ข้าคือเทพเจ้าแห่งเกม I Am the God of Games - ตอนที่ 104
แม้ว่าจอมจะถูกระบบ ‘ทรยศ’ แต่ผู้เล่นก็ไม่ได้ทำอะไรกับเขา ทุกคนเห็นยักษ์แห้งแล้งทุบรังโจรด้วยตาตัวเอง และรู้ว่าไม่มีใครสามารถเปลี่ยนชะตากรรมของโจโคโบะได้ แม้ว่าพวกเขาจะได้รับโอกาสอีกครั้งก็ไม่มีใครกล้าขวางทางยักษ์ และอยากถูกฝังอยู่ในซากปรักหักพังไปพร้อมกับโจโคโบะ
เมื่อผู้เล่นกลับไปที่หมู่บ้านเล็ก ๆ ในหุบเขา พวกเขาก็ต้องประหลาดใจกับจำนวนชาวบ้านที่เพิ่มขึ้นมาในช่วงเวลาสั้น ๆ
การที่มีคนกว่า 100 คน มารอพวกเขาอยู่นอกหมู่บ้านนั้นน่ากลัวมาก จนผู้เล่นบางคนคิดว่าแผนชั่วที่พวกเขาคิดจะปล้นชาวบ้านก่อนหน้านี้รั่วไหล และชาวบ้านได้มารวมตัวกันเพื่อเอาชนะพวกเขา…
โชคดีที่นายพรานกลับมาถึงหมู่บ้านก่อน และพวกเขาก็ได้อธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้พวกชาวบ้านฟังแล้ว
ผู้ใหญ่บ้านกลัวว่าผู้เล่นจะแพ้ และความโกรธของโจรภูเขาจะหล่นลงมาใส่หมู่บ้านอีกครั้ง พวกเขาจึงยืมรถม้าที่ผู้เล่นลืมทิ้งไว้หน้าหมู่บ้านไปเรียกกำลังเสริมจากหมู่บ้านรอบ ๆ มาเพื่อเตรียมพร้อม
แต่หลังจากนั้นไม่นาน นายพรานก็นำข่าวกลับมาบอกว่าผู้เล่นชนะ และการต่อสู้ที่สิ้นหวังของพวกเขาก็ได้เปลี่ยนเป็นการเฉลิมฉลองขนาดใหญ่ที่มีคนจากหมู่บ้านใกล้เคียงทั้งหมดมาเข้าร่วม
ท่าเต้นแปลก ๆ และตลกมากมายที่ผู้เล่นเรียนรู้จากระบบ ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ชาวบ้าน และพวกเขาก็สร้างความบันเทิงได้มากจากการเต้นประชันกัน หลังจากวันนั้นผู้เล่นทุกคนก็ตกลงที่จะส่งต่อสิ่งนี้ ให้เป็นประเพณีรื่นเริงของศาสนจักรเทพเจ้าแห่งเกมของพวกเขา
***
ในขณะเดียวกัน ซีเว่ยก็กำลังปวดหัวกับกองศพที่ยับยู่ยี่ของยักษ์แห้งแล้งในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของเขา
ซากของมันไร้ประโยชน์ เนื่องจากมีอำนาจของเจ้าแห่งยอดเขาคอยปกป้องอยู่ ซีเว่ยจึงไม่สามารถใช้มันเป็นเครื่องสังเวยเพื่อให้ได้มาซึ่งพลังงานศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็อย่างที่พูด ยักษ์แห้งแล้งเป็นสัตว์ระดับตำนาน การโยนศพล้ำค่าของมันทิ้งไปจะเป็นการเสียเปล่า…จึงสรุปได้ว่า มันเป็นเรื่องปวดหัวที่เขาต้องจัดการให้รอบคอบ
“ขาดทุนมาก…” ร่างกายกลม ๆ ของซีเว่ยเด้งขึ้นเด้งลงอย่างไม่พอใจ “ไม่เพียงแต่ฉันจะไม่ได้รับพลังงานศักดิ์สิทธิ์จากการต่อสู้ครั้งนี้ ฉันยังต้องมอบไอเทมระดับตำนานสีทองให้อีกด้วย…ไม่ ฉันคำนวณความสูญเสียไม่ได้ ไม่งั้นใจฉันคงสลาย!”
แต่จริง ๆ แล้วเขาค่อนข้างมีความสุขกับผู้ศรัทธาของเขา
ครั้งนี้ถึงแม้ว่าจะไม่มีคำแนะนำใด ๆ จากระบบ แต่ผู้เล่นก็ได้ใช้ทักษะและกลยุทธ์ของตัวเอง เพื่อบรรลุความสำเร็จระดับตำนานในหมู่มนุษย์ได้
ศพของยักษ์แห้งแล้งจะไม่ทำให้ซีเว่ยเดือดร้อน เนื่องจากผู้เล่นเป็นคนฆ่ามัน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้เล่นจะต้องสังเวยมันให้เขาเป็นรางวัล หากเจ้าแห่งยอดเขาต้องการต่อสู้เพื่อศพของยักษ์ ผู้ถักทอโลกจะไม่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ และสำหรับซีเว่ยที่มีสิงโตตัวใหญ่คอยช่วยเหลืออยู่ ก็ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล!
สิ่งที่ทำให้ซีเว่ยปวดหัวมากกว่าก็คือรางวัลอีกชิ้นที่ผู้เล่นได้รับ
ตะเกียงวิญญาณ
สิ่งนี้สามารถนับเป็นไอเทมได้ ดังนั้นมันจึงไม่ถูกสังเวยให้กับซีเว่ยหลังจากที่ผู้เล่นได้รับมัน เขาเลยได้แต่สำรวจมันแบบคร่าว ๆ เท่านั้น
ภายใต้การวิเคราะห์ของซีเว่ย ไอเทมชิ้นนี้น่าจะเป็น ‘ของศักดิ์สิทธิ์’ จากวิหารใต้พิภพ
ตอนนี้น่าจะเป็นเวลาที่ต้องพูดถึงความแตกต่างระหว่าง ‘ของศักดิ์สิทธิ์ระดับต่ำ’ และ ‘ของศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้า’ แล้ว
ของศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้า เป็นของกำนัลที่มีพลังอันยิ่งใหญ่จากเทพเจ้าที่มอบให้กับผู้ศรัทธาของตน และส่วนใหญ่เป็นอาวุธ ดังนั้นของศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้าจึงถูกเรียกอีกอย่างว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์
แม้ว่าซีเว่ยจะมอบไอเทมหลายอย่างที่เขาสร้างขึ้นให้กับผู้เล่น แต่เขาก็ไม่ได้ทำให้ของพวกนั้นมีคุณสมบัติวิเศษหรือพรใด ๆ อีกทั้งยังไม่ผ่านเกณฑ์เนื่องจากมันไม่ได้บรรจุพลังอันยิ่งใหญ่เอาไว้ ดังนั้นมันจึงไม่สามารถนับเป็น ‘ของศักดิ์สิทธิ์’ ได้ ถ้าวัดกันตามมาตรฐานนี้ นิ้วเท้ายักษ์ก็ถือได้ว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ แต่มันจะเป็นของศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้าที่อ่อนแอที่สุดในหมู่ของศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้า
ถ้าของศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้าถูกสร้างขึ้นในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ ของศักดิ์สิทธิ์ระดับต่ำก็ถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์ ลักษณะที่แท้จริงของสิ่งนี้คือสิ่งของที่สะสมพลังงานศรัทธาจำนวนมหาศาลจากผู้ศรัทธาในศาสนจักร และได้รับพลังแปลก ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทพเจ้าที่พวกเขาศรัทธา ซึ่งทำให้มีความสอดคล้องกันในด้านของพลัง ของศักดิ์สิทธิ์ระดับต่ำเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่ใช่อาวุธ แต่เป็นสิ่งของที่มักจะถูกบูชาไว้ในโบสถ์ หรือแม้แต่สิ่งของที่ถูกวางไว้ข้าง ๆ รูปปั้นเทพ
เราไม่สามารถแยกได้ว่าของศักดิ์สิทธิ์แบบใดดีกว่าหรือแย่กว่ากัน ตัวอย่างเช่น ในรายการจัดอันดับของศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้า มีคมดาบปรึซึมที่สามารถบดขยี้ภูเขาได้ในคราวเดียว และนิ้วเท้ายักษ์ที่สามารถตัดเล็บเท้าของยักษ์แห้งแล้งได้เท่านั้น ในขณะที่รายการจัดอันดับของศักดิ์สิทธิ์ระดับต่ำ มีของที่สามารถก่อให้เกิดฝนตกหนักอย่างรุนแรงจนทำให้ทั้งอาณาจักรท่วมอยู่ใต้น้ำได้ในคราวเดียว และจอกสีแดงเลือดที่สามารถผลิตไวน์รสเลิศได้วันละหนึ่งลิตร
จากการจัดอันดับนี้ ตะเกียงวิญญาณถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์ระดับต่ำที่ไม่แข็งแกร่ง แต่ก็ไม่อ่อนแอเช่นกัน
ตะเกียงนี้สามารถรวบรวมวิญญาณผ่านสัญญาเพื่อสร้างไส้ตะเกียง หลังจากที่ไส้ตะเกียงถูกจุดขึ้นมาแล้ว มันก็สามารถให้พลังชีวิตจำนวนมากเพื่อให้เป้าหมายมีชีวิตอยู่ได้ ก่อนที่ตะเกียงจะดับ เป้าหมายจะไม่ตาย ไม่ว่าเขาจะได้รับความเสียหายหนักแค่ไหน แต่ตราบใดความเสียหายนั้นไม่เกินพลังงานที่มีอยู่ในตะเกียงวิญญาณ เขาก็จะไม่ตาย
สาเหตุที่ยักษ์แห้งแล้งหนีไปหาโจรภูเขานั้น น่าจะเป็นเพราะเจ้าของตะเกียงจุดตะเกียงวิญญาณเพื่อให้มันมีชีวิตอยู่ แต่มันคงจะไม่คาดคิดว่าเจ้าของตะเกียงจะหนีไปเร็วขนาดนี้…
ตะเกียงวิญญาณค่อนข้างแข็งแกร่งในทางหนึ่ง เพราะมันจะล็อคเกจ HP เอาไว้ และทำให้เป้าหมายสามารถมีชีวิตอยู่ได้ แม้ว่าคน ๆ นั้นจะถูกบดเป็นเนื้อสับเหมือนสไลม์ก็ตาม
แต่ไอเทมนี้ก็ค่อนข้างอ่อนแอในทางหนึ่ง เนื่องจากมันทำงานตามสัญญาและไม่สามารถชาร์จพลังใหม่ได้ทุกเมื่อที่ต้องการ ดังนั้นการใช้งานจึงจำกัดมาก
แถมสัญญาของตะเกียงวิญญาณก็ใช้ไม่ได้กับผู้เล่น เพราะซีเว่ยได้เก็บวิญญาณของพวกเขาไว้ในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์หลังจากที่พวกเขาตาย ดังนั้นมันจึงขัดแย้งกับสัญญาของตะเกียง และเพราะลำดับความสำคัญของซีเว่ยมาก่อนลำดับความสำคัญของของศักดิ์สิทธิ์ มันจึงใช้ไม่ได้ผลกับผู้เล่น
ในระยะสั้น ซีเว่ยวางแผนที่จะอยู่ให้ห่างจากวิหารใต้พิภพให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะศพของเทพกระดูกเน่ายังถูกยัดอยู่ในเครื่องปั่น
แต่โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน ช่างน่าเหลือเชื่อว่ามีผู้ศรัทธาที่เกี่ยวข้องกับวิหารใต้พิภพอยู่ภายในกลุ่มโจรภูเขา และผู้ที่ถือครองของศักดิ์สิทธิ์ก็คือหัวหน้ากลุ่มโจรภูเขา คน ๆ นี้อาจมีตำแหน่งระดับสูงในศาสนจักรของเทพสุ่ม ๆ ในวิหารใต้พิภพ หรือขโมยตะเกียงมาจากศาสนจักรอีกทีหนึ่ง
ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน มันก็ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับผู้เล่น ถ้าเป็นแบบแรกนั่นหมายความว่าสมาชิกของศาสนจักรจะมีความไม่พอใจต่อผู้เล่น และซีเว่ยจะต้องทำสงครามใหม่กับเทพเจ้าฝั่งเดียวกับเทพกระดูกเน่า ในขณะที่แบบหลังหมายถึงศาสนจักรจะกำหนดเป้าหมายไปที่ผู้เล่นที่ครอบครองของศักดิ์สิทธิ์…
“อ่าเจ็บไข่ชะมัด…ถึงตอนนี้ฉันจะไม่มีไข่ก็เถอะ” ซีเว่ยถอนหายใจ “ช่างมันเถอะ สิ่งสำคัญตอนนี้คือต้องแข็งแกร่งขึ้น ถ้าฉันแข็งแกร่งจนสามารถเอาชนะเทพบิดรได้ ฉันก็ไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องอะไรแบบนี้หรอก”
ดังนั้นซีเว่ยจึงเริ่มวางแผนหาวิธีหลอกลวงพลังศรัทธาจากผู้เล่นอีกครั้ง
——————————-