ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ - บทที่ 141 การมาของกงหย่วน
สักครู่หนึ่ง โดยการนำของนักแสดงที่สวมบทบาทเป็นตำรวจ กงหย่วน หลี่ซานและจ้าวฝางทั้งสามก็ได้มาถึงห้องกักขัง
เมื่อจ้องมองเข้าไปในห้องขัง กงหย่วนเลิกคิ้วขึ้นและในใจก็เต็มไปด้วยความสงสัย
คนในห้องขังต่างก็ย้ายไปนั่งในมุมอย่างเงียบๆ พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะหายใจดัง และทุกคนก็ดูเรียบร้อยเหมือนเด็กดีคนหนึ่ง
กงหย่วนไม่ได้รู้จักเย่เทียน แต่เขารู้จักคนอื่น ๆ ในห้องขัง โดยเฉพาะชายที่มีกล้ามที่นอนหมดสติอยู่บนพื้น!
เพราะเขาเป็นนักสืบมานานกว่าปีแล้ว ยิ่งคนเกือบทั้งหมดที่จังเวยหามานั้นก็ล้วนเป็นผู้ที่มีประวัติอาชญากรรม แล้วเขาจะไม่รู้จักได้อย่างไร?
เพียงแต่ว่า ชายร่างกำยำที่เขาคุ้นเคยคนนั้นกลับอยู่ในสภาพที่น่าอนาถ แขนขาทั้งสามของร่างกายเขาหักอย่างน่าประหลาด สองตาปิดแน่นๆ และใบหน้าของเขาก็ซีดเซียวราวกับกระดาษสีขาว แต่หน้าอกที่ยังขยับอยู่เบาๆ นั้นทำให้รู้ว่าเขายังหายใจอยู่
กงหย่วนรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย ถึงแม้จะไม่มีการฆาตกรรม แต่สภาพที่บาดเจ็บสาหัสของชายร่างกำยำคนนี้จะทำให้ตำรวจกองปราบที่เต็มไปด้วยความเที่ยงธรรมอย่างเขาใจเย็นได้อย่างไร
ในความเป็นจริงแล้ว ในห้องนี้คนที่ควรรู้สึกโชคดีที่สุดก็คือจ้าวฝางกับหลี่ซาน
เพราะพวกเขาเคยสัมผัสฝีมือของเย่เทียนมาแล้วในห้องสอบสวน และเมื่อมองเห็นสภาพที่น่าอนาถของชายร่างกำยำ พวกเขาทั้งสองจึงแอบดีใจที่เย่เทียนเมตตาต่อพวกเขา
ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะยังมีแขนขาที่ปกติเหมือนตอนนี้อยู่หรือ?
ในที่สุดก็เรียกคนที่มีฝีมือมาจนได้ ไม่เสียแรงที่ให้รอตั้งนาน
รอยยิ้มอันเย้ยหยันปรากฏขึ้นที่มุมปากของเย่เทียน
ในความเป็นจริง เย่เทียนสังเกตเห็นกงหย่วนก่อนที่เขาจะปรากฏตัวแล้ว
เพราะกงหย่วนแตกต่างจากคนอื่นๆ ในนี้ เขาไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป แต่เป็นนักบู๊ของจริง! และยังเป็นนักบู๊ที่อาจสามารถก้าวข้ามไปถึงขั้นสุดยอดของนักบู๊ระดับเหลืองอีกเพียงก้าวเดียวเท่านั้น!
นั่นฝีมือใคร!
กงหย่วนขมวดคิ้วและใบหน้าของเขาก็ค่อยๆ มืดมน เขากวาดมองไปทั่วห้องขังแล้วพูดขึ้นอย่างเย็นชา
ทุกคนในห้องขังที่ได้ยินเช่นนี้ต่างก็มองหน้ากัน จากนั้นพวกเขาค่อยๆ หันมองไปที่เย่เทียนอย่างระมัดระวังและไม่กล้ากล่าวโทษอะไรเย่เทียนเลย
กงหย่วนที่เห็นเช่นนี้ก็อดไม่ได้ที่จะจ้องเขม็งไปที่เย่เทียน ในขณะนี้เย่เทียนยืนอยู่กับที่มาเป็นเวลานานแล้ว และกงหย่วนที่เห็นเช่นนี้ ความโกรธของเขาก็รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
อย่างไรก็ตาม ในฐานะตำรวจอาชญากรรม เมื่อไม่มีหลักฐานที่แน่นอนเขาจะทำอะไรเกินเหตุไม่ได้
จ่ากนั้นกงหย่วนก็หันมองไปที่นักแสดงที่กำลังสั่นเทาอยู่ คุณบอกมา ใครเป็นคนทำร้ายเขา?
ไม่รู้ว่าด้วยตำแหน่งของกงหย่วนหรือว่าเหตุผลอื่นๆ นักแสดงก็พยายามตั้งสติและชี้ไปที่เย่เทียนอย่างเชื่องช้า ไอ้ ไอ้หมอนั้นครับ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ กงหย่วนก็ขมวดคิ้วแน่นๆ เขาไม่คิดเลยว่าเย่เทียนที่อายุน้อยๆ คนนี้จะโหดเหี้ยมขนาดถึงกับหักแขนขาของชายร่างกำยำคนนี้ได้
ไอ้คนป่าเถื่อน อายุแค่นี้แต่ใจถึงจริงๆ เลยนะ ถึงกล้าฝ่าฝืนกฎหมายแบบนี้ ถ้าปล่อยไปแบบนี้เอ็งจะไม่ก่ออาชญากรรมเหรอ?!
กงหย่วนรู้สึกโกรธมาก จากนั้นยกนิ้วแล้วชี้ไปที่ประตูที่ถูกล็อกไว้แล้วตะโกนใส่นักแดงว่า เปิดห้องขังเดี๋ยวนี้!
แอ๊ด……ตึง!
นักแสดงจะกล้าปฏิเสธได้อย่างไร เขาได้แต่จ้องมองไปที่เย่เทียนแล้วเปิดประตูอย่างระมัดระวัง
จ้าวฝาง หลี่ซาน อย่าว่าผมไม่ให้โอกาสพวกคุณนะ ช่วยผมจัดการกับไอ้หมอนี่ แล้วโทษของพวกคุณจะได้รับอภัย!
กงหย่วนเหลือบมองสองคนนั้นแล้วออกคำสั่งอย่างเย็นชา
เขาเป็นตำรวจมานานว่าสิบปี ซึ่งรู้ดีของการบังคับใช้กฎหมายอยู่แล้ว แต่พฤติกรรมของเย่เทียนนั้นทำให้เขาเหลือทนจริงๆ ถ้าเขาไม่ได้ระบายความโกรธ เขาคงระงับความโกรธในใจไม่ได้แน่!
ด้วยเหตุนี้ วิธีที่ดีที่สุดในการระบายความโกรธของเขาก็คือจ้าวฝางกับหลี่ซานที่ยืนอยู่ข้างๆ โดยที่ไม่ต้องสงสัย
ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้จริงๆ เพราะถึงอย่างไรแล้วกงหย่วนที่เป็นตำรวจนั้น เขาก็เป็นคนคนหนึ่งที่มีอารมณ์ความรู้สึกเหมือนคนทั่วไป!
เพราะแต่ว่า หลังจากที่เขาพูดจบ จ้าวฝางกับหลี่ซานไม่ได้มีการเคลื่อนไหวใดๆ เลย
เล่นตลกอะไรกัน พวกเขาเห็นฝีมือของเย่เทียนในห้องสอบสวนนั้นแล้ว อีกอย่างแม้แต่ชายร่างกำยำคนนี้ยังถูกทำร้ายจนไม่เหลือแขนขา แล้วจะให้พวกเขาไปตายงั้นหรือ?!
แต่ถึงอย่างนั้น หลี่ซานก็ไม่กล้าขัดขืนคำสั่งของกงหย่วน เขาได้แต่ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยความอึดอัดใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ แต่แล้ว จะให้เขาบอกว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเย่เทียนได้อย่างไร?
แต่กลับเป็นจ้าวฝางที่ตรงไปตรงมาและพูดด้วยสีหน้าหม่นหมอง หัวหน้าครับ ไอ้หมอนั่นฝีมือร้ายกาจมากเลยนะครับ ต่อให้พวกผมสองคนร่วมมือกันก็สู้มันไม่ได้หรอกครับ หรือว่าเราเรียกคนมาเพิ่มไหมครับ?
เรียกคน?
กงหย่วนเหลือบมองทั้งสองคนและขมวดคิ้วขึ้นแน่นๆ เขาไม่คิดเลยว่าสองคนนี้จะกระจอกขาดนี้
ในที่สุดเขาก็หันกลับมาที่เย่เทียนแล้วพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า สรุปแล้วพวกคุณสองคนจะสู้ไหม? แฟ้มคดีของพวกคุณทั้งสองรวมกันอย่างน้อยใส่ได้หนึ่งลิ้นชัก เชื่อไหมว่าผมจะกลับไปรื้อทีละคดีของพวกคุณ!
ทันทีที่ได้ยินคำนี้ สีหน้าของจ้าวฝางกับหลี่ซานก็เปลี่ยนไปมาก
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นนักแสดงที่ตามหาความใฝ่ฝัน แต่พวกเขาก็ต้องกินต้องใช้ไม่ใช่หรือ?
ด้วยรูปลักษณ์ที่ดุร้าย มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะได้รับบทแสดงทุกวัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องลักเล็กขโมยน้อยในการเอาตัวรอด
หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพัก ทั้งสองก็มองหน้ากัน จากนั้นกัดฟันแล้วก้าวออกมาด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น
คุณชายเย่ครับ คุณเบาๆ หน่อยได้ไหมครับ ตอนนี้ผมยังเจ็บอยู่เลย!
คุณชายเย่ครับ เราแค่ทำตามคำสั่ง คุณต้องเมตตาพวกเราด้วยนะครับ!
เย่เทียนรู้สึกขบขันกับชายสองคนนี้และส่ายหัวยิ้มตอบว่า เอาล่ะ พวกคุณรีบเข้ามา รีบจัดการให้เสร็จ ผมจะได้กลับเร็วๆ หน่อย
จ้าวฝางกับหลี่ซานที่ได้ยินเช่นนี้ก็ยิ่งขมขื่นใจไปใหญ่ แต่เรื่องมันก็มาถึงจุดนนี้แล้ว พวกเขาไม่โอกาสที่จะถอยหลังด้วยซ้ำ
ทั้งสองมองหน้ากันอีกครั้ง และจากนั้นก็พุ่งเข้าหาเย่เทียนพร้อมกัน
แต่ว่า ทันใดนั้นจ้าวฝางก็ล้มลงกับพื้นอย่างรุนแรงโดยที่ไม่ได้สะดุดอะไรเลย
โอ๊ย เจ็บจังเลย หัวหน้ากงครับ ขาผมเหมือนจะพลิกแล้วครับ
ในขณะที่พูดอยู่ จ้าวฝางก็นอนราบกับพื้น เขาจับเท้าด้วยสีหน้าความเจ็บปวด และเล่นละครด้วยกลอุบายของเขา
หลี่ซานถึงกับผงะ ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างเหมือนกับนกฮูกในทันที ไม่นึกเลยว่าจ้าวฝางคนนี้จะมีไม้นี้อีก เขาได้แต่กลอกตาแล้วเริ่มวางแผนในใจ
โอ๊ย! ผมปวดท้องกะทันหันครับ! หัวหน้ากงครับ คุณรอผมสักแป๊บนะครับ ผมขอไปเข้าห้องน้ำก่อน แล้วจะรีบกลับมาครับ!
โดยที่ไม่รอกงหย่วนตั้งตัวได้ เท้าของหลี่ซานเหมือนติดจรวด และหันหลังแล้ววิ่งออกไปทันที
จ้าวฝางก็ถึงกับตะลึงงัน เขาได้แต่ด่าตัวเองว่าทำไมถึงโง่ขนาดนี้? รู้งี้วางแผนหลบหนีไปเหมือนกับหลี่ซานไม่ดีกว่าหรือ? อยู่ต่อก็เหมือนปลาตัวเดียวในบ่อ
แต่ไม่ว่าอย่างไร ทุกคนในที่เกิดเหตุก็เบิกตากว้างกันหมด เพราะไม่นึกเลยว่าสองคนนี้จะไร้ค่าขนาดนี้
ไร้ประโยชน์สิ้นดี! ไสหัวไปให้พ้น! เห็นพวกแกแล้วเครียดจริงๆ!
กงหย่วนหัวร้อนจนแทบจะลุกเป็นไฟ เดิมทีจะให้สองคนนี้จัดการกับเย่เทียนให้สาสม แต่ดูแล้วแผนนี้คงต้องพังทลายลงแล้วล่ะ
จ้าวฝางที่ได้ยินเช่นนี้ก็เหมือนได้รับนิรโทษกรรมและล้มลุกคลุกคลานออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
และในเวลานี้ นอกจากคนไม่กี่คนที่ถูกขังอยู่ในห้องขัง หรือถ้าจะพูดให้ถูกต้องคือคนไม่กี่คนที่กลัวจนตัวสั่นอยู่ในห้องขังแล้ว ทั้งระเบียงทางเดินก็เหลือเพียงเย่เทียนกับกงหย่วนเท่านั้น
ในชั่วขณะหนึ่ง อากาศดูเหมือนจะค่อยๆ แข็งตัว สงคราม พร้อมที่จะเริ่มขึ้นแล้ว!