ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family - ตอนที่ 187.2
บทที่ 187 เป้าหมายเล็กๆ 2 (2)
‘เจ้าไม่คิดที่จะแนะนำสายข่าวของเจ้าให้ข้ารู้จักหน่อยรึ?’
‘กระหม่อมมิบังอาจพะย่ะค่ะ’
การที่พวกเขาสามารถทำงานได้อย่างราบรื่นก็เพราะรอนและสายข่าวของเขาไม่เคยเผยตัวตนต่อสาธารณชน
‘ฝ่าบาทจะดำเนินการต่อไปอย่างไรหรือพะยะค่ะ?’
คาร์ลเอ่ยถามวิธีจัดการกับสมาคมการค้าซิงเท็นแต่อัลเบิร์กกลับถามเขาแทน
‘แล้วเจ้าจะทำอย่างไรล่ะ?’
‘ทำตามแผนเดิมพะย่ะค่ะ’
‘แผนเดิม?’
คาร์ลเชื่อว่าแผนเดิมดีอยู่แล้ว
‘กระหม่อมจะหารายได้จากสมาคมการค้าซิงเท็นด้วยการขายอัญมณีให้กับพวกเขา..ในขณะที่พระองค์ก็ดำเนินการสืบสวนเรื่องนี้อย่างลับๆเพื่อหาหลักฐานมามัดตัวพวกเขาจนดิ้นไม่หลุด’
‘….รีดเงินให้ได้สักก้อน..ก่อนจะเข้าจับกุมและอัดพวกเขาให้เละอย่างนั้นรึ?’
‘พะย่ะค่ะ’
‘ดี! เราจะทำตามแผนนี้’
คาร์ลคิดที่จะทำเช่นนี้อยู่แล้วเพียงแค่รอการอนุมัติจากองค์ชายรัชทายาทเสียก่อน
“เอ่อ..นายน้อยขอรับ?”
คาร์ลหันไปมองบิลอสซึ่งเอ่ยเรียกเขาอย่างระมัดระวัง
“กระผมอยากรู้ว่านายน้อยวางแผนจะขายมันอย่างไร?..นายน้อยพอจะบอกได้หรือไม่?”
~ข้า..ข..ข้า! เหมือนกัน! ข้าก็อยากรู้เหมือนกัน! 30,000ล้านคอนด์!..มนุษย์!..เจ้ามันสุดยอดไปเลย..ไม่ใช่สิ! ข้าต่างหากที่ยอดเยี่ยมกว่าใครๆแต่ข้าก็ยอมรับนะว่าเจ้ามันน่าทึ่ง!~
เสียงของราอนที่ดังเข้ามาในหัวของคาร์ลเริ่มทำให้เขาหงุดหงิด ปฏิกิริยาของคาร์ลทำให้บิลอสที่ลอบมองเขาอยู่ชะงักไปทันที บิลอสกำลังสงสัยว่าตัวเองไม่ควรถามออกไปสินะ? อย่างไรก็ตามไม่ใช่เพียงแค่ราอนและบิลอสเท่านั้นเพราะฮิลส์แมนก็อยากรู้เรื่องนี้เช่นกันส่วนออนและฮงนั้นกำลังกวาดสายตาไปมองรอบๆ
เสียงเครื่องพนันเวทย์ยังคงดังก้องไปทั่วอาคารและไม่มีใครเข้ามาใกล้บริเวณที่พวกคาร์ลยืนอยู่เช่นกัน
จากนั้นคาร์ลก็เริ่มพูด
“ลองคิดเกี่ยวกับวิธีที่ทำให้สมาคมการค้าเซิงเท็นก้าวมาถึงตำแหน่งในปัจจุบันดูสิ..นั่นล่ะคือคำตอบ”
เมื่อได้ยินสิ่งที่คาร์ลพูดใบหน้าของบิลอสก็เต็มไปด้วยความสับสนทันที
อย่างไรก็ตามคาร์ลกลับฉีกยิ้มออกมา
สมาคมการค้าซิงเท็นก้าวมาถึงตำแหน่งในปัจจุบันได้อย่างไร? มันเป็นสมาคมการค้าที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงสิบปีที่ผ่านมา พวกเขาถือเป็นสมาคมการค้าที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับราชวงศ์จักรวรรดิมากที่สุด พวกเขามุ่งมั่นที่จะเป็นสมาคมการค้าที่มีอิทธิพลทั้งการเงินและการเมืองไปพร้อมๆกัน นี่คือสิ่งที่บิลอสและคาร์ลรู้เหมือนกันแต่คาร์ลยังรู้เรื่องอื่นอีกด้วย
‘มานะแห่งอัคคีถูกพบในห้องลับของพระสันตะปาปา’
แม้ว่ามันจะเป็นสร้อยคอที่รู้จักกันเป็นวงกว้างว่าอยู่ในการครอบครองของสมาคมการค้าซิงเท็นตั้งแต่สิบปีก่อน แต่คาร์ลกลับพบสร้อยเส้นนี้ท่ามกลางสมบัติชิ้นอื่นๆของพระสันตะปาปา
นั่นแปลว่าอะไร?
‘อาจเป็นได้ว่าสมาคมการค้าซิงเท็นตั้งใจมอบสร้อยเส้นนี้ให้กับพระสันตะปาปาหรือไม่สมเด็จพระสันตะปาปาก็เรียกร้องมันจากพวกเขา’
มันเป็นไปได้ทั้งสองกรณี ซึ่งสมมุติฐานดังกล่าวอาจทำให้ใจของหัวหน้าสมาคมการค้าซิงเท็นเต็มไปด้วยความว้าวุ่น
ปัจจุบันความสัมพันธ์ของวิหารพระเจ้าแห่งแสงตะวันและราชวงศ์ของจักรวรรดิได้อธิบายทุกอย่างให้เขาทราบ
‘สมาคมการค้าซิงเท็นได้รับการกล่าวถึงว่ามีสัมพันธ์ที่ดีต่อราชวงศ์แต่พวกเขากลับมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทั้งสองฝ่าย’
และนั่นคงเป็นเหตุผลที่ผลักดันให้พวกเขามาโผล่ที่นี่ได้ ภาพของหัวหน้าสมาคมการค้าซิงเท็นดิ้นรนราวกับหนูติดจั่นผุดเข้ามาในหัวของคาร์ลโดยอัตโนมัติ
คาร์ลไม่ได้วางแผนที่จะเรียกเงินจากเขาเป็นจำนวนมากแต่การใช้จุดอ่อนของใครสักคนเพื่อผลประโยชน์ของตนเองก็เป็นสิ่งที่น่าลองไม่ใช่หรือ?
โดยเฉพาะจุดอ่อนนั้นมีถึงสองข้อ
สร้อยที่พวกเขามอบให้พระสันตะปาปาและการค้าทาส
มันเป็นเรื่องง่ายที่จะจินตนาการหาสาเหตุว่าทำไมสมาคมการค้าซิงเท็นถึงสามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดในช่วงสิบปีที่ผ่านมา?
หอระฆังของนักเล่นแร่แปรธาตุเลิกใช้เด็กกำพร้าและเด็กๆในสลัมในช่วงเวลานั้นพอดี สมาคมการค้าซิงเท็นจึงเข้าไปเป็นพันธมิตรเพื่อจัดหาทาสในการทดลองให้กับพวกเขาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
มันต้องเป็นวิธีที่ทำให้พวกเขาเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดจนกลายเป็นสมาคมการค้าที่ยิ่งใหญ่ในปัจจุบัน
คาร์ลได้ยินเสียงของราอนดังเข้ามาในหัวอีกครั้ง เสียงของมันยังเต็มไปด้วยความสงสัย
~มนุษย์!.ข้าก็อยากได้เงินก้อนนั้นเช่นกัน! แล้วเจ้าวางแผนจะใช้เงินอย่างไรบ้าง? ซื้อพายแอปเปิ้ลให้ข้าด้วยสิ!~
‘ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?’
คาร์ลพยักหน้าตอบรับเบาๆ
แน่นอนว่าเขาตัดสินใจไว้แล้วว่าจะใช้จ่ายเงินอย่างไรดี
ข้อมูลของสมาคมการค้าซิงเท็นที่คาร์ลรวบรวมได้จากรอนและฟรีเซีย เขาได้ทำการคัดลอกสำเนาออกเป็นสองชุด โดยชุดแรกได้ทำการส่งมอบให้กับองค์ชายรัชทายาทและอีกชุดจะทำการส่งมอบให้กับนักเล่นแร่แปรธาตุขี้เมาและอัศวินแมวที่หลบซ่อนตัวในจักรวรรดิในภายหลัง
‘ฉันจะต้องบีบเอาทุกอย่างจากพวกเขาให้ได้’
คาร์ลวางแผนที่จะบีบเอาทุกอย่างจากสมาคมการซิงเท็นมาให้ได้ เขารู้สึกว่ามันคือวิธีเดียวที่จะทำให้เขาลืมสีหน้าหมดอาลัยตายอยากของผู้คนที่ถูกจับตัวมาขังไว้ในคุกใต้ดิน
‘การหารายได้เข้ากระเป๋าก็เป็นเรื่องดีเช่นกัน’
มันเป็นแผนที่ดี
~…มนุษย์! ทำไมจู่ๆเจ้าก็ยิ้มออกมาล่ะ?..มันเหมือนว่าเจ้ากำลังจะไปหลอกใครอยู่นะ? เฮ้อ..ข้าชักอยากกินพายแอปเปิ้ลแล้วล่ะ!~
แน่นอนว่าคาร์ลไม่สนใจความเห็นของราอนก่อนจะหันไปมองตามทิศทางที่บิลอสชี้ให้เขาดู
“…ดูเหมือนจะเป็นคนที่เราส่งคำเชิญไปให้นะขอรับ”
‘ราตรีหรรษา’ คือชื่อของอัญมณีอีกชิ้นที่คาร์ลเตรียมไว้เพื่อการนี้
สายตาของคาร์ลจ้องไปยังคนผู้หนึ่ง
คนผู้นี้เป็นนักบวช เขาสวมชุดนักบวชแบบธรรมดาที่สามารถพบเห็นได้ทั่วๆไป ในมือของเขาถือเครื่องเวทย์รักษาเอาไว้ก่อนจะหายเข้าไปในประตูสีทองอย่างรวดเร็ว
ชุดนักบวชของเขามีตราสัญลักษณ์พระเจ้าแห่งแสงตะวันประดับเอาไว้
อาณาจักรคาโรมีผู้ศรัทธาในตัวพระเจ้าแห่งแสงตะวันเป็นอันดับสองของทวีป แน่นอนว่าจำนวนผู้ศรัทธาไม่สูงมากนักหากเทียบกับจักรวรรดิ
‘ราตรีหรรษา’เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่รู้กันว่าถูกเก็บไว้ในวิหารพระเจ้าแห่งแสงตะวันในเมืองเวกัส
อัญมณีชิ้นนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก
‘แต่เขากลับมอบมันให้พระสันตะปาปาเพื่อแลกกับตำแหน่ง’
เหยื่อรายที่สองของคาร์ลคือหัวหน้านักบวชประจำวิหารพระเจ้าแสงตะวันในอาณาจักรคาโร เขาถูกยกย่องให้เป็นตัวแทนพระเจ้าแห่งแสงตะวันในอาณาจักรคาโรทั้งยังเป็นบุคคลที่จะถูกรับเลือกให้เป็นพระสันตะปาปาในอนาคต
บุคคลผู้นี้จะกลายเป็นใบเบิกทางสำหรับอนาคตของแจ็คและจะเป็นตัวช่วยที่ดีให้กับเขาได้
แน่นอนว่าความต้องการที่จะเป็นพระสันตะปาปาของคนผู้นี้จะไม่มีทางเกิดขึ้น เขาจะไม่มีทางเลือกอื่นเพราะแจ็คเป็นคนเดียวที่จะกลายเป็นพระสันตะปาปาคนต่อไป
~ มนุษย์! เจ้ากำลังวางแผนหลอกใครอยู่หรือเปล่า?ทำไมเจ้าถึงยิ้มเจ้าเล่ห์ขนาดนั้น?~
อาจเป็นเพราะเขาอยู่ในเมืองที่เต็มไปด้วยความคึกครื้นจึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอย่างนึกสนุก