ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ - บทที่ 88 ต้องฝึกอีกหน่อย
มีจี้เจิ้งโก๋อยู่ ไม่ต้องให้บริกรนำทาง หลังจากเลี้ยววนไปวนมาพักหนึ่งแล้ว ในที่สุดทั้งสี่คนก็หยุดอยู่หน้าสถานที่จัดงานประมูล
นี่เป็นสิ่งก่อสร้างสามชั้นที่สร้างจากไม้แท้ที่เลียนแบบโบราณและเปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายแห่งประวัติศาสตร์ แม้กระทั่งหน้าต่างยังเป็นแบบปิดด้วยกระดาษ
ชั้นบนสุดมีป้ายแขวนอยู่ มีอักษรตัวใหญ่สามตัวเขียนเอาไว้: หอกู่หยา!
อย่างเดียวที่ไม่สมบูรณ์แบบคือหน้าประตูมี รปภ ที่สวมเครื่องแบบของยุคปัจจุบันยืนอยู่ และมีประตูตรวจเช็คความปลอดภัย รวมถึงตู้ฝากของอัตโนมัติ ออกจะทำลายทิวทัศน์ไปหน่อย
พอเห็นทั้งสี่คนปรากฏตัว หนึ่งใน รปภ เดินเข้ามาด้วยท่าทีนอบน้อม ทุกท่าน กรุณาแสดงบัตรเชิญของพวกคุณด้วยครับ
จี้เจิ้งโก๋ควักบัตรเชิญสีดำเลี่ยมขอบทองใบหนึ่งออกมาและยื่นให้ทันที
รปภ รับมาและพิจารณาอย่างละเอียด เมื่อมั่นใจแล้วว่าไม่มีอะไรผิดพลาดจีงชี้ตู้ฝากของอัตโนมัติด้านข้าง
ทุกท่าน ในนี้ไม่อนุญาตให้พกวัตถุที่เป็นโลหะนะครับ รบกวนทุกท่านฝากของที่เป็นโลหะในตู้ด้านโน้นด้วยครับ หากเกิดความเสียหายอะไรทางเราจะชดใช้ให้ในราคาเต็ม!
เย่เทียนได้ยินแล้วอดขมวดคิ้วไม่ได้ นึกพึมพำในใจว่างานประมูลใต้ดินนี้จะเข้มงวดมากเกินไปหรือเปล่า?
กฎของที่นี่ก็เป็นแบบนี้แหละ ก่อนหน้านี้ก็มีคนไม่พอใจ ภายหลังจากนั้นก็โดนกระทืบจนพิการและโดนจับโยนออกไป คืนนั้นบริษัทของเขาประกาศล้มละลาย
จี้เยียนหรันที่ยืนอยู่ด้านข้างเย่เทียนเห็นท่าจึงเข้าไปกระซิบอธิบาย ว่ากันว่าที่แห่งนี้เป็นของคนใหญ่คนโตในเมืองจิน
เย่เทียนผงะ คาดไม่ถึงว่าเจ้าของที่อยู่เบื้องหลังงานประมูลครั้งนี้จะเก่งกล้าสามารถขนาดนี้
แต่เขาแค่มาร่วมสนุกเท่านั้น จึงไม่ได้พูดอะไรมาก ทั้งสี่คนพากันหาตู้เก็บของใช้โลหะส่วนตัว หลังจากที่เดินผ่านประตูตรวจเช็คความปลอดภัยได้แล้ว รปภ ที่ตรวจสอบบัตรเชิญจึงหันไปเคาะประตูใหญ่ที่ปิดสนิท
แอ๊ด!
ประตูใหญ่เปิดออกจากด้านใน มีหญิงสาววัยกระเตาะในชุดกี่เพ้าแบบโบราณเดินออกมาด้วยรอยยิ้มหวาน แขกทั้งสี่ท่านที่เคารพ โปรดมากับฉัน
ภายใต้การนำของหญิงสาววัยกระเตาะ ทั้งสี่คนเดินเข้าไปในตัวอาคารไม้แท้โบราณแห่งนี้ ในที่สุดเย่เทียนก็เห็นโครงสร้างภายในได้ชัดๆสักที
มีเวทีสูงสีแดงถูกตั้งไว้ในโซนกลางหลังของชั้นหนึ่ง เป็นที่ชัดเจนว่าเป็นที่ยืนของพิธีกรงานประมูล
ในด้านหน้าของเวทีสูงมีเก้าอี้นวดห้าสิบกว่าตัวตั้งอยู่ เวลานี้โดนนั่งกันจนเกือบเต็มแล้ว คนที่อยู่ใกล้ๆกันกำลังคุยอะไรบางอย่างกันเสียงเบา
ส่วนชั้นสองถูกแบ่งออกเป็นห้องส่วนตัวเก้าห้อง ตรงกลางมีเพียงที่กั้นลมม่านบางๆตั้งกั้นไว้ อย่าว่าแต่เสียงเลย กั้นไม่ได้แม้กระทั่งสายตา
แม้แต่เย่เทียนที่เจอเรื่องใหญ่มามากแล้วพอได้เห็นภาพนี้ยังอดพึมพำกับตัวเองไม่ได้ มิน่าล่ะก่อนหน้านี้เยี่ยนจื่อเฉินถึงถากถางแบบนั้น สถานที่แบบนี้ ถ้าไม่มีเงินสักสิบล้านคงไม่มีสิทธิ์เข้ามาจริงๆ!
เถ้าแก่ทั้งหลายโปรดรอสักครู่ครับ งานประมูลกำลังจะเริ่มแล้ว
บริกรหญิงในชุดกี่เพ้าพาคนมาอีกสามสี่คนไปที่ห้องหมายเลขห้าบนชั้นสอง ทิ้งไว้เพียงประโยคเดียวหวานๆแล้วจึงหันหลังจากไป
ปรมาจารย์ลิ่ว ในที่สุดคุณก็มา
ขณะนั้น แม้จะมีเพียงที่กั้นลมบางๆคั่นอยู่ ไม่อาจปิดกั้นสายตาของห้องส่วนตัวหมายเลขหกแต่อย่างใด ทันใดนั้นก็มีเสียงที่ทำให้เย่เทียนขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้
เขาหันมองไป ก็เห็นว่าคนที่นั่งอยู่ในห้องส่วนตัวหมายเลขหกก็คือเยี่ยนจื่อเฉินและหลินอ้าวเสว่สองคน!
นอกจากนี้ยังมีชายชราอีกคนที่สวมชุดสมัยราชวงศ์ถัง สวมแว่นตาขอบทอง มือถือสร้อยหินสีดำแวววาว ท่าทางเหมือนพวกบัณฑิตสมัยก่อน
ลิ่วหรั่น! จี้เยียนหรันเห็นรูปลักษณ์ของชายชราคนนั้นอย่างชัดเจนที่กั้นลมบางแล้วอดเลิกคิ้วไม่ได้
เย่เทียนสังเกตเห็นความผิดปกติของจี้เยียนหรัน อดถามขึ้นไม่ได้ คุณรู้จักหรอ?
จี้เยียนหรันพยักหน้าและตอบ เขาเป็นผู้ประเมิน ก่อนหน้านี้มีงานประมูลครั้งหนึ่งที่คุณปู่เชิญเขากลับมาช่วยประเมิน ต่อมาถึงพบว่าประมูลของปลอมกลับมาสองชิ้น
นักพิสูจน์? เย่เทียนเลิกคิ้ว
ถึงยังไงนี่ก็เป็นงานประมูลใต้ดิน ของประมูลทั้งหมดไม่ได้รับการตรวจสอบจากหน่วยงานมืออาชีพน่ะค่ะ
จี้เยียนหรันอธิบาย แต่กฎที่นี่ระบุไว้ว่าจะไม่รับผิดชอบหากทำการซื้อขายไปแล้ว จะเป็นของจริงของปลอมนั้นอยู่ที่สายตาส่วนบุคคลล้วนๆ บางคนโกยกำไรจากที่นี่ไปได้เป็นกอบเป็นกำ บางคนก็ขาดทุนที่นี่ซะย่อยยับ
แน่นอนว่าคนที่หาเงินได้นั้นมีมากกว่า บางคนกลัวว่าจะประมูลของปลอมมา จึงเป็นธรรมดาที่ยินดีจ่ายเงินจ้างผู้ประเมินผู้เชี่ยวชาญมาช่วยดู
ลั่วหรั่นคนนี้คือผู้ประเมินชื่อดังของเจียงหนันค่ะ แต่คุณปู่ของฉันสงสัยว่าเขานั้นไม่ค่อยซื่อตรง อาจจะรวมหัวกับคนอื่นตั้งใจหาของปลอมมาเปิดประมูล จึงไม่เคยติดต่อกันอีก
เย่เทียนพยักหน้าเล็กน้อยเป็นอันเข้าใจ แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตัวเอง เขาจึงไม่พูดมากอะไร
คล้อยหลังจากที่พวกเขานั่งลงแล้ว สายตาของเย่เทียนจับจ้องไปที่เพื่อนเก่าคนนั้นของจี้เจิ้งโก๋ตามสัญชาตญาณ
เขาเป็นคนชราสวมชุดซุนยัตเซ็น ผมหงอกทั้งหัวทว่าใบหน้าแดงระเรื่อ รูปร่างสูงโปร่ง นัยน์ตาเปล่งประกายแวววาว จากการแนะนำของจี้เจิ้งโก๋ชายชราผู้นี้มีชื่อว่ามู่หยุนเทียน
เห็นแวบเดียวเย่เทียนก็รู้เลยว่ามู่หยุนเทียนคนนี้คงจะไม่ธรรมดา เขามองต่อไปตามสัญชาตญาณ ก่อนจะพบว่ามีแผงกั้นที่มองไม่เห็นสกัดเอาไว้ ภาพดูมัวๆมองไม่ชัด
เรื่องนี้ทำให้เย่เทียนตะลึง ชายชราผู้นี้มีพลังไม่เลวเลย มีโล่ทิพย์ป้องกันกายติดตัว เป็นถึงผู้แข็งแกร่งระดับดำ อย่างน้อยก็แข็งแกร่งกว่าหวางลี่ที่เคยเจอก่อนหน้านี้!
แกร๊ง!
ทุกคนที่นั่งอยู่ยังไม่ทันได้ทักทายกันตามมารยาม เวทีสูงชั้นล่างก็พลันมีเสียงฆ้องดังขึ้น
หญิงสาววัยกระเตาะในชุดกี่เพ้าสีแดงสดคนหนึ่งเดินขึ้นเวทีสูง ปากเล็กจุ๊บจิ๊บนั่นเอื้อนเอ่ยประโยคที่ทุกคนรอคอยมานาน งานประมูลเริ่มขึ้น ณ บัดนี้
ของประมูลชิ้นแรกในงานประมูลครั้งนี้คือโถแปดเชียนฟีนิกซ์หางลายครามในยุคสมัยคังซี เริ่มต้นที่หนึ่งล้านหยวน ทุกครั้งที่ประมูลห้ามบวกราคาต่ำกว่าสองแสน!
คนที่มาที่นี่ได้ไม่รวยมากก็สูงศักดิ์มาก และมีคนจำนวนไม่น้อยที่เป็นเศรษฐีพรางตัวจากมณฑลอื่น หนึ่งล้านหยวนสำหรับพวกเขาไม่ต่างอะไรกับการใช้เงินหนึ่งพันหยวน
หลังจากที่ของโบราณชิ้นนี้ถูกนำมาวาง คนด้านล่างประมูลแข่งกันโดยไม่แม้แต่จะมอง
หนึ่งล้านสองแสน!
หนึ่งล้านสี่แสน!
……
ความจริงที่จี้เจิ้งโก๋มาที่นี่ก็เพื่อมาดูว่ามีสิ่งใดที่ควรค่าแก่การซื้อมั้ย
แต่ไม่ทันที่เขาจะปริปาก เสียงชื่นชมของลิ่วหรั่นดังมาจากห้องข้างๆ
คุณชายเยี่ยนครับ โถแปดเซียนฟีนิกซ์หางลายครามนี้วาดรายละเอียดของแปดเซียนไว้ชัดเจน การลงสีมีทั้งหนักเบาอย่างเป็นระเบียบ เป็นของดีที่หายาก
ดี!
เยี่ยนจื่อเฉินพยักหน้าทันที เอ่ยปากร่วมประมูลโดยไม่ลังเล สองล้าน
เย่เทียนฟังแล้วอดกระตุกมุมปากยิ้มเย็นไม่ได้ เมื่อกี้เขาลองมองผ่านๆแล้ว ถึงแม้ชาติก่อนเขาขลุกอยู่ในโลกทหารรับจ้าง แต่หลังจากที่บรรลุเป้าหมายแล้วก็มีคนนำของดีมาให้เขาไม่น้อยเพื่อเป็นการประจบเอาใจ
พอได้จับเล่นมาเยอะ ก็พอจะมีความรู้อยู่บ้าง อีกอย่าง ตัวเขาเองฝึกฝนคัมภีร์หวง ความรู้สึกไวต่อกลิ่นอายของโบราณมาก
แม้ว่าเมื่อกี้แค่มองผ่านๆ แต่ก็ไม่ยากที่จะดูออกว่าโถแปดเซียนฟีนิกซ์หางลายครามนี้เป็นของเลียนแบบขั้นสูง ไม่ใช่ของแท้เสียหน่อย!
ดูท่า สายตาของลิ่วหรั่นคนนี้ต้องฝึกฝนอีกมากนะ