ข้าคือหงส์พันปี - บทที่ 728 หากว่าท่านชอบ เชิญท่านต่อเลย
เหมยอู่เข้าใจฉินหรูเหลียง นางได้ยินเด็กรับใช้ที่อยู่ด้านนอกประตูพูดว่าหญิงผู้นั้นมาหาฉินหรูเหลียง บนใบหน้าฉินหรูเหลียงเรียบเฉยเย็นชา แต่อารมณ์ที่แสดงออกมามีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เหมยอู่มั่นใจ เขารังเกียจตนเองมาก ก็ไม่มีทางผลักไสตนเองออกไปในเวลานี้หรอก
เป็นอย่างที่คิดไว้ ฉินหรูเหลียงมองนางด้วยสายตารังเกียจเย็นชาเป็นอย่างมาก แต่สุดท้ายมือก็ไม่ได้ผลักไสนางออก
เหมยอู่หาความรักและทะนุถนอมในสายตาของเขาไม่เจออีกแล้ว แต่นางยังยึดติดกับช่วงเวลานี้ แช่อิ่มตกอยู่ในอ้อมกอดของเขา
เหมยอู่เอื้อมมือกอดฉินหรูเหลียงกลับ น้ำตาไหลพรั่งพรูออกมามากมาย กล่าวสะอึกสะอื้นว่า “ท่านแม่ทัพ…….เหมยอู่คิดถึงท่านแม่ทัพมาก …….ท่านพาเหมยอู่ออกไปได้หรือไม่เจ้าคะ?”
จาวหยางยืนมึนงงอยู่หน้าประตู
นายทหารคนอื่นที่อยู่บนห้องโถงเห็นหญิงงามนางหนึ่งยืนอยู่ใต้แสงไฟ และสายตาชายนับไม่ถ้วนมองดูก็รู้ เธอยังเป็นดอกไม้ที่เกิดจากสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดีแต่ไม่ได้มีสันดานที่ชั่วร้าย เป็นดอกไม้ที่ยังไม่เคยถูกเด็ด อดไม่ได้ที่จะสายตาเปล่งประกาย
ฉินหรูเหลียงถึงได้เบิกตาขึ้นช้าๆ หน้าไร้อารมณ์มองไปที่จาวหยาง กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ท่านมาทำอะไรที่นี่?”
เดิมเหมยอู่คิดว่า ผู้หญิงอย่างจาวหยางนี้ มองเห็นฉินหรูเหลียงกำลังกอดอยู่กับหญิงอื่น จะต้องออกไปโดยไม่พูดไม่จาอย่างแน่นอน
น่าเสียดายจาวหยางไม่ไป
จาวหยางเห็นนางระบำบนห้องโถง และผู้ชายปะปนอยู่ด้วยกัน เหตุการณ์ด้านหน้าไม่ควรเข้ามาในสายตาเลย นางก็ยังยกฝีเท้าก้าวเข้าไป แล้วหยุดยืนอยู่หน้าโต๊ะของฉินหรูเหลียง
เหมยอู่ที่อิงแอบซบอยู่ในอ้อมกอดของฉินหรูเหลียง น้ำตาคลอเบ้า น่าสงสารเป็นอย่างมาก ตอนที่มองเห็นจาวหยาง กลับมีความโปปดเสแสร้งและแสดงออกอย่างเปิดเผย
จาวหยางหลุบเปลือกตาลงมองเหมยอู่
เดิมเป็นหญิงสาวที่มองโลกในแง่ดีคนหนึ่ง เวลานี้แววตาลึกซึ้งสงบ เหมยอู่อ่านไม่ออกเลยว่าสรุปนางเป็นทุกข์หรือไม่เป็นทุกข์
จาวหยางนิ่งสงบเกินความคาดหมาย ทันทีหลังจากนั้นแสยะริมฝีปากขึ้น ทำให้ปรากฏเห็นรอยยิ้ม นางกล่าวกับฉินหรูเหลียงว่า “ท่านชอบนางหรือ? เช่นนั้นสายตาท่านแย่เกินไปแล้ว หรือว่าท่านสามารถรับหญิงสาวอื่นที่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามมาอิงแอบชิดชอบอยู่ในอ้อมอกได้แล้ว?”
ฉินหรูเหลียงขมวดคิ้วขึ้น กล่าวว่า “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับท่าน”
“ใช่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับข้า”จาวหยางกล่าว“ข้าเพียงแค่นึกย้อนเมื่อปีนั้น นำท่านมาไว้ในใจ เวลานั้นแม้ว่าท่านจะเงียบขรึมพูดน้อย แต่มิสู้ตอนนี้ที่ละทิ้งตนเองใฝ่ต่ำเยี่ยงนี้ ท่านอยากใฝ่ต่ำ แล้วแต่ท่านเลย ไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้า ข้าไม่ใช่ท่านแม่ของท่านนี่”
พูดจบ จาวหยางได้โค้งตัวลงไปหยิบไหเหล้าที่วางอยู่บนโต๊ะของฉินหรูเหลียง เงยหน้าขึ้นแล้วดื่มเข้าไปในปาก
ฉินหรูเหลียงอยากจะรั้งก็ไม่ทัน เขามีสีหน้าที่ยากจะอธิบายมองจาวหยางที่ไม่สนใจนำเหล้านั้นดื่มจนหมด น้ำเหล้าไหลอาบลงมากจากคางของเธอ ชุดเปียกชื้น แต่บนร่างกายตัวของเธอกลับมีความดื้อรั้นที่แตกต่างออกไป
จาวหยางยกไหเหล้าที่ว่างเปล่าขึ้น ตามด้วยโยนลงบนพื้น แตกละเอียดไม่มีชิ้นดีเลย
นางหัวเราะเยาะ แล้วกล่าวว่า “ข้านึกว่าเหล้านี้จะอร่อยแค่ไหน ที่แท้ก็ไม่ได้เท่าไหร่ หากท่านชอบ เชิญท่านต่อเลย”
จาวหยางหมุนตัวเดินออกไป แต่ทว่าช่วงทีหมุนตัวนั้น ดวงตาก็แดงก่ำแล้ว
ตั้งแต่ไหนแต่ไรนางไม่เคยโมโหเยี่ยงนี้ แต่จิตใจและฐานะที่มีเกียรติสูงส่งของครอบครัวกษัตริย์ที่ปลูกฝังนางมาเมื่อเยาว์วัย บอกนางว่าต่อให้พ่ายแพ้ยับเยิน ก็ต้องแพ้อย่างสง่างามสุขุม อย่าให้ฝั่งตรงข้ามเห็นว่าจนตรอก
นางเป็นคนที่ปล่อยวางได้ ครั้งนี้ที่มาต้าฉู่ นับว่าได้รับคำตอบแล้ว ดังนั้นไม่ใช่ว่ามาอย่างว่างเปล่าไม่ได้อะไร
หลังจากที่จาวหยางไป ประตูห้องโถงว่างเปล่า เธอไม่ได้หันหลังกลับมา
แต่ฉินหรูเหลียงกลับกังวลใจ นางเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง ดื่มเหล้าเป็นไห ระหว่างเดินทางพบเจออะไรที่ไม่อาจคาดเดาได้ เขาคิด เฉินเสียนมอบนางให้เขาดูแล หากเกิดเรื่องขึ้นจริง ก็เป็นความรับผิดชอบของเขา
ฉินหรูเหลียงหงุดหงิดใจ เอาความหงุดหงิดของตนเองไปรวมกับเรื่องยุ่งยากที่ได้รับคำสั่งให้ปกป้องดูแลนางชั่วคราว
ครั้นแล้วฉินหรูเหลียงก็ผลักโต๊ะที่อยู่ตรงหน้าออก และนำร่างแน่งน้อยอ่อนแอของเหมยอู่ออก ก่อนที่จะมองนางจากด้านบนลงมาแล้วกล่าวว่า “ขาดผู้ชายขนาดนั้น ชอบอยู่ในอ้อมอกใช่หรือไม่?เช่นนั้นไปที่หอหมิงเย่ว์เป็นอย่างไร?”
ใบหน้าเล็กของเหมยอู่ซีดเผือดทันที น้ำตาที่คลอเบ้าจะไหลรินก็ไม่ไหล
รอตอนที่นางจะเอื้อมมือจะไปจับปลายชุดของเขา ฉินหรูเหลียงได้สะบัดชุดแล้วเดินไปที่ประตูแล้ว ได้กล่าวกับนายทหารที่เป็นเจ้ามือโดยไม่หันกลับมามองว่า “ครั้งหน้าอย่าให้ข้าเจอนางอีก”
หลังจากที่ฉินหรูเหลียงไปแล้ว นายทหารที่อยู่ห้องโถงได้สติกลับมา ทันใดนั้นได้เกิดความโมโหเหมยอู่เลยทันที
ถึงอย่างไรหญิงผู้นี้เขาก็เล่นจนเบื่อแล้ว เลยได้ถือโอกาสกล่าวว่า “ทำตามที่ท่านแม่ทัพพูด พรุ่งนี้เอานางไปขายที่หอหมิงเย่ว์ ”
พอเหมยอู่ได้ยิน สามจิตเจ็ดวิญญาณตกใจกลัวจนจะเตลิด นางรีบคลานเข้าไปอ้อนวอนว่า “ท่านแม่ทัพ ขอร้องท่านล่ะ อย่าขายเหมยอู่เลย…….ต่อไปเหมยอู่จะพอใจในสิ่งที่ตนมี จะเชื่อฟังนะเจ้าคะ”
หลังจากที่จาวหยางออกมาจากจวนนั้น เดินอย่างไร้จุดหมายบนท้องถนน
เวลานี้ท้องฟ้ามืดมากแล้ว ผู้คนบนท้องถนนบางตา เหลือเพียงโคมไฟที่แขวนอยู่บนถนนเส้นยาวเงียบเหงาวังเวง สาดส่องแสงประกายเพียงเล็กน้อย
บนถนนพบเจอชายจำนวนหนึ่งที่ดื่มเหล้าเมามายหัวราน้ำอยู่ มองเห็นจาวหยางที่สดใสมีน้ำมีนวล ก็หมายปองจะลวนลาม และชายไม่กี่คนได้มาล้อมรอบขวางทางที่นางจะไปไว้
แต่นางยังไม่ต้องลงมือ ก็มีคนมาจากทางด้านหลังเพื่อปกป้องนางแล้ว และลากนางมาหลบอยู่ทางด้านหลังเขา
จาวหยางเงยหน้ามองแผ่นหลังสูงใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า มองเห็นเขาตีชายขี้เมาจนพวกนั้นแพ้ราบคาบ สุดท้ายปีนป่ายขึ้นจากพื้นแล้วหนีเตลิดไป ในใจพูดว่าเป็นรสชาติอะไรของชีวิตออกมาไม่ได้
คล้ายดั่งว่าปวดร้าวตื้นตันน้ำตาจะร่วง อีกทั้งมีความร้อนผ่าว
ฉินหรูเหลียงหันกลับมา บีบข้อมือของนางแน่นแล้วลากเดินไป
พอถึงปากทางเข้าซอย ทั้งสองหยุด จาวหยางพิงอยู่ที่กำแพง หายใจหอบตลอด ฉินหรูเหลียงห่างนางสองก้าว มองนางด้วยสายตาที่ไม่อาจคาดเดาได้
เป็นเวลานาน นางได้กล่าวขึ้นว่า “ท่านอาจจะไม่รู้ ในสองปีนี้ มีคนคนหนึ่งคิดถึงท่านมาโดยตลอด นางอยากมาดูที่ต้าฉู่หลายครั้งนับไม่ถ้วนเลย แต่นางกลยุทธ์ไม่หลักแหลม ทุกครั้งออกมาได้ไม่ไกลเท่าไหร่ ก็ถูกจับกลับไปแล้ว”
ฉินหรูเหลียงกล่าวอย่างไม่อยากคบค้าสมาคมด้วยว่า“สาวน้อยที่มีประสบการณ์ไม่มาก ข้าไม่ได้มีความสนใจ ท่านไม่เคยเข้าใจข้ามาก่อน ไม่เคยรู้ว่าข้าเป็นคนเยี่ยงไร ก็เพียงแค่ถูกทำให้ฉงนสับสนชั่วขณะ รอให้สมองความคิดของท่านเย็นสงบลง ก็จะรู้ว่าสิ่งที่ตนเองทำมันโง่เขลาอ่อนต่อโลกแค่ไหน”
จาวหยางมองเขาอย่างสงบแล้วกล่าวว่า “เพราะฉะนั้นท่านเลยใช้วิธีนี้มาทำให้ข้าเจ็บปวด มาทำให้ข้าได้สติใช่หรือไม่?”
ฉินหรูเหลียงเดินเข้ามาใกล้นาง ร่างสูงใหญ่แผ่ปกคลุมลงมา เวลานี้ขับให้นางดูตัวเล็กน่ารักเป็นอย่างมาก
กลิ่นอายลมหายใจของเขามีกลิ่นเหล้า กล่าวเสียงทุ้มต่ำใกล้ๆว่า “วิธีที่ทำให้ท่านเจ็บปวด นั่นยังไม่ถึงขนาดนั้น ท่านอย่าจริงจังสำคัญตนเองจนมากเกินไป ช่วงไม่กี่วันนี้ข้าเพียงแค่ได้รับคำสั่งจากฝ่าบาทให้มาปกป้องดูแลท่าน หากท่านเล่นพอแล้ว ก็รีบกลับเป่ยเซี่ยของท่านไปในเร็ววัน”
จาวหยางกล่าวถามว่า “ท่านชอบหญิงสาวแบบไหน? แบบบนห้องโถงเมื่อครู่นี้ที่มีท่าทางเสแสร้งหรือไม่?”
ฉินหรูเหลียงเม้มริมฝากปากกล่าวว่า “เมื่อครู่ท่านก็ได้เห็นแล้ว เพียงแค่มีหญิงสาวมาอยู่ที่อ้อมอก ข้าก็เหมือนกับชายคนอื่นที่ไม่ปฏิเสธ เมื่อก่อนไม่ใช่ว่าข้าไม่มีอนุภรรยา รอข้าเล่นเบื่อแล้ว มีบางคนก็ถูกข้าไล่ออกไปจากจวน มีบางคนที่ถูกข้าขายเข้าไปหอนางโลม”
เห็นจาวหยางเบิกตากว้าง เขาเลยกล่าวอีกว่า “ไม่เชื่อ ท่านสามารถไปสอบถามได้ หากว่าท่านไม่อยากมีจุดจบเช่นนั้น ก็อยู่ไกลๆข้าหน่อย”