ข้าคือหงส์พันปี - บทที่ 88 ใครคนหนึ่งขึ้นมาบนภูเขา
ในชีวิตนี้เธอไม่เคยฆ่าใครมาก่อน แต่ยุคสมัยนี้ไม่ได้มีกระบวนการยุติธรรมที่ใครทำผิดก็จะถูกลงโทษ มีแต่การฆ่าฟันและชดใช้กันด้วยชีวิต
เมื่ออยู่ที่นี่ ถ้าเธอไม่ฆ่า เธอจะกลายเป็นปลาที่รอความตายอยู่ใต้คมมีดของผู้อื่น ไหนจะยังมีสี่ชีวิตที่อยู่ในตรอกนั้นอีก ใครกันที่จะต้องชดใช้!
เธอมองหัวหน้าโจรที่ดิ้นรนอย่างอ่อนแรงลงเรื่อยๆ อยู่อย่างนั้น ในที่สุดมันก็ตาถลนและไม่มีเสียงใดๆ เล็ดลอดออกมาอีก
เธอรัดคอมันจนตาย
สุดท้ายแล้วเรื่องนี้จะต้องจบลงด้วยดีไม่ใช่หรือ
ถ้าไม่ใช่เธอที่ลงไปจากภูเขาแห่งนี้อย่างปลอดภัย ก็เป็นคนพวกนี้ที่จะต้องตาย
เฉินเสียนรู้สึกสงบเป็นอย่างมาก สงบจนอาการหอบเริ่มบรรเทาลง และเสียงโห่ร้องของโจรภูเขาที่อยู่ด้านนอกก็ยิ่งน่าหนวกหูเป็นพิเศษ
คงเป็นเพราะคืนนี้การค้าของพวกมันเป็นไปด้วยดี จึงนับเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก
ณ ชายป่าบริเวณพื้นราบด้านล่าง เป็นป่าที่ไม่มีแสงไฟและมืดสนิท
เสียงกีบม้าที่ดังอย่างแผ่วเบาเคลื่อนผ่านป่าไปอย่างเร่งรีบจนมาหยุดอยู่ที่เชิงเขา
บุรุษผู้หนึ่งพลิกตัวลงจากหลังม้าและเดินขึ้นไปบนภูเขาตัวคนเดียว
ที่ยอดเขาแห่งนี้ถูกพวกโจรภูเขารุกล้ำเข้ามา พวกมันใช้ป่าทึบเป็นที่กำบังไว้คอยหลบเร้นจากสายตาผู้คน ปกติพวกโจรภูเขาจะไม่ดักปล้นสะดมแถวภูเขาลูกนี้ พวกมันมักจะไปทำเรื่องชั่วที่อื่นแล้วค่อยกลับมายังที่ซ่องสุม หรือไม่ก็โยกย้ายที่กบดานบ่อยๆ ดังนั้นพวกเจ้าหน้าที่ทหารจึงไม่เคยพบที่กบดานของพวกมัน
บุรุษผู้นี้แต่งกายชุดดำ เขาเดินหน้าไม่หยุดหย่อนตั้งแต่ฟ้ายังสว่างจนกระทั่งฟ้ามืด เส้นผมที่อยู่ด้านหลังดูเหมือนสาหร่ายใต้น้ำ เขาใช้ปิ่นไม้ปักเป็นมวยผมที่ด้านบน อีกส่วนหนึ่งปล่อยสยายไว้บนแผ่นหลังกว้าง
แสงสว่างรางๆ บนยอดเขาที่สะท้อนอยู่ในนัยน์ตาอันเรียวยาวของเขาดูไม่ต่างอะไรจากดวงดาวในค่ำคืนอันหนาวเหน็บ
เฉินเสียนมองหัวหน้าโจรภูเขาที่นอนกองอยู่ข้างเตียง เธอเอื้อมมือไปจับชีพจรและพบว่าเขาตายแล้วจริงๆ มารู้ตัวอีกทีกลิ่นเหม็นคาวก็ลอยเข้ามาเตะจมูก ท้ายที่สุดเธอก็หันหน้าออกไปและอาเจียนอย่างกลั้นไม่อยู่
ยังวางใจไม่ได้ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา
เฉินเสียนเช็ดมุมปากแล้วลุกไปดูว่าในห้องนี้มีที่พอจะให้หลบหนีบ้างไหม ทว่าทันใดนั้นเอง เสียงฝีเท้าของใครคนหนึ่งก็ดังมาจากด้านนอกและกำลังจะเปิดประตูเข้ามา
เฉินเสียนเงยหน้าขึ้น ทันในนั้นก็รู้สึกบีบคั้นในหัวใจขึ้นมาอีกครั้ง
เธอลุกขึ้นและแก้มัดหัวหน้าโจรอย่างรวดเร็วก่อนจะผลักร่างหนักๆ ที่ไร้ชีวิตของเขาเข้าไปใต้เตียง จากนั้นจึงดึงผ้าปูที่นอนจนเละเทะและทำให้มันกระจัดกระจายอยู่ข้างเตียงเพื่อปิดไม่ให้เห็นสภาพใต้นั้น
ครั้นแล้วประตูก็ถูกผลักออกด้วยใครอีกคนหนึ่งที่อยู่ด้านนอก
ผู้ที่ยืนอยู่ตรงประตูคือรองหัวหน้าของกลุ่มโจร
เขาค่อนข้างระมัดระวังตัว เมื่อเห็นว่าภายในห้องไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ มานานแล้วเขาจึงเข้ามาดู หลังจากมองไปรอบๆ จึงพบว่าหัวหน้าโจรไม่ได้อยู่ที่นี่ เหลือเพียงแต่ผู้หญิงที่ชื่อเฉินเสียนเพียงคนเดียวเท่านั้น
เฉินเสียนเอื้อมมือไปแตะบนกระดุมของชุดคลุม แสร้งทำเป็นว่าเธอเพิ่งสวมเสื้อผ้าเสร็จ ยิ่งเมื่อเห็นว่าสภาพบนเตียงเละเทะ เจ้ารองหัวหน้าก็ยิ่งเข้าใจผิดได้ง่ายๆ ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างหัวหน้าโจรภูเขากับเฉินเสียน
เจ้ารองหัวหน้าถามว่า “พี่ใหญ่ของข้าอยู่ไหน”
เฉินเสียนเอ่ยอย่างไร้เดียงสาระคนตกใจ “ดูเหมือนคืนนี้เขาจะกินอะไรผิดสำแดง จึงออกไปถ่ายทุกข์กลางคัน”
ในเมื่อพี่ใหญ่ได้ลิ้มชิมรสผู้หญิงคนนี้แล้ว และเขาก็ไม่อยู่ ดังนั้นตอนนี้ก็ควรถึงทีของเขาบ้าง เมื่อมองไปที่เชือกครึ่งหนึ่งที่ผูกไว้กับหัวเตียง ดวงตาของเขาก็หรี่แสงและดูสงบลง
เมื่อเห็นว่าผู้หญิงคนนี้ท้องโตและไม่มีทางหนีไปไหนได้ เจ้ารองหัวหน้าก็ย่างสามขุมเข้ามาในห้อง
ในขณะนั้นเอง โจรภูเขาที่กำลังดื่มเหล้าอย่างสำราญใจอยู่ด้านนอกก็มองเห็นเงารางๆ ของใครบางคนกำลังเดินขึ้นมาบนภูเขา เขาอาศัยแสงไฟเดินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ และอยู่ห่างไปไม่ไกลนัก
โจรภูเขาผู้นั้นชี้ไปที่ร่างนั้นและบอกว่า “มีใครบางคนบุกขึ้นมาบนภูเขา!”
โจรภูเขาคนอื่นๆ พากันหัวเราะ “เจ้าเมาจนตาลายแล้วหรือเปล่า ตั้งแต่ชานเขาขึ้นมาถึงบนนี้มีหน่วยเฝ้าระวังอยู่ตั้งหลายจุด คนแค่คนเดียวจะฝ่ามาได้ยังไง”
เมื่อโจรภูเขาอีกคนหนึ่งลองมองดีๆ อีกครั้ง สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป “บัดซบ มีคนกำลังเดินขึ้นมาจริงด้วยเว้ย รีบไปรายงานพี่ใหญ่เร็วเข้า!”
ทันใดนั้นบรรยากาศอันครึกครื้นก็หมดลงไป พวกมันสงบลงและรอให้คนผู้นั้นเดินใกล้เข้ามา
เมื่อเขาก้าวขึ้นมาเหยียบบนยอดเขา ลมภูเขาก็พัดโชยมาจนทำให้ชายเสื้อสีดำของเขาปลิวไสว ใบหน้าที่อยู่ใต้แสงไฟนั้นงามสง่าไร้ที่ติ
บนภูเขาเงียบเชียบจนได้ยินเสียงลมหายใจลอยอยู่ในอากาศ เสียงกบและเสียงหรีดหริ่งเรไรดังระงมอยู่ในหุบเขา
คล้ายกับว่ามันเพิ่งกลับไปสู่ลักษณะทั่วไปที่ทุ่งนาป่าเขาควรจะเป็น
ทันทีที่เจ้ารองหัวหน้าเข้าไปในห้องและปิดประตู ลูกน้องที่อยู่ข้างนอกก็ตะโกนเข้ามา “แย่แล้วพี่ใหญ่ มีใครบางคนบุกขึ้นมาบนภูเขา!”
พี่ใหญ่ไม่อยู่ เจ้ารองหัวหน้าจ้องมองเฉินเสียนและค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้พลางตอบไปอย่างรำคาญว่า “ใครหน้าไหนมันกล้าบ้าบิ่นริอ่านบุกเข้าถ้ำเสือ พวกเจ้ามีกันตั้งหลายคนจะสู้มันคนเดียวไม่ได้เชียวรึ ไม่ว่ามันจะเป็นใคร ไปสับมันมาให้ข้าซะ!”
“ขอรับ!”
โจรภูเขาผู้นั้นวิ่งกลับไปและตะโกนบอกคนอื่นๆ ว่า “พี่ใหญ่สั่งมาว่าไม่ว่ามันจะเป็นใคร ให้รีบสับมันให้เละ!”
ทันใดนั้นแสงไฟข้างนอกก็ลุกโชน ใจของพวกโจรภูเขาท่วมท้นไปด้วยอารมณ์อันฮึกเหิม
เฉินเสียนตกตะลึง เธอไม่รู้ว่าใครที่กล้าบุกเข้ามาที่รังโจรภูเขาตอนกลางค่ำกลางคืนเช่นนี้ เธอรู้จักไหม? เขามาที่นี่เพื่อช่วยเธอหรือเปล่า?
เฉินเสียนไม่กล้าตั้งความหวังมากนัก ในเวลานี้เธอช่วยตัวเองดีกว่าจะรอให้ใครมาช่วย อีกฝ่ายเองก็ตัวคนเดียวเหมือนกัน ดาบไม่มีตา มันอาจจะทำร้ายใครก็ได้ ขอแค่ไม่ถูกบดเป็นชิ้นๆ ก็เป็นพอ!
เฉินเสียนไม่สนใจสิ่งอื่นใด แต่เธอต้องคิดหาโอกาสที่เหมาะสม
ถ้าเธอมีสมาธิจดจ่ออยู่กับเจ้ารองหัวหน้าโจรภูเขาคนนี้ เธอก็ยังฉวยโอกาสจากความโกลาหลหนีลงไปจากภูเขาได้
เฉินเสียนตั้งสติแน่วแน่เมื่อเจ้ารองหัวหน้าเดินเข้ามาใกล้ เธอเป็นฝ่ายก้าวไปข้างหน้าสองก้าว จากนั้นจึงเอื้อมมือข้างหนึ่งวางลงไปบนไหล่ของเขาและเอ่ยเบาๆ ว่า “เทียบกับเจ้าคนก่อนหน้า เจ้าดูมีความสามารถมากกว่าตั้งเยอะ ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเป็นแค่ที่สองของภูเขาลูกนี้”
เจ้ารองหัวหน้าหรี่ตาลงมองเธอและกล่าวว่า “เจ้าต้องการเสี้ยมให้เกิดความบาดงั้นเรอะ”
เฉินเสียนยกยิ้มมุมปาก แต่ภายในท่าทีที่เห็นนั้น มืออีกข้างหนึ่งก็พร้อมลุย เธอจับลูกดอกไว้แน่น ฉับพลันนั้นก็ออกแรงแทงลงไปที่หน้าอกของเจ้ารองหัวหน้า
ในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานนั้นเอง ปลายลูกดอกที่เกือบจะสัมผัสเข้ากับหน้าอกกลับถูกเขาเอื้อมมือมาคว้าไว้ทัน
เฉินเสียนหน้าถอดสี มือของเขาแรงเยอะกว่าเธอ ไม่ว่าเธอจะทนกัดฟันกดมันลงไปอย่างไร มันก็ไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย
เจ้ารองหัวหน้าเอ่ยขึ้นมาว่า “เป็นผู้หญิงตัวคนเดียวแต่ช่างกล้าหาญยิ่งนัก นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะกล้าสังหารพี่ใหญ่ของข้า”
ปรากฏว่าเขาดูออกตั้งแต่ตอนที่เข้าประตูมาแล้ว
เฉินเสียนหายใจติดขัดเล็กน้อย เธอกัดฟันถาม “เจ้ารู้ได้ยังไง”
เจ้ารองหัวหน้าตอบ “พี่ใหญ่ของข้าป่าเถื่อนไร้ความปรานี ถ้าเจ้าตกไปอยู่ในมือของเขาจริงๆ เจ้าไม่มีทางอยู่ในสภาพที่ดีเช่นนี้แน่ อีกอย่าง รองเท้าข้างหนึ่งของเขาตกอยู่ใต้ม้านั่ง เจ้าจะบอกว่าเขาไปถ่ายทุกข์ทั้งที่ตีนเปล่าข้างหนึ่งน่ะรึ”
เฉินเสียนเหลือบมองไปที่ม้านั่งเล็กๆ ด้วยหางตา
มีรองเท้าข้างหนึ่งหล่นอยู่ในมุมอับใต้ม้านั่งจริงๆ เจ้าหัวหน้าโจรภูเขานั่นคงจะเตะมันหลุดตอนที่กำลังดิ้นรนอย่างเอาเป็นเอาตาย
เธอประมาทเกินไป ตอนนั้นเธอรีบร้อนจนไม่ทันสังเกต!
ว่าแล้วเจ้ารองหัวหน้าก็ออกแรงมากขึ้น เฉินเสียนรู้สึกเจ็บอย่างรุนแรงที่ข้อมือ ลูกดอกตกลงไปบนพื้นและมือของเธอก็ถูกเจ้ารองหัวหน้าควบคุมเอาไว้
เธอควบคุมร่างกายไม่ได้และทรุดหมอบลงไปข้างเตียงพร้อมกับหายใจหอบ
เจ้ารองหัวหน้าใช้รูปร่างที่ได้เปรียบกดลงมาจากทางด้านหลัง ทันใดนั้นเท้าของเขาก็เตะไปโดนอะไรบางอย่าง เมื่อเตะผ้าปูที่นอนออกและก้มลงมองจึงเห็นว่าเป็นร่างไร้วิญญาณของหัวหน้าโจรภูเขานั่นเอง