ข้าคือเทพเจ้าแห่งเกม I Am the God of Games - ตอนที่ 112
ซอดเกิดมาในครอบครัวนักดาบ พ่อแม่และบรรพบุรุษของเขามีชะตากรรมเกี่ยวพันกับดาบอย่างลึกซึ้ง ไม่แปลกเลยที่ซอดจะหลงใหลดาบมาตั้งแต่ยังเด็ก
เขาเป็นอัจฉริยะในด้านดาบ
ตอนอายุ 12 ปี เขาเรียนรู้ทักษะทั้งหมดของพ่อ ซึ่งเป็นถึงที่ปรึกษาดาบของราชวงศ์ และได้รับชัยชนะเหนือพ่อของเขา วันหนึ่ง เมื่อเขาพบว่าเขาไม่สามารถพัฒนาตัวเองได้อีกต่อไปหากเขายังอยู่ที่บ้าน เขาก็เริ่มออกเดินทาง
ตอนที่เขาอายุ 15 ปี ซอดก็เข้าใจเทคนิคดาบมากกว่า 1,000 ชนิดแล้ว นอกจากนักดาบในตำนานที่มี ‘ปาฏิหาริย์’ มันก็ยากที่จะหาใครที่สามารถเอาชนะเขาได้ด้วยดาบ
จากนั้นซอดก็ประสบความพ่ายแพ้อย่างน่าเศร้าด้วยน้ำมือของผู้วิเศษ ซึ่งนั่นทำให้เขารู้ว่าเพลงจำนวนมากที่เขามีนั้นไร้ประโยชน์ หากเขาไม่สามารถใช้มันได้อย่างถูกต้อง
ดังนั้นเขาจึงเริ่มฝึกฝนตัวเองผ่านการต่อสู้ เขาเริ่มผสมผสานและปรับแต่งเพลงดาบเฉพาะตัวของเขา พอนานวันเข้า เพลงดาบของเขาก็ค่อย ๆ เรียบง่ายขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อเขาอายุ 18 ปี ในที่สุดเขาก็สามารถตกผลึก และรวมเทคนิคดาบของเขาทั้งหมดเข้าด้วยกัน ให้เหลือเพียง 5 กระบวนท่าดาบ คือ ดาบสังหารมนุษย์ ดาบสังหารเวทมนตร์ ดาบสังหารวัตถุ ดาบสังหารสัตว์ร้าย และดาบสังหารปีศาจ
ภายใต้ดาบทั้ง 5 นี้ ทุกสิ่งสามารถตัดขาดได้!
เขาคิดว่าตัวเองยังมีชีวิตที่ยืนยาวรออยู่ข้างหน้า และสามารถค้นหาความหมายที่แท้จริงของศิลปะดาบ จากนั้นก็สร้าง ‘ปาฏิหาริย์’ ที่เป็นของเขาเท่านั้นขึ้นมา
แต่ตอนที่เขาอายุได้ 19 ปี หน้าอกของเขาก็เริ่มเจ็บโดยไม่มีเหตุผล เขาเริ่มกระอักเลือดออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
อาการเหล่านี้ทำให้ร่างกายของเขาเริ่มอ่อนแอลงในแต่ละวัน
ในฐานะนักดาบที่เดินทางไปทั่วทวีปเป็นเวลาหลายปี เขาจึงมีเพื่อนมากมายเป็นเรื่องธรรมดา เขาได้ติดต่อเพื่อนของเขาเพื่อหาหนทางรักษา
หลังจากนักบวชชราได้ตรวจสอบอาการของเขาแล้ว เขาก็ได้รับแจ้งว่าเขาเกิดมาพร้อมกับร่างกายที่ถูกสาป โรคที่รักษาไม่หาย
ผู้ที่มีร่างกายนี้ จะทนต่อศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์ประเภทรักษาทุกชนิด และผู้ที่ถูกสาปจะมีอายุได้มากสุดเพียง 20 ปี
ข่าวร้ายนี้มากเกินกว่าที่นักดาบอัจฉริยะคนนี้จะรับได้ ซอดขังตัวเองอยู่ในบ้านด้วยความสิ้นหวัง
เขายังมีแผนการมากมายที่ยังไม่ได้ลงมือทำ และยังไปไม่ถึงระดับตำนาน ชีวิตของเขาพึ่งจะเริ่มต้น…
หลังจากนั้น เขาก็ได้ค้นพบดาบปีศาจที่บรรพบุรุษของเขาผนึกเอาไว้ในห้องใต้ดินในคฤหาสน์ของตระกูล และสิ่งที่ติดอยู่กับมันบอกเขาว่า ถ้าเขากลายเป็นปีศาจ เขาจะสามารถยืดอายุขัยของเขาได้ และถ้าเขาสามารถฆ่าเทพและขโมยความเป็นเทพเจ้ามาเป็นของตัวเองได้ เขาก็จะสามารถรักษาร่างกายที่ถูกสาปได้อย่างสมบูรณ์!
ดังนั้นซอดจึงก้าวเข้าสู่เส้นทางที่ไม่มีวันหวนกลับ หลังจากที่เขาถือดาบเล่มนั้น
“เจ้าถูกไข่ปีศาจสิงสู่! แม้ว่าเจ้าจะฆ่าเทพ เจ้าก็ไม่สามารถรักษาร่างที่ถูกสาปของเจ้าได้ คำพูดของปีศาจไม่สามารถเชื่อถือได้!”
อัสลานหลบการโจมตีของซอด เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังว่า “นอกจากตรีเอกานุภาพแห่งการสรรค์สร้างแล้ว ก็ไม่มีเทพองค์ใดช่วยเจ้าได้ นี่ไม่ใช่ความเจ็บป่วย แต่เป็นเพราะร่างกายของเจ้าต่างหากที่พิเศษ…”
“ไม่เป็นไร ข้าไม่เคยเชื่อคำพูดของมันมาตั้งแต่แรกแล้ว สิ่งที่ข้าต้องการคือเวลา!”
ซอดดึงปกเสื้อขึ้นมาปิดหน้าอีกครั้ง “เจ้านั่นมักจะพูดเรื่องไร้สาระอยู่ในหัวข้า ดังนั้นข้าจึงฆ่ามันและสร้างกระบวนท่าที่ 6 ได้สำเร็จ กระบวนท่านั้นเรียกว่าดาบสังหารปีศาจ…ตอนนี้ข้าเหลือเพียงกระบวนท่าสุดท้าย ก่อนที่เทคนิคดาบของข้าจะสมบูรณ์แบบ และสิ่งที่ข้าต้องการก็คือกระบวนท่านี้… ”
เขาเล็งดาบของเขาไปที่อัสลานอีกครั้ง และตะโกนว่า “ดาบสังหารเทพ!”
“ไร้ประโยชน์ ดาบของมนุษย์ไม่สามารถแตะต้อง….”
ก่อนที่อัสลานจะพูดจบ แสงสีแดงก็สว่างวาบ จากนั้นร่างของสิงโตตัวใหญ่ก็ค่อย ๆ เลือนหายไป เขาตกใจมาก “อะไรกัน…”
วินาทีต่อมา ร่างของอัสลานก็หายไปอย่างสมบูรณ์ มีเพียงรูปปั้นของสิงโตสีเงินที่ถูกฟันขาดครึ่งสูญเสียความมันวาวกองอยู่ที่พื้น
“สำเร็จ! ในที่สุดข้าก็…”
“ไม่ มันไม่สำเร็จ”
“นั่นใคร!” ซอดตอบสนองทันทีและวาดดาบไปยังทิศทางของเสียง แต่ดาบของเขาก็ถูกหยุดเอาไว้ด้วยมือเดียว
“น่าเสียดายที่ดาบสังหารเทพของเจ้ายังไม่สมบูรณ์” ซีเว่ยร่างมนุษย์กล่าวขณะที่เขาถือใบดาบเอาไว้ในมือ “นี่เป็นข้อความจากสิงโตตัวนั้น สิ่งที่เจ้าพึ่งฟันไปเป็นเพียงวิธีการลงไปสู่ดินแดนมรรตัย ที่เป็นการผสมผสานระหว่างร่างทรงและการฉายภาพ เพื่อป้องกันไม่ให้ความเป็นเทพเจ้าของเขาเสียหาย สิ่งที่ดาบของเจ้าตัดไป เป็นเพียงพาหะที่เขาใช้ในการลงมาสู่แดนมรรตัย เมื่อมันถูกทำลาย เขาก็จะถูกส่งกลับไปโดยกฎของโลก เจ้าทำได้เพียงให้อัสลานไม่สามารถกลับลงมาที่นี่ได้ชั่วขณะ”
“ให้ตายเถอะ เจ้าก็เป็นเทพ!”
ซอดดึงดาบของเขากลับทันทีและสร้างระยะห่างจากซีเว่ย
“เจ้าแข็งแกร่งมาก ข้าไม่ปฏิเสธ แต่เจ้าจะไม่สามารถทำลายเราได้ หากปราศจากพลังแห่งปาฏิหาริย์ นี่คือกฎเหล็กของโลกใบนี้ เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เจ้ายังไม่ได้สร้างปาฏิหาริย์ของเจ้า”
ซีเว่ยกางแขนของเขาและพูดต่อว่า “หากเป็นสิงโตตัวนั้น เขาก็น่าจะพูดว่า ‘ข้ายอมรับว่าเจ้าเป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุด ภายใต้นักรบในตำนาน!’ …หรืออะไรทำนองนั้น”
“ไม่เป็นไร ไม่ใช่ว่าข้ามีเป้าหมายอื่นที่นี่เหรอ? คืนนี้ยังอีกยาว ข้ารู้สึกสนุกมาก!”
ซอดไม่ให้ความเคารพต่อซีเว่ยเลยแม้แต่น้อย เขาดูตื่นเต้นมาก
ซีเว่ยทำเพียงแค่งับนิ้วของเขา และพลังที่มองไม่เห็นก็ได้ระเบิดส่งซอดบินไปชนกำแพงอย่างแรง และไอออกมาเป็นเลือด
ในฐานะที่เป็นฐานลับของวิหารแห่งความยุติธรรม กำแพงทั้งหมดของร้านเหล้าจึงมีความแข็งแกร่งมาก และไม่สามารถทำลายได้ง่าย ๆ
ซอดลุกขึ้นยืนอย่างสั่นเทา สีหน้าของเขาไร้ซึ่งความเจ็บปวดใด ๆ ตอนนี้เขาคลั่งยิ่งกว่าเดิมอีก
แต่เมื่อเขาก้าวไปหาซีเว่ย ใบหน้าของเขาก็บิดเบี้ยว
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกก!” ซอดฉีกเสื้อโค้ทออก เผยให้เห็นเสื้อด้านในของเขาที่ชุ่มไปด้วยเลือด และถึงจะมองผ่านชั้นผ้า รูนที่เรืองแสงสีแดงเข้มก็ยังคงมองเห็นได้อย่างชัดเจนโดยมีแกนกลางเป็นหัวใจของเขา
เห็นได้ชัดว่าอักษรรูนสีแดงเข้มเหล่านั้นกำลังกัดกินร่างกายของเขา และทำให้เขากลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป
ซอดยกดาบขึ้นทันที และใช้ด้ามจับฟาดเข้าไปที่หน้าอกด้วยกำลังทั้งหมดของเขา พลังที่ระเบิดออกมา ถ้าเขาเป็นคนธรรมดา หัวใจของเขาคงถูกทำลายไปแล้ว
“อย่ามาขวางข้า! ข้าต้องการท้าทายเทพเจ้าในฐานะมนุษย์! อึก!”
แม้แต่ซีเว่ยก็ยังตกใจกับการกระทำของซอด
ภายใต้เสียงคำรามของซอด อักษรรูนสีแดงเข้มบนร่างเขาก็หายไป
แต่เพราะเหตุการณ์นั้น ทำให้หน้าของซอดซีดขาวและอ่อนแอลง
“จงดู นี่จะเป็นดาบสุดท้ายของข้า…” เขาดูเหนื่อยล้า ซอดจับดาบของเขาแน่นด้วยพลังทั้งหมดของเขา และชี้มันไปที่ซีเว่ย
ซีเว่ยรู้ว่าเขาสามารถฆ่าซอดได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องเหนื่อยแรง แต่เมื่อเขาเห็นสภาพของซอดตอนนี้ ในที่สุด เขาก็ถอนหายใจออกมาเบา ๆ และจ้องไปที่ซอดด้วยสายตาจริงจัง “เข้ามา!”
“ดาบสังหารเทพ!”
ร่างของมนุษย์และเทพเจ้าสวนทางกัน จากนั้นพวกเขาก็ยืนหันหลังให้กันเงียบ ๆ
ครู่ต่อมา ร่างของซอดก็ทรุดลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง
“ข้ายังหลง…มนุษย์…ไม่มีทางเข้าใกล้เทพได้อย่างแท้จริง…”
“ไม่ เจ้าสร้างปาฏิหาริย์ได้ในที่สุด” ซีเว่ยหันไปหาเขา และยื่นมือของเขาไปทางซอด
ที่นิ้วชี้ของเขา มีบาดแผลที่เล็กมากอยู่บนนั้น “ยินดีด้าย เจ้าเป็นมนุษย์คนแรกที่ทำร้ายเทพได้ทั้งที่ไม่ใช่ตัวตนระดับตำนาน”
“ช่างเป็นเกียรติจริง ๆ…เจ้า เป็นเทพเจ้าแบบไหน…เจ้ามาฆ่าข้า เพื่อ…ความยุติธรรมด้วยหรือ”
“ข้าคือเทพเจ้าแห่งเกม อันที่จริงข้าไม่ได้สนใจเรื่องปีศาจอะไรนั่นหรอก เหตุผลเดียวที่ข้าฆ่าเจ้าก็เพราะเจ้าฆ่าผู้ศรัทธาของข้าต่อหน้าสิงโต ซึ่งทำให้ข้าเสียหน้ามาก…ดูผู้ชายตรงนั่นสิ” ซีเว่ยชี้ไปที่ศพของผู้เล่น ที่เริ่มจางหายไปหลังจากเวลาการชุบชีวิตหมดลง
“ฮ่าฮ่าฮ่า…เทพเจ้าที่น่าสนใจ…” ซอดพูดช้า ๆ “อ่า…ข้ามองไม่เห็น…อะไรเลย….อึก…ข้าอยากจะแกว่งดาบ…. อีกครั้ง….”
“…” ซีเว่ยถอนหายใจ ขณะที่เขาเอื้อมมือลงไปแตะที่หน้าผากของซอดเบา ๆ “ข้าทำตามความปรารถนาของเจ้าไม่ได้ แต่ข้าสามารถช่วยสืบทอดมรดกของเจ้าได้…”
ซอดไม่ได้ตอบกลับ เขาตายลงอย่างเงียบ ๆ
——————————-