ข้าคือหงส์พันปี - บทที่ 30 เสาะหารักแท้ครั้งใหม่
เมื่อได้ยินว่าเฉินเสียนประสบอุบัติเหตุเล็กน้อยที่จวนแม่ทัพและตอนนี้กำลังพักฟื้นอยู่ องค์จักรพรรดิจึงส่งหมอหลวงมาตรวจร่างกายว่าทารกในครรภ์ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่
เป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้วที่เฉินเสียนกินยาที่หมอหลวงสั่ง หากทารกในครรภ์ยังอาการไม่ดีขึ้นแล้วประสบอุบัติเหตุอีกแบบนี้ ทารกน้อยคงจะไม่รอดอย่างแน่นอน
ถึงตอนนั้นก็จะประกาศให้ได้รู้โดยทั่วกันว่าองค์หญิงจิ้งเสียนแท้งลูกด้วยถ้อยคำที่มีน้ำหนัก และทำเหมือนว่าเรื่องของเด็กคนนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ทันทีที่กลับมาถึง ฉินหรูเหลียงก็พาหมอหลวงไปยังสวนสระวสันตฤดูทันที เขาอยากเห็นว่าตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นจะยังทำตัวโอหังได้อีกไหม
ผ่านมาสองวันแล้วนับตั้งแต่เกิดเรื่อง แต่เฉินเสียนยังไม่เคยถามถึงทารกในครรภ์ของเธอเลยสักครั้ง
ในที่สุดอวี้เยี่ยนก็ทนไม่ไหวและถามออกไปว่า “องค์หญิง… ไม่ทรงเป็นห่วงเด็กในท้องเลยหรือเพคะ…”
เฉินเสียนเลิกคิ้วและเงยหน้ามองนางก่อนจะพูดเรียบๆ ว่า “เป็นห่วงแล้วจะช่วยอะไรได้ ไม่ว่าเขาจะเป็นหรือตายข้าก็พยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว มันไม่สมเหตุสมผลหรอกหรือ”
เธอคิดว่าเธอพยายามช่วยอย่างเต็มที่แล้ว
เธอกับฉินหรูเหลียงไม่มีความรู้สึกใดๆ ต่อกันและเธอก็ไม่ได้มีความรู้สึกพิเศษต่อทารกในครรภ์ด้วย เธอเก็บเด็กคนนี้เอาไว้เพียงเพราะคิดว่าถึงอย่างไรนี่ก็คือชีวิตชีวิตหนึ่ง และสิ่งนี้อาจจะเป็นความหวังเพียงหนึ่งเดียวที่เฉินเสียนผู้โง่เขลาทิ้งเอาไว้
เธอไม่ได้ใจดำอำมหิตถึงขนาดจะกำจัดเด็กเพื่อลดภาระของตัวเอง
แต่ฉินหรูเหลียงแตกต่างจากเธอ เขาทำมันได้และเขาก็เป็นคนก่อเรื่องราวเลวร้ายเช่นนี้ขึ้นมา ถ้าไม่มีทารกในครรภ์แล้ว เธอก็คงจะมีชีวิตที่ราบรื่นและไม่มีภาระอะไรให้ต้องพะว้าพะวัง
ความแค้นต้องชำระด้วยความแค้น ถ้ามัวแต่หดหัวอยู่เธอก็ไม่ใช่เฉินเสียนนะสิ!
สำหรับเฉินเสียน แม้ว่าตอนนี้เธอจะยังเจ็บปวดตามร่างกายอยู่บ้างแต่มันก็ไม่ได้เลวร้ายไปเสียทั้งหมด
เฉินเสียนมีจิตใจที่เข้มแข็งกว่าใครๆ ในเมื่อฟ้าลิขิตมาแบบนี้เธอก็จะยอมรับมันแต่โดยดี
อวี้เยี่ยนรู้เรื่องนี้เสียที่ไหน นางรู้เพียงว่าองค์หญิงเคยรักฉินหรูเหลียงและคิดว่าองค์หญิงกลัวจะทำใจรับผลที่ตามมาไม่ได้จึงไม่กล้าถามเรื่องลูก
อวี้เยี่ยนเอ่ยด้วยความชื่นใจว่า “หม่อมฉันรู้ว่าองค์หญิงทรงกังวลมาก แต่ตอนนี้องค์หญิงไม่ต้องกังวลอีกแล้วนะเพคะ เด็กยังปลอดภัย หมอบอกว่าพลังชีวิตขององค์หญิงยังไม่คงที่ ทารกในครรภ์ก็ยังอ่อนแอ แต่ตราบใดที่ได้พักฟื้นอย่างเต็มที่ ทารกน้อยก็จะเติบโตแข็งแรงได้อย่างแน่นอนเพคะ”
มือที่กำลังพลิกหน้าหนังสืออยู่ชะงัก ดวงตาของเธอสั่นไหวเล็กน้อย “ตอนนี้องค์หญิงอย่างข้าเป็นกังวลมากเหลือเกิน”
วันนั้นเฉินเสียนแน่ใจว่าเธอตกเลือดเยอะมาก เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเด็กในท้องถึงยังรอด เขาคงมีจิตใจที่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยวและมีรากฐานที่มั่นคงมากเลยสินะ!
เมื่อถึงวันที่เด็กคนนี้เกิดมา เธอจะต้องบอกกับเขาให้ได้ว่า —— ข้านับถือเจ้าจริงๆ!
ก่อนหน้านี้เฉินเสียนรู้สึกผ่อนคลาย แต่ตอนนี้เมื่อรู้ว่าทารกน้อยยังคงอยู่ในท้องของเธอ เธอก็รู้สึกเหมือนแบกภูเขาไว้ทั้งลูก
อวี้เยี่ยนยื่นมือมาพัดตรงหน้าเฉินเสียน “องค์หญิงไม่ดีใจหรือเพคะ”
เฉินเสียนถามกลับว่า “ไหนเจ้าลองบอกมาสิว่ามีเรื่องอะไรที่ข้าควรจะดีใจ”
อวี้เยี่ยนเงียบไปครู่หนึ่งและพูดว่า “หม่อมฉันทราบดีว่าองค์หญิงไม่ได้ต้องการความรักของท่านแม่ทัพใหญ่แล้ว แต่ถึงอย่างไรทารกน้อยก็ยังอยู่”
ในเวลานั้นฉินหรูเหลียงพาหมอหลวงมาถึงสวนสระวสันตฤดูพอดี
แม่บ้านจ้าวกำลังจะเข้าไปรายงานแต่ฉินหรูเหลียงยกมือห้ามไว้ก่อน เขาค่อยๆ ก้าวเข้าไป และเมื่อเดินมาอยู่ใต้ชายคาเขาก็ได้ยินเสียงบทสนทนาระหว่างนายบ่าวคู่นี้ดังเล็ดลอดออกมาจากด้านในพอดี
ฉินหรูเหลียงยังคงก้าวเข้าไปและไม่ได้เปิดประตูในทันที
เฉินเสียนเม้มริมฝีปากก่อนจะกล่าวว่า “เด็กยังปลอดภัยแล้วยังไง ในภายภาคหน้าเมื่อเขาเกิดมาเขาก็จะเป็นเด็กที่มีแต่แม่แต่ไม่มีพ่ออยู่ดี มันดีตรงไหนกัน ข้าไม่เพียงแต่ต้องเลี้ยงเขาให้เติบใหญ่เท่านั้น เมื่อเขาโตขึ้นข้ายังต้องซื้อบ้านและแต่งลูกสะใภ้ให้เขา ถ้าไปได้ลูกสะใภ้ที่มีฐานะสูงขึ้นก็ยิ่งต้องจ่ายค่าสินสอดแพงขึ้นไปอีก ยิ่งไปกว่านั้นที่พูดกันว่าเราเลี้ยงบุตรเพื่อให้บุตรเลี้ยงดูเรายามแก่เฒ่า แต่ถ้าโดนลูกสะใภ้เขี่ยออกมาล่ะ ข้าจะไปร้องไห้กับใครได้”
อวี้เยี่ยนจ้องเธอตาค้างและนิ่งอึ้งไปกับคำพูดทุกประโยค
เฉินเสียนเห็นท่าทางที่ตกตะลึงนั้นก็นึกเอ็นดูจึงยื่นมือไปหยิกแก้มกลมๆ ของนาง “เจ้าคงไม่รู้หรอกว่าความเป็นจริงมันโหดร้ายแค่ไหน”
อวี้เยี่ยนเอ่ยอย่างงุนงงว่า “แต่นั่นมันเป็นเรื่องอีกสิบปียี่สิบปีต่อจากนี้ องค์หญิงจำเป็นต้องคิดไปไกล… ถึงขนาดนั้นเลยหรือเพคะ”
เฉินเสียนถอนหายใจ เอนหลังพิงหัวเตียงแล้วเหลือบมองนาง “จะไม่จำเป็นได้อย่างไร พ่อของเขาทั้งโหดร้ายและเลือดเย็นขนาดนั้น บางทีในอนาคตเด็กคนนี้อาจจะกลายเป็นคนเลวอย่างเขาก็ได้ ไม่ต้องพูดถึงสิบปียี่สิบปีหรอก เอาแค่ใกล้ๆ นี้ก่อน ถ้าถึงตอนที่ข้าจบสิ้นกับฉินหรูเหลียงแล้วต้องกระเตงลูกติดไปด้วยแบบนี้ ข้าจะไปเสาะหารักแท้ครั้งใหม่ได้อย่างไรกัน”
เมื่อเสียงของเธอค่อยๆ เงียบลง อยู่ๆ เธอก็กุมท้องและส่งเสียงร้องออกมา “โอ๊ย!”
อวี้เยี่ยนตื่นตระหนก “เกิดอะไรขึ้นเพคะองค์หญิง เจ็บท้องหรือเพคะ”
เฉินเสียนค่อยๆ ผ่อนคลายลงก่อนจะลูบท้องของตัวเองอย่างแผ่วเบา “เจ้าหมอนี่ช่างร้ายจริงเชียว บังอาจเตะแม่ตัวเองรึ!”
อวี้เยี่ยนชะงักไป จากนั้นก็หัวเราะ ‘พรืด’ ออกมาและพูดว่า “คงได้ยินแบบแผนที่องค์หญิงวางไว้แล้วไม่ชอบใจกระมังเพคะ”
“ยังไม่ทันออกจากท้องแม่เลยนะ ถึงจะไม่ชอบใจก็ต้องอดทน” เฉินเสียนกล่าวพลางขมวดคิ้ว
ทันทีที่เธอพูดจบ ประตูห้องก็ถูกผลักออกจากทางด้านนอก
ฉินหรูเหลียงยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าประตูด้วยสีหน้าที่เย็นชา คำพูดทั้งหมดของเฉินเสียนล้วนเข้าหูของเขาโดยไม่ตกหล่นแม้แต่คำเดียว