ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family - ตอนที่ 189.1
บทที่ 189 เป้าหมายเล็กๆ 4 (1)
ตรงข้ามกับคาร์ลที่แสนเบิกบานใจ ชั้นบนสุดของคาสิโนต้นไม้ทองคำซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดของเมืองเวกัส ตอนนี้มันเต็มไปด้วยความเงียบสงัดราวกับโรงละครที่รอเปิดการแสดงแม้ว่าจะมีเสียงดังจากชั้นล่างลอดเข้ามาบ้างแต่มันก็ดังราวกับเสียงกระซิบเท่านั้น
คลิ๊ก!
‘พราวิน ซิงเท็น’ เปิดประตูเข้าสู่ห้อง ร-3
โดยปกติการประมูลระดับวีไอพีนั้นจะมีการจัดที่นั่งให้แขกผู้เข้าร่วมตั้งแต่โต๊ะที่ 1-5 บนลานประมูลด้านล่างแต่ยังมีการแยกโซนที่นั่งให้กับแขกวีไอพีแบบเป็นสัดส่วนเช่นกัน
‘ร’
นี่คือสัญลักษณ์ที่ใช้ระบุห้องประมูลที่ถูกจัดให้มีลักษณะคล้ายกับระเบียงห้อง มันสามารถมองเห็นลานประมูลเช่นเดียวกับที่นั่งด้านล่างได้ ห้องประมูลแบบแบ่งสัดส่วนมีทั้งหมด 8 ห้องและพวกมันถูกระบุด้วยตัวอักษร‘ร’ แน่นอนว่าห้องระเบียงทั้ง 8 ห้องสามารถมองเห็นกันได้แต่มันถูกกั้นด้วยผนังเก็บเสียงและง่ายต่อการซ่อนตัวหากเทียบกับที่นั่งอื่นๆ
พราวินก้าวเข้าสู่ห้อง ร-3 อย่างรวดเร็ว ตอนนี้เขาทำการปิดบังใบหน้าด้วยการสวมหน้ากากแฟนซีที่ถูกตกแต่งอัญมณีไว้อย่างสวยงาม
พรึ่บ!
เขาเปิดม่านที่คลุมด้านหน้าระเบียงออกทันที
พราวินใช้เวลาในการจองห้อง ‘ร-3’ ไม่นานนัก แม้จะมีเวลากระชั้นชิดเพียงใดก็ไม่ใช่เรื่องยากที่สมาคมการค้าซิงเท็นซึ่งเป็นหนึ่งในห้าของสมาคมการค้าที่ใหญ่ที่สุดในจักรวรรดิจะสามารถเลือกจอง1ใน8ของห้องระเบียงนี้ได้
แน่นอนว่าการเลือกห้องที่ต้องการก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาเช่นกัน
“เดี๋ยวข้าน้อยจะนำชามาให้นะขอรับ”
พราวินหันไปทางเสียงนั้นทันที
ผู้เข้าร่วมการประมูลสามารถนำข้ารับใช้มาได้เพียงคนเดียวเท่านั้น อัศวินและนักเวทย์ไม่สามารถติดตามพวกเขามาได้ นั่นคือเหตุผลที่พราวินเลือกรองหัวหน้าสมาคมนักฆ่ามาเป็นข้ารับใช้ของเขาในครั้งนี้
“ไม่ต้อง”
พราวินยังไม่ได้ทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาหรูเพราะกำลังกวาดสายตาไปมองรอบๆทั้งลานประมูลที่อยู่ด้านล่างและห้องระเบียงที่อยู่ติดกัน
‘เขาจะอยู่ห้อง ร-4 หรือเปล่านะ?’
‘ไอ้งั่งที่ครอบครองมานะแห่งอัคคีอยู่ที่ไหนกันแน่?’
นั่นคือสิ่งเดียวที่พราวินให้ความสำคัญในตอนนี้
ห้องระเบียงทั้ง 8 ถูกสร้างให้ติดกันเป็นคู่ๆตามเลขลำดับ อย่างไรก็ตามผนังที่กั้นทั้งสองห้องค่อนข้างหนาและแข็งแรงจนยากที่จะรู้ว่าห้องข้างๆถูกจับจองโดยใคร
พราวินค่อยๆเม้มฝีปากของตน
‘แล้วเราจะพบกันได้อย่างไร?’
เขาไม่รู้ว่าคนผู้นี้จะเข้าหาตนด้วยวิธีใดกันแน่ เขาหันไปถามลูกน้องของตน
“สมาคมการค้าฟลินน์อยู่ห้อง ร-4 อย่างนั้นรึ?”
“ขอรับ..เท่าที่เราได้รับแจ้งมาเป็นท่านบิลอสผู้นำอันดับสองของสมาคมการค้าฟลินน์ขอรับ”
จากห้องระเบียงที่ 1-8 พราวินได้ใช้สายข่าวของตนสืบหาข้อมูลว่ามีใครบ้างที่จับจองอยู่ห้องระเบียงแต่ละห้อง
‘…สมาคมการค้าฟลินน์จะให้บุตรนอกสมรสขึ้นเป็นผู้นำอย่างนั้นหรือ?’
‘บิลอส’ บุตรชายนอกสมรสของสมาคมการค้าฟลินน์ยังเป็นเพียงเด็กเมื่อวานซืนแต่ที่สำคัญที่สุดเขาไม่เคยเอาตัวเข้าไปใกล้ชิดกับวิหารต่างๆของจักรวรรดิและไม่เคยติดต่อกับพระสันตะปาปาเป็นการส่วนตัว
‘ไม่มีทางที่ข้อมูลของข้าจะพลาด’
อาจเป็นไปได้ที่เขาจะถูกสมาคมการค้าฟลินน์สับขาหลอกแต่ถึงอย่างไรประสบการณ์ที่เขาสะสมไว้นานหลายปีกำลังบอกบางอย่างแก่เขา
มันไม่ใช่สามาคมการค้าฟลินน์ พวกเขาไม่ได้มีศักยภาพมากพอที่จะทำเช่นนั้นได้
เขามั่นใจว่าสัญชาตญาณของตัวเองถูกต้อง
‘ยากที่จะระบุตัวตนได้’ นั่นคงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของไอ้บ้าที่กล้ามาท้าทายเขา
“งานกำลังจะเริ่มแล้วขอรับ..ท่านนั่งลงก่อนเถิด”
“..อื้ม”
พราวินตระหนักได้ว่าตัวเองกังวลเกินไปเมื่อได้ยินสิ่งที่ลูกน้องเอ่ยทักขึ้น ใบหน้าของเขาภายใต้หน้ากากเต็มไปด้วยความว้าวุ่น
เห็นได้ชัดว่าบิลอสจากสมาคมการค้าฟลินน์ถึงห้อง ร-4 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พราวินคือคนสุดท้ายที่มาถึงโซนห้อง‘ร’ ทันทีที่เขามาถึงเจ้าหน้าที่ประจำคาสิโนต้นไม้ทองคำก็ปิดประตูทางเข้าทันทีโดยมีนักดาบฝีมือระดับสูงเฝ้าประตูทางเข้าเอาไว้
‘แต่นักดาบพวกนั้นอาจสู้เจ้าบ้านั่นไม่ได้?!’
พราวินเกลียดคนที่วางแผนลอบกัดเขาแต่ก็ยังอยากรู้ว่ามันเป็นใครกันแน่
‘นี่คือความรู้สึกของคนที่ตกเป็นรองสินะ?’
หลังจากเกิดเรื่องเมื่อคืนพราวินก็ตัดสินใจเปลี่ยนเป้าหมายใหม่ทันที เป้าหมายเดิมของเขาคือจัดการคนผู้นี้และชิงสร้อยกับคืนมา อย่างไรก็ตามตอนนี้มันถูกเปลี่ยนเป็นการทำข้อตกลงร่วมกัน
‘ข้อตกลงที่เป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย’
การพบกันในครั้งนี้จะไม่ใช่สถานการณ์ที่เลวร้ายหากมันเป็นข้อตกลงที่ได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน พราวินตัดสินใจที่จะใช้ความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมมาเป็นเวลาหลายปีเพื่อการเจรจาในครั้งนี้
แน่นอนว่าเขาไม่มีทางรู้เลยว่า ‘ผลประโยชน์ร่วมกัน’ไม่ได้อยู่ในความคิดของอีกฝ่ายเลยสักนิด
ปึง!ปึง!ปึง!
เสียงกลองดังรัวขึ้น
“มันเริ่มแล้วขอรับ”
“อืม”
พราวินยืดตัวตรงหลังจากที่นั่งลงบนโซฟาตามคำกล่าวของรองหัวหน้านักฆ่า จากนั้นเขาก็มองไปที่ลานประมูลด้านล่าง ผู้ดำเนินการประมูลสวมหน้ากากแฟนซีปิดใบหน้าเอาไว้และค่อยๆเดินขึ้นเวทีตามจังหวะกลองที่รัวขึ้น เขาหยุดยืนตรงกลางเวทีและพูดผ่านอุปกรณ์เวทย์ขยายเสียง
“ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่การประมูลเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่นะขอรับ!..ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่สนใจเข้าร่วมประมูลกับเราในครั้งนี้!”
ท่าทางแข็งๆของเขาดูขัดกับน้ำเสียงทุ้มๆซึ่งเต็มไปด้วยความอ่อนน้อมของเขายิ่งนัก หลังจากนั้นเขาก็เพิ่มความคาดหวังให้กับผู้เข้าร่วมประมูลด้วยประโยคสั้นๆ
“ตลอดทั้ง 3 วันนี้..ทางเราจะนำเสนอสินค้าที่ดีที่สุดและยอดเยี่ยมที่สุดให้กับทุกๆท่าน”
การประมูลระดับวีไอพีถูกจัดขึ้นทั้งหมดสามวันและจะนำเสนอสิ่งของที่ดีที่สุดให้กับผู้เข้าร่วมประมูลได้แย่งชิงกัน
ผู้ดำเนินการประมูลได้แบ่งปันหัวข้องานในครั้งนี้ทันที
“สำหรับหัวข้อการประมูลในครั้งนี้คือ…‘สัตว์อสูร’ โอ้!? ไม่ใช่ว่าเราจะนำสัตว์อสูรตัวเป็นๆมาให้ทุกท่านประมูลนะขอรับ..เราไม่มีความคิดที่จะกระทำการอันป่าเถื่อนเยี่ยงการค้าทาสเช่นนั้น! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าๆๆๆ”
รองหัวหน้านักฆ่าหันขวับไปมองพราวินทันที
เพราะการกระทำอันโหดร้ายเช่นการค้าทาสจึงทำให้‘พราวิน ซิงเท็น’ประสบความสำเร็จเช่นในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามเขาเลิกสนใจคำพูดของผู้ดำเนินการประมูลเมื่อเห็นว่าหัวหน้าตนยังคงสงบนิ่ง
“เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา..เราขอเริ่มด้วยของชิ้นแรก!”
ของชิ้นแรกถูกนำขึ้นสู่เวทีก่อนที่เสียงปรบมือจะดังก้องไปทั่วบริเวณ
แปะ!แปะ!แปะ!แปะ!-
พราวินไม่ได้ปรบมือเหมือนกับคนอื่นๆ เขาแค่มองลงไปด้านล่างเท่านั้น
แปะ!แปะ!แปะ!แปะ!-
ตึก!
เขาได้ยินเสียงบางอย่างซึ่งต่างจากเสียงปรบมือ
ร่างของพราวินชะงักค้างทันทีในขณะที่รองหัวหน้านักฆ่าก็เคลื่อนตัวไประวังหลังให้เขาอย่างรวดเร็วพร้อมกับกระชับมีดสั้นที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อของตนอย่างเตรียมพร้อม
เสียงที่พวกเขาได้ยินเมื่อครู่ดังมาจากบันได ราวกับมีคนเดินขึ้นบันไดเพื่อเข่าสู่ห้องระเบียง
“ราคาประมูลเริ่มต้นอยู่ที่ 100 ล้านคอนด์!”
มันเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เขาได้ยินเสียงอันตื่นเต้นของผู้ดำเนินการประมูล
พรึ่บ!
จู่ๆผ้าม่านก็ถูกปิดลง
พราวินไม่สามารถละสายตาจากผ้าม่านที่จู่ๆก็ถูกปิดลงได้
คลิ๊ก!
เขามองไม่เห็นผู้บุกรุกคนใดแต่กลอนประตูด้านในกลับล็อคตัวมันเอง พราวินรีบหยิบอุปกรณ์เวทย์ออกจากกระเป๋าเสื้อเพื่อสร้างโล่ป้องกันให้กับตนเองทันที
“ข้าไม่คิดว่าโล่ป้องกันจะช่วยอะไรท่านได้หรอกนะ”
แม้ว่าจะมองไม่เห็นผู้ใดแต่เสียงนี้กลับดังเข้ามาในหูของเขา
‘เด็กหนุ่ม’
มันเป็นเสียงของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง
มือของพราวินที่กำอุปกรณ์เวทย์เอาไว้เริ่มสั่น ในขณะที่เด็กหนุ่มผู้บุกรุกยังคงพูดต่อไป
“เอานักฆ่ามาเป็นข้ารับใช้งั้นรึ? อืม…มันไม่น่ากลัวไปหน่อยหรือ? วางมีดสั้นของเจ้าลงดีกว่า”
“อึ่ก”
พราวินได้ยินเสียงกลืนน้ำลายอึกใหญ่จากรองหัวหน้านักฆ่าที่อยู่ด้านหลังของตน พราวินและรองหัวหน้านักฆ่าต่างมีความคิดแบบเดียวกัน
‘ยอดฝีมือ’
พวกเขาคิดว่าเด็กหนุ่มผู้นี้คือยอดฝีมือระดับสูง
ครืด!!
โต๊ะที่อยู่ตรงหน้าของพราวินเริ่มขยับ ตาของเขาเบิกโพลงเมื่อจ้องไปที่โต๊ะ
“ทำไมท่านถึงดูตกใจขนาดนั้นล่ะ?”
ทันใดนั้นร่างของชายผู้หนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น มีชายผมขาวกำลังนั่งอยู่บนขอบโต๊ะพร้อมกับผายมือออกกว้าง ดวงตาสีฟ้าภายใต้หน้ากากสีขาวซึ่งขาวจนแทบจะกลืนไปกับสีผมของเขากำลังจ้องเขม็งมาที่พราวิน
‘..อึ่ก…เขา..เขาเป็นนักเวทย์ระดับสูงด้วยรึ?!’
พราวินเริ่มกังวลหนักขึ้นเมื่อตระหนักได้ว่าเด็กหนุ่มผู้นี้เป็นนักเวทย์ระดับสูง หากใช้เวทย์ล่องหนได้ฝีมือของเขาย่อมไม่ธรรมดา
‘เขาเป็นทั้งนักเวทย์และนักรบ’
เด็กหนุ่มผู้นี้รู้ว่าเขาเตรียมที่จะชักมีดสั้นออกมา นั่นคือสิ่งที่บ่งบอกได้ว่าเขาเป็นวิชาการต่อสู้ อย่างน้อยเขาก็เป็นทั้งนักเวทย์ระดับสูงและนักต่อสู้ ความเครียดเริ่มจู่โจมรองหัวหน้าสมาคมนักฆ่าทันที เขายิ่งปวดหัวหนักขึ้นเมื่อนึกถึงความสามารถของเด็กหนุ่มผู้นี้และหมอกสีแดงที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
แน่นอนว่าผู้บุกรุกที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาเพียงแค่พูดสิ่งที่มังกรดำบอกให้ทราบเท่านั้น
~มนุษย์! ข้าเก่งหรือเปล่า?~
อุปกรณ์เวทย์ป้องกันและมีดสั้นในเสื้อของนักฆ่า นั่นคือสิ่งที่ราอนบอกให้คาร์ลทราบ
‘มังกรมีประโยชน์จริงๆ’
คาร์ลพอใจในความสามารถของราอนที่เริ่มทำสิ่งต่างๆด้วยตัวมันเองได้โดยที่เขาไม่ต้องสั่ง เขาเก็บความพอใจในตัวราอนเอาไว้และส่งยิ้มเย็นไปให้พราวิน
หน้ากากสีขาวของคาร์ลปิดเพียงครึ่งของใบหน้าเท่านั้น ทำให้ฝ่ายตรงข้ามมองเห็นรอยยิ้มของเขาได้อย่างเต็มตา
“เ..เจ้า..เป็นใครกัน—”
คาร์ลส่ายศีรษะของตนน้อยๆเมื่อเห็นว่าประโยคแรกของพราวินไร้สาระเกินไป
มันไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องบอกว่าตัวเองเป็นใคร
คาร์ลหยิบสร้อยเส้นหนึ่งออกจากกระเป๋าเสื้อของตน
เกร้ง!เกร้ง!เกร้ง!
เขาห้อยสร้อยไว้ที่ปลายนิ้วชี้ก่อนจะเริ่มส่ายไปมา
สายตาของพราวินมุ่งตรงไปที่มานะแห่งอัคคีทันที เสียงของเด็กหนุ่มผมขาวดังขึ้นอีกครั้ง
“30,000”
ตัวเลขนั้นทำให้สติของพราวินกลับคืนมา เขาจับโซฟาไว้แน่นและเริ่มขมวดคิ้วมุ่น
“เจ้าเป็นใคร!? เจ้ากล้าทำแบบนี้กับข้าได้อย่างไร?”
“เฮ้อ…”
คาร์ลถอนหายใจยาว
“น่าเบื่อชะมัด”
“อะไรนะ?”
เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะมาฟังคำตอบที่น่าเบื่อเช่นนี้ นั่นคือเหตุผลที่คาร์ลเลือกจะพูดสิ่งที่ตัวเองต้องการเท่านั้น
“30,000 ล้านคอนด์”
พราวินที่กำลังโกรธจัดหยุดชะงักทันที
30,000 ล้านคอนด์!
ในที่สุดเขาก็เข้าใจในสิ่งที่เด็กหนุ่มคนนี้ต้องการ เขาอุทานกลับด้วยความตกใจ
“บ..บ้าไปแล้ว!”