ข้าคือหงส์พันปี - บทที่ 82 เฮ้ สุนัขฉิน
จิตใจเซียงซั่นหนักอึ้ง ความคิดว่องไวจนนางควบคุมไม่ได้ นางไม่สามารถระงับความสุขในร่างกายนางได้ บิดเอวตอบ “ทราบแล้วเจ้าค่ะ ข้าทราบแล้ว……”
คืนนี้ ผ้าม่านหอม แกว่งไปมาในอากาศ
ถึงคราวอับจน ฉินหรูเหลียงกดไหล่เซียงซั่นแน่น กระแทกอย่างรุนแรง บดขยี้ร่างกายเซียงซั่นด้วยความโหดเหี้ยม เห็นแววตานางเต็มไปด้วยความรักความเกลียดชังและกัดฟัน
หลิ่วเหมยอู่ได้ยินว่าฉินหรูเหลียงอยู่ที่พักเซียงซั่นบ่อยครั้ง และเขาก็ไม่มาหาตนอีกเลย จึงอดเกลียดชังเซียงซั่นไม่ได้
แต่กลับมาที่ตัวต้นเหตุ คนที่นางเกลียดที่สุดก็คือเฉินเสียน!
หากไม่ใช่แผนการของเฉินเสียน ใบหน้าน่าเกลียดของเซียงซั่นนั้นจะไม่มีโอกาสเข้าใกล้ฉินหรูเหลียงเลย!
หลิ่วเหมยอู่ตั้งหน้าตั้งตารอคอยฉินหรูเหลียงมาทุกวัน ผลสุดท้ายได้ยินว่าฉินหรูเหลียงไปหาเซียงซั่นคืนก่อน วันต่อมาก็ไปหาเฉินเสียน
เซียงหลิงกล่าว “นายหญิงไปขออภัยท่านแม่ทัพดีกว่า ท่านแม่ทัพรักนายหญิงขนาดนั้น จะต้องใจอ่อนแน่นอน ไม่แน่ท่านแม่ทัพอาจจะกำลังรอนายหญิงเอ่ยปากก่อนก็ได้นะเจ้าค่ะ”
หลิ่วเหมยอู่กล่าว “ข้าไม่ได้ทำผิด นางชั้นต่ำเซียงซั่นนั่นมันยั่วยวนท่านแม่ทัพ! ผู้ที่ผิด……” มุมปากนางสั่นเล็กน้อย “ท่านแม่ทัพเป็นผู้ผิดก่อน……”
ขณะที่ฉินหรูเหลียงไปถึงสวนสระวสันตฤดู เฉินเสียนกำลังพักผ่อนในสวน ข้างกายมีองุ่นที่ล้างสะอาดวางอยู่ นางสามารถหยิบมันได้อย่างง่ายดาย
ทุกวันนางใช้ชีวิตอย่างสบาย มุมกระโปรงห้อยลงแผ่กับเก้าอี้ ปลิวสะบัดเบาๆ ในมือกำลังเล่นลูกดอกลูกนั้นที่ได้มาเมื่อสองวันก่อน มุมปากหัวเราะหยอกล้ออย่างคลุมเครือ
นิ้วขาวเรียวยาวละเอียดอ่อนนั้น ยืดหยุ่นสูงมาก นิ้วหมุนไปรอบๆ ลูกดอกคมเปรียบเสมือนของเล่นชิ้นเล็กในมือเธอ
ฉินหรูเหลียงจ้องมือเธอสักพักหนึ่ง
ในอดีตไม่เคยรู้สึกว่ามือนั้นน่าดึงดูดเช่นนี้
มือเฉินเสียนไม่เหมือนกับมือหลิ่วเหมยอู่ที่เขาเคยเห็น หลิ่วเหมยอู่อ่อนนุ่มไร้กระดูก แต่มือเธอดูแข็งแกร่งมาก คมชัดและเรียบเนียน ความโค้งเว้าของนิ้วงดงามอย่างยิ่ง
อวี้เยี่ยนหยิบผลบ๊วยที่เธอชอบทานออกมาด้วยใบหน้ากังวล ต้องการหยิบลูกดอกของเฉินเสียนแต่ก็ไม่กล้า กล่าวขึ้นว่า “องค์หญิงเพคะ พระองค์เล่นมาหนึ่งชั่วยามแล้ว ไม่ปวดมือหรือเพคะ? รีบไปพักผ่อนเถอะ ของอันตรายเช่นนี้มอบให้บ่าวดีกว่านะเพคะ”
ลูกดอกนั้นปลายด้านหนึ่งคมมาก หากไม่ระวังอาจกรีดฝ่ามือได้ พิษด้านบนเฉินเสียนล้างมันสะอาดแล้ว เธอรู้สึกว่าลูกดอกนี้เล่นสะดวกมืออย่างยิ่ง
เฉินเสียนกล่าวด้วยอารมณ์ “ชิ สิ่งของที่ยิ่งอันตรายก็จะยิ่งสวยงามและมีคุณภาพ” เธอสังเกตลูกดอกสีดำบริสุทธิ์งดงามลูกนี้อย่างละเอียด แล้วครุ่นคิดอีกครั้ง “ไม่รู้ว่าหากนำเจ้านี่แทงฉินหรูเหลียง จะรู้สึกอย่างไรกันนะ”
สีหน้าเธอมีความกระตือรือร้นอย่างเห็นได้ชัด
สิ้นสุดประโยค เสียงมืดมนของฉินหรูเหลียงที่อยู่ทางเข้าสวนก็ดึงผ่านเข้ามา “ท่านก็ลองดูสิ”
เฉินเสียนหันศีรษะไปด้านข้าง เลิกคิ้วสูง ขมวดเป็นปม จากนั้นก็หัวเราะออกมา “เฮ้ สุนัขฉิน”
ฉินหรูเหลียง “ท่านอยากตายใช่หรือไม่?”
อวี้เยี่ยนพยุงเฉินเสียนลุกขึ้น เฉินเสียนมองรอบๆ แล้วกล่าวขึ้น “ใช่ แต่ข้าไม่รู้ว่าจะไปตายที่ใด ท่านช่วยข้านำทางสิ”
อวี้เยี่ยนกล่าว “องค์หญิงเพคะ บ่าวประคองพระองค์กลับห้องไปพักผ่อนนะเพคะ”
เฉินเสียนไม่สนใจฉินหรูเหลียง พูดจบก็หันตัวจะกลับห้อง
“หยุด” เธอหันศีรษะ ฉินหรูเหลียงยื่นมือออกไป “เอามา”
“ท่านต้องการสิ่งใดหรือ?” เฉินเสียนถาม
ฉินหรูเหลียงหรี่ตา รู้ว่าเธอรู้อยู่แล้วยังแกล้งถาม กล่าวด้วยสายตาเย็นยะเยือก “ลูกดอก”
เฉินเสียนยกมุมปากยิ้ม ก้มหน้ามองลูกดอกในมือ “ท่านต้องการแล้วข้าต้องให้หรือ?”
เขามาเพื่อต้องการลูกดอกนี้โดยเฉพาะ ถึงไม่รู้ว่าลูกดอกนี้ใครเป็นผู้ยิง แต่จุดประสงค์คือต้องการชีวิตเขา จับตัวฆาตกรไม่ได้ หากดูอาวุธสังหารอย่างละเอียดไม่แน่ว่าอาจจะสืบที่มาของลูกดอกได้
ฉินหรูเหลียงขมวดคิ้วอย่างเย็นชา “ท่านเก็บสิ่งนี้ไว้ทำไม?”
“เอาไว้จัดการไก่กับสุนัขที่ก้าวร้าว”
ความโกรธฉินหรูเหลียงเพิ่มขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า “ตอนที่ข้าขอดีๆ ท่านก็อย่าต่อต้าน! ต้องการให้ข้าลงมือใช่หรือไม่!”
เฉินเสียนค่อยๆ กล่าว “ท่านให้เหตุผลสิว่าทำไมข้าต้องมอบให้ท่าน”
“มันคือเบาะแสในการติดตามฆาตกร”
เฉินเสียนยิ้ม เกี่ยวเส้นผมที่ติดมุมปาก กล่าวขึ้น “ไม่เกี่ยวกับข้า ฆาตกรไม่ได้มาสังหารข้าเสียหน่อย อ่อ หากครั้งหน้าฆาตกรมาอีก ไม่แน่ข้าอาจจะต้องเลี้ยงอาหารเขาสักมื้อ เพราะเขาทำได้ยอดเยี่ยมมาก!”
“เฉินเสียน นี่ท่านอยากให้ข้าตายมากหรือ?” แววตาฉินหรูเหลียงมืดลง
เฉินเสียนสะบัดมุมกระโปรง หรี่ตากล่าว “ใช่ที่ไหนกัน หากข้าอยากให้ท่านตาย แล้วท่านตาย ท่านยังมายืนพูดต่อหน้าข้าได้หรือ?” เธอพูดอย่างเย้าหยอก “เหตุผลนี้โน้มน้าวข้าไม่ได้ ท่านยังมีเหตุผลอื่นหรือไม่?”
“ลูกดอกนี้มันใช้เพื่อสังหารข้า ท่านคิดว่าข้าจะดูมันไม่ได้หรือ?”
“อ่า บนนี้สลักชื่อท่านไว้หรือไง? ท่านบอกไม่ได้นะว่าสิ่งนี้มันคือของจวนแม่ทัพท่านนะ?”
เฉินเสียนกล่าวอีกครั้ง “ลูกดอกลูกนี้ตอนนั้นมันปักอยู่บนไม้กระดาน ใครหยิบได้ก่อนก็เป็นของคนนั้น ตอนนั้นท่านกลัวตายเลยไม่ได้หยิบ แต่พอข้าเอากลับมาทำความสะอาดเองท่านก็อยากเอามันไป แม่ทัพฉิน ท่านกล่าวหาว่าผู้อื่นทำให้ท่านเสียหน้าได้อย่างไร ท่านเองนั่นแหละที่ไร้ยางอาย!”
ฉินหรูเหลียงกัดฟัน ทำไมเขาต้องพยายามสื่อสารดีๆ กับผู้หญิงคนนี้ด้วย? เปลืองน้ำลายแท้ๆ เลย!
เมื่อเห็นฉินหรูเหลียงจะเดินมาแย่งไปตรงๆ เฉินเสียนก็มอบลูกดอกให้อวี้เยี่ยนอย่างสงบนิ่ง เอ่ยกำชับ “เอาไป โยนไว้ในกระโถนปัสสาวะใต้เตียงข้า หากท่านแม่ทัพต้องการไปควักในกระโถนปัสสาวะ ก็ส่งให้เขาควัก”
ฉินหรูเหลียงโกรธจนหน้าเขียว “เฉินเสียน!”
เฉินเสียนแคะขี้หู ยิ้มกริ่มขณะกล่าวขึ้น “ต้องการหรือ?” เธอยกนิ้วหนึ่งขึ้น “หนึ่งพันตำลึง ข้าจะขายมันให้ท่าน”
ฉินหรูเหลียงโกรธจัดแต่ยิ้ม “ท่านโลภมากเสียจริง! ต้องการเงินใช่หรือไม่ ข้าจะจ่ายเงินให้กับท่าน”
เฉินเสียนกะพริบตา “เมื่อใด?”
“สามีภรรยาใช้ทรัพย์สินส่วนกลางไม่ใช่หรือ เงินของท่านก็คือเงินของข้า เมื่อครู่นี้ข้าให้เงินล่องหนกับท่านหนึ่งพันตำลึง ตอนนี้มันกลับมาอยู่บัญชีข้าแล้ว”
ฉินหรูเหลียงสมองดี แต่ไร้ยางอายเกินไป
การรับมือกับคนประเภทนี้ เราไม่ต้องสู้กันต่อหน้ากับเขา แต่แค่มาสู้กันว่าใครหน้าไร้ยางอายมากกว่ากัน
เฉินเสียนกล่าว “น่าขันนัก ข้าเคยบอกว่าของของท่านก็คือของของข้า แต่ข้าบอกตอนไหนว่าของของข้าคือของของท่าน? ของของข้าก็ยังเป็นของของข้า!”
ฉินหรูเหลียงไม่มีทางเลือก เขาเถียงสู้เธอไม่ได้ ต้องเดินช้ากว่าหนึ่งก้าว
ในเวลานั้นเห็นอวี้เยี่ยนถือกระโถนปัสสาวะออกมาอย่างระมัดระวัง และโยนลูกดอกลงไปต่อหน้าฉินหรูเหลียง
เฉินเสียนบีบจมูกพัดกลิ่น แล้วกล่าวว่า “อวี้เยี่ยน เอากระโถนปัสสาวะไปมอบให้ท่านแม่ทัพ”
ฉินหรูเหลียงถอยหลังหนึ่งก้าว กัดฟันแล้วกล่าวหนึ่งคำ “ออกไป!” จากนั้นเขาก็หันตัวเดินจากไปด้วยความโกรธจัด
เมื่อออกจากประตูสวนสระวสันตฤดู ด้านในก็มีเสียงระเบิดเสียงหัวเราะที่ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจของเฉินเสียน มันสดใสและชัดเจน ระรื่นหูสบายใจเหลือเกิน
หากเธอไม่ได้ตั้งท้อง ในหัวสมองฉินหรูเหลียงอดไม่ได้ที่จะปรากฏภาพเธอตบประตูขณะกุมท้องหัวเราะแยกเขี้ยวยิงฟัน
ผู้หญิงคนนี้!
ฉินหรูเหลียงโกรธก็เท่านั้น และเขาก็ไม่มีทางทำอะไรที่สิ้นคิด
เขาผู้เป็นแม่ทัพผู้ทรงเกียรติ จะควักกระโถนปัสสาวะของผู้หญิงคนหนึ่งจริงๆ หรือ?!