ข้าคือหงส์พันปี - บทที่ 56 เวลานี้ควรจะมีเสียงปรบมือนะ
เฉินเสียนยื่นมือไปลูบธนบัตรเหล่านั่น ใช้ใจสัมผัสความรู้สึกนั้น“มีเงินทำให้ข้ารู้สึกจิตใจสงบเสียจริงๆ ข้ารู้สึกราวกับว่าข้าอาจจะขึ้นไปบนจุดสูงสุดของชีวิตแล้วล่ะ ต่อไปต่อให้น่าเวทนาเพียงใด ข้าก็ยังคงเป็นองค์หญิงที่มีเงิน เพียงแค่มีเงิน มีเรื่องอะไรที่จะไม่สามารถทำได้อีกเล่า? เหมือนกับฉินหรูเหลียงหนุ่มรูปงามนั่น ไม่ใช่ว่าข้าอยากจะเลี้ยงดูเท่าไหร่ก็สามารถที่เลี้ยงได้เท่านั้นหรือ?”
เหลียนชิงโจว“…….”ถ้าหากว่าอาจารย์รู้ว่าองค์หญิงมีแผนการที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ไม่รู้ว่าจะโกรธหรือไม่โกรธ?
เหลียนชิงโจวเมียงมองดวงหน้ามนของเฉินเสียน เอ่ยถามด้วยความห่วงใย“ใบหน้าขององค์หญิงรักษาเป็นอย่างไรบ้างแล้วพ่ะย่ะค่ะ? ยาขี้ผึ้งครั้งก่อนใช้ไม่ดีหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
บนใบหน้าของเฉินเสียนมีรอยแผลที่ยังสามารถเห็นได้ชัด
เฉินเสียนได้ยินแล้วขมวดคิ้วขึ้น ยกมือขึ้นเพื่อเปิดรอยแผลเป็นนั้น เหลียนชิงโจวเพิ่งจะพบว่าผิวหนังด้านล่างของรอยแผลเป็นนั้นสดใสราวกับผิวใหม่
โฉมหน้าของเธอฟื้นฟูทั้งหมดแล้ว
เหลียนชิงโจวเอ่ย“ที่แท้เป็นเพียงของปลอม ไม่ตั้งใจมองยังไม่ระแคะระคายเลยพ่ะย่ะค่ะ”
เฉินเสียนสั่งให้อวี้เยี่ยนนำรอยแผลเป็นแปะกลับไปให้เธอเช่นเดิม เอ่ยพูดว่า“นี่โชคดีที่ได้ยาขี้ผึ้งของเจ้านะ”
ระหว่างการเดินทางกลับ เพราะเนื้อแท้ของเฉินเสียนในยุคปัจจุบันเธอเป็นคนเต็มที่บ้ากับการซื้อของ ได้ออกคำสั่งให้อวี้เยี่ยนซื้อนั่นซื้อนี่
อวี้เยี่ยนก็ซื้ออย่างสำราญใจ
โดยไม่กลัว เพราะองค์หญิงของนางมีเงินมากมาย!
แต่เมื่อถึงเวลาจ่ายเงิน เฉินเสียนกลับโยนค่าใช้จ่ายทั้งหมดส่งให้ฉินหรูเหลียงจัดการ สั่งให้เหล่าเถ้าแก่เอาใบเสร็จไปคิดเงินที่จวนแม่ทัพ
สุดท้ายจนด้านในเกี้ยวก็ใส่ของไม่ไหว เฉินเสียนกับอวี้เยี่ยนจึงจำใจต้องลงมาแล้วเดินกลับ
โชคดีที่ห่างจากจวนแม่ทัพไม่ไกลนัก
เฉินเสียนไม่สามารถที่จะแอบเกียจคร้านได้ ก่อนที่จะคลอดลูกหากสามารถที่จะเดินได้มากหน่อย เธอก็จะเดิน ไม่เช่นนั้น ร่างกายจะอ่อนแอเกินไปถึงเวลาคลอดลูก คลอดยากไม่มีแรงจะทำยังไง
วันนี้เธอมีเวลาเพียงพอ แน่นอนว่าต้องเดินเที่ยวไม่ให้ขาดทุน ครั้งแรกที่มาเดินเที่ยวซื้อของในยุคสมัยโบราณนี้ ทั้งหมดเป็นสิ่งที่เห็นได้ยากมาก
อวี้เยี่ยนนึกถึงใบเสร็จจำนวนมากที่ยังไม่ได้ชำระจ่าย ก็กลัดกลุ้มใจจนปวดเศียรเวียนเกล้าแล้ว เอ่ยพูดด้วยความกระวนกระวายใจว่า“องค์หญิง หากท่านแม่ทัพรู้ว่าวันนี้ใช้จ่ายเงินมากมายเพียงนี้ จะสับมือพวกเราเอาหรือไม่เพคะ?”
เฉินเสียนปรายตามองอวี้เยี่ยน“ถ้าจะสับก็ไม่ได้สับมือเจ้าหรอกนะ”
อวี้เยี่ยนเอ่ยอย่างเคร่งเครียดจริงจังว่า“บ่าวก็เพียงแค่ห่วงใยองค์หญิงเพคะ”
“เหอะ หากเขาทำให้ข้ามือพิการ ข้าก็จะตอนให้เขาเป็นขันทีเลยเชียว”
ในตอนที่เข้ามาในจวนแม่ทัพ พ่อบ้านเห็นเฉินเสียนกลับมาที่จวนอย่างปลอดภัย ได้ทอดถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แต่ต่อมาเห็นของที่เธอหอบหิ้วมานั้น ก็ได้เอ่ยถาม
“องค์หญิง นี่คือ…….”
“ของซื้อมาใหม่”
“แต่บ่าวจำได้ว่าฝ่ายบัญชียังไม่ได้จ่ายเงินนะพ่ะย่ะค่ะ”
“ไม่ต้องรีบ พรุ่งนี้พวกเขาถึงจะมาคิดเงิน”
พ่อบ้านโซเซไปมาด้วยความหวาดหวั่น
วันนี้อากาศร้อนขึ้น ผลของลูกเอพริคอตสีเขียวที่อยู่ริมทะเลสาบเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทีละน้อย
ตั้งแต่เช้ายันเย็นอวี้เยี่ยนโบกพัดให้กับเธอตลอดทั้งวันอย่างเลี่ยงไม่ได้
ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ชุดจีนโบราณที่ปิดมิดชิดของเธอนั้นก็ปิดมิดจนทำให้เธอเป็นผื่นคันขึ้นมา
แม่บ้านจ้าวเอ่ยพูดโน้มน้าว“องค์หญิง อากาศร้อนแล้ว ทารกก็จะรู้สึกร้อนด้วยนะเพคะ เปลี่ยนเป็นกระโปรงที่ทำให้สบายตัวจะไม่ดีกว่านี้หรือเพคะ…….พระองค์ดูนายหญิงน้อยสิเพคะ ผ้าโปร่งบางกระโปรงบาง เผยให้เห็นถึงกระดูกไหปลาร้ากับหน้าอกเป็นที่น่าภาคภูมิอย่างยิ่ง แน่นอนว่าท่านแม่ทัพชอบ ท่าทางที่สวยงาม การก้าวเดินราวกับผีเสื้อบินฉวัดเฉวียนนั่น”
ชุดต้าฉู่มีค่อนข้างหลากหลาย ไม่เพียงรูปแบบเหมือนหลิ่วเหมยอู่นั่นที่เปิดเผยหน้าอก
เฉินเสียนจึงได้เปลี่ยนเป็นชุดจีนโบราณแขนสั้น
วันนี้เธอนึกขึ้นได้ อยู่ในสวนสระวสันตฤดูก็ไม่ต้องเลี่ยงหลบสิ่งใด เลยถือโอกาสหาชุดที่เปิดเผยหน้าท้องนอนแผ่อยู่บนเก้าอี้ใต้เงาต้นไม้
อวี้เยี่ยนเพียงแค่ไปยกน้ำร้อนแล้วกลับมา มองเห็นหน้าท้องขาวผ่องของเฉินเสียน แล้วสะดุดเท้าล้มลง
อวี้เยี่ยนรีบลุกขึ้นเอ่ย“องค์หญิง รีบวางเสื้อลงเถิดเพคะ กลางวันแสกๆทำอะไรกันเพคะ!”
เฉินเสียนเอ่ยอย่างเหนื่อยหน่ายและเกียจคร้าน“แม่นมจ้าวบอกไม่ใช่หรือว่า ทารกจะร้อน ถ้าหากว่าร้อนจนเซ่อจะทำอย่างไรกัน ข้าให้ลูกของข้าได้รับความเย็นอยู่นะ”
“ทำเช่นนี้จะเป็นหวัดนะเพคะ!”
เฉินเสียนลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วนั่งเอียงศีรษะมองอวี้เยี่ยน ขมวดคิ้วเอ่ย“ข้ามีความสุข อวี้เยี่ยนเจ้าเข้าไปหยิบเครื่องเขียนกับหมึกมา วันนี้ข้าจะสอนเจ้าว่าอะไรคือแฟชั่นสมัยนิยม”
อวี้เยี่ยนไม่เห็นด้วยที่เฉินเสียนเปิดเผยหน้าท้อง แต่จนปัญญามองราศีที่อยู่บนหน้าเธอ ราวกับว่าบนตัวของเธอมีสิ่งที่ตัวเองสามารถเรียนรู้ได้ไม่จบสิ้น
องค์หญิงมั่นใจในตัวเองมาก มั่นใจในตัวเองถึงขั้นเธอพูดอะไรอวี้เยี่ยนก็อดไม่ได้ที่จะเชื่อ
อวี้เยี่ยนเข้าไปหยิบเครื่องเขียนและหมึก และเคลื่อนย้ายกระจกทองแดงออกมาตามคำสั่งของเฉินเสียน
เฉินเสียนเทียบตัวเองกับกระจกทองแดง หยิบพู่กันจุ่มลงในหมึกแล้วก็วาดบนท้องของตัวเอง
ท้องนี้กลมอิ่มเอิบแล้ว อวี้เยี่ยนยังไม่ทันได้ห้าม ก็เห็นเฉินเสียนวาดดวงตาสองคู่บนหน้าท้องแล้ว
หลังจากนั้นเธอก็วาดใบหน้าที่มีรอยยิ้มอีก
อวี้เยี่ยนเบิกตากว้าง “น่ารักมากเลยเพคะ ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าทำไมสมองถึงปรากฏคำนี้ออกมา แต่ก็รู้สึกว่าน่ารักมากเพคะ………”
เฉินเสียนวางพู่กันลง รอจนลมพัดแห้งแล้วจึงลุกขึ้น เอ่ยอย่างสำราญใจว่า“มาเต้นระบำหน้าท้องก่อน เวลานี้ควรที่จะมีเสียงปรบมือนะ”
อวี้เยี่ยนเอาคำว่าจารีตขนบธรรมเนียมประเพณีไว้เบื้องหลัง ดวงตาทั้งสองข้างเปล่งประกาย ปรบมือไม่หยุด
ฉินหรูเหลียงได้ฟังพ่อบ้านพูดว่า ช่วงนี้เฉินเสียนล้างผลาญทรัพย์สินของครอบครัวมาก
ครั้งก่อนเหล่าเถ้าแก่มาคิดเงิน จ่ายเงินไปไม่น้อยเลย เขารู้สึกว่าจำเป็นต้องคุยกับเฉินเสียนบ้างแล้ว
เฉินเสียนตัวคนเดียวมีความสุข แต่ฉินหรูเหลียงมีผู้คนจำนวนมากที่ต้องดูแล ทนไม่ได้ที่เธอจะล้างผลาญเช่นนี้
ฉินหรูเหลียงคิดแล้วโมโห ผู้หญิงคนนี้เมื่อไหร่จะพักบ้างนะ!
เดิมนึกว่าปล่อยเธอออกไปนอกจวนแม่ทัพ ยิ่งจะทำให้เธอไม่มีเวลาไปหาเรื่องรบกวนเหมยอู่ คาดไม่ถึงว่าเพิ่งจะจัดการเรื่องเก่าได้ ปัญหาใหม่ก็ทยอยมาไม่ขาดสาย
ฉินหรูเหลียงหน้าดำคร่ำเครียด ใบหน้าหล่อเหลาอึมครึม ร่างใหญ่บึกบึนเดินอยู่ใต้แสงแดดจ้า
อารมณ์โทสะภายในใจร้อนดั่งอากาศในฤดูร้อน ที่ค่อยๆเพิ่มระดับขึ้น
เดินมาถึงด้านนอกสวนสระวสันตฤดูอย่างคาดไม่ถึง กั้นไว้ด้วยกำแพงเรือน ทันใดนั้นก็มีเสียงทำนองสูงต่ำดังลอดเข้ามาในโสตประสาทของเขา
นั่นเป็นเฉินเสียนที่กำลังครวญเพลงแว่วเบา
เสียงของเธอสดใสละเอียดอ่อน ขับร้องได้ดีไร้ที่ติ เสียงใสดั่งแก้ว ไพเราะราวกับพระอาทิตย์ส่องระยิบระยับผ่านหยดน้ำพุ แทรกซึมเข้าถึงหัวใจ
ฉินหรูเหลียงชะงักฝีเท้า เดินมาถึงข้างประตูเรือน มองเข้าไปด้านใน แล้วชะงักงัน
ด้านในเรือนเป็นผู้หญิงที่หน้าท้องกลมอิ่มเอิบ บนหน้าท้องวาดรูปใบหน้ายิ้มตลกชวนขบขัน พร้อมกับเฉินเสียนที่กำลังเต้นด้วยท่าทางที่หลากหลาย สดใสมาก
เส้นผมดำขลับที่ม้วนขึ้นหลวมๆ บางส่วนระอยู่บนไหล่ของเธอ เธอเป็นตัวของตัวเองและมีกลิ่นอายของความสุขสบายใจคละคลุ้งอยู่โดยรอบ
ฉินหรูเหลียงยืนอยู่ข้างประตู มองอยู่พักหนึ่งกำลังจะยกเท้าก้าวเข้าไป
มองเห็นเฉินเสียนที่มีรอยยิ้มหัวเราะจนหางคิ้วยกขึ้นด้านบน ริมฝีปากบางยกขึ้น และรอยแผลเป็นบนใบหน้าของเธอกลับถูกแววตาสุกใสเป็นประกายทำให้จืดจางลง
เฉินเสียนคล้ายกับสัมผัสได้ว่าตรงประตูเรือนมีเงาของคน จึงเหลือบมอง
ฉินหรูเหลียงหลบไปด้านข้างอย่างว่องไว ไม่สามารถที่จะทำให้เฉินเสียนเห็นเขาได้
แต่ตัวเขาเองได้สติกลับรู้สึกเสียใจ สุดท้ายก็ไม่ได้เข้าไปในสวนสระวสันตฤดู และหมุนตัวเดินกลับไป
เฉินเสียนเล่นกับหน้าท้องของตัวเองเช่นนี้ เป็นหญิงตั้งครรภ์คนแรกของต้าฉู่ที่ทำอย่างแน่นอน
หญิงคนอื่นช่วงที่ตั้งครรภ์อยู่ต้องระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น แค่เธอที่ว่างไม่ได้ ไม่กลัวที่จะเอวเคล็ดหรืออย่างไรกัน!
ผู้หญิงคนนี้!กลางวันแสกๆเผยให้เห็นหน้าท้อง เสื่อมเสียต่อขนบธรรมเนียมประเพณีเสียจริงเลย!