ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ - ตอนที่ 433-434
ตอนที่ 433 ผิดหวัง อาจารย์ผู้ถูกทอดทิ้ง
เหอสือกุยหยิบแอปเปิ้ลลงมาให้แล้วก็อยากออกไปบ้าง หญิงสาวยืนอยู่ข้างๆ ดวงตาดำขลับเป็นประกายมองเขาอย่างไม่คิดอยากลงมือทำเอง
เขาจึงทำได้เพียงนำแอปเปิ้ลไปล้างทำความสะอาดแล้วหั่นเป็นชิ้นๆ
เขาพึ่งหั่นได้แค่ชิ้นเดียวเจียงฉี่ก็ใช้มือหยิบเข้าปากเคี้ยวกร้วมๆ ด้วยสีหน้าพอใจ “หวานมาก”
เธอมองชิ้นแอปเปิ้ลในมือ “นี่มันแอปเปิ้ลพันธุ์ถังซิน[1] นี่คะ มิน่าล่ะถึงได้หวานขนาดนี้”
เหอสือกุยไม่ได้สนใจเธอ เขาหั่นแอปเปิ้ลเสร็จก็หั่นแก้วมังกรต่อ เมื่อไม่มีอะไรจะพูดก็ไม่อยากพูด อยู่เงียบๆ ทำหน้าที่ของตนเองไป
เจียงฉี่หัวเราะแหะๆ ถามเขา “ฉันได้ยินพี่สะใภ้เอ่อ…พี่อวี๋พูดว่าอาจารย์เหม่ยเหรินทำกับข้าวเก่งมาก ฉันสนใจทำอาหารพอดีเลยค่ะ โดยเฉพาะชอบทำขนมหวาน แต่ว่าทำไม่เป็นหรอกค่ะ อาจารย์เหม่ยเหรินว่างๆ ช่วยสอนฉันทำได้ไหมคะ”
เหอสือกุยตอบไปงั้นๆ “ผมก็ทำมั่วๆ ครับ”
เจียงฉี่ชม “ทำมั่วๆ แต่ก็ยังทำออกมาดูดี ถ้าอาจารย์ทำจริงจังเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมามีหวังคงได้ระดับ
มิชลินห้าดาวไปเลยค่ะ”
เสียงของเหอสือกุยพูดขึ้นอย่างเอื่อยเฉื่อย “ก็แค่กับข้าวบ้านๆ น่ะครับ หากคุณอยากเรียนทำอาหารจริงๆ ไปลงทะเบียนเข้าคอร์สเรียนทำอาหารจะดีกว่านะครับ”
หั่นผลไม้เรียบร้อยแล้วทิ้งคำพูดไว้หนึ่งประโยค เหอสือกุยก็ออกไปพร้อมยกจานผลไม้หลากสี
เจียงฉี่รีบตามเขาไป
สองคนเดินมาถึงห้องโถงรับแขกก็ไม่เจออวี๋กานกานและฟังจือหันแล้ว
เหอสือกุยวางจานผลไม้บนโต๊ะรับแขก สายตาที่มองเจียงฉี่เย็นชาเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ตำหนิอะไร เพียงแต่พูดเบาๆ เท่านั้น “ผมจะกลับห้อง”
เจียงฉี่ไม่ยอมให้เขาออกไปยื่นมือถือให้เหอสือกุยแล้วถามเขาด้วยรอยยิ้มร่า “อาจารย์เหม่ยเหรินคะช่วยฉันถ่ายรูปอีกได้ไหมคะ”
เหอสือกุยทำได้เพียงรับมาแล้วถ่ายรูปให้เจียงฉี่ ความอดทนเริ่มหมดลงเรื่อยๆ
“อาจารย์เหม่ยเหรินคะ ให้ฉันช่วยถ่ายรูปให้ไหม พวกเราเพิ่มเพื่อนในวีแชทกันค่ะฉันจะได้ส่งรูปให้อาจารย์”
กำลังจะเดินออกไปก็ถูกเจียงฉี่เรียกรั้งไว้อีก น้ำเสียงของเหอสือกุยจึงเปลี่ยนเป็นเย็นชาเหมือนหิมะที่กำลังตกข้างนอก “ผมไม่ใช่อาจารย์ของคุณ”
“แต่ฉันไม่รู้จะเรียกว่าอะไรนี่คะ”
“เหอสือกุย”
“ที่ฉันพูดไม่ได้หมายความว่าไม่รู้จักชื่อคุณแต่ไม่รู้ว่าจะเรียกยังไง ถ้าเรียกชื่อเต็มก็จะดูแปลกหน้าไปหน่อย เรียกเสี่ยวกุยฟังดูแล้วเหมือนกำลังเรียกเต่า เรียกเหล่ากุยก็ไม่สมควรอีก คนไม่รู้ก็จะคิดว่าเรียกอีกาเสียอีก ฉันคิดว่าเรียกอาจารย์เหม่ยเหรินไพเราะกว่าอีกฟังแล้วดูยังหนุ่มและทันสมัยดูเหมือนจะหวานติดฟันด้วยค่ะ”
ไม่ว่าเขาจะเฉยชาแค่ไหนแต่หญิงสาวตรงหน้าก็ยังยิ้มแย้ม
ปกติเหอสือกุยเป็นคนอ่อนโยนอยู่แล้วไม่สามารถตีหน้าเย็นชาได้อีก “ตามใจคุณเลยครับ”
เขาหันหลังจะไปแต่เจียงฉี่ก็เอ่ยขึ้นมา “คิวอาร์โค้ดค่ะๆ…”
เหอสือกุยจึงทำได้แต่หยิบโทรศัพท์มือถือของตนเองขึ้นมาให้เจียงฉี่สแกนคิวอาร์ดโค้ดเพิ่มเพื่อนในวีแชทจากนั้นจึงกลับเข้าห้องไป
เมื่อกลับเข้าห้อง เหอสือกุยคิดจะโทรศัพท์หาอวี๋กานกาน
เมื่อหาเบอร์เจอแล้วแต่สุดท้ายกลับลังเล
เธอไม่ใช่เด็กที่จะไม่เข้าใจอะไรๆ เธอโตเป็นสาวแล้ว เขาไม่สามารถก้าวก่ายเธอได้เหมือนเมื่อก่อน
โมเมนต์วีแชทแจ้งเตือนโพสต์ใหม่ซึ่งเป็นรูปโปรไฟล์ของเธอ เหอสือกุยจึงกดเข้าไปดู
[อวี๋กาน: เล่นคล้องห่วงได้รางวัลใหญ่มากเป็นหมูน้อยน่ารัก]
รูปถ่ายใต้แคปชั่นเป็นรูปตุ๊กตาลูกหมูตัวหนึ่ง
ไม่ต้องให้เดาก็รู้ว่าตุ๊กตาหมูตัวนั้นเป็นใครที่คล้องห่วงมาให้เธอ
รอยยิ้มของเหอสือกุยจางหายไป สีหน้าผิดหวังเ**่ยวเฉาเหมือนมะขามป้อมที่คลุกพริกป่น
——
[1] แอปเปิ้ลถังซิน หรือแคนดี้แอปเปิ้ล แอปเปิ้ลพันธุ์ลูกกวาดมีรสชาติหวาน มีถิ่นกำเนิดที่เมืองอัคสุในเขตปกครองตนเองซินเจียง ประเทศจีน
ตอนที่ 434 ปฏิเสธ ไม่อยากเพิ่มเพื่อน
นิ้วของเหอสือกุยเลื่อนหน้าจอลงไปอีกก็เจอโมเมนต์ในวีแชทอันนั้นที่เจียงฉี่โพสต์
[เจียงฉี่: มาเดตแรกของพี่ชายและพี่สะใภ้]
พี่สะใภ้หมายถึงใครไม่ต้องเดาก็รู้ อารมณ์ของเหอสือกุยไม่ดีเอามากๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงต้องเพิ่มเพื่อนคนของตระกูลเจียง
วีแชทที่เพิ่งเพิ่มเพื่อนเมื่อสักครู่นี้ เหอสือกุยไม่ลังเลที่จะลบทิ้งซะ
เจียงฉี่ยังคงนั่งอยู่ในห้องโถงคนเดียว เธอทานผลไม้พร้อมทั้งใช้แอปฯ เหม่ยถูแต่งรูปภาพไปด้วย
ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้วเจียงฉี่จึงแต่งรูปให้ทุกคนเสร็จแล้วค่อยๆ ส่งในวีแชทพวกเขาทีละคน
ในขณะที่เธอกำลังจะส่งให้เหอสือกุยกลับตกใจและพบว่าส่งรูปไม่ได้ เห็นได้ชัดว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในรายชื่อเพื่อนของเขา
เจียงฉี่ “…”
เพิ่งเพิ่มเพื่อนในวีแชทเมื่อกี้นี้ไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงไม่ได้อยู่ในรายชื่อเพื่อนล่ะ
เจียงฉี่วิ่งตึกตักไปหาเหอสือกุย
เหอสือกุยมองที่หญิงสาวอ่อนเยาว์สวยงามอ่อนโยนที่ยืนตรงหน้าประตู “มีธุระอะไร”
“เมื่อกี้เราเพิ่มเพื่อนในวีแชทกันไปแล้วนี่ แต่ไม่รู้ทำไมฉันถึงส่งข้อความหาคุณไม่ได้ ชัดเลยว่าฉันไม่ได้อยู่ในรายชื่อเพื่อนของคุณน่ะ” เจียงฉี่ถามแปลกๆ
เหอสือกุย “…”
คนที่เป็นผู้ใหญ่มีความคิดน่าจะเดาได้นะว่าไม่อยู่ในรายชื่อเพื่อนก็แสดงว่าลบเพื่อนไปแล้ว
เจียงฉี่ขมวดคิ้ว “ฉันว่าอาจเป็นเพราะระบบมีปัญหาตอนเพิ่มเพื่อนไม่ได้ซิงก์กัน งั้นเราเพิ่มใหม่อีกครั้งกันค่ะ”
เหอสือกุย “…”
เห็นได้ชัดว่าลบเพื่อนไปแล้วเธอไม่รู้จริงๆ เหรอ หรือว่าแกล้งทำเป็นไม่รู้
“ไม่ต้องแล้ว”
เหอสือกุยปฏิเสธ เขาไม่อยากติดต่อกับคนในตระกูลเจียงจริงๆ
เจียงฉี่ถามอย่างแปลกใจ “ทำไมล่ะคะ”
เหอสือกุย “…”
จะให้พูดคำนั้นออกมาจริงๆ เหรอ เขาไม่เชื่อว่าหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าจะไม่รับรู้ถึงความรู้สึกรังเกียจของเขา
เขาไม่พูดอะไรอีกแล้วปิดประตูใส่ทันที
ทันใดนั้นเจียงฉี่เบิกตาโต เมื่อกี้ไม่นึกถึงความเป็นไปได้ที่จะสูญเสียมิตรภาพเลย เพียงแค่คิดว่าเขาคืออาจารย์ของพี่สะใภ้ในอนาคต ต่อไปยังไงก็ต้องเป็นครอบครัวเดียวกัน เธอพยายามสะกดกลั้นอารมณ์และเป็นมิตรกับเขา แต่ผลสรุปคือ…
ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ชอบตัวเธอเองและไม่ชอบพี่ชายเอามากๆ ซะด้วย
เพราะอะไรเหรอ
มีความเป็นไปได้อย่างหนึ่งที่คิดขึ้นมาในใจ เจียงฉี่มองไปที่ประตูห้องของเหอสือกุย ก่อนจะเบิกตาโตด้วยสีหน้าแปลกประหลาด
…
อากาศข้างนอกหนาวมาก ฟังจือหันและอวี๋กานกานเดินเที่ยวได้ไม่นานก็กลับมา อวี๋กานกานหนาวสั่นไปทั่วร่างเตรียมกลับห้องไปอาบน้ำและแช่น้ำพุร้อน
เมื่อถึงห้องนอน เจียงฉี่ก็เข้ามาหา “พี่สะใภ้คะ ฉันก็อยากออกไปเดินเล่นเหมือนกัน พี่ไปเป็นเพื่อนฉันได้ไหมคะ”
ความคิดบ้าๆ เมื่อครู่นี้ทำให้เธอไม่สบายใจมาก เธออยากคุยกับอวี๋กานกาน ถึงแม้ลานนี้จะมีห้องพักอยู่หลายห้อง แต่เธอรู้สึกว่าห้องไม่ได้เก็บเสียงคิดว่าถ้าออกไปคุยข้างนอกน่าจะดีกว่า
“เธออยากไปเดินเที่ยวที่ไหนล่ะ เมื่อกี้พี่กับพี่ชายเธอเพิ่งจะไปทางทิศตะวันตกมาวิวสวยมาก” อวี๋กานกานพูด
“น้ำพุร้อนตรงข้างหลังลานสามารถมองเห็นวิวหิมะได้ค่ะ เดี๋ยวเราไปดูวิวหิมะด้วยแช่น้ำพุร้อนไปด้วย ได้ทั้งร้อนได้ทั้งหนาวไปเลย ความรู้สึกนี้ก็แปลกๆ ดีนะคะ” เจียงฉี่พูดจาฟังดูไร้สาระ
เธอมองอวี๋กานกานหยุดยั้งคำพูด บางอย่างในใจก็พูดออกมาไม่ได้
เจี่ยงฉี่เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่สามารถเก็บซ่อนความรู้สึกในใจได้ ท่าทางแปลกๆ ลุกลี้ลุกลน ของเธอ อวี๋กานกานสามารถจับผิดได้ทันทีแน่
เธอมองเจียงฉี่ยิ้มๆ แล้วถามด้วยความใส่ใจ “เธอเรียกพี่ออกไป เพราะอยากจะคุยอะไรกับพี่หรือเปล่า”