องตกหลุมรักนางเช่นนี้
วิชาตัวเบาของทั้งคู่นั้นเก่งกาจอย่างมาก ไม่นานก็หลุดพ้นจากองครักษ์ลาดตระเวนและมาถึงยังห้องเล็กๆ ข้างห้องตำราหลวง
กู้ชูหน่วนมองไปยังองครักษ์ลาดตระเวนผ่านทางช่องว่างระหว่างหน้าต่างและกล่าวกระซิบ
“ครั้งก่อนที่ข้าบุกเข้ามาอาละวาดในห้องลับอย่างหนัก เป็นไปไม่ได้ที่จักรพรรดินีตัวปลอมจะไม่เพิ่มกองกำลังในการคุ้มกัน แต่ตอนนี้……การคุ้มกันของที่นี่ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน แม้แต่กองยามประจำการที่แอบดักซุ่มอยู่ก็ไม่มีเปลี่ยนแปลง เสี่ยวหูเตี๋ย ข้ารู้สึกไม่ค่อยดีเลย หากเจ้าคิดปฏิเสธตอนนี้ยังทันเวลา”
“เจ้าบอกให้ข้าล้มเลิกนับครั้งไม่ถ้วน ข้าชักอยากจะถามเจ้าว่า เจ้ากำลังคิดแผนอะไรกันแน่? หรือว่า……อันที่จริงแล้วดวงวิญญาณดวงนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่?”
“ข้าจะคิดแผนการอะไรได้อีก ข้าเพียงกลัวว่าจักรพรรดินีตัวปลอมคนนั้นจะวางกับดักไว้ และทำให้ข้าต้องตายได้น่ะสิ ช่างเถอะ ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว ข้าจะเสี่ยงชีวิตเข้าไปยังวังใต้ดินเป็นเพื่อนเจ้า เจ้าจะได้ไม่พูดว่าข้าโกหกเจ้าอีก”
“ฉับ……”
กู้ชูหน่วนเปิดแผงควบคุมและเผยให้เห็นประตูของห้องลับ “นั่นไง นี่ก็คือทางเข้าห้องลับ หากเจ้าจะเข้าไปจริง ข้าก็จะไม่ห้ามเจ้า แต่หากเจออันตรายอะไรข้างใน เจ้าก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนเจ้าล่ะ”
เหวินเส่าอี๋รู้ว่าผู้หญิงคนนี้อาจจะกำลังวางแผนอะไรอยู่
และก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จักรพรรดินีจะไม่มีการวางแผนอะไร
ทว่าเขา……
จำเป็นต้องเข้าไปสำรวจ
การจะตามหาดวงวิญญาณจนเจอได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
เพียงแค่ตามหาดวงวิญญาณอีกสองดวงให้เจอ ดวงวิญญาณของนางก็จะครบแล้ว
เหวินเส่าอี๋เดินเข้าไปอย่างไม่ลังเล
กู้ชูหน่วนเดินตามหลังเข้าไป และทำการปิดแผงควบคุมลงอีกครั้ง
นางจุดคบไฟและเดินนำทางไปอย่างชำนาญ
เหวินเส่าอีเดินตามหลังนางอย่างใจเย็น “เหตุใดถึงมีทางแยกมากมายเช่นนี้?”
“ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร ข้าไม่ได้เป็นคนขุดเสียหน่อย”
ข้างหน้าเป็นทางตันและไม่มีทางเดินต่อ กู้ชูหน่วนกัดนิ้วตัวเองและหยดเลือดลงข้างหน้า จากนั้นประตูหินก็ถูกเปิดออก
สัญชาตญาณของเหวินเส่าอี๋รู้สึกไม่ธรรมดา
“เลือดของเจ้าสามารถเปิดประตูหินได้อย่างนั้นหรือ?”
กู้ชูหน่วนหัวเราะเยาะ และกล่าวออกไปอย่างไร้เดียงสา “ไม่แน่เลือดของเจ้าก็อาจจะเปิดได้ด้วยเช่นกัน ไม่เช่นนั้น เจ้าลองดูสิ?”
“……”