ข้าคือหงส์พันปี - บทที่ 81 ท่านรักนางมากจริงๆ
เห็นได้ชัดว่าลูกดอกนี้พุ่งไปที่ฉินหรูเหลียง
เฉินเสียนโกรธไม่มีสิ้นสุด นางเกือบเกิดอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บ
จากนั้นก็รู้สึกเสียใจ กล่าวด้วยความอารมณ์เสีย “เตะนี้มิสมควรจริงๆ!” นางเหลือบมองฉินหรูเหลียงสภาพสะบักสะบอม หากนางไม่เตะออกไป ขณะนี้ฉินหรูเหลียงคงโดนลูกดอกยิงไปแล้ว
ฉินหรูเหลียงหันกลับมามองเธอด้วยความเย็นชา เดินไปหน้าไม้กระดานแล้วยกมือเอาลูกดอกออก
เฉินเสียนยิ้มหยันและกล่าว “ไม่โดนลูกดอกยิง แต่กลับไปสัมผัส ตายเพราะโดนพิษ แม่ทัพใหญ่จะเป็นแม่ทัพที่ตายได้เสียเปรียบที่สุดในต้าฉู่”
ดวงตาฉินหรูเหลียงมืดลง
ฉินหรูเหลียงเดินเข้าไปใกล้ถึงได้พบว่า บนลูกดอกมีพิษ ถ้าปกติก็ไม่เป็นไร แต่ขณะนี้เขามีบาดแผลบนมือ หากไม่ระวังจะโดนและทำให้เกิดพิษ
เฉินเสียนให้อวี้เยี่ยนนำผ้าเช็ดหน้ามาห่อลูกดอกออกมาอย่างระมัดระวัง ไม่ได้ตั้งใจจะให้ฉินหรูเหลียง แต่เก็บเอาไว้เอง แล้วกล่าวว่า “ไป กลับบ้านค่อยครวจสอบ”
ของเล่นชิ้นนี้สวยงาม และมีน้ำหนักมาก หลังจากล้างพิษด้านบนของมันแล้ว ก็สามารถใช้ป้องกันตัวได้
เฉินเสียนเดินไปข้างหน้า กล่าวอย่างช้าๆ “ยังสู้ได้อยู่หรือไม่? ท่านจำไว้นะ ข้าช่วยชีวิตท่านไว้ พิษด้านบนรุนแรงมาก มิเช่นนั้น ท่านจะโดนพิษและตายทันที”
ฉินหรูเหลียงกล่าว “ท่านคิดว่าเป็นเช่นนี้ จะสามารถลบทุกอย่างที่ท่านทำได้หรือ? เฉินเสียน ท่านจะมีสักวันที่ขอความเมตตาจากข้า”
เฉินเสียนเลิกคิ้ว “หากรู้ว่ามีคนจะยิงลูกดอกท่าน ข้าไม่เตะท่านหรอก จับขโมยก็ต้องมีหลักฐาน เหมือนครั้งก่อนที่ข้าเห็นท่าน ฉินหรูเหลียงและเซียงซั่นกำลังพลอดรักกันในศาลา”
ฉินหรูเหลียงสีหน้าเปลี่ยนไป
เฉินเสียนกล่าวโดยยิ้มแต่ไม่ยิ้ม “แค่ข้าไม่ได้ตะโกนเสียงดังเหมือนท่าน ไม่เช่นนั้นคนทั้งจวนก็ถูกดึงดูดให้มาดูผลงานบนเตียงของพวกท่าน อย่างไรมันก็ไม่เกี่ยวกับข้า ข้าจะทำเป็นเห็นเป็ดแมนดารินเล่นน้ำแล้วกัน”
ฉินหรูเหลียงไม่คิดว่าฉากนี้จะถูกหญิงน่ารังเกียจผู้นี้เห็นเข้า
สีหน้าเฉินเสียนเยือกเย็นดุจน้ำ กล่าวขึ้นอีกครั้ง “ฉินหรูเหลียงบอกข้ามักมากในกาม แล้วท่านดีไปกว่าตรงไหน? ท่านไม่เห็นข้ากับเหลียนชิงโจวเปลื้องผ้าบนเตียงเดียวกันด้วยตาท่านเองใช่หรือไม่?”
นางหัวเราะเยาะ แล้วกล่าวอีกครั้ง “อวดรักลึกซึ้งกับเหมยอู่ ท่านช่างมีรักที่ลึกซึ้งจริงๆ” ดวงตานางเต็มไปด้วยความเฉยชาต่อเขา
“ท่านเข้มงวดกับผู้อื่นแต่อดทนต่อตนเองมาเสมอใช่หรือไม่? ตอนนี้ข้าไม่ได้รบกวนโลกของท่านกับเหมยอู่ แต่ท่านกลับมารบกวนข้า บอกแล้วไม่ใช่หรือว่าไม่เกี่ยวข้องกันอีกแล้ว แม่ทัพฉินไม่ซื่อสัตย์กับสิ่งที่พูดหรือ?”
เธอยกมุมปาก “ตอนนี้ข้าไม่ได้ทำร้ายเหมยอู่ แต่ทำร้ายคนที่นางรักอย่างลึกซึ้งมากที่สุดก็คือท่าน แม่ทัพฉิน ท่านรักนางมากสินะ”
แม้แต่อวี้เยี่ยนก็เบ้ปากทำหน้าไม่พอใจ พึมพำเสียงเบา “ความรักเช่นนี้ต่างจากเช้าสามเย็นสี่ที่ไหนกันเพคะ ดีที่ไม่ได้มอบให้องค์หญิง หากมอบให้องค์หญิง คงไม่น่าหวงแหน”
ฉินหรูเหลียงไม่สามารถพูดประโยคปฏิเสธได้เลย
เมื่อเขาได้สติ เขารักเหมยอู่ขนาดนั้น แต่ก่อนตราบใดที่เฉินเสียนไม่ไปต่อกรกับเหมยอู่ เขาก็รู้สึกสงบมาก อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่สนใจเฉินเสียนมากอยู่แล้ว
แต่ตอนนี้เขากำลังทำอะไร เขากลับแทรกแซงชีวิตของเฉินเสียน
ขณะที่เข้าประตูใหญ่จวนแม่ทัพ เฉินเสียนกล่าวโดยไม่หันศีรษะกลับมา “ข้าจะเตือนท่าน หากกล้ารบกวนข้าอีก ข้าจะไปต่อกรกับหลิ่วเหมยอู่อีกครั้ง อย่างไรแล้วในจวนแม่ทัพ ต้องเพิ่มความบันเทิงนิดหน่อยถึงจะไม่น่าเบื่อ หากท่านทนไม่ได้ ก็เตรียมหนังสือหย่าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
ร่างฉินหรูเหลียงชะงัก
เฉินเสียนไม่มีความอาลัยอาวรณ์กับเขาเลยสักนิด เดาว่าเธออยากจะหย่ากับเขาใจจะขาด จากนั้นก็จะได้ไปหาชายชู้ของเธอ!
แต่เขาล่ะ องค์หญิงอยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ เขาหย่ากับองค์หญิง ไม่เพียงสร้างความเสียหายเกียรติของราชวงศ์ แต่จะถูกคนทั้งโลกกล่าวหาว่าเป็นผู้ไร้ความปรานีและล้อเล่นกับความรู้สึกหญิงสาว!
หากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตอบตกลงโดยไม่ลังเลสักนิด แต่ตอนนี้ ไม่แม้แต่จะคิด
เธอทำจวนแม่ทัพเป็นเช่นนี้แล้ว เธอให้เขาอยู่อย่างอึดอัด ถ้าเช่นนั้นเขาก็จะไม่ปล่อยให้เธอเป็นอิสระ จะทำให้นางใช้ชีวิตทนทุกข์และระส่ำระส่าย!
ฉินหรูเหลียงไม่ใช่ไม่สนใจหลิ่วเหมยอู่ ถึงแม้หลิ่วเหมยอู่จะฆ่าบุตรเขาตาย แต่เขาพยายามสุดความสามารถที่จะอดทนและให้อภัย เขาต้องใช้เวลาในการสงบสติอารมณ์
หลิ่วเหมยอู่ร้องห่มร้องไห้ในสวนดอกพุดตาน ซูบผอมจนกลายเป็นอีกรูปลักษณ์หนึ่งเพียงเวลาสั้นๆ
ฉินหรูเหลียงไม่ได้มาหานางเลย
ฉินหรูเหลียงยับยั้งตัวเองไม่ให้ไปสวนดอกพุดตาน ตอนกลางวันออกไปทำงานเสร็จกลับมา เมื่ออารมณ์มืดมนก็ไปสวนเซียงเสวี่ยของเซียงซั่น
เมื่อฉินหรูเหลียงไปถึงสวนเซียงเสวี่ย เห็นนางฟื้นตัวได้ไม่เลว ในคืนถัดมาก็ไปสวนเซียงเสวี่ยเพลิดเพลินการเต้น เซียงซั่นได้รับความรักจากท่านแม่ทัพในชั่วขณะหนึ่ง ทุกคนต่างรู้กัน
ขณะที่เซียงซั่นมาสวนสระวสันตฤดู ก็แตกต่างจากที่ผ่านมา นางต้องการขอขี้ผึ้งหอมจากเฉินเสียน ในมือตอนนี้ไม่มีเงิน จึงนำปิ่นปักผมสีทองหนักๆ ชิ้นหนึ่งมาแลกเปลี่ยน
เฉินเสียนเห็นพึงพอใจ จึงให้อวี้เยี่ยนรับปิ่นปักผมสีทองมา แล้วมอบขี้ผึ้งหอมหนึ่งกล่องให้นาง
ปัจจุบันนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดของเซียงซั่น นางต้องฉวยโอกาสก่อนที่ฉินหรูเหลียงกลับไปรักหลิ่วเหมยอู่ ครอบครองร่างกายและจิตใจของฉินหรูเหลียงให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
ขี้ผึ้งหอมนี้ประสิทธิภาพในการรักษารอยยอดเยี่ยมมาก แค่หนึ่งเดือนผ่านไป ถึงแม้ใบหน้าเซียงซั่นไม่มีรอยแผลเป็น แต่ยังมีรอยแดงจางๆ ที่ยังไม่หายไป
ยานี้ไม่มีกลิ่น เฉินเสียนไม่สามารถดมส่วนผสมของยาออก
แต่เซียงซั่นปกติแต่งตัวเก่ง ใช้แป้งกลบรอยแดง จึงไม่พบรอยใดๆ
แต่นางไม่คิดว่า เมื่อฉินหรูเหลียงกดนางลงบนเตียง ทุกครั้งจะขอให้นางล้างแป้งออก เผยให้เห็นรอยแดงบนหน้าอย่างสมบูรณ์แบบ
บางครั้งฉินหรูเหลียงมาสวนเซียงเสวี่ย ชะโงกศีรษะดูเซียงซั่นเต้น เขาจะเหม่อลอยเล็กน้อย หลังจากนั้นก็อารมณ์เสียนิดหน่อย
ราวกับว่าเขามองผู้หญิงคนอื่นผ่านเซียงซั่น และผู้หญิงคนนี้เขาก็เกลียดจนนึกถึงมากหน่อยก็โกรธเสียแล้ว
เหตุใดฉินหรูเหลียงชมการเต้นรำอันมีเสน่ห์นี้ ส่วนมากในสมองกลับนึกถึงเฉินเสียนท้องป่องด้วยใบหน้ายิ้มแย้มกำลังเต้นอย่างมีชีวิตชีวาใต้ร่มเงาต้นไม้ในสวนสระวสันตฤดูวันนั้นล่ะ?
แสงแดดระหว่างต้นไม้ตกลงบนใบหน้าเธอ ไม่เท่าแสงในดวงตาและรอยยิ้มของเธอ
ทุกการกระทำของเธอ เมื่อหวนคิดกลับไป มันเปี่ยมล้นไปด้วยความมั่นใจและมีเสน่ห์
ฉินหรูเหลียงมองสักพัก ร่างที่ร่ายรำของเซียงซั่นตรงหน้าก็ค่อยๆ ซ้อนทับด้วยเฉินเสียนโดยไม่รู้ตัว
ดวงตาเขามืดลง ภายใต้แสงไฟสวยงาม ทันใดนั้นก็ยื่นมือไปจับข้อมือเซียงซั่น แล้วพานางเข้าสู่อ้อมกอดทันที
กลิ่นหอมภายในห้องเลือนราง กลิ่นหอมหวานในอ้อมกอด ปลุกเร้าจนเขาไม่สามารถทนได้
ขณะที่ฉินหรูเหลียงบุกเข้าไป นิ้วก็ลูบรอยแดงบนหน้าเซียงซั่น ลมหายใจพ่นบนใบหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อยของนาง ถามโดยไม่มีเหตุผล “ใครรักษาหน้าให้เจ้า?”
เซียงซั่นดึงผ้าปูที่นอนใต้ร่าง เล็บกำลังจะฉีกขาด กล่าวอย่างต่อต้าน “ข้าน้อยซื้อยาขี้ผึ้งมารักษา…..”
“ซื้อยาขี้ผึ้งที่ใด?”
“ร้านขายยา……”
ฉินหรูเหลียงนิ่งไป มองเซียงซั่นอย่างลึกซึ้ง “ต่อไปไม่อนุญาตให้ใช้ยาขี้ผึ้งแล้ว เจ้าต้องเป็นแบบนี้ เข้าใจหรือไม่?”