ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family - ตอนที่ 200.1
บทที่ 200 มังกรอยู่ที่นี่ด้วยรึ? 5 (1)
“จับกำแพงเมืองเอาไว้!”
หลังจากเสียงตะโกนของเคานต์เดอรัชดังขึ้น ทหารก็พากันยึดกำแพงเมืองไว้มั่นบ้างก็ทิ้งตัวหมอบราบกับพื้น
แรงระเบิดสั่นสะเทือนไปทั่วอาณาเขต แม้ว่าการระเบิดนั้นจะเกิดขึ้นบนท้องฟ้าแต่มันก็สร้างความหวาดหวั่นให้กับคนที่อยู่บนกำแพงเมืองได้ไม่น้อย เคานต์เดอรัชพึมพำออกมาโดยไม่รู้ตัว
“..นี่มันไม่ใช่การต่อสู้ของมนุษย์”
สงครามนี้ไม่ได้มีไว้สำหรับมนุษย์เพราะมันเกินระดับนั้นไปไกลมากนัก เขาค่อยๆหันไปมองบุตรชายคนโตและภรรยาของตน เขาไม่สามารถช่วยอะไรได้นอกจากปล่อยเสียงหัวเราะผ่านลำคอเท่านั้น “…อ่า..ฮ่าๆ–”
บุตรชายของเขากลับมาสร้างโล่ป้องกันขนาดเล็กได้อีกครั้งเพื่อใช้มันปกป้องเคานต์เตสวิโอแลน นักบวชและหมอที่อยู่ภายในบริเวณนั้น เคานต์เดอรัชตระหนักได้ถึงบางอย่าง
‘นี่คือสงครามที่เกินขีดจำกัดของมนุษย์และมีบุตรชายของข้าเป็นศูนย์กลางในการต่อสู้’
การเห็นบุตรชายของตนลุกขึ้นยืนได้อีกครั้งพร้อมทั้งสภาพยังดูเป็นปกติดีทำให้เคานต์เดอรัชรู้สึกสบายใจขึ้น เขาใช้มือยันกำแพงเมืองเพื่อพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ
ในขณะที่ฝั่งของคาร์ลนั้นไม่มีทางรู้เลยว่าเคานต์เดอรัชรู้สึกกับตัวเองอย่างไร คาร์ลกำลังมองไปยังไฟที่ลุกโชนผ่านพลังความมืด มันส่องประกายอยู่ครู่หนึ่งภายในบริเวณที่เกิดแรงระเบิด
“..นี่มันอะไรกันเนี่ย?”
คาร์ลก็เป็นเหมือนคนส่วนใหญ่ที่ไม่มีวิชาการต่อสู้ติดตัวทำให้สายตาของเขาไม่สามารถปรับให้คมชัดได้ในเวลาอันสั้น ในตอนนี้เขามองไม่เห็นอะไรเลย
สิ่งที่เขาเห็นคือพลังของเชวฮัน
มันเป็นพลังความมืดที่ไม่ดำสนิทจนสมบูรณ์ มันดูดซับพลังเวทย์แห่งความตายเพื่อสร้างระเบิดนี้ขึ้นมา แสงสว่างและความมืดมารวมตัวกันเพื่อสร้างระเบิดขนาดใหญ่และเมื่อเสร็จสิ้นจากแรงระเบิดได้ครู่หนึ่ง….
ติ๋ง!!!ติ๋ง!!!ติ๋ง!!!
ฝนก็ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง
ฝนไม่ได้ตกลงใส่พื้นดินแต่มันกำลังตกใส่ซากศพของไวย์เวิร์นและหมี น้ำฝนผสมเข้ากับเลือดจนเจิ่งนองไปทั่วบริเวณ
ติ๋ง!!!ติ๋ง!!!ติ๋ง!!!
ฝุ่นที่กระจายตัวอยู่กลางอากาศเพราะแรงระเบิดถูกลมและน้ำฝนชะล้างออกไป ในที่สุดสิ่งต่างๆก็ปรากฏให้ได้เห็น
แคร๊กกกก!
ชุดเกราะบนร่างของอัศวินหมวกเริ่มแตกออกเป็นเสี่ยงๆก่อนจะร่วงลงสู่พื้นดินในที่สุด นี่คือชุดเกราะที่สร้างโดยคนแคระไฟที่พยายามจะจับตัวมังกรให้ได้
เกราะเหล็กคุณภาพสูงถูกทำลายอย่างราบคาบ มันแตกออกเป็นเสี่ยงๆและร่วงใส่โคลนด้านล่าง
“..บ้าเอ้ย!!!”
อัศวินหมวกเหล็กสบถออกมาดังลั่น
“อึ่กกก! แค่กๆๆ”
เขากระอักเลือดออกมาเมื่อพยายามหยัดกายลุกขึ้น ตาของเขาแดงก่ำเมื่อจ้องไปข้างหน้า
เสือขาว
หมอผีการ์ชานได้ร่ายอาคมปกป้องเชวฮันเอาไว้
เชวฮันยังคงกุมไหล่ที่ถูกแทงเพื่อห้ามเลือดเอาไว้ สายตาของเขาจับจ้องไปที่อัศวินหมวกเหล็ก อย่างไรก็ตามอัศวินผู้นี้ไม่ได้หันกลับมามองเขา
“ฮึ!..”
เชวฮันเห็นว่าอัศวินผู้นี้ไม่ได้รับบาดเจ็บในส่วนใดแม้ว่าจะกระอักเลือดออกมาก็ตาม ชุดเกราะของเขาช่างน่าทึ่งยิ่งนัก
แต่ถึงจะน่าทึ่งเพียงใดราอนก็ได้ทำลายชุดเกราะนี้ลงแล้ว
สายตาของอัศวินหมวกเหล็กเริ่มเย็นเยือกขึ้น ภัยพิบัติทางธรรมชาติเกือบทุกชนิดกำลังไหลวนอยู่ในร่างของเขา พวกมันต่างวิ่งพล่านไปทั่วร่างราวกับจะทำให้ร่างของเขากลายเป็นดาบฆ่ามังกรเสียเอง
อัศวินหมวกเหล็กเริ่มหัวเราะพลางเอ่ยขึ้น
“..มีมังกรอยู่ที่นี่! มีมังกรอยู่ที่นี่!!!”
มีเพียงมังกรเท่านั้นที่จะสามารถทำลายเครื่องมือของเผ่าคนแคระไฟได้ ในตอนแรกเขาคิดว่ามันคือนักเวทย์ที่สามารถเลียนแบบพลังของเขาได้แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่า มังกรกำลังเชิดอกเฝ้ามองเขาจากที่ใดสักแห่ง มันคงตัดสินใจให้คนเหล่านี้ยืมพลังของมันเพื่อลงมือฆ่าเขาก็เป็นได้
คนแคระไฟเคยบอกบางอย่างกับเขา
‘เกราะชิ้นนี้ไม่สามารถป้องกันตัวเจ้าจากการคำรามหรือการพ่นไฟของมังกรได้แต่มันก็ยังสามารถป้องกันพลังเวทย์ของมังกรวัยผู้ใหญ่ได้’
‘แม้แต่เจ้าแห่งมังกรก็สามารถป้องกันได้งั้นรึ?’
‘ทำไมเจ้าถึงพูดสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงล่ะ? เจ้าแห่งมังกรคือจอมจักรพรรดิแห่งพลังเวทย์! มันไม่สามารถป้องกันได้หรอกนะ..หากมีเจ้าแห่งมังกรอยู่จริง? เจ้าคิดว่าเราจะสร้างสิ่งนี้ขึ้นมางั้นรึ? ชุดเกราะนี้อย่างน้อยมันสามารถป้องกันพลังเวทย์จากมังกรวัยผู้ใหญ่ได้! นั่นคือขีดจำกัดความสามารถของเรา!’
สัญชาตญาณในการเป็นนักล่ามังกรกำลังบอกบางอย่างแก่เขา อาจเป็นฝีมือมังกรวัยชราหรือใครสักคนที่มีพลังเวทย์ใกล้เคียงกับฝีมือมังกรแต่เขาค่อนข้างมั่นใจว่ามันคือพลังเวทย์ของมังกรมากกว่า ต้องมีมังกรสักตนที่อยู่ในที่แห่งนี้!
‘..แต่มังกรวัยชราไม่ได้มีเพียงตัวเดียวอย่างนั้นรึ?’
เขารู้จักมังกรวัยชราอยู่ตนหนึ่งแต่ไม่มีทางที่มังกรตนนั้นจะโผล่มาที่นี่ได้
‘หมายความว่ามีมังกรวัยชราอีกตัวงั้นรึ?’
“ฮ่า..ฮ่าฮ่า”
เขาเริ่มหัวเราะออกมา
‘ขยะ! มังกรพวกนั้นก็เป็นเพียงขยะเท่านั้น!’
มังกรวัยชราอาจยืนดูการต่อสู้ของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้จากมุมไกลๆด้วยสีหน้าหยิ่งผยอง มันอาจนึกรำคาญจนต้องยื่นมือเข้ามามีส่วนร่วม หากไม่เป็นอย่างที่เขาคิดก็คงไม่สามารถหาเหตุผลอะไรมาอธิบายการกระทำของมังกรตนนี้ได้ ถ้ามันอยากเข้ามายุ่งตั้งแต่แรกคงใช้การคำรามหรือไม่ก็พ่นไฟออกมาฆ่าเขาแล้ว หากทำเช่นนั้นมันคงจะง่ายและศึกในครั้งนี้ก็คงจบไปตั้งนานแล้ว
“อึ่กก!”
อัศวินหมวกเหล็กกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง
เขาใช้ดาบที่สร้างจากพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณมาคอยปกป้องตัวเองแทนที่ชุดเกราะที่พังลงไป เขาต้องระวังพลังความมืดจากชายผมดำตรงหน้า อย่างไรก็ตามอวัยวะภายในของเขายังคงแล่นพล่านด้วยออร่าของชายผมดำและพลังเวทย์แห่งความตาย มันให้ความรู้สึกราวกับว่าอวัยวะทุกส่วนภายในร่างกายของเขากำลังถูกบีบอัดจนแทบหายใจไม่ออก เขาไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานานแล้ว
‘…หากข้ามีมงกุฎชิ้นนั้น! ข้าคงไม่ต้องเสียท่าจนตัวเองต้องมาบาดเจ็บเช่นนี้!’
อัศวินหมวกเหล็กนึกถึงเหตุผลที่พลังของเขายังไม่สมบูรณ์และเริ่มขบฟันแน่น เขารู้สึกถึงความผิดหวัง เขาไม่สามารถทำให้พลังของตัวเองสมบูรณ์ได้เพราะมีไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้มาขโมยมงกุฎไปจากเขา
ร่างของเขาก็ใกล้จะถึงขีดจำกัดเต็มทีเนื่องจาก‘ดาบแห่งหายนะ’ถูกทำลายไปถึงสองครั้งซึ่งขีดจำกัดสูงสุดของมันสามารถใช้ได้เพียงสามครั้งเท่านั้น นั่นหมายความว่าการต่อสู้ครั้งนี้เขาจะสามารถใช้ดาบได้อีกเพียงหนึ่งครั้งเท่านั้น ร่างกายของเขา ฐานรองรับของเขาจะไม่สามารถรองรับอะไรได้อีกหากเขาฝืนอะไรเกินตัว
แม้ว่าเขาจะมีพลังในการล่ามังกรอีกพลังแต่นั่นก็เป็นเพียงพลังที่น่าสมเพชและเขาไม่ต้องการที่จะใช้มัน
‘รังสีเหนืออำนาจ’ มันเป็นพลังที่น่าหัวเราะและน่าสมเพช คงมีเพียงแค่นักต้มตุ๋นเท่านั่นที่จะเลือกใช้พลังนี้ มันไม่มีคุณสมบัติที่เหมาะกับนักล่ามังกรเช่นเขา รังสีเหนืออำนาจเป็นเพียงพลังที่ใช้หลอกลวงผู้อื่นและไม่มีจุดแข็งใดๆที่จะต้องเลือกใช้มัน
อัศวินหมวกเหล็กตั้งสติเมื่อเริ่มกวาดสายตาไปมองรอบๆเพื่อหาตัวการที่ขโมยมงกุฎไปจากเขา
“..บ้าเอ้ย!”
ลูกธนูมนตราที่เลียนแบบพลังของเขาลอยฝ่าอากาศเข้ามาอีกครั้ง นอกจากนี้ยังมีออร่าสีดำกระจายไปทั่วบริเวณ
และในที่สุด….
จ๋อม!จ๋อม!
ซากศพของของไวย์เวิร์นและหมีค่อยๆหยัดกายลุกขึ้นจากโคลน ข้างหลังของพวกมันคือกลุ่มเสือโคร่งตัวใหญ่โดยมีเสือขาวยืนอยู่ตรงกลาง เช่นเดียวกับมนุษย์บนกำแพงเมืองที่เล็งธนูและลูกปืนใส่ร่างเขาอยู่
อัศวินหลับตาลง
“…ดูเหมือนเราจะแพ้แล้ว”
ทุกคนต่างเห็นว่าฝั่งศัตรูแพ้แล้ว เชวฮันกำมือขวาของตนแน่นแม้ว่าจะเห็นรอยยิ้มอันน่าสงสารของอัศวินหมวกเหล็กแล้วก็ตาม ไหล่ซ้ายของเขายังคงมีบาดแผลจากดาบแห่งหายนะ แขนซ้ายของเขาอาจขาดไปแล้วก็ได้หากอัศวินหมวกเหล็กไม่ดึงพลังไปปกป้องตัวเองเสียก่อน
นั่นคือเหตุผลที่เชวฮันยังคงตื่นตัวอยู่
ทันใดนั้นเอง
ตุ๊บ!
ชิ้นส่วนสุดท้ายของชุดเกราะตกลงพื้น ในที่สุดหมวกเหล็กก็พังลง
อัศวินหมวกเหล็กเริ่มขยับตัวเมื่อใบหน้าของเขาเปิดเผยต่อสายตาชาวโลก พลังที่อยู่รอบตัวของเขาเปลี่ยนเป็นรูปใบมีดอย่างรวดเร็ว พลังใบมีดพุ่งตัวไปยังทิศเดียวเท่านั้น
“ป้องกันเอาไว้!”
เสือพากันวิ่งไปหาอัศวินหมวกเหล็กทันทีที่ได้ยินคำสั่งของการ์ชาน เชวฮันก็กระโจนไปข้างหน้าเช่นกัน
พรึ่บบบ!
ซากไวย์เวิร์นก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างช้าๆเพื่อป้องกันการโจมตีของอัศวินและรั้งร่างเขาเอาไว้ ซากหมีที่เคลื่อนไหวราวกับซอมบี้ก็พุ่งตัวไปหาอัศวินทันที
พวกเขาเริ่มไล่ล่าอัศวินหมวกเหล็กราวกับไม่เคยเป็นพันธมิตรกันมาก่อน ซากไวย์เวิร์นและหมีไล่ตามอัศวินอย่างบ้าคลั่ง
อย่างไรก็ตามซากซอมบี้เหล่านี้ต่างหายวับไปทันทีเมื่อสัมผัสเข้ากับพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณที่ล้อมรอบอัศวินหมวกเหล็กเอาไว้
ไม่มีอะไรสามารถหยุดยั้งอัศวินหมวกเหล็กไว้ได้ เขายังคงวิ่งต่อไปโดยไม่คิดหยุดฝีเท้า เขากำลังมุ่งหน้าไปยังกำแพงเมือง
หากพูดให้ชัดขึ้นอัศวินหมวกเหล็กกำลังมุ่งหน้าไปยังจุดที่คาร์ลยืนอยู่ เขาเริ่มหัวเราะออกมา
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!!!! ข้ารู้ว่ามันต้องเป็นแบบนี้!”
ธนูมนตราหยุดค้างกลางอากาศ ธนูมนตราที่เลียนแบบพลังของเขาไม่ได้ลอยไปยังทิศที่กำแพงเมืองตั้งอยู่
คาร์ลและอัศวินหมวกเหล็กสบตาเข้าหากัน เขาตะโกนออกมาดังลั่นทันที
“เจ้าได้รับการปกป้องจากมังกรสินะ!?”
เขาไม่พอใจที่คนอย่างคาร์ลได้ครอบครองพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณและตอนนี้ยังได้รับการปกป้องจากมังกรอีกด้วย!
หมอนี่สมควรตาย!
ความเกลียดชังฉายชัดในแววตาของอัศวินหมวกเหล็ก พลังที่แข็งแกร่งกว่าครั้งไหนๆโอบรอบร่างกายของเขาทันที
“ข้าจะทำลายเจ้าและกำแพงเมืองนี้ให้เหลือแต่ซาก!”
ธนูมนตราที่สว่างจ้าในอากาศเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นคาร์ลก็รู้สึกถึงร่างเล็กๆที่คว้าร่างเขาไปกอดไว้
หมับ!
ราอนในสภาพล่องหนกอดร่างคาร์ลเอาไว้ราวกับตัวเองเป็นโล่ป้องกัน มันสยายปีกออกกว้างพร้อมกับรัดร่างคาร์ลเอาไว้แน่น ราอนแสดงให้คาร์ลรู้ว่าเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆเพราะมันจะเป็นผู้รับพลังอันร้ายกาจนี้ไว้แต่เพียงผู้เดียว
~ข้าจะไม่มีทางปล่อยเจ้าเป็นอันขาด!~
ร่างของคาร์ลเริ่มอึดอัดและร้อนขึ้นเรื่อยๆเพราะราอนเกาะหนึบเขาไม่ยอมปล่อย เขากวาดสายตาไปมองรอบๆก่อนจะยกมือมาตบหลังราอนเบาๆ
เชวฮันที่กำลังวิ่งมาหาพวกเขาก็หยุดชะงักทันที
‘มีบางอย่างแปลกๆ’
ความจริงที่ว่าท่านคาร์ลยังคงมีท่าทางสงบอยู่ย่อมหมายความว่ามันอันตรายไม่มากนัก
ทันใดนั้นเอง! มันเป็นช่วงเวลาที่อัศวินหมวกเหล็กเหาะขึ้นไปกลางอากาศและเป็นเวลาเดียวกับดาบแห่งหายนะกำลังจะทะลุผ่านกำแพงเมือง
อัศวินหมวกเหล็ก ราอนและคนอื่นๆที่วิ่งเข้าไปใกล้ตำแหน่งนั้นต่างก็พากันได้ยินเสียงหัวเราะ
คาร์ลกำลังหัวเราะออกมาเบาๆ
เสียงเรียบเย็นค่อยๆดังออกมาจากปากคาร์ล
“ข้ารู้ดีว่าหมีจอมเจ้าเล่ห์พวกนี้..ฉลาดเป็นกรดเพียงใด”
ดวงตาของอัศวินหมวกเหล็กสั่นไหวเล็กน้อย
เมื่อครู่นี้คาร์ลได้ยินแมรี่พูดบางอย่าง แมรี่ที่สังเกตสถานการณ์อยู่เงียบๆพูดสิ่งที่คาร์ลได้ยินเมื่อครู่นี้ออกมาอีกครั้ง
“จู่ๆพวกหมีที่ข้าไม่ได้ควบคุมก็พากันขยับตัวเคลื่อนไหวเอาเอง!”
คาร์ลเริ่มหัวเราะ
เขามองไปยังฝูงซอมบี้หมีที่กำลังพุ่งตรงมาหาพวกเขาราวกับจะหยุดร่างของอัศวินหมวกเหล็กเอาไว้ มีสมาชิกจากเผ่าหมีที่ยังคงมีชีวิตอยู่ปะปนอยู่ในฝูงซอมบี้
‘พวกหมีแกล้งตายสินะ?’
จากนั้นคาร์ลก็หันกลับไปมองอัศวินหมวกเหล็กที่แสร้งทำเป็นมุ่งโจมตีมาที่เขาแต่เพียงผู้เดียว
“ขยะเช่นเจ้าก็ฉลาดเช่นกัน”
อัศวินหมวกเหล็กแกล้งทำเป็นอาฆาตคาร์ลและพร้อมจะสละทุกอย่างเพื่อฆ่าคาร์ลให้ได้ แน่นอนว่าหมอนี่เพียงแกล้งทำเท่านั้น
“..โอ้!? เจ้ารู้หรือนี่?”
อัศวินหมวกเหล็กอมยิ้ม
ความเกลียดชังหายไปจากแววตาของเขาทันทีราวกับไม่เคยเกิดสิ่งนี้ขึ้นมาก่อน เขาหยิบอุปกรณ์เวทย์ออกมาจากกระเป๋าเวทย์ของตน
หมีตนหนึ่งเหาะขึ้นไปบนอากาศและดึงพลังเวทย์ของตนออกมา
มันคืออุปกรณ์เวทย์เคลื่อนย้ายมวลสาร!
การ์ชานตะโกนขึ้นมาทันที
“จับพวกมันเอาไว้!”
การ์ชานสั่งเสือให้จับพวกหมีเอาไว้เพื่อไม่ให้พวกมันหนีไปได้
เคานต์เดอรัชก็ตะโกนขึ้นมาเช่นกัน
“ธนูไฟ!”
ปืนใหญ่และพลธนูเริ่มยิงธนูไฟโจมตีพวกหมีที่ยังคงมีชีวิตรอดทันที
“ข้าอาจแพ้..แต่ข้าไม่มีวันตาย!”
ใบหน้าที่คล้ายกับงูแสยะยิ้มออกมา ใบหน้าของอัศวินที่ถูกทำลายหมวกเหล็กลงดูคล้ายกับงูยิ่งนัก มันดูเหมือน‘อีมูกิ’ตามตำนานโบราณไม่มีผิด [1]
คาร์ลยังคงหัวเราะต่อไปเมื่อมองไปยังคนๆหนึ่งที่เข้าใจในการกระทำของเขา
เชวฮัน
เขาเป็นคนเดียวที่รู้ว่ามีบางอย่างแปลกๆในขณะที่ทุกคนรีบวิ่งไปหาคาร์ล เชวฮันกำลังกระโดดขึ้นเหยียบหลังของซอมบี้ไวย์เวิร์น เขากำลังวิ่งไปบนอากาศโดยอาศัยร่างของซอมบี้ไวย์เวิร์นเป็นพื้นเหยียบ ความเร็วของเขาเกือบจะพอๆกับอัศวินหมวกเหล็ก เขาจะสามารถไปถึงตัวของอัศวินหมวกเหล็กได้หากเหยียบร่างของไวย์เวิร์นอีกเพียงร่างเดียว
คาร์ลรู้สึกว่าร่างของราอนผละออกจากเขา
อุ้งเท้าของราอนเริ่มร่ายเวทย์อีกครั้ง
เชวฮันกระโดดเหยียบหัวไวย์เวิร์นและเหาะไปหาอัศวินหมวกเหล็กอย่างรวดเร็ว ในขณะที่อัศวินหมวกเหล็กยังคงมองคาร์ลไม่วางตา
“เจ้างั่งที่ได้รับการปกป้องจากมังกร!”
ครืดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!
อุปกรณ์เวทย์เคลื่อนย้ายมวลสารเริ่มทำงานและร่างของอัศวินหมวกเหล็กก็เริ่มจางลงเรื่อยๆ
ความโกรธที่แท้จริงสามารถมองเห็นผ่านรอยยิ้มเหี้ยมของเขา
มนุษย์ที่ได้รับการปกป้องจากมังกร นี่คือคนที่สมควรตายมากที่สุด!
อัศวินหมวกเหล็กตวัดดาบแห่งหายนะใส่ร่างของเชวฮันที่กำลังพุ่งตัวมาหาเขา ในขณะที่ปากก็ยังพูดกับคาร์ลต่อไป
ร่างของเขาเกือบจะหายไปจนแทบมองไม่เห็น
“เร็วๆนี้!..ข้าจะกลับมาฆ่าเจ้าอย่างแน่นอน!”
อย่างไรก็ตามมีบางอย่างกระแทกใส่ร่างของเขาก่อนที่ร่างจะเลือนหายไปอย่างสมบูรณ์
อัศวินหมวกเหล็กส่งเสียงครางผ่านลำคอและค่อยๆก้มศีรษะลง เขามองเห็นสิ่งที่กระแทกใส่ร่างของเขา
[1] อีมูกิ คือสัตว์ยักษ์ที่มีลักษณะเป็นงูขนาดใหญ่ซึ่งชาวเกาหลีโบราณเชื่อว่าเป็นร่างกำเนิดของมังกร แต่ก่อนจะได้กลายเป็นมังกรสมปรารถนา อีมูกิต้องตามหา ‘ยูอีจู’ ไข่มุกที่มีพลังจากสวรรค์ สามารถทำให้กลายร่างเป็นมังกรอย่างสมบูรณ์ได้
บางความเชื่อได้กล่าวไว้ว่า อีมูกิ คือสัตว์ประหลาดที่เกิดมามีรูปร่างคล้ายมังกร แต่ถูกสาปไม่ให้เป็นมังกรตลอดชีวิต บ้างก็บอกว่าอีมูกิเป็นร่างดั้งเดิมของมังกร ที่จะต้องใช้ชีวิตอยู่รอดให้ครบถึง 1,000 ปีเสียก่อนจึงจะเติบโตเป็นมังกรโดยสมบูรณ์ได้ ชาวเกาหลีส่วนใหญ่เชื่อว่าอีมูกิเป็นงูยักษ์จิตใจดี รักสันโดษ อาศัยอยู่ตามถ้ำและในน้ำ หากใครได้เจออีมูกิตัวเป็นๆ ก็จะได้รับโชคดีอีกด้วย