ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ - ตอนที่ 415-416
ตอนที่ 415 รักผมจนหลง ถ้าไม่ใช่ผมก็ไม่แต่ง (5)
ปู่เจียงขมวดคิ้ว “บอกแล้วชัดๆ ว่ากินได้ กินน้อยลงก็พอแล้ว”
อวี๋กานกานมองเขา ปรากฏรอยยิ้มเหมือนสตรีมีฐานะ “นั่นมันคนอื่น ท้องไส้คุณกินไม่ได้”
ปู่เจียงถลึงตามองอวี๋กานกาน “ฉันรู้สึกว่าเธอไม่เหมาะที่จะเป็นภรรยาจือหันของบ้านเรา เธออย่าตอบตกลงที่เขาตามจีบเลยดีกว่า”
อวี๋กานกานเม้มปากอย่างเขินอาย “แต่ว่าฉันรับปากไปแล้วค่ะ”
“นี่เธอยังไม่ได้แต่งเข้ามา เธอก็เริ่มยุ่งวุ่นวายนั่นนี่ ถ้าเธอตอบตกลง ฉันก็ไม่ตกลงรับเธอเข้าบ้านเรา” ปู่เจียงกดกระดิ่งข้างเตียง ไม่นานเจียงฉี่ก็เดินเข้ามา
แววตาอ่อนโยนของเธอเจือความชอบใจเอาไว้ “คุณปู่ มีอะไรคะ”
ปู่เจียงสั่ง “เรียกพี่ชายแกมา”
เจียงฉี่ส่งเสียง “อือ” อย่างผิดหวัง มองไปที่อวี๋กานกานอย่างน่าสงสารแล้วจึงออกไป
ไม่นานฟังจือหันก็ขึ้นมาชั้นบน เพิ่งจะผลักประตูเปิด ชายแก่ก็ตะโกนเสียงดัง “ไม่เคยเจอยัยเด็กที่น่าไม่อายแบบนี้เลย มาถามฉันตรงๆ ว่าจะจัดงานแต่งให้พวกแกเมื่อไหร่”
อวี๋กานกานพูดไม่ถูก “…”
คุณผู้ชาย คุณเป็นเหมือนแต่ก่อนดีกว่า ไม่วางไพ่ตามปกติแบบนี้
เธอกำลังอยากจะอธิบายสถานการณ์ก่อนหน้าให้ฟังจือหัน แต่ปู่เจียงเห็นแขนที่คล้องคอของฟังจือหันเข้าก็ตกใจหน้าซีดในชั่วขณะ “เกิดอะไรขึ้น ทำไมบาดเจ็บหนักขนาดนี้”
ฟังจือหันบอกพวกเขาว่าบาดเจ็บเล็กน้อย
ปู่เจียงยังนึกว่าแค่กรีดเป็นแผลภายนอกเล็กน้อย เห็นท่อนแขนถูกคล้องเอาไว้ก็ตกใจเสียยกใหญ่ไปชั่วครู่
บาดเจ็บรุนแรงขนาดนี้ แขนคงไม่พิการหรอกนะ นั่นไม่ได้เลย เขาเป็นผู้สืบทอดของสกุลเจียงเชียวนะ
อวี๋กานกานมองปู่เจียงแล้วพูดออกไปเรื่อยเปื่อย “ใช่ค่ะ เขาบาดเจ็บสาหัสมาก รอยมีดลึกมาก เสียเลือดเกินไป ถ้าไม่ดูแลให้ดีก็อาจเกิดเรื่องเศร้าในชีวิตได้ทุกเมื่อ”
ปู่เจียงไม่เชื่อ “เธอพูดอะไร”
บอกว่าแขนจะพิการเขายังอาจจะเชื่อ บอกว่าเสียเลือดมาก เศร้าสลดในชีวิต ยายเด็กขี้เหร่ก็ไม่คิดบ้างว่าเขาใช้อะไรสร้างทรัพย์สมบัติให้ครอบครัวมา
ชายแก่โมโหอยากจะตีคน โชคดีที่ฟังจือหันช่วยแก้หน้าได้ทันเวลา
เจียงฉี่อยากจะให้อวี๋กานกานอยู่ค้างคืนที่บ้านเจียง อวี๋กานกานคิดดูแล้วจึงตัดสินใจกลับดีกว่า ส่งยิ้มขอโทษให้เจียงฉี่กับฟังจือหัน “อาจารย์ฉันยังรอฉันอยู่ที่บ้านอยู่เลย”
ฟังจือหันพลันพบว่าตนเองอิจฉาคนที่ถูกเรียกว่าอาจารย์อะไรนั่นอย่างที่สุด ความสัมพันธ์ยุ่งเหยิงอะไรกัน
เขาดีดหน้าผากเธอไปทีหนึ่งแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้าสลด “ฉันบาดเจ็บสาหัสมาก รอยแผลลึกมาก เสียเลือดมากเกิน…”
อวี๋กานกานอ้าปากค้าง “…”
ฟังจือหัน “ถ้าไม่ดูแลให้ดีก็อาจเกิดเรื่องเศร้าในชีวิตได้ทุกเมื่อ”
อวี๋กานกาน “…”
คำพูดนี้ไม่ใช่ว่าเธอเพิ่งกุเรื่องหลอกชายแก่เมื่อครู่เหรอ
เจียงฉี่ที่อยู่ข้างๆ ป้องปากแอบขำ
อวี๋กานกานส่งยิ้มหวานให้ฟังจือหัน “พรุ่งนี้ฉันจะมาดูแลคุณ ได้ไหม”
ฟังจือหันก้มหน้ามองเธอ เลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ ดวงตาคล้ายจะยิ้มแต่ก็ไม่นั้นจู่ๆ ก็ครุ่นคิดเล็กน้อย “ถ้าคุณรับปากคำขอของผม ผมก็ตกลง”
เป็นครั้งแรกที่เห็นสีหน้ามีแผนร้ายชัดเจนของเขาแบบนี้ อวี๋กานกานสงสัย “คำขออะไร”
ฟังจือหันยื่นมือไปโอบเอวของเธอ น้ำเสียงชวนหลงใหล “กลับไปบอกอาจารย์คุณ คุณรักผมจนหลง ถ้าไม่ใช่ผมก็ไม่แต่ง”
ฉันรักคุณจนหลง ถ้าไม่ใช่คุณก็ไม่แต่งเหรอ อวี๋กานกานแทบไม่อยากจะเชื่อ เบิกตาโตมองเขา “ฉันพูดเมื่อไหร่ว่าจะแต่งกับคุณ”
“ไม่แต่งกับผม คุณอยากแต่งกับใคร” น้ำเสียงของฟังจือหันราบเรียบ แต่หรี่ตาลง ดูอันตรายอย่างแรง
อวี๋กานกานขี้ขลาดในเสี้ยววินาที “แต่งกับคุณ”
ตอนที่ 416 รักผมจนหลง ถ้าไม่ใช่ผมก็ไม่แต่ง (6)
อวี๋กานกานจำได้ว่าตอนที่เพิ่งจะเข้ามัธยมปลาย มีเพื่อนร่วมชั้นผู้ชายคนหนึ่งชอบมาหาเธอ หน้าตาโดยรวมเป็นยังไงเธอก็จำไม่ได้แล้ว สูงๆ ผอมๆ ขาวสะอาดเหมือนผู้หญิงในโรงเรียนค่อนข้างมากชอบส่งจดหมายรักให้เขา
ตอนนั้นอาจารย์รูปหล่อมาหาเธอและพูดกับเธออย่างจริงจังครั้งหนึ่ง ถามเธอว่ากำลังหาแฟนใช่ไหม
เธอตกตะลึงและตกใจอย่างแรง รีบอธิบายให้อาจารย์รูปหล่อ หลังจากนั้นก็ห่างกับผู้ชายคนนั้น เวลานานไปทุกคนก็ไม่สนิทกันเหมือนก่อนแล้ว
ตอนนั้นอาจารย์แก้ปัญหาง่ายเกินไปด้วยการออกคำสั่งว่าตอนมอปลายเธอจะมีความรักไม่ได้ แต่หลังจากที่เข้ามหาวิทยาลัยถ้ามีผู้ชายที่ชอบ เธอสามารถลองทำความรู้จักดูได้
แต่ไม่ว่าเธอจะอยู่มอปลายหรือมหาวิทยาลัยก็ไม่คิดจะมีแฟนมาก่อนเลย มักจะรู้สึกว่าการมีความรักเป็นเรื่องที่เสียเวลา
ตอนนี้เธอก็เรียนจบมหาวิทยาลัยเรียบร้อยแล้ว มีแฟน มีความรัก อาจารย์คงไม่คัดค้านอย่างแน่นอน
อวี๋กานกานกลับบ้านก็เป็นเวลาเที่ยงคืนกว่าแล้ว เหอสือกุยยังไม่นอน นั่งรอเธออยู่ในห้องรับแขกในชุดอยู่บ้าน
“อาจารย์คะ ทำไมคุณยังไม่นอน”
“ไม่ค่อยง่วง เธอไปหาคุณฟังคนนั้น อาการบาดเจ็บเขาเป็นยังไงบ้าง เธอกลับมาดึกแบบนี้รุนแรงมากเลยเหรอ” เหอสือกุยถาม
“ฟังจือหันบาดเจ็บไม่มาก เพียงแค่เจอเข้ากับเจียงฉี่ที่โรงพยาบาล ก็คือน้องสาวของฟังจือหัน เจียงฉี่บอกว่าคุณชายเจียงป่วยอีกแล้ว ดังนั้นฉันจึงกลับไปที่บ้านเจียงกับเธอรอบหนึ่งเพื่อตรวจอาการให้คุณชาย”
อวี๋กานกานบอกเล่าเส้นทางการเดินทาง
เหอสือกุยถามอีกครั้ง “คุณชายสุขภาพดีอยู่ไหม”
“ตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไรชั่วคราวค่ะ สุขภาพคุณชายท่านนี้เดิมก็ยังพอใช้ได้” “อวี๋กานกานกล่าวพร้อมกับมองเหอสือกุยอย่างเป็นห่วงความรู้สึก “อาจารย์เหม่ยเรินคะ คุณทายาที่แผลคุณรึยัง ยังเจ็บตรงไหนบ้างไหมคะ”
เหอสือกุยยกยิ้ม รอยยิ้มใสสะอาดและงดงาม อ่อนโยนดุจน้ำในฤดูใบไม้ร่วง “วางใจเถอะ อาจารย์ไม่เป็นไร งั้นเธอก็รีบพักผ่อนเถอะ”
ว่าแล้วเหอสือกุยก็เดินเข้าห้องไป
อวี๋กานกานร่างคำพูดไว้ในใจ คิดไว้ว่าพอกลับถึงบ้านก็จะบอกเรื่องเธอกับฟังจือหันให้เหอสือกุย
แต่ตอนนี้ก็กลางดึกแล้ว
อันตรายในตอนบ่าย วิ่งหนีภายใต้อากาศหนาวเหน็บ อีกทั้งรอที่สถานีตำรวจกับบ้านเจียงเป็นเวลานาน อวี๋กานกานกลับถึงบ้านก็เหนื่อยล้า เธออาบน้ำแล้วก็ขึ้นเตียงและนอนหลับไป
แต่ว่าเธอหลับไปกลับไม่ค่อยสบายเท่าไหร่
เธอเริ่มฝันถึงลานหิมะนั้นอีกครั้ง มีบางช่วงที่ยุ่งเหยิงไปหมด บางช่วงก็เป็นคำพูดไม่กี่คำ บางครั้งก็เป็นภาพฉากหนึ่ง มีบางครั้งที่เป็นเพียงแค่ภาพวุ่นๆ ภาพหนึ่ง
เด็กชายให้เด็กหญิงขี่หลังและเดินทีละก้าวไปตามลานหิมะ หิมะโปรยปรายร่วงหล่นลงมา ไม่นานก็ปกคลุมรอยเท้าพวกเขาเอาไว้
เด็กหญิงซบหัวลงที่บ่าของเด็กชาย “พี่เจียงคะ เราจะไปไหน”
เด็กหนุ่มที่แบกเด็กหญิงอยู่บนหลังหันหน้าไปพูดกับเธอ “ไปหาคุณตาของฉัน เขาเป็นชายหนุ่มในกองทัพปลดปล่อยเยาวชนที่เก่งมาก จะปกป้องพวกเราได้”
“ฉันชอบชายหนุ่มกองทัพปลดปล่อยเยาวชน”
“ฉันก็ชอบ”
“พี่เจียงโตขึ้นแล้วจะเป็นทหารไหม”
“เป็น”
รอยยิ้มใสซื่อไม่แฝงพิษภัยเลือนหายไปจากใบหน้าไร้เดียงสาของเด็กสาว เธอแบมือข้างหนึ่ง หิมะตกลงบนถุงมือและละลายในพริบตา
มือทั้งคู่ของเด็กสาวโอบรอบคอเด็กหนุ่มพลางเอียงหัวเอ่ยถาม “คุณตาของพี่เจียงจะชอบเสี่ยวอวี๋ไหม”
“ชอบ”
“พี่เจียง งั้นต่อไปจะเป็นครอบครัวเราไหม”
“แน่นอน”
“พี่เจียง งั้นจะอยู่กับเสี่ยวอวี๋ตลอดไปเลยไหม”